บททดสอบ toyota estima hybrid จากนิตยสารกรังด์ปรีซ์
   ขออนุญาต เจ้าบ้านครับ นำข้อมูลมาให้เพื่อนสมาชิกไว้เป็นสิ่งประกอบการตัดสินใจครับ

อ่านกันยาว ๆ เลย ครับ

ขอขอบคุณ
นิตยสารกรังด์ปรีซ์
ฉบับที่ 444
ประจำเดือน ธันวาคม 2549
ISSN : 0125-5584

รุ่นปี 2006
รหัสตัวถัง DAA-AHR20W
ผู้ผลิต โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น
ประเทศ ญี่ปุ่น
ประเภทรถยนต MPV 7 ที่นั่ง
ขนาดและน้ำหนักตัวรถ
ความยาวตัวรถ (มม.) 4,800
ความกว้างตัวรถ (มม.) 1,800
ความสูงตัวรถ (มม.) 1,760
ความยาวฐานล้อ หน้า-หลัง (มม.) 2,950
ความกว้างฐานล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,545 /1,550
ความสูงใต้ท้อง (มม.) 160
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง (ลิตร) 65
น้ำหนักตัวรถ (กก.) 1,970
เครื่องยนต์
แบบ 4 สูบ DOHC และมอเตอร์ไฟฟ้า (HYBRID)
รหัส 2AZ-FXE
ระบบเพลาราวลิ้น คู่เหนือฝาสูบ
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซี.ซี.) 2,362
กระบอกสูบ x ระยะชัก (มม.) 88.5 x 96.0
อัตราส่วนการอัด 12.5 : 1
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง หัวฉีด EFI
กำลังสูงสุด 150 แรงม้า/6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 19.4 กก.-ม./4,000 รอบต่อนาที
มอเตอร์ไฟฟ้าหน้า
กำลัง 143 แรงม้า/4,500 รอบต่อนาที
แรงบิด 27.5 กก.-.ม/0-1,000 รอบต่อนาที
มอเตอร์ไฟฟ้าหลัง
กำลัง 68 แรงม้า/4,610-5,120 รอบต่อนาที
แรงบิด 13.3 กก.-ม. ที่ 0-610 รอบต่อนาที
ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม.
เชื้อเพลิง Super Unleaded (95 Ron)
ระบบส่งกำลัง
แบบ อัตโนมัติ CVT
ถอยหลัง 6.859
อัตราทดเฟืองท้าย 3.542
ระบบบังคับเลี้ยว
ชนิด แร็ค แอนด์ พิเนี่ยน พร้อมเพาเวอร์
รัศมีวงเลี้ยว (เมตร) 5.7
ระบบกันสะเทือน
หน้า แม็คเฟอร์สัน สตรัท
หลัง ทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง
ระบบเบรค
หน้า ดิสก์
หลัง ดิสก์
ระบบความปลอดภัย ระบบ Pre Crash Safety, ระบบ Lane Keeping Assistance, ระบบ Cruise Controlระบบช่วยจอดอัตโนมัติ ,
วงล้อ และยาง
วงล้อ ล้อแม็กขอบ 17 นิ้ว
ยาง 235/50 R17
ระบบไฮบริด
แบตเตอรี่ แบบ Nickel - Metal Hydride
อัลเตอร์เนเตอร์ 245 โวลต์ (DC)
โดย: ณัฐพล [22 ก.พ. 52 18:38] ( IP A:125.25.85.0 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   TOYOTA ESTIMA Hybrid 4WD จาก นิตยสารกรังด์ปรีซ์ (ตอนที่1)

"The Polar Express"
"ทวิลักษณ์" จากรถลูกผสมมอเตอร์ไฟฟ้าพลังสูง...คู่ขนานกับเครื่องยนต์พลังจัด 180 กม./ชม. ชั่วตากะพริบ พร้อมความประหยัด 20 กม./ลิตร กับความเป็นคอมพิวเตอร์ติดลูกล้อ...แบบแรกของโลก

ผลไม้ที่กำลังสุกได้ที่...กำลังร่วงจากต้นแล้ว ? อนาคตพลังงานแห่งโลกใหม่กำลังผลิดอกออกผลเหมือนไพ่ Joker ที่ขึ้นบนมือนักพนัน...การตามหาอีกาสีขาว !...หนวดเต่า !?...หรือเขากระต่าย !?...เริ่มจะเป็นไปได้บ้างแล้วล่ะ...
Pandora box !?!

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ด้านพลังงานกันสักนิด...เริ่มต้นที่การปฏิวัติทางเทคโนโลยีในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ สู่ทัศนะใหม่ด้วยแนวคิด "มนุษย์นิยม" ซึ่งมนุษย์เริ่มเข้าใจว่า "โลกนี้คือบ้าน" ด้วยการถอดรหัสธรรมชาติที่ดำด้วย "ภาษาคณิตศาตร์" และการเข้าควบคุมธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ !
ไม่เพียงแค่การเข้าควบคุมเท่านั้น มุนษย์ยังพบอีกว่าแท้จริงนั้น "ธรรมชาติกับวิทยาศาสตร์" ต่างเสมือนเส้นใยที่ถักทอไว้ในด้ายเส้นเดียวกัน และมันกำลังมอบความเจ็บปวดแก่พวกเรา จนในที่สุดมนุษย์ก็เริ่มเรียนรู้ที่จะควบคุมธรรมชาติด้วยความเคารพ
ใน "ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ" ราวคริสต์ศตวรรษที่ 17 มนุษย์ค้นพบแพรพรรณที่มาจากเครื่องทอ การปั่นฝ้ายด้วยเครื่องจักรที่ต้องแลกด้วยสังคมการว่างงาน !...ยารักษาโรคตำรับก้าวหน้าที่มาพร้อมกับโรคร้ายชนิดใหม่ ๆ !? และระบบเกษตรอุตสาหกรรมเพิ่มผลผลิตที่ต้องแลกด้วยความเสื่อมโทรมจากสภาวะแวดล้อม ก่อนที่คลื่นบริโภคนิยมจะห่มทับบนชีวิตประจำวัน...โทรทัศน์, เครื่องซักผ้า, ตู้เย็น ฯลฯ ที่มาพร้อมกับการคุกคามของขยะอุตสาหกรรม และมลพิษจากดิน, น้ำ, ลม, ไฟ...พวกเรานี่ละคือมือที่เปิด "แพนโดร่า" หีบแห่งความชั่วร้ายเสียเอง
ควบคุม...เพื่ออยู่ร่วม ?

ภาษาใด ๆ ก็ไร้ซึ่งความหมาย หากเราไม่คุยกับธรรมชาติด้วยภาษาเดียวกับมัน เทคโนโลยีความก้าวหน้าจะมีค่าได้อย่างไร หากปราศจากการควบคุม...ลองนึกดูซิ ถ้าเพื่อนบ้านคุณมีจรวดนำวิถีอยู่ในครัว ! หรือเด็กอนุบาลกับคอมพิวเตอร์ที่ประมวล 140 ล้านคำสั่งใน 1 วินาที !! รวมทั้งนาโนเทคโนโลยีที่ทั้งผู้ดีและผู้ร้ายต่างก็มีสิทธิ์โกงความตาย !!! มันน่ากลัวไหมล่ะ...
หลังจากสองศตวรรษที่พวกเราสนุกอยู่กับวิทยาการที่เพิ่งค้นพบ พวกเราปฏิวัติทุกอย่าง แม้กับการหักหลังธรรมชาติ ยิ่งนานวันโทษของความใฝ่สูงของพวกเรากำลังถูกเรียกคืนด้วยดอกเบี้ยทบต้นที่โหดมหาศาล
รถจักรไอน้ำเริ่มต้นหน้าที่ของมันอย่างเกรงใจ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกับธรรมชาติด้วยต้นไม้ ไม่นานถ่านหินก็ถูกใช้แทนกุญแจดอกแรกเพื่อเปิดหีบแห่งความวิบัติ ด้วยว่าถ่านหินกองเดียวกัน มันถูกใช้ในการขุดเจาะน้ำมัน
ที่ปลายทางของยุคป่าไม้, ถ่านหิน และเครื่องจักรไอน้ำสู่ "ระบบขนส่งไฟฟ้า" ได้ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วจนถึงยุคสงครามโลกครั้งแรกอุบัติขึ้น "น้ำมัน" เริ่มถูกยอมรับให้เป็นปัจจัยหลักด้านยุทธภัณฑ์และการขับเคลื่อน ในทางกลับกัน น้ำมันก็เริ่มต้นอีกด้านหนึ่งของมัน นั่นคือการเป็นปฏิปักษ์ต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม...แต่กว่าที่มนุษยชาติจะฉลาดเท่าทัน "น้ำมัน" ก็กลายร่างเป็น "เพชฌฆาต" แต่เมื่อมองในแง่ดี พวกเราก็เหมือนเด็กที่เพิ่งได้ "ฟันน้ำนม" ซึ่งต้องทนเจ็บปวดต่อไปอีกชั่วขณะ ก่อน "ฟันแท้" ที่ถาวรกว่าจะผุดขึ้นจากเหงือก
โดย: ณัฐพล [22 ก.พ. 52 18:39] ( IP A:125.25.85.0 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   TOYOTA ESTIMA Hybrid 4WD จาก นิตยสารกรังด์ปรีซ์ (ตอนที่2)

TOYOTA…ปัจจัยที่ห้าของคุณ

ดูเหมือนความเป็น "ปัจจัยหลัก" ไม่เคยหลุดออกจากจิตวิญญาณของอดีตผู้ผลิตเครื่องทอผ้าจากญี่ปุ่นรายนี้ ไม่นานผู้คนทั่วไปก็ได้ค้นพบ "ปัจจัยที่ห้า" ด้วย "ประชากรยานยนต์" เมื่อโตโยต้าได้มอบสิทธิที่ง่ายขึ้นเพื่อการครอบครองรถยนต์คันแรก โดยพวกเขาเหล่านั้นไม่ต้องฝันค้างอีกต่อไป
ความเจียมตนพร้อมสินค้าที่ทนทาน ไม่นานเกินช่วงชีวิต โตโยต้าก็ก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำในด้านการผลิตรถยนต์อันดับหนึ่งของโลก ด้วยสินค้าที่พร้อมสยบทุกคู่แข่งขัน
The world first hybrid minivan and....Dadadaaaaa !

ด้วยผลกำไรมหาศาลในแต่ละปี เม็ดเงินทั้งหมดนี้แทบไม่เคยถูกใช้ไปในการไล่เทคโอเวอร์ ดูเหมือนว่าโตโยต้าดูจะเป็นรายเดียวที่ทุ่มไม่อั้นลงไปในอุตสาหกรรมยานยนต์ของตน (ขณะที่อีกหลายรายต้องร้อยลิ้นกะลาวนอยู่กับการซื้อ-ขายกิจการ) ทุกปี "คนโตโยต้า" จะตั้งหน้าตั้งตาพัฒนา "ปัจจัยที่ห้า" ของพวกเขาตามแนวทาง "ปรัชญาโตโยต้า" ที่สืบทอดมาเกือบ 70 ปี (โตโยต้าสถาปนาปี 1937 จะครบ 70 ปีสถาปนาในปี 2007)
ณ แนวรบด้านใหม่ที่ผู้ผลิตทุกรายกำลังใช้พลังงานเป็นเดิมพัน "คนโตโยต้า" ต่างมุ่งมั่นค้นหา "ยานยนต์ลูกผสม" ที่ทรงประสิทธิภาพ ด้วยเป้าหมายใหญ่เพื่อใช้เป็นพาหนะหลัก แม้ "รถในแนวคิดใหม่" ได้ถูกค้นคว้าขึ้นมาก่อนหน้าโตโยต้า แต่ทว่าพวกมันยังมิได้เข้าใกล้ความหมายของ "พาหนะหลัก" อย่างแท้จริง หลายคันยังเป็นเพียง "โชว์คาร์" ที่เป็นเพียงทางเลือกที่ริบหรี่ ผลคือผู้ซื้อยังต้องแบกสนนราคาอันหนักหนาเกินไป ในขณะที่ความคุ้มค่าและอรรถประโยชน์ใช้สอยยังเป็นปรัศนีย์ตัวใหญ่

ด้วย "ปรัชญาโตโยต้า" ที่แตกต่าง พวกเขาเล็งเห็นว่าการที่ผู้คนต้องตัดสินใจสู่ "พาหนะยุคใหม่" อาจมิใช่ด้วยลำพังคนเดียว แต่มันเสมือนการ "พิจารณา" อย่างถ้วนถี่ทั้งในแง่หน้าที่, ประสิทธิภาพ และความคุ้มค่า ดังนั้น การพัฒนารถลูกผสมให้สวมบทบาทของ Green family จึงถูกลำดับขึ้นใหม่ให้ต่างออกไปจากรถลูกผสมยี่ห้ออื่นที่กำเนิดขึ้นก่อนหน้า

แทนที่จะมุ่งมั่นด้าน Show car โตโยต้ายังได้ตั้ง 4 โจทย์ขึ้นเป็นปฐมบทใหม่ Size, Price, Gas Mileage และ Appearance เพื่อแตกแถว "Minivan" พันธุ์ขายดีที่ยืนยงมานับแต่ปี 1990-2000 เพื่อตั้งแนวรบเข้มด้าน MPV ยุคใหม่ ด้วยความกล้าหาญด้านงานดีไซน์ "Monoform" ทรงกระสุนที่หลุดออกมาจากคำว่า "รถตู้ "
ไม่เพียงแค่ ESTIMA จะพุ่งเป้าสู่ความคุ้มค่าที่ไม่เหมือนใคร (จากเดิมรถไฮบริดจะคันเล็ก ๆ) แต่มันยังเป็นทั้งพาหนะหลักและ Mass -productions Hybrid Minivan ที่ขับเคลื่อนแบบ 4 Wheel Drive คันแรกของโลกอีกด้วย (ไม่ถูกจัดไว้ในประเภทเดียวกันกับ HARRIER, LEXUS และ ESCAPE)
แม้ก่อนหน้านี้โตโยต้าจะมีจ่าฝูงอย่าง PRIUS - Hybrid Synergy Drive แทรกจำหน่ายอยู่กับ PRIUS ธรรมดา แต่นั่นก็ยังไม่อาจเร่งการตัดสินใจและตอบโจทย์ของคำว่า "การขนส่ง" ได้ชัดแจ้งนัก (ปัญหาจากราคาและอรรถประโยชน์ แถมมันยังแพ้รุ่น INSIGHT ของฮอนด้า) ดังนั้นการมาของ ESTIMA Hybrid ใหม่ จึงจำต้องมุ่งมั่นสร้างความแตกต่างให้เป็นรูปธรรมชัดแจ้งกว่า
ราวกรกฎาคม 2003 โตโยต้าจึงเริ่มเปิดตัว ESTIMA Hybrid Minivans รุ่นแรกขึ้นที่โอซากา ที่ต่อมามันถูกเร่งการพัฒนาให้เป็นมินิแวนแสนหล่อเหลาที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก พร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาดกลาง 4 สูบ 2.4 ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 4WD (แบบ E-Four) ที่ให้พลังคู่ขนานกันไปกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ล้อหน้า และล้อหลังด้วยกลไก - อิเล็กทรอนิกส์ Double - pinion planetary-gear, ตัดต่อพลังควบคู่กันไปกับเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าด้วย Twin- Clutches Power Switching เป็นแบบแรกของโลก โดยเฉพาะจากร่วมมือของ DENSO Corp. ที่ช่วยผสมพันธุ์ Genarator ปั่นไฟรวมเข้าไว้ในมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนแบบ World 's first Belt-driven สายพานยางเพื่อครองตำแหน่งยอดรถลูกผสม "มอเตอร์คู่ขนานเครื่องยนต์" หรือ Pararel - Hybrid Motor/Generator and IC Engine ที่ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบแรกของโลก...ถ้าจะไม่ธรรมดาซะแล้ว ESTIMA Hybrid ของโตโยต้าคันนี้ (IC ย่อมาจาก Internal Combustion หรือเครื่องยนต์สันดาปภายใน)
โดย: ณัฐพล [22 ก.พ. 52 18:40] ( IP A:125.25.85.0 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   TOYOTA ESTIMA Hybrid 4WD จาก นิตยสารกรังด์ปรีซ์ (ตอนที่3)

How does the Hybrid Synergy drive ?

คำถามง่าย ๆ ที่ตอบได้ด้วยเชิงปฏิบัติ...

ด้วย Mode B แบบประหยัด (B = Battery) ที่สามารถกำเนิดพลังไฟฟ้าสูงถึง 1,500 Watts จ่ายพลังไฟกระแสสลับอย่างเหลือเฟือถึง 100 Volts AC ที่ยินยอมพร้อมใจให้ Workaholic อย่างคุณสามารถตั้ง Mobile Office หรือจบการประชุมอันตึงเครียดอย่างสบายใน ESTIMA Hybrid คันน
ี้
บน Application หน้าปัด...ที่เมืองไทย คุณอาจยังไม่ต้องสนใจ DVD Voice Navigation System หรือ G-BOOK - Information Hetwork Service ที่คอยแนะนำคุณด้วยภาษาญี่ปุ่น (ยกเว้นคุณจะเร่หาหวานใจอะโนเนะคิกขุละก็เหมาะ !) แต่ในนั้นคุณยังมีระบบ Theatre System และ DVD Player พร้อมลำโพงชุด 9 นิ้ว จำนวน 9 ตัว มาให้ (สำหรับผู้สนใจยังสามารถออปชั่น LCD มอนิเตอร์ฝังที่ไว้ที่พนักเบาะหลังครบตำแหน่งได้อีกด้วย) ทั้งบนจอเดียวกัน คุณยังสามารถถอยหลังอย่างแม่นยำได้ด้วย Blind Corner Monitor อีกด้วย

เมื่อคุณกดปุ่มสตาร์ทบนแผงหน้าปัด Battery pack จะปลุกตื่น E-Motor ขนาดแรงเคลื่อน 216 Volts (ที่จริง Volt = แรงเคลื่อนไฟฟ้า) หรือเทียบเป็นกำลังเท่ากับ 105 kW ที่มอเตอร์ตัวหน้า และอีก 50 kW ที่ตัวหลัง...WOW ! เพื่อส่งให้มินิแวนลูกผสมในเคลื่อนตัวไปอย่างเงียบเชียบนุ่มนวล จากนั้นเมื่อคุณต้องการพลังสูงกว่าที่ความเป็น "ทวิลักษณ์" จากเครื่องยนต์ 2AZ-FXE (พัฒนาจากคัมรี่ 2.4 จึงวางใจได้เรื่องอะไหล่เครื่องไปนานปี) ขนาด 150 แรงม้า/6,000 rpm จึงเริ่มเหยาะย่างเข้าร่วมสนุก (ในบางตลาดยังอาจเลือกเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร CDI เทอร์โบดีเซลได้อีกด้วย)
แม้เพียงข้อจำกัดแห่งความเข้าใจ...แต่คุณยังทราบได้ว่าโตโยต้าพยายามเพิ่มบทบาทหลักของการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อมอบความประหยัดและลดการใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ โดยมีผู้กำกับใหญ่อย่าง Power-switching และ Twin-Clutches คอยควบคุมการเชื่อมต่อพลังขับระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ ซึ่งสิ่งที่ได้คือผลลัพธ์อันน่าประทับใจว่า ทำไมเครื่องยนต์ 2.4 ลิตรของ ESTIMA จึงสตาร์ทแล้วดับสลับกันไปตลอดเวลาอย่างนุ่มนวลน่าอัศจรรย์ ? แล้วอุณหภูมิเครื่องยนต์ล่ะ ?

ทุกครั้งเมื่อเครื่องยนต์สตาร์ทแล้วดับ...สตาร์ทแล้วดับ สลับกันไป ปัญหาจากอุณหภูมิเครื่องยนต์อาจส่งผลใหญ่ในอนาคต โตโยต้าแก้ปัญหานี้ด้วย Thermal energy ที่สามารถรักษาอุณหภูมิเครื่องยนต์ด้วยระบบไอเสียที่คอยอุ่นเครื่องยนต์เอาไว้ เพื่อให้กักเก็บอุณหภูมิ Warm-Up Time ให้พอเหมาะใกล้เคียงอุณหภูมิเดินเบา (Idling) นอกจากนี้เพื่อผลทางมลภาวะที่ต่ำ ระบบขจัดไอพิษ Catalytic Converter ของมันยังสามารถเร่งอุณหภูมิไอเสียอีกด้วย (Peak operating temperature) จึงเป็นอันว่ามันจะสามารถผ่านกฎเหล็กการควบคุมเข้มงวดของญี่ปุ่นที่จะเริ่มบังคับในปี 2010 หรืออีก 5 ปีถัดไปด้วยค่ามลภาวะต่ำลงอีก 75%
การพบกันของ "ทวิลักษณ์"

เนื่องจาก ESTIMA Hybrid คือนวัตกรรมลูกผสม ! ความเข้าใจในระบบการขับเคลื่อนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เป็นเจ้าของควรต้องทำความรู้จักและทักทายด้วย
Low Loads : เริ่มต้นด้วยการขับเคลื่อนเชื่องช้าท่ามกลางสภาพจราจรติดขัด ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอันนุ่มนวลเงียบเชียบที่ทำหน้าที่เป็น "ศูนย์กลางการขับเคลื่อน" ที่ประหยัด และแผ่วเบา จากปกติที่ "ลูกครึ่ง" ทั่วไปมักจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคือตัวเสริมกำลัง ขณะที่ ESTIMA คุณสามารถเลือก Mode B ที่ Drive alone อย่างสบาย จนกว่าแบตเตอรี่จะอ่อนแรงลง จากนั้นเครื่องยนต์ก็ค่อยสตาร์ทโดยอัตโนมัติ

Heavy Acceleration : จนถึงขั้น "ทักซิโดแปลงกาย" ในยามที่ต้อง...เล่นกันหนัก ๆ...บนไฮเวย์ คราวนี้ค่อยถึงทีของ IC ขนาด 150 แรงม้า พร้อมแรงบิด 19.4 กก.-ม./4,000 rpm ที่ทำงานต่อเนื่องนุ่มนวลผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ทะยานควบคู่ไปกับมอเตอร์คู่ขนานขนาด 105 kW ที่ด้านหน้า และ 50 kW ที่เพลาหลัง
Highway Speed : ขณะที่ความผาสุกแห่งการเดินทางคือความปรารถนา ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์จะร่วมกันทำหน้าที่ Power-Switching ควบคู่กันไปในยามที่พลังไฟจาก Battery Pack ลดต่ำ หรือขณะที่ตัวมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังปั่นไฟ จนเต็มเมื่อไรเครื่องยนต์ก็จะค่อยดับลง และพร้อมเสมอที่จะสตาร์ทขึ้นใหม่โดยอัตโนมัติ โดยที่คุณไม่มีวันทราบได้ ตราบใดที่คุณไม่เหลือบสายตาบน Multi-Information display จอกว้าง

Coming to A Stop : ดังที่กล่าวไว้แล้วว่า...เป้าหมายสำคัญของมันต้องประหยัด ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง และมลภาวะต่ำลงอีก 75% ESTIMA Hybrid Synergy Power คันนี้จึงแทบไม่ต้องการทั้งน้ำมันและการชาร์จไฟ เพื่อการขับเคลื่อนไปในการจราจรติดขัด...อย่าลืมว่า "เด็นโซ่" ได้ผสมพันธุ์ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและเจเนอเรเตอร์ปั่นไฟไว้ในตัวเดียวกันด้วยกรรมวิธี Kinetic energy ไป-มาระหว่างมีแล้วหมด...หมดแล้วมีแบบตุ้มนาฬิกาเช่นนี้ไปเรื่อยๆตราบเท่าที่คุณไม่ใจร้าย และใจร้อน
และคุณจะเชื่อหรือไม่ล่ะว่า "คอมเพรสเซอร์แอร์" ของ ESTIMA Hybrid คันนี้ยังเป็น "คอมฯไฟฟ้า" ที่เด็นโซ่ออกแบบให้เป็นพิเศษเป็นครั้งแรกในโลก...อะไรจะลดแรงเครื่องยนต์กันขนาดนั้น (เชื่อกันว่าระบบ "คอมฯไฟฟ้า" เดียวกันนี้กำลังจะเข้ามามีบทบาทในรถยนต์ธรรมดา เพื่อลดภาระกรรม เพิ่มความประหยัดและลดมลภาวะขณะเครื่องยนต์เดินเบาอีกด้วยละ)
โดย: ณัฐพล [22 ก.พ. 52 18:41] ( IP A:125.25.85.0 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   TOYOTA ESTIMA Hybrid 4WD จาก นิตยสารกรังด์ปรีซ์ (ตอนที่4)

Pre - Crash Safety System : ระบบความปลอดภัยก่อนการชน

ด้วยระบบ "Go no key"...ที่ระบบ ON ทุกอย่างไม่ต้องเสียบกุญแจ แม้แต่ประตูบานหลังซ้าย-ขวา ที่ทำงานด้วยไฟฟ้า เพียงคุณดึงมือเปิดแล้วปล่อย ประตูบานยักษ์จะค่อย ๆ เลื่อนเปิดออกอย่างสุภาพ
ช่าย...ช่ายแล้ว...จากนั้นก็ถึงที "สารถีทดสอบจอมขี้เกียจ" ของ GPI Test Team ซึ่งไม่บ่อยที่มือไม้อาจไม่ต้องประคองพวงมาลัยให้เมื่อยตุ้ม ! แถมเมื่อถึงที่หมาย สารถีคนเดียวกันนี้ยังมีเรี่ยวเหลือแรงดุจพญาช้างสารไว้เล่น "มอญซ่อนผ้า" ซะอีกด้วย ( เอ็กซ์ไปมั้ง)

ด้วยระบบ "ความรับผิดชอบการขับ" ด้วยตัวของมันเอง ESTIMA Hybrid ภูมิใจที่จะคอย "สังเวยความขี้เกียจ" ด้วยระบบ 'ออโต้โชเฟอร์' ที่เรียกว่า Millimeter Wave Technology หรือ "เทคโนโลยีคลื่นมิลลิเมตร" ด้วยการยิงคลื่นถี่ยิบ (คลื่นมิลลิเมตร) ให้สะท้อนไป-มา เพื่อบอกตำแหน่งรถ, ระยะทาง, ทั้งยังคำนวณความเร็วของรถคันหน้า หรือวัตถุที่อยู่ตรงหน้า ที่จะคอยสอดประสานกับ "เทคโนโลยีเรดาร์" ที่โตโยต้าพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นระบบความปลอดภัยขั้นสุดยอด "Pre - Crash Safety System" หรือระบบความปลอดภัยก่อนการชน ?
ด้วย "ระบบพรีแคร็ช" จะค่อยยิงสัญญาณไว้ที่ด้านหน้า (จมูกรถ) และโคมกระจกส่องข้างเพื่อคอยตรวจจับด้วยคลื่นสัญญานที่สะท้อนกลับมายังตัวรถเพื่อเริ่มรั้งเข้มขัดนิรภัยให้กระชับผู้นั่งบนเบาะคู่หน้าโดยอัตโนมัติ (Pre-crash seatbelt ECU) พร้อมกันกับระบบช่วยเบรกก่อนการชน (Pre-crash brake assist - VSC ECU) ที่ช่วยคำนวณแรงเบรกที่เหมาะสมจากการเบรกของผู้ขับมิให้ถึงขั้นหัวทิ่มหัวตำเกินจริง (อันนี้ผู้ขับคงต้องฝึกใช้ให้ชิน หากมีโอกาส) โดยเจตนาก็เพื่อลดการบาดเจ็บจากแรงกระทำของ "จีลบ" ที่เกิดกับผู้โดยสาร พร้อมกับลดความเสียหายอันเกิดจากแรงปะทะ

Dynamic Radar Cruise Control : ระบบควบคุมความเร็วด้วยเรดาร์

นอกจากนี้ระบบ "เซ็นเซอร์เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร" ยังมหัศจรรย์มากพอที่คอยตรวจจับรถหรือวัตถุที่ใกล้เคียง ที่อาจอยู่บนแนวถนนเพื่อลดโอกาสในการเฉี่ยวชนเข้ากับยานยนต์หรือวัตถุอื่น ๆ บนเส้นทางที่รถกำลังวิ่งผ่าน ที่สำคัญ มันสามารถหลีกเลี่ยงการปะทะที่อาจรุนแรงให้บางเบาลง

ความมหัศจรรย์ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น ด้วยระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบคลื่นความถี่ไดนามิกส์เรดาร์ (Dynamics Radar Cruise Control) ด้วย 4 Applications การทำงาน โดยเริ่มจาก

Driving at a fixed speed ที่สามารถ Cruise Control ที่จะควบคุมความเร็วไว้ในความเร็วระดับ 40 ก.ม./ ชม.ขึ้นไป โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง (ต่ำกว่านี้ระบบจะ Off ทันที)

Deceleration control ที่สามารถปรับลดความเร็วเพื่อให้สัมพันธ์กับคันหน้าโดยอัตโนมัติ เมื่อเรดาร์ตรวจพบรถความเร็วต่ำที่กำลังวิ่งอยู่ข้างหน้า (แม้คุณจะตั้งความเร็วครุยส์ไว้สูงกว่าก็ตาม)
Following control ที่จะคอยรักษาระดับความเร็วคงที่ตามรถคันหน้า เพื่อรักษาระยะที่ปลอดภัยเหมาะสม

Acceleration control เมื่อรถคันหน้าเปิดพื้นที่ว่างให้ขึ้นแซงหรือเบี่ยงหลบจนคลื่นเรดาร์บางลงหรือตรวจไม่พบ (เส้นทางเคลียร์) ระบบก็พร้อมจะคืนคันเร่งกลับสู่สปีดที่ตั้ง Cruise control เอาไว้ตามเดิม

นอกจากนั้น ESTIMA ยังได้รับการติดตั้งระบบกล้อง Blind Corner Monitor เพื่อลดจุดบอดด้านหลังขณะถอยหรือกลับรถในที่แคบ พร้อม Scope line ที่คอยบอกขนาดของรถและแนวเบี่ยงเบนขณะถอยหรือกลับรถ ทำให้การกลับรถขนาด "มินิแวน" คันนี้กลายเป็นเรื่องสนุกสนานไปซะงั้น
สุดท้ายคือ ระบบรักษาแนววิ่ง Lane Keeping Assistance ที่กวาดสัญญานด้วยโคมกระจกส่องข้าง ดดยมันจะสามารถอ่านเส้นขอบทาง (ที่เป็นสีเหลือง) ให้สามารถเกาะขอบทางเส้นเหลืองพร้อมทำ Self Steering เพื้อรักษาแนววิ่งอัตโนมัติด้วยเรดาร์
Real road Test Grand Touring

ด้วยอุปนิสัยแบบผู้ดี ทำให้การทดสอบคราวนี้เปลี่ยนโฉมหน้าจากแนว "ลำหักลำโค่น" ไปเป็น Grand Touring แบบหรูหราสบายสมฐานะ 'มินิแวน' แต่กระนั้นชุดทักซิโดของมันก็พร้อมรับบทโหดด้วยการทดสอบควอเตอร์ไมล์ 0-402 เมตร ด้วยเวลา 17.6 วินาที (ที่ความเร็วเร่ง 134.3 กม./ชม.) อย่างดุดันด้วยแรง G เกือบ 0.1 จากการทำงานร่วมกันระดับ 100% ทั้งจากเครื่องยนต์ 150 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ระดับ 105 kW คู่ขนานเครื่องยนต์ กับ 50 kW บนเพลาหลัง (เราทำการทดสอบนี้อีกทีเมื่อไฟอ่อนลง...ส่งที่ได้คือ 0-402 ด้วยเวลาเข้ม 18.29วินาทีที่ความเร็วเร่ง 126.9 อันถือว่าใกล้เคียง)

ที่ความเร็วเร่ง 0- 1,000 เมตร (1 กม.เต็ม) มันสามารถใช้พลังงานจาก "ทวิลักษณ์" ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ด้วยเวลา 31.65 วินาที ที่ความเร็วเร่ง 166.2 กม./ชม.) หลุดออกจากพันธนาการของ "รถไฟฟ้าลูกผสม" ทุกคันในยุคปัจจุบัน (ที่น่านักคือไมล์ของมันคลาดเคลื่อนไม่ถึง 1% ขอปรบมือให้กับความเถรตรง)
ที่การทดสอบปกติในการใช้งาน Traffic Test ESTIMA Hybrid "ผู้ดีจอมพลัง" ยังสามารถเร่งปกติจาก 0-40 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 2.99 วินาที ที่ระยะทางเพียง 17.0 เมตร, เร่ง 0-60 ใน 5.0 วินาที ที่ระยะ 45.4 เมตร, เร่ง 0-80 ใน 7.56 ที่ระยะ 95.7 เมตร, เร่ง 0-100 ใน 11.67วินาที ที่ระยะ 191.1เมตร และสุดท้ายคือการเร่งสรุป 0-120 กม./ชม. ใน 15.62 วินาที ที่ระยะ 321.2 เมตร
โดย: ณัฐพล [22 ก.พ. 52 18:41] ( IP A:125.25.85.0 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   TOYOTA ESTIMA Hybrid 4WD จาก นิตยสารกรังด์ปรีซ์ (ตอนที่5)

เบรกยอดมากมาตรฐานจอร์จ

ด้วยขนาดและน้ำหนักที่ขู่...ฆ่า...อาฆาต...ด้วยมิติขนาดหรูหราที่มาพร้อมน้ำหนักล้นพิกัด "มินิแวน" พันธุ์ต่างประเทศ ฉากการทดสอบการหยุดอันดุดันไม่บันยะบันยังของ ESTIMA Hybrid ยังสามารถใช้พลังหยุดจาก 60-0 กม./ชม. ภายในเวลา 2.00 วินาที ที่ระยะหยุด 18.2 เมตร ด้วยค่า Negative G แบบผู้ดี -0.870 (เบรกดีมากกกกก...) โดยปราศจาก Pre-crash brake assist ใด ๆ ทำให้ทีมทดสอบของเรากล้าเล่นหนัก ๆ ด้วยการเบรก "ไต่ระห่ำ" ด้วยการเพิ่มเป็น 0-80, 0-100 และ 0-120 กม./ชม. ด้วยเวลาหยุดไล่เรียงกันจาก 2.42, 3.06 และ 3.56 วินาที ในการหยุด ด้วยแรงฉุดแบบผู้ดีระดับ G-0.9 ที่สำคัญคือ ทุกขณะการหยุด ระบบ Pre-crash ทำหน้าที่สมคำคุยด้วยการดึงรั้งเซฟตี้เบลท์ด้วยน้ำหนักต่าง ๆ กันตามวิกฤติแรงเบรก (เชื่อแล้วว่า...เทคโนโลยี-ไสยศาสตร์...มีจริง...ไม่ได้โม้ ! )

ภายในห้องโดยสาร ที่รายล้อมด้วยสถาปัตยกรรมงานดีไซน์แล้ว ความเงียบยังน่าประทับใจ ไม่ว่าเครื่องยนต์จะดับหรือรันอยู่
ทั้งหมดนี่คือที่มาของความประหยัดเต็มที่ 20 กม./ลิตร (ด้วย Mode B ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก) แต่เมื่อวิ่งด้วยพลังคู่ขนานของทั้ง EV และ IC จากความเร็วต่ำไปถึง "มิดเกจ์" ที่ 180 กม./ชม. (รถคันทดสอบนี้นำเข้าโดยตรงจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งลิมิตสปีดไว้เพียง 180 กม./ชม. ตามกฎเหล็ก) ด้วยค่าเฉลี่ย 10 กม./ลิตร ด้วยพลังคู่ขนานบนเส้นทางเปิด Traffic Run ปกติ

Battery cost ?
"How much does Battery cost ?..." นั่นน่ะซีนะ...ไหน ๆ จะคบหากับ "อ้ายหล่อลูกผสม" ESTIMA Hybrid กันแล้ว เราลองมาเปิดตำราว่าด้วย Your Guide Hybrid Cars กันนิด แต่ก่อนอื่นขอให้อยู่ในความสบายใจ เพราะ Battery Pack ระดับเปิดเธคได้ ชุดนี้จะมีการรักษาสุขภาพอันยืนนานของมันได้ด้วยระบบป้องกันการ Overcharged ใด ๆ ระบบแรงเคลื่อนไฟ ถูกควบคุมไว้ด้วยคอมพิวเตอร์ของระบบ ทั้งยังรองรับด้วยระบบประกันความเสียหายทุกกรณี (เคลมได้) และเมื่อพ้นอายุการรับประกัน โตโยต้ายังพร้อมที่จะรับเทิร์น Battery Pack นี้ พร้อมถอยกรุใหม่มาให้ทันทีในราคา 3,000 ยูเอสดอลลาร์ (ขณะที่คู่แข่งจะมีราคาราว 3,600 US)

"The Polar Express"

เกือบ 3 วันเต็ม ๆ ที่ GPI Test Team ได้ค้นพบ "ขั้วโลก" ใหม่แห่งความประหยัดที่ถูก "ปลุกตื่น" ด้วยสมรรถนะเต็ม ๆ ของรถ Hybrid ลูกผสมเครื่องยนต์-ไฟฟ้า แม้ขณะที่ทดสอบอยู่นั้น รอบ ๆ ตัวมันเต็มไปด้วยสารพัดความว้าวุ่นด้วยราคาน้ำมัน การต่อสู้แข่งขันทางสังคม ท่ามกลางพิษภัยและมลภาวะ (ยังไม่รวมปัญหาการเมือง)...แต่สิ่งที่พวกเราได้รับจาก Minivan คันนี้มีมากเกินกว่าจะใช้คำว่า "สัมผัส" ชั่วเวลาสั้น ๆ ที่พวกเราได้รู้จักและเรียนรู้ไปกับมันนั้น น่าอัศจรรย์นักด้วยสมรรถนะที่นุ่มนวล...ลื่นไหล...และทรงพลัง ที่ ESTIMA Hybrid กำลังนำพวกเราสู่อีกโลกหนึ่งของการขับเคลื่อนด้วยประสบการณ์ใหม่ที่หันหน้าสู่ความเป็นมิตรกับธรรมชาติมากกว่า "ปฏิปักษ์" จากอดีตบน "น้ำแข็งจากขั้วโลก" ก้อนนี้...TOYOTA ESTIMA Hybrid "The Polar Express"

ขอขอบคุณ
นิตยสารกรังด์ปรีซ์
ฉบับที่ 444
ประจำเดือน ธันวาคม 2549
ISSN : 0125-5584
โดย: ณัฐพล [22 ก.พ. 52 18:42] ( IP A:125.25.85.0 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   หากข้อมูลส่วนไหน ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ

เพื่อประโยชน์และความรู้ของ พวกเราชาวสมาชิกครับ

ขอบคุณครับ

ปล.ยาวหน่อยขออภัยด้วยครับ
โดย: ณัฐพล [22 ก.พ. 52 18:44] ( IP A:125.25.85.0 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   ขอบคุณครับ
โดย: pop [22 ก.พ. 52 20:38] ( IP A:61.90.78.187 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ว่าแต่ระบบที่ว่ามาเนี่ยยังตั้งไม่เป็นซักอย่างนี่ซิ
โดย: pop [22 ก.พ. 52 21:20] ( IP A:61.90.78.187 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   เยี่ยมสุดยอด!! ค้นข้อมูลมาได้ครบถ้วนกระบวนความจริงๆ ...ไม่ต้องเกริ่นขออนุญาติผมก่อนหรอกครับ...มีอะไร..หรือคุณณัฐอยากใส่อะไร ..เนื้อที่เวบบอร์ดของเรายังมีอีกเป็นกระตั๊ก!! ไม่ว่าจะเรื่องรถหรือเรื่องอะไรสัพเพเหระ บรรเลงเพลงกันได้เต็มที่เลย..เนื้อหาต่างๆเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆสมาชิกทุกคนได้ดีทีเดียวเลยครับ

โดย: เจ้าบ้าน [23 ก.พ. 52] ( IP A:58.8.250.16 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   คน review ได้ดีมาก ๆ ครับ ขอชม ว่าแต่ใครอ่านแบบนี้ไม่ซื้อไหวเหรอครับ โม้ซะ
โดย: thaiger [27 ก.พ. 52 8:14] ( IP A:58.8.115.251 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน