|
| |
การออกเสียง -ed ในภาษาอังกฤษ Past tense หมายถึงอดีต โดยมากจะเป็นกริยาช่องที่หนึ่งเติม -ed เช่น คำว่า stop แปลว่าหยุด พอเป็นช่องที่สองก็เติม ed แล้วอ่านว่า stopped (สต๊อป-เทอะ) อ่านออกเสียงเหมือนตัว t ไม่ใช่ สะ ต๊อป เปด ลองมาดูกันดีกว่า ed จะอ่านออกเสียงเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับเสียงพยัญชนะสุดท้ายที่ ed ตามอยู่ 1.) อ่านออกเป็นเสียง /t/ ถ้าตามหลังเสียง /p/, /k/, /f/, /s/ เสียงพวกนี้เรียกว่า เสียงไม่ก้อง คือเวลาออกเสียงลองจับที่คอดูสายเสียงจะไม่สั่น มาดูตัวอย่างการออกเสียงกัน - Stopped ออกเสียงว่า สะ ต๊อป เทอะ - Laughed หัวเราะ ออกเสียงว่า แลฟ เทอะ - Asked ถาม ออกเสียงยว่า แอส เคอะ เทอะ 2.) อ่านออกเสียงเป็นเสียง /d/ ถ้าตามหลังเสียงก้อง เสียงก้อง เช่น /b/, /g/,/v/, /m/, /n/, /r/, /l/ เสียงก้องเวลาออกเสียง สายเสียงจะสั่น ลองเอามือจับที่คอดูเวลาออกเสียงเหล่านี้ ดังนั้น คำว่า called เรียก โทรศัพท์ ed ตามหลังเสียงแอล คำนี้จะอ่านว่า คอล เดอะ - Planned วางแผน อ่านว่า แพลน เดอะ - Loved รัก อ่านว่า เลิฟ เดอะ 3.) อ่านออกเป็นเสียง /id/ อิด ถ้า ed ไปตามหลังเสียง /t/ และ /d/ ถ้าเสียงสุดท้ายของคำก่อนเติม ed ลงด้วยเสียง /t/ หรือ /d/ อยู่แล้ว อย่างเช่น คำว่า - Presented (นำเสนอ) ถ้าออกเสียงว่า พรีเซ้น-ทึ-ทึ ก็จะดูแปลกๆ คำนี้เราอ่านว่า พรี เซ้น ทึด - Ended (จบ) อ่านว่า เอ็น ดิด - Recorded (บันทึกเสียง) อ่านว่า เรค คอร์ด ดิด
สรุป ed อ่านได้สามเสียง 1. เสียง /t/ ถ้าตามหลังเสียงไม่ก้อง เช่น พวก /p/, /k/, /f/, /s/ 2. เสียง /d/ ถ้าตามหลังเสียงก้อง เช่น /b/, /g/,/v/, /m/, /n/, /r/, /l/ 3. ถ้า ed ตามหลังเสียง /t/ กับ /d/ ให้อ่านเสียง อิด
ดร.พี่นุ้ย English Breakfast โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษนุ้ยอิงลิช https://www.nuienglish.com
| โดย: nuienglish@hotmail.com (เจ้าบ้าน ) [11 ก.ค. 56 23:19] ( IP A:171.97.168.113 X: ) |  |
 |
|
|