ความคิดเห็นที่ 1 พี่ไม่มีประสบการณ์ไปทำงานต่างประเทศโดยติดต่อผ่านอเจนซี่ ก็เลยไม่รู้ว่า ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง แต่โดยหลักการแล้ว การทำงานผ่านอเจนซี่จะไม่ถูกหักค่าหัว
เท่าที่ได้ทำงานให้กับอเจนซี่ในอเมริกา ขั้นตอนจะเป็นอย่างนี้ คือ หลังจากเรากรอกใบสมัครงานกับอเจนซี่ เมื่อเค้าสนใจเราก็จะติดต่อมาเพื่อทำการสัมภาษณ์ เมื่อผ่านการประเมินขั้นต้น ก็จะมีให้ทำข้อสอบวัดระดับความรู้ ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ส่งไปตรวจหาสารเสพติด เมื่อผ่านกระบวนการทั้งหมด ทางอเจนซี่ก็จะส่งเราไปทำงานตามโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลต่าง ๆ และจ่ายค่าตอบแทนให้เราตามที่ตกลงกันไว้ เช่น ตกลงกันว่าจะได้ชั่วโมงละ 30 เค้าก็จะจ่ายให้ตามนั้น ไม่มีการหักค่าหัวจากเรา ส่วนอเจนซี่ก็จะได้ค่าตอบแทนจากโรงพยาบาลที่เราไปทำงาน
แต่กระบวนการไปทำงานต่างประเทศโดยติดต่องานผ่านอเจนซี่ อาจจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เนื่องจากมีเรื่องของการสอบ การทำเรื่องขอวีซ่าต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง แตกต่างไปจากการติดต่องานกับอเจนซี่ภายในประเทศอย่างที่พี่เคยทำ ซึ่งประเด็นนี้ จะต้องดูเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ดี ก่อนตกลงทำสัญญาทำงานให้กับอเจนซี่ เมื่อตอนเศรษฐกิจอเมริกายังดี เคยเห็นอเจนซี่โฆษณาในเวบดึงดูให้พยาบาลต่างชาติมาสมัครเข้าสังกัด เสนอค่าตั๋วเครื่องบินให้ จ่ายค่าสอบให้ ต่าง ๆ นานา แต่ตอนนี้ฟองสบู่แตก สวัสดิการก็ชักหดหาย ไม่รู้ว่าจะคิดค่าอะไรบ้างหรือเปล่า ดังนั้น คนที่จะไปต่างประเทศกับอเจนซี่ต้องดูให้ดี ถ้าไม่เข้าท่า อย่าส่งเอกสารสำคัญให้เขา หรือไปเซ็นอะไรที่จะเป็นข้อผูกมัดตัวเองทีหลัง
การไปทำงานต่างประเทศโดยไม่ผ่านอเจนซี่นั้นมีช่องทางที่สามารถทำได้ ซึ่งน้องก็ต้องเริ่มหาข้อมูลจากสภาการพยาบาลหรือimmigrationของประเทศที่น้องอยากไป ดูว่า เค้ากำหนดคุณสมบัติทางวิชาชีพไว้อย่างไรบ้าง สาขาที่เป็นที่ต้องการของประเทศนั้นคืออะไร ความสามารถด้านภาษาล่ะ ต้องสอบอะไรบ้าง วีซ่าที่จะต้องใช้คืออะไร มีกระบวนการขอวีซ่าอย่างไร ฯลฯ ถ้าไม่อยากผ่านอเจนซี่ ก็ต้องหาข้อมูลด้วยตัวเองเยอะ ๆ จ้ะ | โดย: นิดหน่อย@macdreamnurse [18 พ.ย. 52 20:33] ( IP A:98.251.37.54 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 มันขึ้นอยู่กับข้อตกลงที่เอเจนซี่กำหนดไว้ในสัญญาค่ะ บางแห่งหักค่าที่พัก ค่าประกันสุขภาพ ค่าเรียนภาษา ค่าแปลเอกสาร ค่าธรรมเนียมในการเทียบวุฒิ ค่ารถ ค่าอาหาร
ที่สำคัญ ภาษี นั้นน้องต้องเสียอีกต่างหาก เขาอาจจะหักจากเงินเดือนโดยตรงก็ได้ ที่สำคัญต้องสอบถามให้แน่นอนค่ะ | โดย: เจ้าบ้าน [24 พ.ย. 52 3:23] ( IP A:79.196.228.196 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณครับพี่ๆๆ ใจดีจังเลยครับ อิๆๆ
เอาไว้ถ้าจบพยาบาลเมื่อไหร่จะลองหาประสบการณ์บ้าง ครับ
ขอบคุณครับ | โดย: เจ้าของคำถาม [27 พ.ย. 52 19:17] ( IP A:114.128.94.49 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 น้องคะ
พี่อยากให้น้องหาประสบการณ์ให้มากในบ้านเรา ทำงานที่เมืองไทยให้เก่งๆ หากมีโอกาสให้ขวนขวาย
พี่อยากบอกให้จากใจจริงว่า
ทำงานที่เมืองไทย อาจจะรู้สึกว่าเราเป็นไท เราทำงานเพื่อคนไทย เพื่อชาติโดยทางอ้อม เสียภาษีให้ชาติเรา อิ่มแต่อาจจะไม่รวย ภูมิใจแต่อาจไม่โก้เพราะไม่ได้โกอินเตอร์ แต่เราอาจจะเดินทางสายกลางแบบไม่รวยก็สุขได้ ทำงานกับฝรั่งบางครั้ง รู้สึกว่า เราคือ แรงงานคนหนึ่ง เขาใช้เราคุ้ม เราอาจจะอยู่ในสัญญาที่เขามัดไว้ เมื่อเรฐกิจแย่ เขาบีบเราได้ และให้เราออกเมื่อไรก็ได้ ดังนั้น ต้องดูสัญญาว่าจ้างในการทำงานค่ะ พี่เห็นพยาบาลแถบยุโรปตะวันออกมาทำที่นี่เพราะค่าหัวค่าแรงเขาถูก แต่เขาถูกใช้คุ้ม สัญญาปีต่อปี นายจ้างไม่สบอารมณ์ เขาก็ให้ออกเมื่อครบปีและให้คนใหม่มา
สมัยนี้เศรษฐกิจแย่ทั่วโลกค่ะ ไม่ใช่แต่เมืองไทยที่เดียว ดูไบ กำลังแย่ สหรัฐ ก็แย่ เพื่อนชาวอเมริกันของพี่ที่อายุปาเข้าไปสีสิบแล้วมาเรียนพยาบาลหลังจากจบ ม.ปลาย แต่งงานมีลูก เพราะเขาอยากมีเงินใช้ พ่อบ้านตกงาน จากเศรษฐกิจฟองสบู่เป็นแถว เยอรมนี พยาบาลก็ แย่งหางานกันยุ่ง เผ่นไปสวิสกันเยอะ พยาบาลสวีเดน ก็แห่ไปเดนมาร์ก เพราะงานหายาก
ตอนนี้เท่าที่ฟังๆอ่านๆข่าว เศรษฐกิจที่เดนมาร์กก็เริ่มแย่ มันแน่อยู่แล้ว เพราะ มันเป็นเศรษฐกิจลูกโซ่
พี่อยากให้น้องลองอ่านบล็อกต่างๆของพยาบาลไทยใน ตปท.ให้ดีๆ หลายคนไปได้โดยวีซ่า สมรส ดังนั้นจึงอยู่ในประเทศเขาได้ อยู่ได้มีกินเพราะเขาหาได้สองแรง โดยรายได้ของสามีและของเขา
แต่หากน้องไป แล้วต้องจ่ายภาษี มีสัญญาไม่เป็นธรรม ไม่รวยหรอกค่ะ อาจจะแย่ ศึกษาดูให้ดีนะคะ | โดย: เจ้าบ้าน [28 พ.ย. 52 14:42] ( IP A:79.196.197.89 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 น้องคะ
พี่อยากให้น้องหาประสบการณ์ให้มากในบ้านเรา ทำงานที่เมืองไทยให้เก่งๆ หากมีโอกาสให้ขวนขวาย
พี่อยากบอกให้จากใจจริงว่า
ทำงานที่เมืองไทย อาจจะรู้สึกว่าเราเป็นไท เราทำงานเพื่อคนไทย เพื่อชาติโดยทางอ้อม เสียภาษีให้ชาติเรา อิ่มแต่อาจจะไม่รวย ภูมิใจแต่อาจไม่โก้เพราะไม่ได้โกอินเตอร์ แต่เราอาจจะเดินทางสายกลางแบบไม่รวยก็สุขได้ ทำงานกับฝรั่งบางครั้ง รู้สึกว่า เราคือ แรงงานคนหนึ่ง เขาใช้เราคุ้ม เราอาจจะอยู่ในสัญญาที่เขามัดไว้ เมื่อเรฐกิจแย่ เขาบีบเราได้ และให้เราออกเมื่อไรก็ได้ ดังนั้น ต้องดูสัญญาว่าจ้างในการทำงานค่ะ พี่เห็นพยาบาลแถบยุโรปตะวันออกมาทำที่นี่เพราะค่าหัวค่าแรงเขาถูก แต่เขาถูกใช้คุ้ม สัญญาปีต่อปี นายจ้างไม่สบอารมณ์ เขาก็ให้ออกเมื่อครบปีและให้คนใหม่มา
สมัยนี้เศรษฐกิจแย่ทั่วโลกค่ะ ไม่ใช่แต่เมืองไทยที่เดียว ดูไบ กำลังแย่ สหรัฐ ก็แย่ เพื่อนชาวอเมริกันของพี่ที่อายุปาเข้าไปสีสิบแล้วมาเรียนพยาบาลหลังจากจบ ม.ปลาย แต่งงานมีลูก เพราะเขาอยากมีเงินใช้ พ่อบ้านตกงาน จากเศรษฐกิจฟองสบู่เป็นแถว เยอรมนี พยาบาลก็ แย่งหางานกันยุ่ง เผ่นไปสวิสกันเยอะ พยาบาลสวีเดน ก็แห่ไปเดนมาร์ก เพราะงานหายาก
ตอนนี้เท่าที่ฟังๆอ่านๆข่าว เศรษฐกิจที่เดนมาร์กก็เริ่มแย่ มันแน่อยู่แล้ว เพราะ มันเป็นเศรษฐกิจลูกโซ่
พี่อยากให้น้องลองอ่านบล็อกต่างๆของพยาบาลไทยใน ตปท.ให้ดีๆ หลายคนไปได้โดยวีซ่า สมรส ดังนั้นจึงอยู่ในประเทศเขาได้ อยู่ได้มีกินเพราะเขาหาได้สองแรง โดยรายได้ของสามีและของเขา
แต่หากน้องไป แล้วต้องจ่ายภาษี มีสัญญาไม่เป็นธรรม ไม่รวยหรอกค่ะ อาจจะแย่ ศึกษาดูให้ดีนะคะ | โดย: เจ้าบ้าน [28 พ.ย. 52 14:43] ( IP A:79.196.197.89 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีอีกครั้งคะคุณเจ้าบ้านหายไปนานแต่ยังติดตามอยู่ พอดีช่วงนี้พอจากการทำงานพยาบาลอันแสนเหนื่อยในต่างประเทศ ดีใจและเห็นด้วยกับคุณเจ้าบ้านที่ไม่สนับสนุนพยาบาลไทยมาทำงานต่างประเทศด้วยเหตุผลที่มาหาเงินตัวคนเดียว เพราะไม่เคยเห็นด้วยเลย เอาตัวเองมาลำบากเปล่าๆ ทั้งงานเหนื่อย หนัก หาเงินได้เอามาจ่ายค่าที่พักค่าอาหาร อากาศก็หนาว แล้วจะมาทำไมกัน เหตุผลการทำงานของพยาบาลที่แต่งงานมาและต้องมาทำงานต่อในต่างประเทศ อาทิเช่นในยุโรป ไม่ใช่เหตุผลในการมาหาเงินมันเป็นเพียงปัจจัยประกอบกันคะ ใครที่คิดจะกระโดดมาเดี่ยวๆ ไม่มีใครรับประกันชีวิตและอนาคตมันจะแย่ไปกว่าอยู่เมืองไทยนะคะ เงินประเทศไทย 20 บาทยังมัข้าวอิ่มท้องนะคะ อย่าไปผ่อนอะไรมากหรือใช้เงินเกินตัวอยู่เมืองไทยก๊สบายที่สุดละคะ แต่คนที่แต่งงานมาและต้องมาเป๊นพยาบาลต่อก๊ต้องเดินหน้าต่อไปคะ เวปนี้หากจะคิดฟังหรือตัดสินใจอะไร สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่า หากฟังความคิดเห็นคุณเจ้าบ้านเป้นหลักจะดี แกจะเป็นคนที่ให้ความเป็นกลางและดูจะเป็นผู้ใหญ่กว่าใครเท่าที่อ่านมาคะ | โดย: thanyarat [29 พ.ย. 52 7:38] ( IP A:81.166.46.187 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 ก่อนอื่น ขออนุญาตถาม คุณ จขกท ซึ่ง จะเรียนจบปริญญาตรีสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ ไม่ทราบว่าหลังสำเร็จการศึกษา จะต้องไปปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญากี่ปีครับ ผมเข้าใจว่าคล้ายๆ ใช้ทุน เหมือนผู้ทีสำเร็จการศึกษาสาขาแพทยศาสตร์ ใช่หรือไม่
ความเห็นส่วนตัว ซึ่งอาจแตกต่างจากท่านอื่นๆ คือ จขกท ไม่ต้องใจร้อน ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ใช้ทุน ก็ให้เตรียมสอบภาษาอังกฤษไว้ให้ได้ IELTS อย่างต่ำ 7.0
ขอย่ำว่า ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ จะต้องดีมาก เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะผ่านด่านนี้ ไม่ใช่เพียงแค่สอบ IELTS ให้พอผ่านอย่างเดียว จขกท ควรหาเวลาเรียนและฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษ ให้สามารถสือสารได้เข้าใจ เป็นอย่างดีด้วย
เมือมีประสพการณ์การปฏิบัติวิชาชีพพยาบาลเต็มเวลา 2 ปี ให้เตรียมค่าใช้จ่ายมาทำ Competence Assessment Program 6-8 สัปดาห์ ที่ นิวซีแลนด์ เมือสอบผ่าน ให้ไปสมัครขึ้นทะเบียนวิชาชีพพยาบาลกับสภาพยาบาลนิวซึแลนด์้ แล้วทำงานที่นิวซีแลนด์ก็ได้ครับ ค่าครองชีพเกาะใต้ หลายๆ เมืองพอๆ กับกรุงเทพฯ แต่รายได้ดีกว่าทำงานที่กรุงเทพฯ มาก หากขยันๆ ทำงานสองแห่ง อย่างน้อยๆ หนึ่งปีอาจมีเงินเหลิอเก็บ หลังหักค่าครองชีพ ค่าภาษี มากกว่าทำงานในไทย 2-3 เท่าตัว เรื่องวีซาทำงานนั้น ถ้าคุณขึ้นทะเบียนพยาบาลวิชาชีพกับสภาพยาบาลนิวซีแลนด์ได้ มีโรงพยาบาลหลายแห่งทีพร้อมจะสปอนเซอร์วีซาให้อยู่แล้ว ค่าจ้างแรงงานและสวัสดิการที่ นิวซีแลนด์ ค่อนข้างเป็นธรรมสำหรับทุกคน เนื่องจากการขาดแคลนแรงงานพยาบาล และการดูแลเรืองสวัสดิการประกอบอาชีพ จากสหภาพแรงงานพยาบาลวิชาชีพในประเทศอยู่แล้ว
ให้ไปดูความเห็นของผมเรือง หนทางการทำงานพยาบาลที่นิวซิแลนด์ จากกระทู้นี้ครับ https://www.pantown.com/board.php?id=3696&area=&name=board6&topic=153&action=view
จขกท ควรดำเนืนการสมัครงานเอง ไม่จำเป็นต้องใข้เอเยนต์ รายรับ สวัสดิการต่างๆ จึงจะได้รับอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ผมไม่มีความเห็นเริ่อง สถานะหรือเกียรติในการปฏิบัติวีชาชีพพยาบาล ในฐานะคนต่างชาติ ไม่เคยใส่ใจว่าเขาจะคิดว่าเราเป็นชนขั้นแรงงานหรือไม่ เพื่อนพยาบาล มีหลายๆ คน มาจากเอเชีย ยุโรป แอฟริกา อเมริกาใต้ กลุ่มบุคคลากรแพทย์เอง กว่าครึ่งหน่ี่งก็มาจากเอเชีย และยุโรปตะวันออก หรือ ทวีปอื่นๆ เท่าที่ผ่านมา การทำงานที่ต่างประเทศ เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า ส่วนใหญ่ก็เป็นมิตร ช่วยเหลือกันดี ที่ไม่ดีกับเราก็มีเหมือนกัน อันนี้ขึ้นกับบุคคลมากกว่า
อันทีจริง ปัญหาเหล่านี้มีทุกที่ ทุกแห่ง ทุกอาชีพ ไม่เว้นแต่ที่เมืองไทย
ประโยขน์จากการหาโอกาสทำงานทีต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ อาจเพิ่มโอกาสชีวิต ความก้าวหน้าทางการศึกษา รายได้ และสวัสดิการ และทางเลือกในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น ไอร๋แลนด์ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และ สหรัฐอเมริกา ตลาดงานเหล่านี้ยังขาดแคลนแรงงานพยาบาลอยู่ จีงยังมีช่องทางสำหรับพยาบาลต่างชาติ ในการสมัครเข่าทำงาน ประสพการณ๋การทำงานในต่างประเทศโดยเฺฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีรายชื่อข้างต้น จะมีส่วนช่วยในการหางานใหม่ทดแทนได้เป็นอย่างมาก หากมีปัญหากับการทำงานปัจจุบัน
ถ้าเป้าหมายของ จขกท คือมาทำงานเก็บเงินให้ได้เร็วๆ หาประสพการณ์ชีวิต และสวัสดิการในการทำงานทีดีกว่าที่เมืองไทย และ จขกท สามารถปฏิบัติหน้าที่วิชาขีพพย่าบาลได้ถูกต้องครบถ้วน ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเป็นอย่างดี คุณจะทำงานที่ไหนไม่ว่าที่ไทย หรือ ต่างประเทศ ก็มีเกียรติและความภูมืใจในวิชาชีพเช่นเดียวกันครับ
ฝากข้อคิดที่แตกต่างให้ จขกท ไปคิดพิจารณาเอาเองครับ
โชคดีครับ
| โดย: Thai in Hobart [29 พ.ย. 52 12:59] ( IP A:118.208.208.177 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณ คุณ thanyarat และคุณ Thai in Hobart ค่ะ
มุมมองของแต่ละ คนนั้นแตกต่างกันค่ะ แต่ที่อยากจะเตือนก็คือ เงินและการทำงานในต่างแดนนั้น ไม่ได้หมายความว่า จะทำให้คนมีความสุขได้ ไปตลอด
ดิฉันทำงานที่นี่มา เกือบยี่สิบปี สัมผัสได้ว่า ความเครียดทางกายอันมาจากการทำงาน วงงานนั้นทวีขึ้นทุกวัน และเห็นว่า มีการเอารัดเอาเปรียบพยาบาลที่มาจาก ตปท.
ดิฉันได้ประสบกรณีที่พี่ๆน้องๆ พยาบาลหลายคนมาที่นี่แล้ว เอาตัวเกือบไม่รอด ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่มีความสามารถ ไม่เก่งภาษา หรือ ปรับตัวไม่ได้ มันเป็นที่ระบบ ของบางแห่ง(หลายแห่ง)
ส่วนด้าน สวัสดิการณ์บางคนบอกเมืองไทยสวัสดิการณ์แย่ แต่พอมาเข้า บอกว่า จริงๆแล้ว เขามาที่นี่เสียอะไรไปเยอะ เงินเดือนเรือนหมื่น เสียวุฒิและสิทธิข้าราชการ ในการดูแลรักษา พ่อแม่ ลูก เมืองไทยมีสหกรณ์ข้าราชการ ให้กู้เงินได้ในวงเงินที่อนุมัติ อยู่นี่ดิฉันไม่เห็นมีสหกรณ์ให้กู้เงิน มีแต่ต้องไปกู้ที่ธนาคาร ยิ่งเป็นต่างชาติโอกาสคงน้อยที่เขาจะให้กู้เงิน
อยู่ในเขตุยุโรป ทำงานเหนื่อยจนหมดแรง หมดเวลาที่จะใช้เงิน เพราะพยาบาลแถบนี้น้อย เขาใช้เราก็คุ้มน่าดู
มี พี่พยาบาลคนไทย บอกว่าอยู่เมืองไทย เบื่อ อยากมาทำงานที่นี่มาก พอมีหนุ่มเยอรมันจีบ ก็แต่งงานแล้วมา ได้ทำงานโดยไม่มีความสุข เพราะระบบงานที่นี่ต่างจากเมืองไทยมาก ลาป่วยเพื่อนร่วมงานก็ค่อนแคะ งานก็หนัก ตอนหลังป่วยก็ลากสังขารไปทำงานเพราะกลัวเพื่อนว่าสปิริตไม่ดี ลาป่วยได้ทั้งๆที่เพื่อนร่วมงานทำงานกันเหนื่อย สรุป ตอนนี้ อาการแกไม่ดีมาก หัวใจก็แย่ จากการเป็นหวัดเรื้อรัง ตอนนี้พี่บอกว่าไม่ทำแล้วงาน ไม่มีเงินก็ไม่เป็นไร ความเครียดที่แกเจอนั้นมันหนักหนา แกบอกแกอายุห้าสิบแล้ว ขอให้สุขภาพดี อยู่กับคนที่รักก็พอแล้ว
น้องพยาบาลท่านหนึ่งที่เพิ่งมา มาร้องไห้ให้ฟัง ว่าขึ้นเวรเช้าต้องอาบน้ำผู้ป่วย หกเจ็ดคน คนเดียว บางคนตัวใหญ่ และหนัก การพลิกตัวนั้นลำบาก และผู้ป่วยช่วยตัวเองไม่ได้เลย เวลาน้องขอความช่วยเหลือผู้ร่วมงาน เขาก็จะบอกว่า แหม เขาพลิกผู้ป่วยคนเดียวยังได้เลย ทำไมน้องทำไม่ได้ บางเวรเขาอาบน้ำผู้ป่วยไม่เสร็จ อาหารเช้ามาถึงวอร์ดแล้ว ก็โดนบ่น
หาก น้องเถียง ก็คงไม่ได้งาน เพราะเมืองที่น้องอยู่นั้น พยาบาลตกงานก็มีเยอะ น้องกลัวไม่ได้งานเลยต้องทน หากเป็นเรา เราคงจะแย้งแน่ๆ แต่น้องไม่กล้าแย้ง
ใน เนิร์สซิ่งโฮม หลายแห่งรับแม่บ้าน มาอบรมและบรรจุเป็นพนักงานที่นั่น โดยได้เงินเดือนไม่มากเท่าไร เลยทำให้พยาบาลหลายคนที่อยากทำงานตามเนิร์สซิ่งโฮมตกงานไปด้วย
ส่วน ดิฉันนั้น หน้าที่การงาน ถือว่าดีมากๆ แต่เมื่อปีที่ผ่านมา งานมันเพิ่ม มีตำแหน่งใหม่ๆ หน้าที่แปลกๆเพิ่มซึ่ง เหนื่อยมากขึ้น ทนได้ เพราะทีมงานในวอร์ดนั้นดีมาก เพื่อนร่วมงานดี และทุกคนก็บ่นที่ระบบทั้งนั้น
เพื่อนพยาบาล เยอรมันหลายคน เอ่ยว่า พวกเราจะทำงานถึงอายุ 65 ตามที่รัฐกำหนดไหวหรือ งานหนักขึ้น แพทย์น้อย ความเครียดในวงผู้ป่วยสูง ส่งผลกระทบมายังพวกเราอีก ทั้งๆที่พวกเราทำหน้าที่สาระพัด บอกเรื่องจริงนะคะ เพื่อนพยาบาลบางคน เครียดจนทายยาฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จ ตอนนี้เขาไปทำงานอื่นไม่เกี่ยวกับงานพยาบาล บางคนต้องออกจากงานเพราะกระดูกแย่ แต่เขาทำงานที่นี่มานาน เงินเกษียรนั้นพอทำให้เขาอยู่ได้ไม่อด แต่ไม่รวย
มีอีกรายจบสองปี ต่อสี่ปี ทำงานห้องผ่าตัดที่เมืองไทยได้สองสามปี สรุปทำงานเมืองไทยมาสิบกว่าปี พอมานี่เขาเกี่ยงให้ได้วุฒิผู้ช่วยพยาบาล ตอน นี้เขตุที่พี่ทำงานนั้น รพ.มีน้อย เขาไม่รับพยาบาลเพิ่มด้วย ตอนนี้พี่ทำงานฝ่ายทำความสะอาด พี่บอกล้างเครื่องมือผ่าตัดไป น้ำตาคลอ เพราะเมื่อก่อนมีโอกาสได้เป็นพยาบาลห้องผ่าตัด ตอนนี้ได้ทำความสะอาดเฉยๆ ตอนนี้พี่ทำใจได้บ้างแล้ว มีเพื่อนจาก ตปท. มาทำงานที่นี่ ไม่นาน สามปีละมัง หลังเสีย ได้เงินน้อยมากอยู่กินไม่คุ้ม เลยต้องเป็นกาฝากของรัฐไป
เท่า ที่คุยกับเพื่อนพยาบาลไทยในโซนอื่น ดูๆแล้ว โซนยุโรปงานจะหนักมากกว่า แถบออสเตรเลีย อเมริกา ที่ยุโรปนี่คุณเป็น ตั้งแต่ ภารโรง พยาบาล ครู ศิราณีแก้ปัญหาชีวิต เบ็ดเสร็จ
ในห้องนี้ใครอยากจะมาโกอินเตอร์ ไม่มีใครขัดขวางหรอกค่ะ มี แต่คนอยากจะช่วยเปิดตาให้ เห็นความเป็นจริง ไม่ใช่อยากมาเพราะ Illusion สูงนะคะแต่ไม่มีข้อมูล คุณ thanyarat ได้เล่าประสบการณ์ตรงให้ฟัง เพราะไม่อยากให้หลายคนมาแล้วผิดหวัง
คุณ Thai in Hobart เองก็ได้แสดงน้ำใจ ให้เห็นโดยช่วยหาข้อมูลในการทำงาน ที่ออสเตรเลีย และเล่าแง่คิดในการทำงาน ให้ฟัง
ในออสเตรเลีย นั้น คงเป็นแบบพหุสังคม คนมาจาก ตปท.เยอะ ไปทำงานที่นั่นเยอะ ในโซนยุโรป นั้นต้องทำใจค่ะ
ดิฉันเองก็บอกข้อมูลตรงที่ประสบ พบ เห็น และเอามาเตือนน้องๆ
ห้องของเราเป็นห้องแสดงความคิดเห็นได้โดยเสรีค่ะ
ขอบคุณ พยาบาลทุกๆคนค่ะ ที่เข้ามาให้ความคิดเห็น | โดย: เจ้าบ้าน (เจ้าบ้าน ) [30 พ.ย. 52 4:10] ( IP A:79.196.193.123 X: ) |  |
|