วิกฤตพยาบาลไทย---ปัญหาระดับชาติ
   ตั้งแต่ปี 48 เป็นต้นมา มีจำนวนพยาบาลที่ลาออกแล้วจำนวนมาก รพ.ใหญ่ๆ บางทีต้องปิดวอร์ดเลย เพราะไม่มีพยาบาลประจำการ
ตอนนี้ทางรพ.มหาราชนครเชียงใหม่ กำลังจะจัดทำหลักสูตรพยาบาล ซึ่งใช้เวลาเรียน 1 ปี (ตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล)

เล่าให้ฟังค่ะ ที่ประเทศไทย พยาบาลไทยก็ขาดแคลนมากค่ะ อนาคตไม่รู้ว่าจะเหมือนเมืองนอกหรือเปล่า
โดย: ฝ้ายค่ะfai_sarocha@hotmail.com [12 ต.ค. 50 18:19] ( IP A:222.123.24.80 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   เห็นหัวข้อแล้ว อดไม่ได้ ขอแจมเล็กน้อยนะคะ น้องฝ้าย

ประเทศเรา.....ขาดแคลนพยาบาลจริงจริ๊งๆค่ะ แต่ก็ไม่รับเพิ่ม ทํากันแค่เท่าที่มีที่อยู่ ถึงจะติดประกาศรับคนได้ ก็ไม่มีใครมาหรอก ยิ่งวอร์ดหาคนทําไม่ได้ งานหนักมากที่สุด และมีงานหลายๆๆๆๆๆด้านเหลือเกิน ได้เงินเดือนน้อยและไม่ได้บรรจุซักที เด็กจบใหม่เค้าก็ไปเอกชนเลย ถึงจะมาอยู่ รพ.รัฐก็มาพอทํางานเป็น เหมือนมาฝึก 5-6 เดือนก็ลาออกไปทําเอกชนกันหมด ถึงเอกชนจะกดราคา ก็มีทางเลือกใหม่อีก เดี๋ยวนี้ พ่อแม่พามาติวเลยค่ะ ยังเรียนไม่จบปี 4 มาติวรอไปทํางานอเมริกาแล้ว เพราะถ้าส่งลูกเรียนได้ 4 ปีทําไมเค้าจะส่งอีก 1 ปีมาติวไม่ได้ บางทีพ่อแม่เป็นพยาบาล มาสมัครติวพร้อมกับลูกที่ยังเรียนพยาบาล ปี 3 เพราะบอกว่ามาเรียนกันหลายคนจะได้ช่วยกันติวกันในครอบครัว ถ้ามีทางเลือก ใครจะเลือกทําอะไรที่เหมือนพยาบาลรุ่นเก่าๆทํากัน คนเข้ามาใหม่เค้าคิดยิ่งกว่าเราอีก เค้าไม่...กันแล้วค่ะ

พวกเราชาวพยาบาล วันๆ มีแต่คําว่าช่วยๆกันไป เสียสละกันหน่อย รับผิดชอบให้เยอะๆ ทํางานกินเงินเดือนจากภาษาประชาชน ต้องทํางานให้คุ้มค่า วิ่งๆกันหน่อย ยิ่งงานหนักยิ่งไม่มีความเห็นใจ จากสวรรค์ เช้ามาไม่เคยถามว่า เมื่อคืนยุ่งมากมั้ย CPR กี่ราย ได้ลงกันตีไหน อดทนหน่อยนะน้อง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ในชีวิตนี้ มีแต่ถามว่าทําได้ตามเกณท์ที่ตั้งไว้มั้ย เขียนหลักฐานครบหรือยัง ทําถูกกันหรือปล่าว ลงช้ายังงัยตีไหน อย่ามาอ้าง ก็ต้องมาให้ทันก่อนเวลาอย่างน้อย 15 นาที ความจริงทําได้มาตั้งแต่ 30 นาทีเลย อย่าอ้างฝ่ายอื่นดูแต่ตัวเราเอง เราเป็นพยาบาลต้องเสียสละ แผนกอื่นยังไม่มาช่างเค้า เซ็นต์ชื่อแล้วออกไหนช่างเค้า แล้วอาชีพอื่นกินเงินเดือนจากไหนนะ ทําไมไม่ทําเหมือนกันล่ะ เค้ามาซัก8.00 หรือ8.15 ก็ยังไม่ได้เลย ทั้งที่หลายฝ่ายทํางานแต่เวรเช้าทั้งนั้น โรงพยาบาลเดียวกันไม่รู้มีกี่มาตรฐาน ว่าไปเราก็จ่ายภาษีเหมือนกัน จ่ายครบทุกบาททุกสตางค์ด้วย สงสัยเงินพยาบาลค่ามันไม่มากเท่าคนอื่นๆ

ทํางานก็ขึ้นก่อน ลงหลังชาวบ้าน เน้นหนักที่พยาบาลอาชีพเดียว เพราะต้องมีระเบียบวินัย ยุ่งก็ช่วยกันก่อน อย่าห่วงเรื่องพักกลางวัน ลงตรงเป๊ะก็ว่า ขึ้นตรงเวลาก็บ่นกระทบกระเทียบ ลงเวรบ่ายมา เลิกงาน 6 ทุ่มได้ลงตี 1กว่า ไม่ถาม แต่ขึ้น8.00 ได้ยินแต่เสียงลอยลมมา ว่ามาสายแล้ว เวลาของพยาบาลมันไม่มีค่าเอาจริงๆ คนควบคุมก็เป็นคนที่คุมจริงๆ ไม่เคยมองอย่างเห็นใจ วิชาชีพเดียวกัน ตรวจเช็คอยู่นั่นแหล่ะ อ้างแต่เค้าจะตรวจแล้ว เดี๋ยวไม่ผ่าน เดี๋ยวไม่ได้ HA กะเค้า รพ.อื่นได้หมดแล้ว อายเค้า วันๆไม่รู้จะดูแลคนไข้ตอนไหน ไปประชุมกันหมด เหลือคนอยู่คนสองคน ได้HA แล้วคนไข้จะรอดเหรอคะ

เช้ามารับเวรเสร็จ ก็ตั้งหน้าตาคุย เพราะเค้ากําหนดให้คุยกัน ไม่คุยไม่ได้ ไม่มีอะไรก็หาเรื่องมาคุยกันเข้าไป ให้มีเรื่องบันทึกว่าได้คุยกันตามกําหนด เวรดึกทํางานตั้งแต่ 24.00 ถึง 9.00 หรือเกินกว่านั้น ส่งเวรเสร็จก็ต้องฟังการ SMALL TALK BIG TALK GENERAL TALK บางที่ก็ไอ้เรื่องที่พูดเมื่อวานนั่นแหล่ะ เดี๋ยวขึ้นวันใหม่ก็พูดใหม่ ยกเคสมาพูดคุยโดยละเอียด เหมือนทุกคนเพิ่งเริ่มงานกันใหม่เดี๋ยวนี้ คนพูดก็มันส์ค่ะ อยู่เวรเช้านี่ พูดก็ไม่ต้องทํางานไปด้วย แต่คนทํางานมา 8 ชมกว่าแล้วจะตาย โดนกันทุกที่ คนทํา ก็ทําเป็นไม่คิด ไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจ เหมือนไม่เคยขึ้นเวรบ่ายดึกมาก่อน

พอเราไม่ไหวขอลงก่อน9.00บ้าง ก็กลายเป็นคนไม่ทําตามกฏระเบียบ ไม่อยู่จนคุยเสร็จ โดนนนินทาฝากมาอีก ใครไม่แสดงความคิดเห็นอะไร ก็จะกลายเป็นที่จับตามอง ก็เลยลงไม่ได้ซักที การแปลความกฏเกณท์แต่ละข้อ ก็แล้วแต่คนที่มีอํานาจหน้าที่ เค้าจะเข้าใจกัน เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ต้องทําแบบนี้เค้ากําหนดมาแบบนี้ คนกําหนดมาคงดีใจนะ ถ้าได้ยินแบบนี้ 5555

สภาพแบบนี้ อยู่ไปให้เปลืองแรงทําไม เพราะที่คุยกัน คนอยากไปทํางานที่อื่น เค้าก็อดทนสุดๆชีวิตแล้ว ทนกันจนทนไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ ถึงเห็นปรากฏการณ์ แบบคนที่มีอายุ30- 40 กว่าปีไปติวกันมากๆ ทั้งที่ก็รู้กันอยู่ว่าการเปลี่ยนแปลงชีวิตช่วงนี้ มันต้องใช้เรี่ยวแรงมากว่าตอนจบใหม่ๆ ต้องเข้มแข็งอดทนเพิ่มขึ้นไม่รู้กี่เท่า ต้องใช้ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงเยอะ แต่ทีทํากัน ก็เพราะมีเหตุที่มาที่ไปกันทั้งนั้น

พยาบาลยังทํางานหนักมาก และยังถูกเพิ่มงานคุณภาพสารพัดเข้ามา จนหายใจไม่ทัน ทํางานจนทุกวันนี้ อยากจะฝังไมโครชิพในสมองไว้ด้วย เพราะมีเรื่องให้ทําให้จําเยอะ จนไม่น่าเชื่อว่า นี่เป็นงานของพยาบาลต้องทําทั้งหมดเลยใช่มั้ย ถ้าให้ใครมาทําขนาดนี้ เค้าจะทนไหวเหรอ ไม่มีทาง

อยากยืนยันว่า ไม่ได้นึกถึงค่าตอบแทนอย่างเดียวนะคะ ไม่งั้นไม่อยู่มานานขนาดนี้ แต่นึกถึงว่า ใช้งานพยาบาลมากมาย ขนาดบางวันพักกลางวัน บางวันยังออกจากวอร์ดไม่ได้ ทานอาหารก็ที่วอร์ดนั่นแหล่ะ เพราะคนไม่พอ ใครก็ทําแทนไม่ได้ คนเก่าก็หายไป คนใหม่ก้ออีกนานนนนนกว่าจะวางใจได้ ไม่รู้อีกนานนนนเท่าไหร่

คําว่าเสียสละ คําว่าสงสารคนไข้ มันดึงขาไว้จนถึงทุกวันนี้ แต่คิดดีๆ ทําขนาดนี้ ไม่เห็นมีใครสงสารพยาบาล อยากให้คนอยู่ แต่ไม่ทําอะไร ปริมาณงาน ความรับผิดชอบ ความเสียสละ ความจําเป็นต้องมีพยาบาล ไม่มีใครสนใจ ยิ่งผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหลาย ชอบพูดว่าเป็นพยาบาลก็รู้อยู่แล้วว่า....ต้องเจอสภาพแบบนี้ อยากสบายทําไมไม่ไปทํางานอย่างอื่นหล่ะ ก็ไม่ได้อยากสบาย แต่อยากให้เห็นใจกันบ้าง มองพวกเดียวกันดีบ้าง สงสารกันเหมือนที่สงสารคนไข้(แต่ไม่เคยแตะคนไข้เลย)...บ้าง วันหนึ่ง เราก็ถึงเวลาสงสารตัวเองและครอบครัวบ้าง แล้วเกิดวิกฤติอีกครั้ง วันนั้นจะมีคนบางคนบางกลุ่ม นึกอะไรออกบ้างว่าจะดูแลพยาบาลยังงัยบ้างมั้ยนะ


ถ้ายังมีการดูแลพยาบาล เหมือนประเทศเราไม่ขาดแคลนพยาบาลเลยอย่างนี้ สวัสดิการต่างๆ แทบไม่เปลี่ยนแปลงอย่างนี้ ค่าตอบแทนตํา....ที่สุด ในบรรดากลุ่มที่ได้รับค่าตอบแทนทางวิชาชีพอย่างนี้ ก็อย่าว่ากันนะคะ คนเราก็ต้องการชีวิตที่ดีขึ้น ได้ค่าแรงที่คุ้มค่าพอควร มีเวลาพักบ้าง ทํางานตามเวลาบ้าง อย่าเอาเปรียบกันมาก เสียสละพอสมควร เห็นแรงงานพยาบาลมีคุณค่าราคาบ้าง ไม่ต้องทําเหมือนกับว่า อาชีพเราเกิดมาเพื่อเสียสละอยู่อาชีพเดียว แบบทําดีไม่ต้องมีใครเห็น ไม่ทําแล้ว

และถึงรู้ว่า หนทางต่อไปมันลําบาก กว่าจะได้ไปเมืองนอกไม่ใช่ง่ายๆ ก็เชื่อว่าไม่ลําบากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ซักเท่าไหร่หรอก ใครไปได้เราก็ไปได้ คนเหมือนกันยังงัยก็ไม่เกินกันซักเท่าไหร่หรอก อดทนก็เชื่อไม่เกินเกินกว่าที่ทนอยู่ทุกวันนี้ จะอยู่ประเทศไหน มันก็ได้ทําประโยชน์ทุกทีแหล่ะ คิดแล้ว ตัดสินใจแล้ว ยังไงก็จะไปอเมริกา เราจะไป๊เราจะไป ลาล่ะค่ะ ฮึ่ฮึ่!!!
โดย: แนน [14 ต.ค. 50 6:20] ( IP A:222.123.219.45 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   มันก็เป็นความจริงอย่างที่พี่แนนว่ามาทั้งหมดค่ะ

อยากให้สภาการพยาบาลทำงานให้เราเห็นมากกว่านี้จัง

ดูแล้วทั้งหมดของสหวิชาชีพ พยาบาลมีแรงสนับสนุนน้อยกว่าวิชาชีพอื่นจังเลย...ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย ใครจะมาไฟล์ทให้เราบ้าง
โดย: ฝ้ายเอง [15 ต.ค. 50 21:44] ( IP A:58.147.9.244 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   มองในมุมกลับนะคะ

พยาบาลที่เยอรมนี ขาดแคลน เป็นเพราะ นโยบายปฏิรูปของรมต. กระทรวงสาธารณสุขที่นี่ หลาย รพ.ต้องรัดเข็มขัดตนเอง โดยที่ ไม่รับพยาบาลใหม่เพิ่ม และเมื่อพยาบาลเกษียรณ์อายุงาน ก็ไม่มีการรับเพิ่มทดแทน

พยาบาลบางคนเลือกงาน หรือ ออกมาเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน นานไปหน่อย กม.ให้ได้สามปี บางคนลูกสองคน ลาไปดูลูก เสีย หกปี บางแห่งกันตำแหน่งไว้ให้ แต่พอพยาบาลมาทำแล้วทำไม่ไหว เนื่องจาก งานหนักกว่าเดิม ต้องทำงานกับคอมพิวเต้อร์มากขึ้น ระบบงานเปลี่ยนไป บางคนทนเครียดกับงาน และเวรอันดุเดือด แบบ ฟุลไทม์ ทำ 12 วัน หยุด 2 วัน บางคนลาออกไปเลยก็มี
และบริการเนิร์สซิ่งโฮม เพิ่งเริ่มมีปีนี้ค่ะ และมีไม่ทุกที่ พยาบาลคลอดแล้วหลายคนจำเป็นต้องอยู่บ้าน ลางานไปโดยปริยาย
เรื่องงานการที่นี่ หนักค่ะ ลองวาดภาพดูนะ พยาบาลตัวเล็กๆ เตรียมเคสผ่าตัด ทำมันทุกอย่าง คนไข้ตัวเบ้อเริ่ม นน 158 กก. เข็นเข้าห้องผ่าตัดคนเดียว รับออกจากห้องผ่าคนเดียว และแคร์ ต่อ
ขึ้นเวรคนเดียว จัดยาให้คนไข้ สามสิบห้าคน พลิกตัวคนไข้ หากมีเคส ฉุกเฉิน ซีพีอาร์ไปก่อน และกดออดให้แพทย์มาช่วย
ในเนิร์สซิ่งโฮม เขาใช่คุณจริงๆ เหมือนทาสเลย เพื่อนเยอรมันขึ้นเวรดึกที่นั้นเล่าให้ฟังว่ากลางคืนพลิกตัวคนไข้ เก้าสิบคน จัดยา เก้าสิบชุด ขึ้นสองคน ใกล้รุ่งต้องอาบน้ำ ผู้ชรา ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้อย่างน้อย แปดถึงสิบคน
ไม่เหมือนที่เขาโฆษณา ตามรูปภาพตามประกาศ แบบผู้ชรายิ้มหวานจ๋อย มีพยาบาลประคองเดิน พยาบาลใกล้จะตายยิ้มไม่ออก
พี่เคยเจอเดส เสียชีวิตซ้อนสองราย และต้องเข็น เขาไปเข้าห้องเย็นคนเดียวค่ะ
เรื่องการกระทบกระเทียบเปรียบเปรย กระแนะกระแหน นี่ ไม่ว่าที่ไหนก็มีทั้งนั้นค่ะ บางทีดุเดือดจริงๆ
และเรื่องนินทาว่าร้ายก็มี ตามประสามนุษย์เดินดิน หากมาเมืองนอก ภาษาไม่ดี เถียงเขา ให้เหตุผลเขาไม่ได้ จะเครียดไปกว่าอยู่เมืองไทยอีก
เพราะภาษาพ่อแม่เรา เราเข้าใจ นำมาใช้ได้ตรงๆ หรือแยบยล ตามความสามารถที่มี ตอกกลับได้ตามไอคิวที่มี ที่สำคัญเราดูกันออก บอกกันอาจได้คนไทยเหมือนกัน คุณลองบอกฝรั้งสิ บอกที ประชดเรา และ ว่าลับหลัง หรือแกล้งอีก เราเองเคยเจอมาแล้ว บอกตรงๆปวดใจ ปวดกึ๋น ปวดกระบาลค่ะ เรื่องย้ายงาน ก็ยาก เพื่อนคนหนี้งย้ายตามสามี ตอนนี้ ไปเช็ดๆถูๆตาม โรงเรียน เพราะไม่มีที่ลง หางานพยาบาลนั้นไม่ได้
และในฐานะพยาบาลข้าราชการ ในเมืองไทยเรามีสิทธิบางอย่าง อาจมีสหกรณ์อะไรๆช่วย หากมีปัญหาเรื่องการเงิน บางประเทศไม่มีค่ะ หากคุณหัวดำๆไปกู้เงินธนาคาร อย่าหวังว่าจะได้ถึงคุณจะเป็นพยาบาลก็เเถอะ
บางครั้งเราอาจจะมองข้าม สิ่ง ดี ๆที่มีอยู่ในบ้านเราก็ได้
ศึกษาดูตริตรองให้ถ่องแท้ก่อนจะไป หากไป อย่าไปแล้วผิดหวัง

หากคุณไม่มีหนี้สิน ติดหลัง และอยากมีความสุขนานๆ กับครอบครัว พ่อแม่ คนที่คุณรัก อยู่บ้านเราจะดีกว่าค่ะ

หากคุณอยากไปทำงานเพื่อหนีความเครียด แบบนี้ต้องระวัง หาข้อมูลดีๆ ระวังจะไปแล้วเครียดกว่าเก่า ควรมีผู้รู้จักให้ความช่วยเหลือ ให้ข้อมูลที่นั่นบ้าง เพื่อยรรเทาความเครียด

หากคุณต้องการไปเพื่อหาประสบการณ์แห่งชีวิต และพร้อมที่จะสู้ ลุย หรือมีความรักคอยอยู่ที่นั่นและ คิดมั่นคงว่าจะไปและจะสู้ต่อทุกสถาณการณ์ก็ไปเลยค่ะ

งานพยาบาลทีเยอรมนี เปลียนไปมาก งานเขียน งานคอมพ์มีมากขึ้น ทุกอย่างทันสมัย และต้องใช้เวลาบันทึก เรียนมากขึ้น เวลา คอมพ์ล้ม งานไม่เดินก็มี ก่อนขึ้นเวรต้อง syncronize คอมพิวเต้อร์ ระหว่างทำงาน และลงเวรก็ต้องทำบ่อยๆ เคยคุยกันว่าอีกไหนเขาคงจะฝังไมโครชิพใส่หัวพวกเราสักวันหนึ่งแน่ๆ ทุกอย่างต้องบันทึกๆๆๆๆๆเป็นหลักฐานค่ะ สรุปงานจิ้มป้อนข้อมูลบันทึกต่างๆเข้าคอมพ์ก็มากขึ้น สายตาก็แย่ลง
งานที่ทำก็ปิดทองหลังพระ เหมือนหลายๆชาติ เคยคิดว่าที่อเริกานั้นคงจะเยี่ยมกว่ามาก พออ่านหนังสือ ที่พยาบาลอเมริกันคนหนึ่งเขียน และขายจนดังไปทั่วโลก ชื่อภาคเยอรมัน kritischer Zustand แปลก็ critical crisis ที่เขาเขียนมาเล่า ว่างานมันหนักเหลือเกิน บรรยากาศระหว่างการทำงาน เพื่อนร่วมงานบางครั้งก็ดุเดือดและ หนักจริงๆ ไม่ได้มีสมานฉันท์กันไปหมด ก็ยังคิดว่า แหม งานพวกเรานี่มันคล้ายกันไปหมดเเลย
และหากพยาบาลจบใหม่จาก ตปท.มาที่นี่ จะโดนใช้จริงๆ จะเซ็นต์สัญญาการทำงานอะไรควรอ่านให้เข้าใจ บางที่ได้น้อยกว่าที่อื่น ต้องเปรียบเทียบดูดีๆ
พยาบาลที่นี่(เยอรมนี) ไม่ค่อยมีใครอยู่รอดทำงานถึง อายุ 60ค่ะ กฏหมายตั้งไว้ 65 ปี แต่ โดยมากป่วยก่อน หลังหักก่อน หรือ เปลี่ยนอาชีพไปทำอย่างอื่นกันหมด มีพี่พยาบาลไทย เคยทำงาน รพ. ทำไม่ไหว ออกมาทำงานหน่วยบริการสุขภาพชุมชน โดนตัดงบโน่นนี่ คนไข้ก็ก้าวร้าวมาก ลาออก หลังจากทำงานมาจะสามสิบปี ตอนนี้ไปทำงานด้านความงามค่ะ บางคนไปนวด บางคนขายของ รายได้อาจน้อยลง แต่ความสงบใจ พอใช้พอกิน ทำให้อยู่ได้

ไปเมืองไทยเห็นเพื่อนๆบางคนรุ่งโรจน์ด้านการงาน เป็น Supervisor หัวหน้าวอร์ด มีการนัดพบปะสังสรรค์กัน มีการไปเที่ยว ช๊อปปิ้ง หรือทำอะไรเพลินๆ บางคนทำงานสองที่อย่างสนุกสนาน ว่างก็เที่ยว ตจว.กันบ่อยๆ
บอกตรงๆค่ะ ว่าเราได้แต่ฝัน อยากทำแบบนั้นบ้าง แต่ทำสองงาน ที่นี่ ภาษีหนัก ไม่คุ้ม

เมืองนอก จะทำอะไรใช้จ่ายใช้สอบต้องคิดมากๆ ปีหนึ่งได้เที่ยว ตปท. ครั้งสองครั้ง เท่านั้น ไม่เหมือนเมืองไทย พอมีเงิน และว่าง ชวนเพื่อนไป กทม. ชลบุรี หรือที่อื่น เที่ยวเมืองไทยสบายใจที่สุดค่ะ อยู่เมืองนอกพบปะกับเพื่อนร่วมงาน สามสี่ครั้งทานกาแฟกัน แต่หากชวนไปไกลๆ เขาไม่ไปกัน เขารักครอบครัวจะไปไหรกลัวว่า จะโดนว่า ไม่สนใจลูกบ้าง บางทีพ่อบ้านงอนบ้าง

สรุป นี่คือ ความเห็นของเราคนเดียวค่ะ ความเห็นของคนเรานั้นต่างกันได้ อย่าเก็บไปเป็นบรรทัดฐานนะคะ คิดเอง ตัดสินใจเอง ไตร่ตรองเองอาจจะพบสุขแท้ด้วยตัวเองค่ะ
โดย: มพถ [17 ต.ค. 50 14:18] ( IP A:79.196.248.120 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   น้องฝ้ายคะ
พี่ก็อดีตพยาบาล ร.พ.สวนดอกค่ะ ชื่อเก่าแก่ของร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่นะคะ เพิ่งลงจากเวรดึกมาแวะเข้าดูเว็บ เพื่อนพี่ที่เมืองไทย เป็นหัวหน้าใหญ่กันแล้ว (อายุ53-56)มีแต่พี่คนเดียวที่ยังอยู่เวรดึก จะว่าสมัครใจก้ได้ ไม่สมัครใจก้ได้ คือแก่แล้วไม่อยากอดหลับอดนอน+เครียด แต่บางคร้งเวรดึกก้ดีตรงที่หนีความวุ่นวายของเวรกลางวัน แต่ขอบอก หนักค่ะ พี่อยู่จิตเวช เวรดึกพยาบาล 2คน ต่อ คนไข้ 29คน คิดว่างานพยาบาลที่ไหนในโลกก็หนักพอๆกัน (ถ้าสนใจ พี่เขียนหนังสือ ชื่อพยาบาลไทยในเยอรมัน สั่งซื้อได้ที่สุริวงศ์บุ้คเซ็นเตอร์ (ส.น.พ.ศรีสารา)แต่พอไปเห็นร.พ เอกชนที่ก.ท พยาบาลเหมือนแอร์โฮสเตท เลย ตามหมอราวน์วอร์ด แจกยา ฉีดยา ส่วนเช็ดตัวคนไข้เป็นงานของผู้ข่วยพยาบาล จะว่าไปแต่ละคน ก็มีทางเลือกนะ เมื่อก่อนพี่ก็ยึดอุดมคติมาก คุยกับเพื่อนว่าแม้ถูกลอตโต มีเงินพออยู่ได้โดยไม่ต้องทำงาน แต่ด้วยใจรักวิชาชีพ ก็จะทำต่อไป แต่ปีนี้เปลี่ยนใจแล้วค่ะ ถ้ามีเงินก้อนโต คงจะไม่ทนทำอีก เพราะทำงานต้องรวดเร็วเหมือนงานโรงงาน ทั้งงานคอมฬต้องเรียบร้อย บันทึกทุกอย่าง แถมต้องรับผิดชอบชีวิต ความสะดวกสบายของคนไข้ +ฯลฯ บางครั้งก็ต้องคิดว่า ชีวิตเป็นไปตามกรรม (ก็ใช้กรรมอยู่จิตเวชมา 21 ปีแล้วค่ะ) ยึดถือคติทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก้แล้วกันนะคะ
โดย: พิกุล ไฟลค์ (Pigun ) [16 พ.ย. 50 2:11] ( IP A:87.179.121.167 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   พี่พิกุลคะ ฝ้ายเคยได้เปิดอ่านหนังสือของพี่พิกุลแล้วค่ะ พยาบาลไทยในเยอรมัน ตอนเวรดึก หน้าปกเป็นรูปหมวกพยาบาล(ใช่มั้ยคะ ไม่แน่ใจ) ฝ้ายก็คิดว่างานพยาบาลที่ไหนในโลกก็ล้วนแต่หนักเหมือนกันทั้งนั้นแต่บางที่งานอาจจะเหนื่อยไม่เหมือนกันค่ะ ตอนนี้นักเรียนพยาบาลเป็นนักเรียนทุนเปิดค่ะ และถ้าจบมาก็เป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราว ไม่ได้เป็นข้าราชการเหมือนรุ่นของฝ้ายที่จบมา เพราะฉะนั้นความแน่นอนของวิชาชีพก็ไม่มี อุดมการณ์ก็น้อยลง ใครๆ ก็อยากทำงานที่สบายๆ เงินเดือนมากๆ กันทั้งนั้น(โทษใครไม่ได้)
โดย: ฝ้ายเองค่ะ [21 พ.ย. 50 12:14] ( IP A:203.151.244.90 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   (เขียนต่อนะคะ) ตอนนี้น้องๆ พยาบาลลูกจ้างขั่วคราวมาทำงานโรงพยาบาลรัฐบาลแป๊บๆ ก็ลาออกแล้วไปอยู่รพ.เอกชนที่งานสบายกว่า ได้เงินค่าจ้างมากกว่าค่ะ ความจริงแล้วรร.พยาบาลหรือคณะพยาบาลที่ผลิตบุคลากรแต่ละรุ่นออกมาก็มีจำนวนไม่น้อยนะคะ จะว่าพยาบาลขาดแคลนก็ไม่ถูกต้องนัก ที่ดูว่างานหนักและพยาบาลน้อยก็เพราะลาออกไปอยู่เอกชนกันหมดล่ะค่ะ ตอนนี้รพ.เอกชนก็มีมากขึ้นด้วย น้องๆ พยาบาลชายก็ลาออกไปอยู่บริษัทกันเกือบหมด (เป็นพยาบาลคลินิก) ที่ฮอตฮิตรู้สึกว่าจะเป็นประเทศลาวนะคะ
โดย: ฝ้ายค่ะ [21 พ.ย. 50 12:20] ( IP A:203.151.244.90 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   ต่อนะคะ วันก่อนเข้าไปที่เว็บไซต์ คุณนิติภูมิ นวรัตน์ https://www.nitipoom.com ได้เขียนเกี่ยวกับพยาบาลไทยที่เดินทางไปเสี่ยงโชคที่ประเทศออสเตรเลียค่ะ รู้สึกว่าจะลำบากมากเพราะลาออกจากงานที่เมืองไทย ไปเรียนภาษาอีก ต้องเสียเวลา และเสียทั้งเงิน พี่พยาบาลเค้ายังแนะนำเลยค่ะว่าถ้าจะไปทำงานที่ต่างประเทศจริงๆ ต้องคิดให้ถี่ถ้วน
โดย: ฝ้ายค่ะ [21 พ.ย. 50 12:25] ( IP A:203.151.244.90 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ควรจะคิดให้ดีๆค่ะ
เพราะดิดไม่ถี่ถ้วน อาจจะเสียเวลา เสียความรู้สึกได้ค่ะ
โดย: เจ้าบ้าน [22 พ.ย. 50] ( IP A:79.196.250.194 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   น้องฝ้ายคะ
สนใจว่าทำไม ไปทำงานที่ประเทศลาวกัน เล่าให้ฟังหน่อย ขอบคุณค่ะrose
โดย: พี่แก้ว (Pigun ) [25 พ.ย. 50 6:36] ( IP A:87.179.75.192 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   อยากให้เปิดทั่วประเทศเลยคะ
โดย: pongtiam@hotmail.com [24 ต.ค. 51 14:52] ( IP A:125.24.73.158 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   เธญเธขเธฒเธเธ—เธฃเธฒเธšเธงเนˆเธฒเธ—เธตเนˆ เธฃ.เธž.เธชเธงเธ™เธ”เธญเธเธกเธตเธžเธขเธฒเธšเธฒเธฅเธ—เธฑเน‰เธ‡เธซเธกเธ”เธเธตเนˆเธ„เธ™เธ„เนˆเธฐ
เธŠเนˆเธงเธขเธšเธญเธเธซเธ™เนˆเธญเธข
เธ‚เธญเธšเธ„เธธเธ“เธ„เนˆเธฐ
โดย: เน€เธเธ” [26 ต.ค. 51 9:42] ( IP A:203.144.187.19 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   เธญเธขเธฒเธเธ—เธฃเธฒเธšเธงเนˆเธฒเธ—เธตเนˆ เธฃ.เธž.เธชเธงเธ™เธ”เธญเธเธกเธตเธžเธขเธฒเธšเธฒเธฅเธ—เธฑเน‰เธ‡เธซเธกเธ”เธเธตเนˆเธ„เธ™เธ„เนˆเธฐ
เธŠเนˆเธงเธขเธšเธญเธเธซเธ™เนˆเธญเธข
เธ‚เธญเธšเธ„เธธเธ“เธ„เนˆเธฐ
โดย: เน€เธเธ” [26 ต.ค. 51 9:43] ( IP A:203.144.187.19 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   เธญเธขเธฒเธเธ—เธฃเธฒเธšเธงเนˆเธฒเธ—เธตเนˆ เธฃ.เธž. เธชเธงเธ™เธ”เธญเธ เธกเธตเธžเธขเธฒเธšเธฒเธฅเธ—เธฑเน‰เธ‡เธซเธกเธญเธเธตเนˆเธ„เธ™เธ„เนˆเธฐ

เธ‚เธญเธšเธ„เธธเธ“เธ„เนˆเธฐ
โดย: เธ™เน‰เธญเธ‡เน€เธเธ” [26 ต.ค. 51 10:02] ( IP A:203.144.187.19 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
   ผมทำงานพยาบาลที่ออสเตรเลีย โชคดีไม่เจอปัญหาอย่างที่เมืองไทยนะครับ กลุ่มพยาบาลดูแลกันดีมาก ช่วยเหลือกันดี ถ้าทำงานเกินเวลา ก็ได้ค่าล่วงเวลาทุกครั้ง ถ้าไม่ได้พักทานอาหารเนื่องจากงานยุ่ง ก็ได้ค่าล่วงเวลาพักทานอาหารเป็นเงินเท่ากับ 2 ชัวโมงทำงาน

ถ้าทำงานล่วงเวลาเนื่องจากคนขาด จะได้ค่าล่วงเวลาเป็นค่าแรง 2 เท่าตัว พร้อมคำขอบคุณจากหีวหน้าพยาบาล ทุกครั้งที่มาช่วยงาน หากทำงาน 2 กะในวันเดียวกัน ได้คูปองทานอาหารฟรีด้วย กรณีทำงาน 2 กะ บ่ายค่ำ เนื่องจากคนขาด และบังเอิญวันรุ่งขึ้นต้องเข้าเวรเช่้า ก็ไม่ต้องมาทำงานเช้าวันรุ่งขึ้น โรงพยาบาลจ่ายค่าจ้างวันรุ่งขึ้น 8 ชม นั้นโดยที่เราไม่ต้องทำงานด้วย ถือว้าเป็นค่าจ้างให้เรานอน 8 ชม ครับ

เวปไชด์คุณนิติภูมืผมไม่เคยอ่าน เรื่องใครมาลำบากลำบนที่ต่างประเทศ ผมไม้ทราบ แต่สำหรับผมถือว่าทำงานพยาบาลที่ต่างประเทศ ก็สบายดี รายได้ดี สวัสดิการดี วันหยุดพักร้อนปีละ 5-6 สัปดาห์ + วันหยุดพิเศษอีก 1 วันทุกๆ 4 สัปดาห์ของการทำงาน = 13 วันหยุดเพื่มต่อปี
โดย: Thai in Hobart [22 มิ.ย. 52 19:21] ( IP A:124.179.232.145 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
   เป็นไปตามที่ทุกคนว่างานพยาบาลเป็นงานที่หนัก เป็นงานที่ต้องอดทนมากๆๆๆๆๆๆๆ แต่ทำไมค่าตอบแทนมันน้อยกว่าวิชาชีพอื่นๆ

โดย: sss [17 พ.ย. 52 23:45] ( IP A:125.25.206.37 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
   คุณพี่พยาบาล Thai in Hobert ทำงานอยู่โรงพยาบาลไหนค่ะ เผื่อหนูจะไปทำงานด้วย เพราะหนูก็อยากไปทำงานที่ออสเตรเลียค่ะ กำลังจะเริ่มพัฒนาภาษาตัวเองไม่รู้จะทันรึเปล่า
โดย: erng_putta@hotmail.com [26 เม.ย. 53 2:52] ( IP A:61.19.199.147 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
   บังเอิญเปิดมาเจอพอดี ขอสนับสนุนค่ะ งานหนักมากตั้งแต่เป็นนักเรียนพยาบาล ผอมสุด ๆ ไม่ได้หลับไม่ได้นอน พอเรียนจบตัดสินใจออกไปอยู่เอกชนทันที ด้วยเหตุงานหนัก เงินไม่พอต่อการดำรงชีวิตนี่แหล่ะค่ะ จะให้หา job เสริมก็หมดแรงซะก่อน คิดสงสัยมาตลอดนะคะว่าทำไมงานหนักทั้งความรับผิดชอบ และทั้งใช้แรงงานขนาดนี้กลับมีค่าตอบแทนน้อยนิดเสียเหลือเกิน
โดย: Ouiii [24 ต.ค. 53 21:38] ( IP A:110.77.139.157 X: )
ความคิดเห็นที่ 18
    แต๊ๆๆๆ
โดย: หมูกระต่าย [23 พ.ย. 53 19:00] ( IP A:223.205.41.212 X: )
ความคิดเห็นที่ 19
   อยู่เมืองไทยดีกว่าครับ คนไทยมีอะไรก็ช่วยกัน
เราวัฒนธรรมเดียวกัน อาชีพพยาบาลยังเป็นที่ใฝ่ฝัน ของหนุ่มไทยอยู่เสมอครับ
โดย: ดับเพลิง กทม.niphat_@hotmail.com [11 ก.ย. 54 17:24] ( IP A:125.24.142.155 X: )
ความคิดเห็นที่ 20
   ไม่ทราบว่าเป้าหมายการเป็นพยาบาลของแต่ละคนเป็นอย่างไรนะ แต่สำหรับนักเรียนคนนี้ อยากจะดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนทุกคน อยากเฝ้าดูความเจริญแบบไทยๆ อยากให้ทุกคนสามารถดูแลตนเอง ดูแลครอบครัวตนเอง และเป็นตัวแทนของพยาบาลได้ ที่บอกๆกันว่า พยาบาลนั้นต้องทำทุกอย่าง มีแผนการในสมองเยอะ เพื่อจะได้ทำงานให้ทันลุล่วงตามเป้าหมาย เห็นจะจริงนะ ไม่ดีหรือ
เคยเห็นพยาบาลที่ รพ.สต ต่างๆ แต่ละคนดูเก่งมาก และทำงานเพื่อประชาชนจริง อุปสรรคก็มีมากมายไหนจะเรื่องเทคโนโลยีที่จำเป็น ขาดคนบ้างแหละ คนไข้น่ะไม่เยอะเท่า รพ. หรอก แต่งานเอกสารนี่สิ จึงเห็นว่าพย.บางที่ มัวแต่ทำงานเอกสาร ความเป็นอยู่ของประชาชนไหนเลยจะรู้ หากเป็นอย่างนี้แย่นะ ฉะนั้นคิดว่าคงดีมากหากพยาบาลทุกคนตั้งใจทำงานแบบเชิงรุก เน้นการส่งเสริมและป้องกัน ตั้งแต่ยังไม่เจ็บป่วย เข้าโรงเรียนบ้าง เยี่ยมบ้านบ้าง เยี่ยมอบต.บ้าง ไปดูว่าชาวบ้านเขาอยู่กันอย่างไร และเราในฐานะของคนที่เขาฝากความหวังไว้จะช่วยเขาได้อย่างไรเห็นตรงไหนขาดเหลือและต้องปรับปรุงอย่างไร เรานี่แหละที่ช่วยดึงชีวิตความเป็นอยู่ ความเป็นไทย การอาศัยซึ่งกันและกัน ประชาชนที่เขาป่วยเขาไม่ได้โง่หรอก แต่เป็นเพราะเขาไม่รู้ เราไงถึงต้องบอกเขา ถึงต้องสอนเขา ถึงต้องช่วยเขาในเรื่องที่เขายังขาด ลองไปดูเขาสิ บางทีอาจไม่ต้องมารอดูแลเขาที่ รพ.อย่างเดียวก็ได้ หรือคุณน่ะสามารถทำได้นะทำได้ทุกที่ทุกโอกาสเลย คุณเป็นนักเปลี่ยนแปลง นักพัฒนา
อาจมีบ้างทีี่ต้องเหนื่อยกายแต่มันเป็นการลงทุนที่คุ้มนะที่เรานั้นเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาคน ประเทศชาติ สิ่งตอบแทนที่คุณจะได้คือ คำขอบคุณและรอยยิ้มของเขา
โดย: เขียว [22 ก.ย. 54 10:57] ( IP A:202.29.154.66 X: )
ความคิดเห็นที่ 21
   เห็นด้วยว่าพยาบาลเป็นอาชีพที่ขาดแคลนจริงนะแต่พอเขียนขอโอนย้ายข้ามกระทรวงแม่งก้อบอกไม่มีตำแหน่งว่างโดยเฉพาะกระทรวงสาสุขที่ใหญ่ที่สุดเป็นเจ้าของงบประมาณ ไม่รับโอนของใครทั้งนั้นเห็นแก่ตัวชิบหาย ส่วนพวกที่อยู่รับสภาพกันต่อไป
โดย: sierra [8 ต.ค. 54 11:42] ( IP A:1.47.116.211 X: )
ความคิดเห็นที่ 22
   
พี่ค่ะ หนูอยากรู้ว่าเราจะสมัครไปทำงานต่างประเทศได้ยังไง หนูเป็นคนไม่เก่งภาษาอังกฤษเลย กลัวการพูดกับฝรั่งมาก

โดย: Gig [2 ต.ค. 58 22:00] ( IP 49.230.123.241 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน