ผช.พยาบาล
   ดิแนต้องการปรึกษาการเรียนผช.ในสวีเดนคะ เพราะตอนนี้ดิฉันจบผช.พยาบาลมาจากเมืองไทยหลายปีแล้วคะ ดิฉันกำลังรอวีช่าถาวรเพื่อจะไปอยู่กับแฟนที่ ulricehamns เดือนหน้าคะ ดิฉันต้องเตรียมตัวอย่างไรคะและถ้าดิฉันเรียนภาษาจบคลอสสามารถเรียนเทียบได้ไช่ไหมคะกังวลมากเพราะอายุ่มากแล้วคะ ขอบคุณพี่ที่ให้คำปรึกษา
โดย: runaru-1@msn.com [4 ต.ค. 51 8:03] ( IP A:117.47.101.228 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   ไม่ได้อยู่สวีเดน แต่เคยอยู่ที่นั่น คิดว่าคงพอให้ข้อมูลในส่วนที่รู้ได้นะคะ

เรื่องอายุมากหรือไม่นั้น ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะที่สวีเดนไม่จำกัดเรื่องอายุ ถึงจะอายุมาก เช่นหกสิบอัพ แต่หากเรียนไหว และมีคุณสมบัติอื่นๆที่เหมาะสม ก็เรียนได้ ไม่มีใครเค้ามาห้ามคุณไม่ให้ไปเรียนหรอกค่ะ

ผู้ช่วยพยาบาลที่สวีเดนเท่าที่ดิฉันเข้าใจนั้นก็คือ vårdbiträde (nursing auxiliary หรือ care assistant)

แต่ก่อนเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว ที่สวีเดนเคยมีคอร์ส vårdbiträde แต่เดี๋ยวนี้เค้าจะจ้างวุฒิ undersköterska แต่หากว่ามีประสบการณ์ทางการดูแล แต่ไม่มีวุฒิ undersköterska ทางคอมมูนเค้าอาจจะจ้างเข้าทำงานในตำแหน่ง vårdbiträde ได้ค่ะ

ขออธิบายนิดนึงว่า undersköterska นี้ก็คือ Technical Nurse ที่เมืองไทย และเทียบเท่า Licensed Practical Nurse เทียบกับของหลักสูตรสากล

อ่านข้อมูล LPN ต่อได้ที่นี่ค่ะ --> https://en.wikipedia.org/wiki/Licensed_Practical_Nurse

หลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลที่วีเดนจะเรียนประมาณปีครึ่งถึงสองปี (ข้อมูลจาก https://www.arbetsformedlingen.se/yrken/YrkesBeskrivning.aspx?iYrkeId=427##2)

หลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลที่คุณเรียนจบมาจากเมืองไทยนั้น ไม่ทราบว่าเป็นหลักสูตรระยะยาวเท่าไร แล้วคุณทำงานเป็นผู้ช่วยฯมาบ้างหรือเปล่า ส่วนที่จะเทียบวุฒิได้หรือไม่นั้น ต้องไปคุยกับที่โรงเรียนหรือที่ employment office เจ้าหน้าที่แนะแนวเค้าก็จะอธิบายรายละเอียดให้ฟัง หากเทียบวุฒิได้ เค้าก็จะบอกขั้นตอนให้ว่าจะทำอย่างไร

ภาษาสวีเดนไม่ใช่ง่ายๆ กว่าคุณจะเรียนจบคอร์ส กว่าจะพูดใช้งานได้ อย่างน้อยก็เป็นปี หากไม่มีทักษะด้านภาษา ก็อาจนานหน่อยกว่าจะพูดได้คล่อง (อันนี้ไม่ได้ว่าฉลาดน้อย แต่คนเราแต่ละคนจะเก่งกันคนละด้าน บางคนไวเรื่องภาษา บางคนถนัดทำงานที่ละเอียดอ่อนที่ต้องใข้ฝีมือ บางคนทำกับข้างเก่ง ฯลฯ)

ส่งลิ้งค์สถาบันที่สอนหลักสูตร undersköterska ที่เมือง Ulricehamn มาให้ด้วย ส่วนมากจะเป็นภาษาสวีเดน แต่มีให้เลือกภาษาอังกฤษด้วย ลองอ่านดูนะคะ

ภาษาสวีเดน -->
https://www2.ulricehamn.se/tingsholm/program.asp?progr=op


อันนี้ภาษาอังกฤษ ---> https://www2.ulricehamn.se/tingsholm/lang/default.asp?info=1&pr=10

โชคดีค่ะ
โดย: nokDK [5 ต.ค. 51 6:29] ( IP A:80.199.178.246 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ขอบคุณมากคะที่ให้คำแนะนำ ดิฉันกลัวอย่างเดียวคะคูณนก คือกลัวเกาะสามีกินเพราะเพื่อนของแฟนใส่ไฟใว้ว่าระวังเขาจะมาหลอกเอาเงินคุณ(คนไทยด้วยกัน)ดิฉันตั้งใจเอาใว้ว่ากลับมาอีกที่จะพยายามแสดงความอดทนให้เขาเห้นว่าคนไทยไม่ชอบเกาะสามีคะ ดิฉันชื่อเล่นพรคะ
ขอบคุรมากคะ
โดย: runaru-1@msn.com [5 ต.ค. 51 16:31] ( IP A:222.123.50.185 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   สวัสดีค่ะคุณพร

อย่าไปสนใจปากคนเลยนะคะ ร้อยคนก็ร้อยความเห็น เลือกฟังแต่ความเห็นที่ดี ที่ฟังแล้วทำให้จิตใจมีความสุข มีความสงบจะดีกว่า ส่วนความคิดเห็นแนวลบนั้น ฟังแล้วก็กองทิ้งไว้ตรงนั้น อย่าเก็บมาใส่ใจคิดให้ตัวเราเองไม่มีความสุข ให้ทำเฉยเสีย ไม่ต้องไปโต้ตอบ ไม่ต้องมีปฏิกิริยาอะไรทั้งสิ้น

หากเขายังไม่หยุดรบกวนใจคุณ ก็ให้แฟนคุณบอกเขาไปตรงๆว่า เรื่องนี้มันเรื่องส่วนตัวของคุณสองคนนะ และคุณทั้งสองไม่ต้องการให้คนอื่นมาก้าวก่าย หากเขายังไม่หยุดพูด ก็บอกให้แฟนคุณเลิกคุยกับคนๆนั้นไปเสียเลย

แต่คิดว่าแฟนคุณเค้าคงจะรู้ดีนะว่าจะรับมือกับคนๆนั้นได้อย่างไร ตอนนี้ดิฉันว่าตัวคุณเองต้องพยายามทำใจให้สงบ อย่ารับฟังคำยุคำยั่วของคนอื่น เตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆนะคะ เพราะคนไทยที่เมืองนอกบางคนนั้น ขอย้ำว่าบางคนเท่านั้น เพราะคนดีที่คอยช่วยเหลือให้กำลังใจคนอื่นก็มีเยอะ (แบบดิฉันไง อิอิ) เขาทนเห็นคนอื่นมีดีมีความสุขกว่าตัวเองไม่ได้ ต้องพยายามหาหนทางทำลายความสุขด้วยการใส่ไฟ ใส่ร้ายป้ายสี เจอคนแบบนี้เราต้องเลี่ยงค่ะ เพื่อความสุขใจขิงตัวเราเองและของครอบครัวเรา

เรื่องเกาะแฟนกินหรือไม่นั้น มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาพิสูจน์ตัวให้คนอื่นรู้ เอาแค่ว่าเรารู้ตัวเองว่าจริงใจ ทำด้วยจิตใจบริสุทธิ์ ไม่คิดจะเบียดเบียนคนอื่น(แฟน) แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว ไม่ต้องไปสนใจคนอื่นหรอกค่ะ ใครเค้าจะคิดอย่างไร จะว่าอย่างไร ก็ช่างเขา เราไปบังคับความคิดของเขาไม่ได้ แต่เราบังคับความคิดของเราได้ค่ะ

เมื่อคุณย้ายมาตั้งรกรากใหม่ที่ต่างประเทศ โปรดคิดว่าคุณมาตั้งตัวที่เลขศูนย์ ต้องมาเริ่มต้นใหม่เกือบหมด ต้องมาเรียนรู้ภาษาใหม่ ต้องมาปรับตัวให้เข้ากับสังคมใหม่ แค่นี้ก็เครียดจะตายอยู่แล้ว เอาพลังงานมาใช้ในเรื่องที่เป็นประโยชน์แก่ตัวเองดีกว่าค่ะ เรียนภาษานั้นไม่ใช่ง่ายๆ ไม่ต้องรีบร้อนหรือเครียดเพราะลมปากร้ายของคนบางคน ส่วนบ่างช่างยุนั้น ก็ปล่อยเขาไป ไม่ต้องไปสนใจ ไม่ต้องไปพิสูจน์อะไรทั้งสิ้น นะคะ..

ด้วยความหวังดีค่ะ
โดย: nokDK [5 ต.ค. 51 21:03] ( IP A:80.199.178.246 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   จิ้มผิดประจำเลยกับคำว่า "ของ" ไม่ทราบว่าจิ้มเป็น "ขิง" ได้อย่างไร ... เห็นแล้วก็ขำดี อิอิ
โดย: nokDK [5 ต.ค. 51 21:05] ( IP A:80.199.178.246 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   ขอโทษคะคุณนกอายุเท่าไหร่คะส่วนดิฉันอายุ39 ปีคะแก่มาก...แต่ดิฉันชอบดูแลคนชราและเด็กคะตอนอยู่เมืองไทยก็อยู่เนอร์สชิ่งโฮมคะแต่ถ้าอยู่สวีเดนต้องเป็นแม่กอ่น ฮิฮิ..สนุกคะและภาษาenglish number one in my heart คะไม่อยากเชื่อว่าเราต้องมาอยู่ต่างประเทศตอนแก่....และตอนนี้หายเหงาคะเพราะมีคุณนกและพี่ๆในเน็ตขอโทษบางที่พิมพ์ผิด(กดผิด)แฟนฝากถาม คุณนกอยู่ที่ไหนคะ
โดย: runaru-1@msn.com [5 ต.ค. 51 23:02] ( IP A:222.123.200.195 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   สวัสดีค่ะคุณน้องพร เห็นด้วยกับน้องนกทุกประการเลยค่ะ การมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเนี่ยต้องปรับตัวหลายเรื่อง อันดับแรกเลยต้องเรียนภาษาสวีเดนกันก่อนเลยกว่าจะเข้าที่เข้าทางก็ใช้เวลากันพอสมควรทีเดียว ส่วนเรื่องทำงานนั้น เมื่อมาอยู่แล้วค่อยขยับขยายเรียนเพิ่มเติมกันอีกที เพราะคิดว่าคงทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลอย่างที่เคยทำมาก่อนไม่ได้ค่ะ อาจต้องเรียนเพิ่มเติมเทียบวุฒิ ไม่แน่ใจนะคะว่าจะเหมือนพยาบาลรึเปล่า ยังไม่เคยรู้จักใครที่เป็นผู้ช่วยพยาบาลจากเมืองไทยแล้วมาทำงานที่สวีเดน มีแต่น้องที่มาเรียนผู้ช่วยพยาบาลที่สวีเดนเลยอย่างน้องทิพย์ แต่พักนี้หายเงียบไป ถ้าเค้าแวะเข้ามอาจช่วยตอบคำถามเรื่องการเรียนผู้ช่วยพยาบาลได้ค่ะ ช่วงที่รอวีซ่า ลองเรียนภาษาสวีดิชด้วยตัวเองไปก่อนก็ดีนะคะ เตรียมตัวล่วงหน้า มีชัยไปกว่าครึ่ง
เอาลิงค์เวปเรียนภาษาสวีดิชมาฝากค่ะ
https://www.kreativpedagogik.se/
เวปนี้แปลศัพท์สวีเดนเป็นไทยค่ะ
https://www.thailandcentral.com/lexin/lexin.html
โดย: เหมียว สวีเดน (Meaw ) [6 ต.ค. 51 1:41] ( IP A:213.112.138.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   น้องพรจะรีบแก่ไปถึงไหน แค่สามสิบเก้าเอง..

น้องพรมาอยู่เมืองนอกแล้วก็ต้องปรับใจรับความจริงด้วยนะคะว่า 39 น่ะไม่แก่เลย ไปพูดให้คนสวีเดนฟังว่าแก่ ระวังเค้าจะอมยิ้ม หรือไม่ก้หัวเราะก้ากด้วยความขำกัน เพราะคนที่ประเทศทางสแกนฯนี่ ต้องอายุเลยหกสิบห้าถึงจะมีสิทธิ์บ่นว่าแก่ได้โดยที่ไม่มีใครเบรก นับว่าดีต่อสาววัยสดใส ไม่วัยรุ่นแอ๊บแบ๊ว แต่ก็ไม่แก่หง่อมอย่างพวกเรามากๆ อิอิ

พี่เคยอยู่ที่ Malmö ค่ะน้องพร แต่ตอนนี้ย้ายตามสามีมาอยู่เดนมาร์ก ขอไม่บอกชื่อเมืองนะ แต่บอกเป็นนัยๆว่าอยู่ไม่ไกลจากโคเปนเฮเกนเท่าไร แต่ไงก็ห่างจาก Ulricehamn เป็นโยชน์เลย

ถือโอกาสสวัสดีพี่เหมียว ณ เยอเตบอร์ยด้วยเลย พี่เหมียวเป็นพยาบาลมาจากเมืองไทยค่ะน้องพร และก็ต่อสู้กับภาษาสวีเดนจนเที่ยบวุฒิได้สำเร็จ

เท่าที่เคยคุยกับเพื่อนๆ(คนสวีเดน)ที่เคยทำงานดูแลคนแก่ พวกนั้นเค้าไม่มีวุฒิเลยนะ แต่เค้าอาศัยว่าใจกล้า โทรไปถามตามบ้านพักคนชรา หรือทาง Hemtjänst ว่าขาดคนไหม แล้วเค้าก็ได้ไปทำกัน
ในตำแหน่ง vårdbiträde ไม่ทราบว่าตอนนี้ยังเหมือนเดิมไหม เพราะจากสวีเดนมาหกปีแล้ว ไม่ทราบว่าอะไรๆเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน

อย่างที่พี่เหมียวแนะนำนะคะว่าตั้งใจเรียนภาษาก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง

ขอให้โชคดีค่ะ rose
โดย: nokDK [6 ต.ค. 51 2:21] ( IP A:80.199.178.246 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ได้รับเมลน้องที่ส่งมาค่ะ ว่าจะลอกเอามาแปะที่นี่เพื่อให้พี่ๆเพื่อนๆในสวีเดนมาช่วยตอบ
แต่ว่ายังหาเวลาไม่ได้ และ น้องพร ก็มาแปะข้อความไว้ที่นี่ ดีเหมือนกันค่ะ

เดี๋ยวหากทิพย์มาอ่านคงจะมาเล่าหนทาง การเรียนให้ฟัง ทิพย์เองก็คงยุ่งกับภาระ การเรียน และครอบครัวเหมือนกัน

อย่าท้อนะคะ น้องพร เอาใจช่วยค่ะ
โดย: เจ้าบ้าน [6 ต.ค. 51 3:49] ( IP A:79.196.201.28 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   
โดย: porn [6 ต.ค. 51 8:24] ( IP A:222.123.200.195 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   กอ่นอื่นต้องขอขอบคุณพี่นกและพี่เหมียวคะที่ช่วยแนะนำดิฉันสนใจwebนี้มากเลยเพราะรู้สึกมีเพื่อนในสายงาน บอกตามตรงอบอุ่นมากคะตอนนี้ดิฉันเรียนthai massage และภาษาที่พี่นกส่งให้คะแฟนก็สอนทางเมลย์ทุกวันสนุกคะกับสิ่งแปลกใหม่และถ้าดิฉันจำไม่ผิด ดิฉันเคยพบคุณเหมียวที่งานปาร์ตี้วันเกินของคุณป้าที่โบโรสเมื่อห้าเดือนกอ่นที่จะกับเมืองไทยแน่เลย แต่ดิฉันจำชื่อท่านไม่ได้เอาเป็นว่าพวกเราต้องได้พบกันเพราะอยุ่ไม่ห่างกันเลยBoras กับUlricehamn
โดย: runaru-1@msn.com [6 ต.ค. 51 8:42] ( IP A:222.123.200.195 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   สวัสดีค่ะน้องพร และน้องนก
น้องพรแน่ใจนะคะ ว่าจำไม่ผิด พี่ยังไม่เคยไปงานวันเกิดใครที่บูโรสเลยค่ะช่วงที่ผ่านมาเนี่ย แต่ไม่เป็นไรค่ะพี่อาจจำไม่ได้เอง อาจเป็นไปได้ว่าเคยเห็นกันที่บูโรส เพราะพี่จะไปบ้านพักร้อนที่นั่นทุกวันหยุด และไปป้วนเปี้ยนในเมืองนั้นบ่อยๆ
จำได้ว่าเคยไปงานวันเกิดเพื่อนของเพื่อนคนนึง แต่บ้านเขาอยู่ในเยอตาบอร์ยนี่แหล่ะ นานเป็นปีๆแล้ว น้องพรอาจเป็นหนึ่งในนั้นก็ได้ ยังไงก็ยินดีที่รู้จักค่ะ
โดย: เหมียว สวีเดน [6 ต.ค. 51 18:55] ( IP A:213.112.138.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   สวัสดีเช่นกันคะและยินดีที่ได้รู้จักทุกๆคนเลยคะอาจจะมีเวลาเขียนมากกว่าเพื่อนเพราะอยู่ที่เมืองไทยไม่ได้ทำงานคะเปิดคลินิคเล็กๆและจ้างRN มาทำงานตัวเองก็เล่นเมลล์อย่างเดียว ดิฉันอ่านดูเมลล์เกือบทุกเมลล์ อยากเป็นRNคะจะได้เปิดคลินิคในเมืองไทย ความจริงนะคะพี่นกพี่เหมียวน้องเพียงต้องการเรียนเพิ่มเติมในต่างแดนเพื่อจะกลับมาบริหารงานในไทยในอนาคตในวันข้างหน้า ตอนนี้ถ้าเรียนRNในไทยก็ไม่มีโอกาศเพราะเขาจำกัดอายุคะ ตัดสินใจลุยต่างแดนเพื่อความฝัน มันอาจจะหนักเหมือนพกหินก็ยอมคะ และอยากแนะนำพยาบาลที่จบใหม่ถ้าอยากมีรายได้เป็นแสนเปิดคลินิคในไทยสบายกว่ากันเยอะเลยคะที่ดิฉันอยากโกอินเตอร์เพราะต้องการประสบการณ์จากต่างประเทศเพื่อมาพัฒนาบ้านเราคะ ต่างประเทสไม่สวยหรูอย่างที่เราคิดคะ จากประสบการณ์ที่ไปเที่ยวมาแล้วรู้คะอยากมาก...
และขอบคุณพี่นกและพี่เหมียวมากๆนะคะรักคนไทยและพยาบาลไทยทุกๆคนจากใจจริงคะ
โดย: runaru-1@msn.com [6 ต.ค. 51 19:29] ( IP A:222.123.200.195 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   ขอบคุณคูณพรที่เข้ามาชี้แจงบอกเล่ารายละเอียดว่าทำไมถึงต้องการมาเรียนที่สวีเดน

ดิฉันจะไม่ตอบกระทู้นี้ต่อไปแล้ว ยิ่งอ่านคำตอบของคุณ โดยเฉพาะ คคห. ที่ 12 ยิ่งเสียอารมณ์

จบดื้อๆแค่นี้ล่ะค่ะ
โดย: nokDK [7 ต.ค. 51 3:13] ( IP A:80.199.178.246 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
   การที่จะมาทำงานพยาบาลในสวีเดนได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะคะ เพราะต้องเรียนภาษาก่อนแล้วถึงจะเรียนเทียบวุฒิได้ มันใช้เวลาหลายปีทีเดียวค่ะ ถ้าอยากโกอินเตอร์ เพื่อหาประสพการณ์ และมีดีกรีจากเมืองนอก ทำไมไม่เรียนในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษล่ะคะ เพราะภาษาอังกฤษเรามีพื้นฐานเดิมอยู่แล้ว จะได้ช่วยย่นระยะเวลาเรื่องภาษาไปได้เยอะเลย
โดย: เหมียว สวีเดน [7 ต.ค. 51 16:16] ( IP A:213.112.138.97 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
   น้องพรคะ

ไม่คุ้มเลยค่ะที่จะมาสวีเดนเพื่อมา โกอินเตอร์ เอาความรู้กลับไปพัฒนาชาติ ไปอวดคน หรือ ไปเปิดคลีนิค ฟังแล้วมันขัดๆพิกล
ไม่ใชมาเพราะมีความรัก หรือมีแฟนที่นี่หรอกหรือคะ ไม่ใช่เพราะความรักจะพามาหรือคะ

อย่าเคืองพี่นก พีนกเป็นคนตรง เรียนเป็นพยาบาลเพราะใจรักวิชาชีพ อยากช่วยคน และ อยากอยู่ที่ต่างแดนได้ โดยพึ่งลำแข้งของตนเองได้ และเห็นคุณค่าของวิชาชีพค่ะ
พี่เองก็ยัง ฉุนเลย มื่ออ่าน คห. 12 ฉุนเพราะน้องอยากเรียนเมืองนอก เพราะ อยากเปิดคลีนิค
ไม่ได้อยากเรียนเพราะใจรัก หรือ อยากช่วยคน (เลยหรือคะ)

ตอนนี้พี่หายฉุนแล้ว เลยขอตอบเมลน้องหน่อยนะคะ

พี่ทราบว่า พยาบาลที่มาต่างแดนหลายคน มานี่แล้วเครียด หาคนช่วยได้น้อย เลยรวมกลุ่มกัน เพื่อแลกประสบการณ์ และ สมานมิตรภาพ
พยาบาลในกลุ่ม กัดฟัน เรียน เทียบวุฒิ มีทางบ้านที่ดีคอยซัพพอร์ต
ถึงไม่รวยก็ช่วยให้ความรัก และกำลังใจกันและกัน
บางคนมาเพราะมีความรัก อันนี้ หนักเท่าใดก็ไม่หวั่น


ดังนั้นเมื่อเราจบกันแล้ว ได้รับการเทียบวุฒิกันแล้ว เราจะภูมิใจกับวิชาชีพ และตนเองมาก และ
ไม่งอมือ งอเท้าค่ะ

พี่จะแอนตี้ พวกผู้หญิงไทยที่รักสบาย คิดอะไรง่ายๆคิดว่ามาที่นี่แล้ว อะไรๆมันง่ายไปหมด พอมาเจออะไรหนักๆเครียดๆไม่หรูเหมือนฝันก็ เผ่น หย่า หรือกลายเป็นปัญหาของสังคมที่นี่ไป


เชื่อไหมคะ ว่าเรียนที่นี่ กระอักเลือดมากกว่าที่เมืองไทย ไม่มีครูมานั่งนิเทศก์งานตลอดเวลา ขึ้นเวร ฝึกงานตามวอร์ดต่างๆ 6-7อาทิตย์ ครูมาดูครั้งเดียว ได้พยาบาลพี่เลี้ยงดี ก็ดีไป หากไม่มีคนดีๆคอยสอนก็ซวยจริงๆ เหนื่อย เสียเวลา เครียด และ ดีไม่ดี โดนประเมินให้ตก
มีพยาบาลไทยหลายคนมานี่ กัดฟันเรียน ไหนจะลูก งานวอร์ด งานโรงเรียน และงานบ้านไม่มัวนั่งทำบล๊อกตลอดเวลา หรือ เล่นเน็ตลูกเดียว พล่าเวลาไปเรื่อยๆ

ที่สำคัญ ภาษาค่ะ ต้องเริ่มจากศูนย์ ทำไมน้องไม่เรียนที่อื่นละคะแบบพี่เหมียวบอก
เรียนอเมริกา เขาไม่จำกัดอายุหรอกค่ะ
พี่บอกจริงๆว่า พีประเมินจากเมลน้อง คิดว่า การที่น้องชวนพวกพี่ไป ทำงานเมืองไทย มันไม่ได้ง่ายเลยค่ะ พวกพี่ๆชินกับการสู้งาน สู้ชีวิต ที่นี่แล้ว และภูมิใจมากที่ได้เป็นพยาบาลไทย ลุย ไปเรื่อยๆในต่างแดน
ตั้งกระทู้บอกน้องๆพยาบาลให้เข้าใจ ว่ามานี่ต้องสู้ เกิดอะไรก็ต้องเพียรพยายาม และ ไม่ให้มายุโรปโดยคิดว่า มาแล้วจะสบายทันที มาแล้ว ต้องทำใจมาจริงๆว่าจะไม่ท้อ

อาจจะเป็นเพราะน้องขาดประสบการณ์การทำงานพยาบาลในเมืองไทยจึงไม่ทราบว่า พยาบาลไทยหลายคน เขาก็เบื่อกับ งานที่หนักและเครียดเหมือนกัน กับกฎเกณฑ์ระเบียบต่างๆ อันไม่ค่อยยุติธรรม กับ ระบบพวกพ้อง และ อื่นๆ
แต่พวกเขาหลายคน ก็ใช้ความรักในวิชาชีพ ตามวิถีทางแห่งความเป็นพุทธ ใช้พรหมวิหาร4 เข้าช่วยในการพยาบาล หรือความเป็นคริสต์ที่ดี รักมวลมนุษย์เหมือนสหาย แคร์ด้วยใจ และสมอง ไม่ใช่แต่กาย
เขาเลยปลงได้ ทำงานได้ด้วยใจรักกอลปกับหน้าที่ที่มีขอบเขตุ อันชัดเจน เขาเลยอยู่ได้ บางคนทราบด้วยว่า
มาเมืองนอก ต้องมาเริ่มต้นใหม่ หน้าที่ความรับผิดชอบไม่เหมือนเมืองไทยไปหมด เครียดมากขึ้น ไม่มีโอกาสอยู่ใกล้เพื่อน ญาติ หรือ บุพการี เขาก็จะไม่มากัน
พยาบาลไทยหลายคนเขาทราบถึงคุณค่าของเขา ให้เกียรติสถาบันในเมืองไทยมาก และทราบด้วยว่าเขาความสามารถสูงกัน ดังนั้นไม่จำเป็นว่าจะเป็นพยาบาลมาจากเมืองนอกจะต้องเก่งไปหมด หากเขาเรียนในสถาบันที่เมืองไทยได้เขาก็ภูมิใจกันมาก

ความจริงหากสภาพยาบาลไทยจะเลิกการกำหนดอายุเรียนพยาบาลต่อ ก็คงจะดีเหมือนกัน
แต่พี่สงสัย ทำไมน้อง ไม่พยายามเรียนต่อตอนอายุยังไม่มากขนาดนี้


โชคดีนะคะ
โดย: มพถ [7 ต.ค. 51 20:24] ( IP A:79.196.213.35 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
   มีความรู้สึกเดียวกับน้องนก และน้องใหญ่เลยค่ะ ที่เขียนไปยังไม่จบดี พอดีมือกดไปซะก่อน และต้องธุระก่อน เลยขอกลับมาเขียนต่อ
พวกเราชาวพยาบาล ที่มาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองนี่เพราะเหตุผลหลักคือย้ายตามสามี ถ้าให้เลือกได้ อยากเป็นพยาบาลในเมืองไทยมากกว่าค่ะ
เพราะหน้าที่การงานลงตัวอยู่แล้ว พอมาอยู่ต่างแดนแบบนี้มันต้องเริ่มใหม่หมด ต้องเริ่มเรียนภาษาใหม่ กลับไปเรียนวิชาพยาบาลที่เคยเรียนมาแล้ว แต่ต้องมาเรียนในภาษาใหม่ เรียนยากกว่าที่เมืองไทยเพิ่มเป็นสองเท่าด้วยเหตุผลทางภาษา และวิชาการ ซึ่งเรียนเมืองไทยยังว่ายาก แล้วคิดดูนะคะ ว่าเรียนการพยาบาลในภาษาใหม่มันจะยากขนาดไหน ถ้าคิดว่าจะมาเรียนที่นี่ง่ายและทำงานง่ายกว่าเมืองไทยน่ะ คิดผิดค่ะ ที่เรายังอยากเป็นพยาบาลกันอยู่เพราะเราอยู่ที่นี่ และจะไปทำงานอื่นก็คงไม่มีความสามารถ และไม่ถนัด เพราะทำเป็นอยู่อาชีพเดียวนี่แหล่ะค่ะ
ตอนแรกเห็นบอกว่าจะมาสวีเดนเพราะมาอยู่กับแฟน แต่ตอนหลังบอกจะมาบริหารงานคลีนิค ฟังดูแปลกๆ ตกลงจะมาใช้ชีวิตกับแฟนต่างประเทศ หรือว่ามาทำอะไรกันแน่คะ งานพยาบาลเป็นงานที่ทำด้วยใจรัก และต้องการช่วยเหลือคน แต่ถ้าคิดว่าทำเพื่อผลประโยชน์ ทำเงินมีรายได้เยอะอย่างที่บอก มันดูขัดกับความรู้สึกพยาบาลอย่างเราจังเลยค่ะ
ยังไงก็ขอให้ประสพความสำเร็จอย่างที่หวังค่ะ
โดย: เหมียว สวีเดน (Meaw ) [8 ต.ค. 51 2:18] ( IP A:213.112.138.118 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
   เข้ามาเขียนต่ออีก เพราะว่าไม่อยากให้คนอิ่นคิดไปเองว่า เอ.. พี่นกเดนมาร์กนี่ทำไมเค้าขี้โมโหและขี้งอนจัง?

หากบังเอิญว่ามีใครคิดแบบนั้น ก็ขอบอกไว้ ณ ตรงนี้ก่อนเสียเลยว่า ไม่ได้โกรธและงอนนะคะ แต่ไม่พอใจค่ะที่น้องพรเธอพูดกลับไปกลับมา ข้อความที่น้องพรเธอเขียน อาจสั้นมาก แต่ก็พออ่านจับใจความได้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของเธอนั้นคืออะไร ยิ่งอ่านยิ่งเสียความรู้สึก นี่แหละค่ะเหตุผลที่ไม่อยากเข้ามาเขียนคุยกับน้องพร จขกท. ต่ออีก ก็เพราะเสียอารมณ์จนกระทั่งรู้สึกว่าหากเขียนต่อไป พี่นกเดนมาร์กอาจเทศน์ยาวจนน้องๆคนอื่นเข็ด ไม่กล้าเข้ามาถามขอข้อมูลที่นี่อีกต่อไป

ไม่ได้โกรธ ไม่ได้งอน แต่เสียอารมณ์? หลายคนอาจนั่งคิดว่า เป็นไปได้อย่างไรกันน่ะ?

งันก็จะอธิบายให้ฟังเป็นข้อๆไป คนอ่านคนอื่นๆที่ไม่รู้จักพี่นกเดนมาร์กคนนี้เป็นการส่วนตัว จะได้พอมีทางเข้าใจว่าทำไมพี่นกจึงเสียอารมณ์ จนไม่อยากคุยต่อ

ประการที่หนึ่ง พี่นกเดนมาร์กเป็นคนที่ใส่ใจสนใจในความทุกข์สุขของคนอื่น เห็นใครมีทุกข์ แล้วมักจะอยู่เฉยไม่ค่อยได้ หากมีอะไรที่พี่นกเดนมาร์กพอช่วยเหลือได้ พี่นกเดนมาร์กก็จะทำค่ะ

เห็นกระทู้ของน้องพรเข้ามาขอข้อมูล พร้อมกับบอกว่ากังวลมาก พี่นกเดนมาร์กไม่ค่อยจะมีเวลาเท่าไร งานตัวเองก็เพียบ ทั้งงานในบ้าน และงานฟรีแลนซ์ แถมลูกก็ป่วย พี่นกเดนมาร์กก็ยังอุตส่าห์เสียเวลาเข้ามาเขียนตอบและปลอบใจ และหาข้อมูลให้อย่างละเอียดด้วย ที่ยอมเสียเวลา ก็เพราะสงสาร คิดว่าน้องพรลำบากเดือดร้อนและกังวลใจจริงๆ

พี่นกเดนมาร์กผ่านประสบการณ์การเริ่มต้นใหม่ในต่างประเทศมาสองครั้ง เข้าใจดีถึงความยากลำเค็ญของการเรียนภาษาใหม่ เข้าใจดีถึงความเครียด ความกังวลต่างๆ ดังนั้น เวลาพี่นกเดนมาร์กเห็นใครเครียดเวลาที่มาเริ่มต้นใหม่ พี่นกเดนมาร์กก็จะยอมสละเวลาที่มีอยู่น้อยนิดเข้ามาคุยเข้ามาปลอบโยน

และหากพอจับเนื้อความได้ว่าบางคนนั้น เค้าสร้างเรื่องให้เราสงสาร ก็จะเสียอารมณ์น่ะค่ะ ไม่เข้าใจว่าต้องทำแบบนั้นทำไม มันเหมือนกับโดนหลอกยังไงก็ไม่ทราบ ในใจก็คิดว่าหากใครอยากได้ข้อมูลก็บอกมาตรงๆเลยไม่ได้หรือไง หรือกลัวว่าหากบอกตรงๆแล้วจะไม่มีใครแวะเข้ามาตอบให้ ก็เลยต้องใช้วิธีทำตัวให้คนสงสารแบบนี้?

ประการที่สอง พี่นกเดนมาร์กมีปณิธาณและความมุ่งหมายในใจเหมือนพี่ๆน้องๆคนอื่นที่เป็นพยาบาล ก็คือทำงานรักษาพยาบาลเพราะอยากใช้ความรู้และประสบการณ์ส่วนตัวที่มีมา มาช่วยเหลือคนอื่น

และการช่วยเหลือนั้นเป้นการช่วยเหลือที่เป็นไปด้วยความรักในวิชาชีพ และความต้องการที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกใบนี้ เราช่วยเหลือทุกคนค่ะ ไม่มีการแบ่งแยกชนชั้น เพศ ผิวพรรณ ฐานะ ศาสนา ฯลฯ เราให้ความช่วยเหลือแบบเท่าเที่ยมกันไปหมด

พอมาอ่านว่าน้องพรอยากมาเรียนเมืองนอก เพราะอยากโกอินเตอร์ (เดี๋ยวเรียน ผช. เดี๋ยวเรียน RN ไม่รู้จะเอาอันไหนกันแน่ แต่ช่างเถอะ เพราะไม่ว่าจะคิดอยากเรียนอะไร ก็โดนพี่นกเดนมาร์กเทศน์อยู่ดีแหละ...) พี่นกเดนมาร์กก็เริ่มมีอาการเสียอารมณ์ แบบหมดมู้ด แต่ไม่อารมณ์เสีย ขึ้นมาทันที เพราะหากน้องพรไม่มาขยายความต่อใน คคห. ที่ 12 พี่นกก็ยังคงจะมองน้องพรในแง่ดีต่อไป
โดย: nokDK [8 ต.ค. 51 5:43] ( IP A:80.199.178.246 X: )
ความคิดเห็นที่ 18
    แล้วทำไมพี่นกเดนมาร์กต้องมองน้องพรในแง่ไม่ค่อยจะดีด้วยล่ะคะ?

เอ๊ะ.. ใครนะ ขี้สงสัยจริง อิอิ เอาเถอะค่ะ หากมีคนสงสัย พี่นกเดนมาร์กก็จะบอกเล่าขยายความในใจให้ฟังกัน....

พี่นกเดนมาร์กเป็นคนที่รักและเคารพในประเทศที่พี่นกเดนมาร์กเคยพำนักอาศัยอยู่ค่ะ พี่นกเดนมาร์กรักประเทศไทยที่เป็นบ้านเกิดเช่นใด พี่นกก็รักประเทศสวีเดนที่เคยเป็นเมืองนอนเช่นนั้น ถึงตอนนี้จะมาสร้างรังอยู่กับพ่อนกและลูกนกน้อยๆอยู่ที่เดนมาร์ก แต่พี่นกก็รักประเทศสวีเดนเสมอ ไม่มีการลืมเลือน....

นอกจากนี้แล้ว พี่นกเดนมาร์กก็เป็นคนที่รักความยุติธรรม ไม่ชอบเห็นใครโกงกินกอบโกยหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง หากโยกย้ายตามสามีมาอยู่ต่างประเทศ แล้วต้องมาเรียนใหม่ อะไรแบบนั้น โอเคค่ะ...พี่นกเดนมาร์กจะสนับสนุนเต็มที่

แต่หากจะมาเรียนเพียงเพราะว่าที่สวีเดนเรียนฟรี และเค้าไม่จำกัดอายุ แบบนี้พี่นกเดนมาร์กชักไม่ชอบใจแล้วค่ะ

ที่ไม่ชอบใจก็เพราะว่าพี่นกเดนมาร์กไม่ชอบคนที่ทำตัวเห็นแก่ตัวและกอบโกยค่ะ สวีเดนเป็นรัฐสวัสดิการ ให้การศึกษาฟรีแก่พลเมืองและผู้ที่มาพักอาศัย ด้วยปณิธานที่ว่า เมื่อบุคคลผู้นั้นเรียนจบแล้ว ก็จะมาช่วยทำงาน ช่วยเสียภาษีชดใช้สังคม เพื่อให้ระบบรัฐสวัสดิการคงอยู่ต่อไปได้ หากพลเมืองทุกคนคิดว่าเรียนฟรีได้ ก็แห่กันมาเรียน พอจบก็ย้ายออก แบบนี้ประเทศก็ล่มจมกันพอดี

เบื่อนะเวลาต้องมาเจอพวกแบบที่เห็นที่ไหนเปิดช่องให้ตักตวงได้ ก็รีบเข้ามากอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวเอง พอจบแล้วก็เผ่น ไปทำธุรกิจ "พัฒนาบ้านเรา" หรือพูดตรงๆตามประสาคนลูกทุ่งที่ไม่อ้อมค้อมก็คือ พัฒนากระเป๋าตัวเองให้มีเงินฟ่อนใหญ่ขึ้นนั่นเอง

เรื่องเมคมันนี่นี่พี่นกเข้าใจค่ะว่าใครๆก็อยากรวย แต่ช่วยเลือกวิธีรวยแบบที่ไม่เดือดร้อนคนอื่นและประเทศอื่นได้ไหมคะ อยากเรียนเป็น RN ก็ไปเรียนแบบที่จ่ายค่าเรียนด้วยตัวเองสิ แบบนั้นพี่นกเดนมาร์กจะไม่ว่าไม่ติติงอะไรเลย

เราอยู่ในโลกใบเดียวกัน เราต้องมีความรับผิดชอบไม่เฉพาะแต่กับประเทศตัวเอง แต่ต้องมีมโนธรรมมีความรู้สึกรับผิดชอบกับประเทศอื่นๆด้วยค่ะ เราไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบประเทศไทยของเรา เราก็ไม่ควรฉวยโอกาสเอาเปรียบประเทศอื่นๆ ไม่ใช่ว่าคิดแต่ว่ามือใครยาวสาวได้สาวเอา หากทุกคนคิดเห็นแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว แบบนั้นโลกก็ถอยหลังลงคลองอย่างเดียวสิคะ

หมายเหตุ การเข้าไปเรียน ไปใช้งบประมาณของรัฐสวัสดิการแบบถูกต้องตามจรรโลงธรรม เช่นไปอยู่ที่นั่น แล้วก็ต้องเรียนเพราะต้องตั้งต้นใหม่ อะไรแบบนั้น ไม่มีใครเค้าคิดมากหรอกค่ะว่าคุณเอาเปรียบคนอื่น หากเรียนๆไป แล้วนึกอยากย้ายกลับเมืองไทย ก็ไม่มีใครค่อนแคะอีก เพราะคนเรามัสิทธิเสรีภาพในการเลือกที่อยู่ค่ะ แต่การคิดวางแผนเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างที่น้องพรแจงมานั้น พี่นกเดนมาร์กอ่านกี่รอบๆ ก็แปลความได้อย่างเดียว ว่าน้องพรจะมาตักตวงผลประโยชน์จากประเทศสวีเดนอย่างเดียว แล้วแฟนน้องทราบหรือเปล่าคะนี่ว่าน้องมีแผนแบบนี้ หรือว่าเขาเองนั่นแหละที่รู้ระบบของประเทศตัวเองดีมากพอจนกระทั่งมาชักชวนให้น้องมาเรียนฟรี เพราะเค้าเองเสียภาษีให้รัฐมาเยอะแล้ว? อันนี้เดาไปเรื่อยๆนะคะ ไม่มีข้อมูล ไม่รู้หรอกว่าใครคิดอย่างไร แค่ความเห็นส่วนตัวเท่านั้นน่ะค่ะ
โดย: nokDK [8 ต.ค. 51 5:44] ( IP A:80.199.178.246 X: )
ความคิดเห็นที่ 19
    ประการที่สาม ที่ทำให้พี่นกเดนมาร์กหมดมู้ดมากๆ ก็เพราะพี่นกเดนมาร์กรู้สึกเหมือนกับว่าน้องพรเข้ามาถามขอข้อมูลเพราะน้องพรจะย้ายตามแฟนมาอยู่สวีเดน ต้องมาตั้งต้นใหม่ แต่พอตอนหลังน้องพรมาขยายความเพิ่มว่าจะมาเพื่อ “โกอินเตอร์” จะได้กลับไปทำธุรกิจ “พัฒนาบ้านเรา” พี่นกก็เลยรู้สึกเหมือนโดนหลอก นึกในใจว่า นี่เขามาขอข้อมูลเรา มายืมมือเราให้หาข้อมูลให้ เพื่อที่เขาจะได้รู้ทางรู้วิธีเอาเปรียบประเทศสวีเดนและประชาชนที่เสียภาษีแพงๆที่นั่นเองหรอกหรือ

อธิบายมายาวเหยียด มีเทศน์ปนไปด้วย คิดอย่างไรก็ว่าไปอย่างนั้น แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็ทำไปด้วยความหวังดี ใครอ่านแล้วอาจจะสบอารมณ์ หรือไม่สบอารมณ์ ก็แล้วแต่จะคิดกันไปนะคะ พี่นกเดนมาร์กเชื่อว่าทุกคนมีสติปัญญา มีความรู้มากพอที่จะใช้วิจารณญาณของตัวเองวินิจฉัยสถานการณ์ได้เองค่ะ

ขอให้มีความสุขทุกท่านค่ะ rose
โดย: nokDK [8 ต.ค. 51 5:45] ( IP A:80.199.178.246 X: )
ความคิดเห็นที่ 20
   สวัสดีอีกที่คะคุณพี่ทุกท่านจริงๆไม่ได้มีเจตนารมณ์จะเป็นอย่างนั้นแต่หนูเห็นน้องที่จบจากเมืองไทยหลายคนอยากโกอินเตอร์เพราะคิดว่าสวยหรูแต่เท่าที่รู้มันก็มาจากปัญหาเงินๆทองๆฃึ่งรัฐบาลไทยไม่เคยคิดถึงค่าแรงพยาบาลไทยเลยทำให้พยาบาลหลายคนต้องดินร้นออกนอกประเทศและเดี๋ยวนี้พยาบาลจบใหม่ไม่มีโควต้าบรรจุรับราชการคะพี่ ดิฉันคิดว่าหลายคนคงไม่รู้ว่าพยาบาลก็เปิดคลินิคได้เช่นเดี่ยวกับแพทย์แต่เราต้องมีขีดจำกัดในกลุ่มการให้ยาคะ ที่หนูสายดายวุฒิเขาเพราะตัวหนูเองดินร้นเรียนหลายที่แต่สุดท้ายได้ป.สาธารณสุขคะเพราะเราเรียนสายศิลย์สมัยม.6แต่เราไม่รู้อนาคตลว่งหน้าว่าจะต้องทำอะไรเพราะเรียนโรงเรียนบ้านนอกคะ ตอนที่ตัดสินใจไปเยี่ยมแฟนก็คิดนานเหมือนกันเพราะธุรกิจเรามันคงตัวแล้ว และพอไปพบผู้หญิงไทยฃึ่งจิตใจคับแคบมากดูถูกเรามากเลยพี่ พวกเขารู้ได้อย่างไรว่าเราต้องมาถึงวันนี้หนูงงมากเลยและพูดว่ามาที่นะคุณต้องทำเองทุกอย่างนะ ส่วนหนูยิ้มอยู่ในใจสบายคะเพราะดิฉันไม่เคยเกี่ยงงาน
ตอนนี้หันมาเข้าเรื่องว่าทำไม่ตอ้งการไปอยู่ที่โน้น
1.เพราะตัวเองรักแฟนมากและเขาเป็นคนดีมากด้วย
2.เห็นช่องทางที่ตัวเองต้องการเรียนปรับวุฒิเพราะอยู่เมืองไทยหนูฃื้อใบประกอบโรคศิลป์พ.วิชาชีพมาเปิด2000บ/เดือนคะและค่าแรงของพยาบาลแต่ละเดือนหลายบาทคะพี่
3.ดิฉันและแฟนสัญญาจะอยู่ที่สวีเดน10ปีและคิดว่าดิฉันหน้าจะจบ(หรือเปล่าคะพี่)
4.ดิฉันเตรียมตัวและเตียมใจเพื่อจะสู้กับเขาที่นี้รู้ว่ามันไม่ได้โรยด้วกุหลาบเหมือนพี่ๆหลายคนแนะนำใว้หลายเมลล์สำหรับคนที่ไปต่างประเทศในหลายลักษณะ
และพี่นกพี่เหมียวรู้ไหมว่าในเมืองไทยทุกคนที่ทำงานในโรงพยาบาลคนไข้เรียนคุณหมอกันหมดและพยาบาลในเมืองไทยชอบจิกหัวผช.พยาบาลให้พวกเราทำทุกอย่างแล้วคุรๆพยาบาลทั้งหลายถ้าไปเจอลักษณะที่พวกพี่ๆเล่ามาเขาจะทดได้หรือคะหนูก็เลยเสนอแนะเท่านั้นเองว่าเขามีช่องทางทำมาหากินตั้งเยอะ
และหนูเห็นด้วยกับพี่ตูนพี่ลำพาในข้อคิดหลายๆด้านส่วนพวกเราผู้ช่วยพยาบาลทำได้ทุกอย่างคะพี่ และต้องขอโทษพี่นกมากๆหนูอาจจะระบายเกี่ยวกับพยาบาลไทยมากไปเพราะหนูเคยทำงานกับพยาบาลไทยหลายๆที่และนิสัยเหมือนกันหมด ส่วนแฟนเขาไม่อยากให้หนูเรียนต่อเลยคะพี่นก เขาแค่ต้องการให้เรารู้ภาษาสวีเดนก็พอแต่หนูอยากเรียนและบอกกับเขาว่าฉันก็เรียนไปทำงานไปอย่างนี้ไปเรื่อยๆ หนูรักสามีคะพี่ไม่อย่างนั้นหนูไม่ทิ้งธุรกิจให้น้องดูแล และเรามีแผนการในอนาคตรวมหลายๆอย่างใจจริงอยากให้เขาไปอยู่กับเราที่เมืองไทยแต่ลูกเขายังเล็กอยู่ และหนูรู้ว่าเขาไม่สามารถอยู่คนเดี่ยวได้เพราะบ้านเขาอยู่ห่างจากตัวเมืองมาก และเรามีสัญญาในข้อตกลงทุกอย่างเรียบร้อยคะ
หนูขอจบแค่นี้นะคะและหวังว่าพี่นกและพี่เหมียวคงให้อภัยถ้ามีอะไรที่ลว่งเกิน
เคารพ
โดย: runaru-1@msn.com [8 ต.ค. 51 9:02] ( IP A:117.47.96.98 X: )
ความคิดเห็นที่ 21
   รับทราบค่ะน้องพร ขอจบการคอมเมนท์แค่นี้เช่นกันนะคะ
โชคดีค่ะ
โดย: เหมียว (Meaw ) [8 ต.ค. 51 13:49] ( IP A:213.112.138.118 X: )
ความคิดเห็นที่ 23
   ทำงานเป็นพยาบาลในเมืองไทยมา 10 กว่าปี ทั้งเอกชน และรัฐบาล ยังไม่เคยจิกหัวใช้ผู้ช่วยเลย
มีแต่ตอนจบใหม่โดนพี่ผู้ช่วยจิกหัวใช้ค่ะ สงสัยตัวเองโชคไม่ดีหรือหน้าตาอ่อนแอง่ะ
เคยเปิดขายยาที่บ้าน ยาง่ายๆรายได้ไม่เยอะนะเพราะขายไปแจกไป
โดย: คนน่าสงสาร (emma ) [10 ต.ค. 51 23:11] ( IP A:84.217.136.26 X: )
ความคิดเห็นที่ 24
   น้องจ๋าเมืํอกํอนตอนเรียนโดนพึํผูํชํวยแกล้งใสํไฟโดยเฉพาะคนทีํเป็นแมํบ้านเค้าจะมีอิทธิพลมากชอบไปฟ้องหัวหน้าตึกพยาบาลจบใหมํก็โดนกันบํอยแตํตํอมาก็ไมํมีปัญหาอะไรเพราะเค้ายอมรับการทำงานของเราและเราก็ชํวยงานเค้าไมํเคยดูถูกหรือจิกหัวใช้ใครบางทีเค้ายังมายืมเงินเราอีกเป็นคําเทอมให้ลูกเค้าทีํไหนๆก็จะมึแกะดำอยูํทุกทีํคนทึํทำตัวเป็นบัวใต้โคลนมีอยูํทุกทึํฝรัํงก็มีแยอะเพราะเค้าจะทนไมํคํอยได้ทึํคนตํางชาติมาได้เงินเดึอนมากกวําเค้าหรึอมีความเป็นอยูํทึํดึกวําเค้า ทำงานทึํนึํจะเครึยดกวําบ้านเราเยอะมาาากเพราะไหนจะเรืํองภาษาตํางๆการปรับตัวการประนีประนอมระหวํางคนไข้ ครอบครัวคนไข้ ผู้รํวมงานแสบๆ หรือฯฯถาได้หัวหน้าทีํแบคออฟเราก็จะทำงานงํายขึ้นเพราะสํวนมากคนไทยเราจะทำงานหนักและไมํอู้งานคนไข้จะรักและให้การนับถือมากเค้าจะดูอกและบอกตํอๆกันไปเราดูแลเค้าด้วยใจเค้าก็รู้สึกและเค้าก็จะแสดงออกให้เราเห็นทำให้เรามีกำลังใจทีํจะทำงานตํอไปถึงแม้วําจะได้เงินเดือนน้อยกวําวุฒและประสพการณ์ พึํเปียก็ได้แตํหวังให้บุญกุศลทึํทำสํงผลให้พํอแมํพึํสุขภาพแข็งแรงมึความรู้สึกผิดทีํไมํดูแลใกล้ชิด พึํเปึยขอโทษด้วยทีํพิมพ์ผิดๆถูกๆยังไมํคํอยคุ้นกับแป้นคํะ จาก เปึย เบลเยียม
โดย: pia [11 ต.ค. 51 14:06] ( IP A:81.82.33.36 X: )
ความคิดเห็นที่ 25
   จากข้อความของน้องพรที่ว่า
( พี่นกพี่เหมียวรู้ไหมว่าในเมืองไทยทุกคนที่ทำงานในโรงพยาบาลคนไข้เรียน คุณหมอกันหมดและพยาบาลในเมืองไทยชอบจิกหัวผช.พยาบาลให้พวกเราทำทุกอย่างแล้ว คุรๆพยาบาลทั้งหลายถ้าไปเจอลักษณะที่พวกพี่ๆเล่ามาเขาจะทดได้หรือคะหนูก็เลย เสนอแนะเท่านั้นเองว่าเขามีช่องทางทำมาหากินตั้งเยอะ)

น้องพรคะ
เท่าที่อ่านดูอดประเมินปัญหาของน้องต่อไม่ได้ คงเป็นวิสัยพยาบาลที่ต้องประเมิน และแก้ปัญหาอะไรบ่อยๆ

น้องนั้นมีความกดดันมาก เนื่องจาก คิดว่าตนเองไม่ได้เป็น RN และไม่ได้รับการยอมรับจากวงงานพยาบาล และคิดว่า ผู้ช่วยพยาบาลนั้นโดนกดขี่
ซึ่ง ประสบการณ์ของน้องนั้นเป็นประสบการณ์ตรง พี่เชื่อ เพราะไม่ว่าพยาบาลจบ 4 ปี หรือ 2 ปี เขาก็มนุษย์เหมือนเรา มีโลภ โกรธ หลง กิเลศ ตัณหา
ยิ่งเมื่ออยู่ในภาวะเครียด เช่นในกานทำงาน ก็จะแสดงนิสัย และ ธาตุแท้ออกมา
พี่สัมผัสถึงความเครียดหล่านี้ เมื่อตอนเป็นนักเรียนพยาบาลด้วยซ้ำ

แน่นอน เมื่อก่อนพี่เกลียดและกลัวพี่พยาบาลในวอร์ดบางคน ที่ดุมากๆ บางทีด่าด้วย
บางทีคิดว่า พ่อแม่เรายังไม่ว่าเราแบบนี้เลย

แต่เมื่อมาเป็นพยาบาลเต็มตัว เจอปัญหาทุกๆวัน เลยเข้าใจว่า
พวกพี่เครียด เพราะความรับผิดชอบของเขาสูง ต้องรับผิดชอบพยาบาลเทคนิค ผู้ช่วยพยาบาล
และนักศึกษาพยาบาลอีกด้วย ไหนจะเครียดเมื่ออาการผู้ป่วยไม่ดีขึ้น เมื่อหมอมาราวด์และใส่อารมณ์
และเมื่องานไม่เดิน เขาก็จะบ่น บ่น จน บรรยากาศเสีย ผู้ร่วมงานคนอื่นอารมณ์เสียไป
มันหมือนปฎิกิริยาลูกโซ่
บางคนดุคนไข้ ญาติคนไข้ เพื่อเป็นการปลดปล่อยอารมณ์เสียของตนเองก็มี

พี่เจอแบบนี้เหมือนกัน และก็คิดว่า เราจะพยายามไม่เป็นแบบนั้น
มองอะไรไปในแง่ดีให้มาก ใครว่า หรือนินทาแบบไม่มีเหตุผลก็ให้มันเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไปเลย และทำงานของตนเองให้มีประสิทธิภาพ ยอมรับคำติเตียน หากมีมูลความจริง เอามาเป็นสิ่งพัฒนาตนเอง

สมัยพี่มาใหม่ๆ โดนเพื่อนพยาบาลชาวต่างชาติและเยอรมัน ใช้มากๆ และอารมณ์เสียกับเราบ่อยๆ
คนไข้ก็ด่าเพราะเราฟังภาษาได้ แต่พูดไม่คล่อง พีปลงเอา และคิดว่า เราจะไม่ท้อ และไม่เป็นพยาบาลอารมณ์เสีย เครียดมากๆแบบพวกเขา
แน่นอน พี่อยากเรียนต่อ สูงๆ อยากเป็นด็อกเต้อร์เหมือนเพื่อนที่เมืองไทย ซึ่งจบพยาบาลมา
แต่โอกาสที่นี่น้อยมาก ไม่เหมือนแถบอเมริกาและอังกฤษ และคิดได้ว่า วิชาชีพของเรานั้นแหละดีที่สุด เป็นพยาบาลแคร์คนนั้นดีที่สุด ดีกว่านั่งโต๊ะทำงานวิจัย ตะลอนไปตะลอนมา ไม่มีเวลาให้ครอบครัวด้วยซ้ำ พี่เลิกเป็นทาส แห่งความ อยากเป็น อยากได้ อยากมี พยายามทำสิ่งที่มีในปัจจุบันให้ดี และแล้วทุกอย่างก็ดีขึ้น เพราะพี่ปลงได้ เลยมีความสุข จะแหย่เพื่อนพยาบาลให้ยิ้มเมื่อเขาเครียด ปลอบเมื่อเขาเศร้า ช่วยกันแก้ปัญหา พวกผู้ช่วยพยาบาลนั้นเขาก็มีศักดิ์ศรี เขาก็คือพยาบาลเหมือนพวกเรา การแบ่งขอบเขตุงานนั้นก็มีเหมือนเมืองไทย แต่เขาไม่เอามานั่งร้อยใจกัน

และการดูถูกกันก็มีนะ
เมื่อไม่นาน มีนศ.พยาบาลปีสาม มาฝึกงาน พี่ถามเขาว่า เขาตั้งจุดประสงค์หรือยังว่าอยากฝึกด้านไหนให้มาก เขาก็บอกด้านการทำแผล ใน รพ.ที่ผ่านมาเขาไม่ได้ทำเลยเพราะอยู่หน่วยโรคหัวใจ มีแต่พวก ผช.พยาบาลคุม เขาไม่เห็นด้วยกับการที่ นศ.พยาบาลแบบเขาต้องมาเรียนมาฝึกกับ ผช.พยาบาล เขาพูดต้อหน้า พี่ผู้ช่วยด้วย

ซึ่งพี่ก็บอกเขาไปว่า สมัยที่พี่มาอยู่ รพ.นี้ใหม่ๆ พวกผู้ช่วยพยาบาลนั้นแหละเป็นครูให้พี่ เขาไปอบรมด้านการทำแผลบ่อยๆ เพราะพยาบาลมันน้อย เขาต้องช่วยทำด้วย เขาทำมาจน จะสามสิบปีแล้ว
หาคิดจะเรียนรู้จริงๆ ต้องทิ้งทัศนคติว่า เกีตริติ และวุฒิ นั้นสำคัญกว่าความรู้ ความชำนาญ ออกไป และต้องเปิดใจให้กว้าง ยอมรับคน แบบที่เขาเป็น เพราะเราเปลี่ยนเขาไม่ได้ หากเขาติ ก็นำมาก่อ ประโยชน์ให้ตนเอง
น้องพรต้องอย่าให้ ตัวเราและใจเราเป็นทาสแห่งอารมณ์
ถึงเป็นพยาบาลสองปี หรือผู้ช่วยพยาบาลก็มีคุณค่า หากเราเป็นพยาบาลด้วยใจ

อย่าเป็นทาสแห่งความคิด คิดว่าจะต้องมีเกิยรติยศให้คนยกย่องให้ได้
อย่าให้ความอยากแห่งยศ หรือ ความกดดันมาทำให้ใจเรามัวหมอง

อย่าคิดใช้ความรักเป็นเครื่องมือพาเราไปยังที่หมาย ต้องใช้ความสามารถ และความมีพรหมวิหาร 4 ของเราเอง แล้วเราจะชนะอะไรหลายๆอย่าง ชนะใจคนรัก ชนะใจคนไข้ และ ใจเรามีสุข

ในฐานะพี่เองขอให้น้องพร ประสบความสำเร็จเอาวิชาชีพมาสร้างสิ่งดีๆแก่สังคมที่ตนเองอยู่นะคะ
โดย: มพถ (เจ้าบ้าน ) [11 ต.ค. 51 19:30] ( IP A:79.196.192.133 X: )
ความคิดเห็นที่ 26
   ถึงตรงนี้ ก็ขอให้พยาบาลที่เข้ามาอ่าน ไม่ว่าจะอยู่หนไหน
เป็นใคร ตำแหน่งอะไร
จงหัดเอาใจเขามาใส่ใจเรา อย่าจิกหัวกัน ดูถูกกัน ปรองดองกันให้มาก
พยายามปรับปรุงสังคมหน่วยงานของคุณให้ดีๆ

แคร์คนไข้ คนชรา แบบพี่เปียบอก คิดว่าเหมือนดูแล แม่ พ่อ หรือ ญาติของเรา อย่าคิดว่า ทำไปเพื่อเงินเดือนอย่างเดียว

แล้วคุณจะมีความสุขค่ะ
โดย: เจ้าบ้าน [11 ต.ค. 51 19:34] ( IP A:79.196.192.133 X: )
ความคิดเห็นที่ 27
   เห็นด้วยค่ะ ผ่านมาได้อ่านแล้ว รู้สึกดีจังค่ะ ขอให้พี่ๆทุกคนมีความสุข สุขภาพกาย สุขภาพใจแข็งแรงนะคะ สู้ สู้ค่ะ แล้วจะกลับมาอ่านบ่อยๆค่ะ 'Happy New Year 2009 " :-)
โดย: แอน-พยาบาลเมืองไทย [2 ม.ค. 52 15:20] ( IP A:203.151.36.226 X: )
ความคิดเห็นที่ 28
   ขอบคุณค่ะน้องแอนที่แวะมาอ่าน
หากน้องแอนมีอะไร ให้คติ เตือนสติกันได้
หรือจากที่น้องแอนเคยประสบมาและหาวิธีแก้ไขโดยสันติได้
ก็แวะมาบอกเล่าให้กันฟังด้วยนะคะ
โดย: เจ้าบ้าน [2 ม.ค. 52 15:55] ( IP A:79.196.225.213 X: )
ความคิดเห็นที่ 29
   มีแต่คนบ้า เข้ามาโพสต์อะไรก็ไม่รู้ ไร้ สาระ ส่วนมากมีแต่อยากอวดตัวเอง อ่านแล้ว เหมือนพวกโรคจิต บ้า แท้ แท้
โดย: skfn1254@hotmail.com [20 เม.ย. 53 14:46] ( IP A:91.178.162.131 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน