1. Everyone looks _____ today than he did yesterday.
a. happy b. happily c. more happily d. happier
เราจำหลักเดิมนะคะ คือ ถ้าขยายกริยาต้องใช้ adverb ลงท้ายด้วย ly แต่ถ้าขยายนามต้องใช้ adjective ข้อนี้ถ้าดูเผินๆจะนึกว่าขยาย look ที่แปลว่ามอง แล้วก็ตอบ happily หรือ more happily แต่ที่จริงแล้ว look ข้อนี้ไม่ได้แปลว่ามองนะคะ แต่เป็นการใช้บอกสภาพของคำนามคือ everyone ทุกคนดูเหมือนมีความสุขมากกว่าที่มีเมื่อวานนี้ พอขยายนามเราจึงเลือกค่าย happy ตัดตัวเลือกข้อ b. และ c. ทิ้ง ลองมาดูตัวอย่างประโยคชัดๆอีกทีค่ะ
He looks (angry or angrily). ตอบว่า angry เพราะ look ไม่ได้หมายความว่าใช้สายตาดูจริงๆ แต่เป็นการบอกสภาพของคำนาม จึงเลือก angry เพราะเป็น adj. บอกสภาพคำนาม ตัวอย่างต่อมา He looks at me ( angry or angrily) ตอบว่า angrily เพราะแปลว่าเขามองที่ฉัน ตรงนี้เป็นกริยา มองจริง จึงต้องขยายด้วย adv.ลง-ly ตอบ angrily
โจทย์ข้อนี้ Everyone looks much จึงเลือกค่าย happy แต่จะเห็นว่ามีการเปรียบเทียบขั้นกว่าอยู่ด้วย เพราะมี than นั่นเอง จึงต้องขอผัน happy ให้เป็นขั้นกว่า ทำยังไงคะ ก็เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม er เท่านั้นเอง ตอบข้อ d. looks happier
2. The scenery looks _____ in December than in April. a. pleasantly b. more pleasantly c. very pleasant d. more pleasant
ใช้หลักเดิมค่ะ ต้องคิดก่อนว่า look มันหมายถึงดูจริงๆหรือบอกสภาพ scenery แปลว่าทิวทัศน์ จึงใช้ look บอกสภาพคำนาม จึงต้องเลือก adj, เราตัดข้อ a. กับ b. ทิ้ง เพราะเป็น adverb คราวนี้พอมี than เป็นขั้นกว่า เราจึงต้องเปลี่ยนให้เป็น adj. ขั้นกว่าเช่นกัน คราวนี้ก็ง่ายแล้ว เพราะ pleasant เป็นคำพยางค์ยาว ก็ใส่ more ลงไปแปลว่าสวยงามกว่า ตอบ d.
ถ้าใครอยากอ่านเพิ่มเติมให้เปิดหัวข้อ linking verb ซึ่งหมายถึงกริยาที่ทำหน้าที่บอกสภาพของคำนามเหมือน verb to be เลย