สอบถามเกี่ยวกับอัตราการกินน้ำมันของ Estima 2.4G กับ Hybrid
|
ความคิดเห็นที่ 1 ถ้า2.4ธรรมดาทำได้ 9 กม/ลิตร(อ้างอิงจากกระทู้ด้านล่าง)
รถผมไฮบริดทำได้อยู่11กม/ลิตรในเมืองนนทบุรีขับธรรมดาไม่เน้นประหยัด ถ้าออกต่างจังหวัดผมทำได้ดีกว่านี้เยอะ
รถที่ประหยัดมากๆผมนึกไม่ออกว่าจะแนะนำรุ่นไหน
แต่จะประหยัดหรือไม่ผมว่าอยู่ที่ผู้ขับมากกว่า เช่น เอสติม่าไฮบริดอย่างที่รู้ก็คือเวลาออกตัวจะขับด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า
ถ้าอยากจะประหยัดก็ต้องค่อยๆเหยียบคันเร่งให้รถค่อยเคลื่อนตัวออกไป แต่ถ้าออกตัวแบบ ปรืดไปเลย มันก็ไม่ประหยัดนะครับ
| โดย: nattapol [30 ก.ย. 52 16:04] ( IP A:124.121.27.198 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ทราบว่ามีใครคิดแบบผมมั้ย ผมลองคำนวนดูค่านำมันที่จะประหยัดในการใช้รถ 5 ปี ประมาณ 100000 กม. หากตั้งสมมติฐานว่านำมันลิตรละ 35 บาทตลอด Hybrid ประหยัดได้ 70000 บาท แต่ค่าอะไหล่อื่นๆ ? และ แบตเตอร๊ลูกละ ได้ยินว่า 2 แสนกว่าบาท แถมถ้าไปตายต่างจังหวัดอีก จะมีช่างซ่อมไหม ? ตกลงผมเลยซื้อเป็น 2.4G ดีกว่า หากคิดเห็นไม่ตรงกํบท่านที่ใช้ Hybrid ก็ขออภัยด้วยครับ | โดย: ชัย (Suchai ) [30 ก.ย. 52 16:47] ( IP A:58.9.148.22 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 แฮะๆ คิดเหมือนคุณชัยครับ เลยไม่ใช้ Hybrid แถมบ้านอยู่ฝั่งธนถ้าเกิดต้องลุยน้ำท่วมก็กลัวๆ ครับ เพราะได้ยินว่าฝ่าน้ำท่วมนี่ Hybrid จะแย่ แถมกลัวเรื่องค่าซ่อมครับ
คิดว่า 2.4 G น่าจะซ่อมและหาอะไหล่ง่ายกว่า คือจริงๆ ราคาต่างกัน ไม่มาก 1 - 1.5 แสน แต่เลือกให้ตรงตามความต้องการ และคำนวณเรื่องการยอมรับความเสี่ยงในแต่ละคนด้วยตัวเองดีกว่าครับ
แต่ผมก็ว่า Hybrid มันสวยกว่านะ แต่ถ้าทนๆ ขอแบบธรรมดาดีกว่า ผมเป็นพวกรับความเสี่ยงได้ไม่ค่อยสูงหนะครับ
ของผมก็ลองคิดดูเล่นๆ ผมเป็นคนใช้รถน้อย อาทิตย์นึงอย่างมากก็ 1 ถัง ถ้าไม่ออกต่างจังหวัด ซึ่งออกไม่บ่อยอย่างมากก็เดือนละครั้ง
Assumption (จริงๆ ผมใช้รถน้อยกว่านี้อีก แต่ลองตั้งเว่อร์ๆดูครับ)
คิดว่าใช้น้ำมัน 4 ถังต่อเดือน 1 ลิตร Hybrid ทำได้ดี 2.4 G ให้ 3 กิโลเลย 1 ถัง = 65 ลิตร แต่เวลาเติมกลับจริงๆ อย่างมากก็ 55 ลิตร Hybrid กินน้ำมัน 11 กิโล/ลิตร 2.4 G กินน้ำมัน 8 กิโล/ลิตร ค่าน้ำมันยืมคุณชัย 35 บาท/ลิตร ไปตลอดนะครับ
คำนวณ
Hybrid ทำได้มากกว่า 3 x 55 = 165 กิโล/ถัง(ที่เราใช้กันจริงๆ) 1 เดือนใช้ 4 ถัง Hybrid จะประหยัดกว่า 165 กิโล x 4 = 660 กิโล 1 ปี Hybrid ประหยัดกว่า 660 x 12 = 7,920 กิโล ถ้าใช้ 2.4 G จะต้องเติมน้ำมันอีก 7,920/8 = 990 ลิตร ปีนึงต้องจ่ายค่าน้ำมันเพิ่มอีก 990 x 35 = 34,650 บาท 5 ปี (1 ปีใช้งาน = 55 x 8 x 4 x 12 = 21,120 กิโล) ก็แสนกิโลโดยประมาณ Hybrid จะประหยัดไป 34,650 x 5 = 173,250 บาท ใน 5 ปี
ถามว่าคุ้มไหมก็คุ้มนะครับ แต่ไม่สามารถคาดเดาความเสี่ยงที่เกิดได้ว่าเราจะไปเจอน้ำท่วม หรือเกิดไฟฟ้าลัดวงจรแล้วต่องแก้ไปทีละส่วนที่เป็นไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับ Hybrid ไม่ได้หมายถึงแบตนะครับ น้องเป็นคนทำงานใน TMT บอกว่าคาดว่าในอนาคตแบตลูกนึงของ Camry จะตกอยู่ที่ 70 - 90K เพราะงั้นแบตอาจไม่ใช่ประเด็น ประเด็นน่าจะเป็นเรื่องระบบไฟฟ้าที่มากับ Hybrid และเรื่องของการรออะไหล่ที่อาจต้องสั่งนำเข้ามากกว่าถ้าหากมันใช้กับเครื่องของ Camry ไม่ได้
ที่พูดมาทั้งหมดเป็นความคิดส่วนตัวนะครับ ใครไม่เห็นด้วยผมก็ขอโทษด้วยครับ ส่วนตัวชอบ Hybrid มากกว่าเพราะสวยกว่าทั้งภายในและภายนอกครับ
แต่สุดท้ายผมซื้อ 2.4 G หุหุหุ
ทั้ง 2 รุ่นมีข้อดีข้อเสียต่างกัน และความต้องการผมตรงกับ 2.4 G มากกว่าก็เท่านั้นครับ (บางทีความชอบกับการตัดสินใจก็ไม่ตรงกันครับ) | โดย: Max Guy!! [30 ก.ย. 52 23:12] ( IP A:58.9.18.20 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 อ้อ วันนี้ไปลองรถมาเจอทั้งรถติดมาก (พัฒนาการและศรีนครินทร์ช่วงเที่ยง),ไม่ติด (บนทางด่วน), และไหลๆ (แถบพระราม 3 และเจริญน8i) ระยะทางที่วิ่งประมาณ 45 กิโล กินน้ำมันเฉลี่ย 8 กิโล/ลิตรครับ
อ้อลืมบอกต่อจากความคิดเห็นด้านบนนะ จริงๆ ผมใช้รถน้อย วันทำงานผมวิ่งแค่วันนึง 15 โล เสาร์อาทิตย์ก็เข้าเมืองบ้าง นี่แหละที่ทำให้ผมเลือก 2.4 G ธรรมดาครับ | โดย: Max Guy!! [30 ก.ย. 52 23:19] ( IP A:58.9.18.20 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 Option ของรถ Hybrid ได้เยอะกว่า ไม่ว่าจะเป็นชุดแต่ เนวิเกเตอร์เบาะหนัง คอนโซลกลางสุดหรู ชุดกล้องหน้า หลัง และด้านข้าง ระบบต่างๆ อีกมากมาย แต่สุดท้าย เนวิเกเตอร์เป็นภาษาญี่ปุ่นใช้ไม่ได้ วิทยุต้องติดเพิ่มเพราะของเดินรับ FM ได้ถึง 90 ครับ ก็ช่างใจครับ แต่ Hybrib เขาสดจริงๆ ครับ ชอบมากๆ แต่ไม่เข้าข่ายตาม Criteria ที่ผมต้องการ เฮ้อ กว่าจะตัดใจได้ต้องเอา 108 เหตุผลมาฉุดลากตัวเองให้เลือกตามการใช้งานไม่ใช่เพราะความรู้สึกครับ | โดย: Max Guy!! [30 ก.ย. 52 23:33] ( IP A:58.9.18.20 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 แนะนำ 2.4 G เหมือนกัน ขับซิ่งกว่าด้วย | โดย: noi (noi ) [1 ต.ค. 52 1:01] ( IP A:125.24.0.66 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 ยินดีด้วยครับสำหรับรถใหม่นะคุณmax ขอให้ประทับใจและมีความสุขกับการใช้ Estima ครับ !! | โดย: เจ้าบ้าน [1 ต.ค. 52 1:36] ( IP A:58.8.61.180 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 8 ความคิดเห็นที่ 3 คุณMax Guy!! ที่บอกว่า "เพราะได้ยินว่าฝ่าน้ำท่วมนี่ Hybrid จะแย่"
ช่วยขยายความด้วยต่อด้วย กลัวท่านอื่นเข้ามาอ่านแล้วจะไม่เข้าใจ
ส่วนตัวใช้เอสติม่าไฮบริด ก็เคยขับฝ่าน้ำท่วมแต่ยังไม่เคยเกิดปัญหา แล้วถ้าเป็น แคมรี่ไฮบริดนี่ ห้ามลุยเลยหรือเปล่า เพราะดูแล้วเตี้ยกว่าเอสติม่า
ช่วยตอบด้วยครับ ขอเป็นความรู้ ขอบคุณครับ | โดย: nattapol [1 ต.ค. 52 8:01] ( IP A:124.121.27.198 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 ผมก็อยู่ฝั่งธนเหมือนกับคุณ Max Guy ครับ แต่ตอนซื้อไม่ได้คำนึงเรื่องน้ำท่วม แต่ที่คิดหนักคือค่าซ่อมของระบบ Hybrid ครับ แบตของ Camry ตอนประชาสัมพันธ์บอกลูกละ 9 หมื่น แตพอพี่สาวซื้อไปถามในศูนย์ช่างบอกลูกละ แสนสาม
เห็นคุณ Max Guy อธิบายเหตุผลในการเลือกแล้วเข้าใจที่มาของชื่อเลยครับ ผมเห็นด้วยว่าการเลือกซื้อรถราคาเป็นล้านๆ เนียะต้องใช้เหตุผลกับความต้องการของเราให้มากครับ อารมณ์หรือความอยากบางทีก็ต้องให้น้อยหน่อย แต่ไม่ใช่คนที่เลือก Hybrid จะเลือกผิดนะครับ เพราะต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง เพียงแต่จะยกประเด็นไหนมาก่อน หลังเท่านั้นเอง
ส่วนตัวเลขประหยัดค่าน้ำมันที่คุณ Max Guy คิดได้ 173,250 Baht ใน 5 ปี ผมคิดได้ต่างกัน วิธีคิดของผมตามนี้ครับ หากให้ Hybrid ต่างกัน 3 กม/ลิตรตามที่ว่า 2.4 G จะใช้นำมัน 5 ปีที่ 100000 กม. เป็นเงิน เท่ากับ 100000*35/8 = 437500 บาท Hybrid จะใช้น้ำมัน 5 ปีที่ 100000 กม.เป็นเงิน เท่ากับ 100000*35/11 = 318181 บาท ฉะนั้นท้งหมดประหยัดไป = 119318 บาท แต่ค่าแบตและอะไหล่อื่น บวกปํญหาหาเสียตจว. จะทำงัย นี่คือเหตุผลครับ
| โดย: ชัย (Suchai ) [1 ต.ค. 52 11:09] ( IP A:58.9.145.96 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ ได้ประโยชน์จริงๆ เป็นข้อมูลในการตัดสินใจมากเลย
สรุปว่า estima ไม่ว่าจะ hybrid หรือธรรมดา ก็ไม่ได้เน้นเรื่องการประหยัดน้ำมันสักเท่าไหร่ เนื่องจากถ้าต้องการเน้นเรื่องการประหยัดน้ำมันจริงๆ คงต้องมองหารถรุ่นอื่นที่เค้า claimed เรื่องประหยัดน้ำมันนี้ไว้เป็นอันดับต้น ๆ เช่นพวกรถ NGT อะไรทำนองนี้
แต่ข้อดีของ estima มีอีกหลายข้อที่นอกจากการประหยัดน้ำมัน เช่น ขับขี่ปลอดภัย สะดวกสบาย เหมาะสำหรับเป็นรถครอบครัว ฯลฯ
ต้องขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ช่วยให้ความกระจ่างในครั้งนี้ค่ะ | โดย: Marina [1 ต.ค. 52 13:24] ( IP A:203.144.241.41 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 11 ผมว่าถ้าในเมือง ผมคงขับได้ 7 Km/L มากกว่าครับ ขณะที่ hybrid ผมขับได้ 11 - 12 Km/L คราวนี้ ถ้าบอกว่าตัดของแถม ระบบไฟฟ้า ความเท่ห์ซึ่งผมว่า hybrid มันรถ ครอบครัว และ มักมีคนถามว่าเป็นไง เราก็ โม้ ๆๆๆๆ มันก็ดูดีกว่า เราซื้อรถครอบครัวที่แพง แต่ไม่ได้โม้ ว่างั้นเหอะ คราวนี้กลัวแบตทำไง ทาง Camry Hybrid ได้ทำระบบเดียวกับของ Estima และ โรงงานเมืองไทย ก็สามารถ service hybrid ของ Toyota ได้แล้ว เมื่อเป็นอย่างงี้ผมก็ยังเห็นว่าซื้ออีกคันผมก็ยังคงซื้อ Estima hybrid อยู่ดีแหละครับ เรื่องลุยน้ำท่วมทำมา 4 รอบแล้ว ไม่เสียอะไรหรอกครับ ทาง toyota ก็ออกมายืนยันอีกทางแล้วครับ - ค่าแบตที่คำนวณราคามา ก็เป็นราคาปัจจุบัน ถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครขับ 5 ปี ต้องเปลี่ยน bat เลย และ เมื่อ 5 ปี ข้างหน้า เผลอ ๆ แบตน่าจะราคาถูก อาจถึงกับทำระบบไฟบ้าน chrage ขายแล้วด้วย ส่วนราคาน้ำมัน ก็ไม่ควรคิดราคาปัจจุบันนะครับ เพราะอนาคตผมว่าเมื่อ 5 ปี ที่เขาว่าน้ำมันจะหมดโลก ผมว่า กิโลละ 100 ก็คงได้เห็นแหละครับ สรุปยังเชียร Hybrid อยู่นะครับ - 3 ปี ในไทย ยังไม่เห็นมีคนบ่นน้ำท่วมรถ bat hybrid เสียซักคนเลย | โดย: thaiger (thaiger ) [1 ต.ค. 52 20:48] ( IP A:124.157.196.52 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 12 ผมใช้ 2.4G อยู่ลองจับดูได้ในเมืองเฉลี่ย 7.5 โล/ลิตร ต่ำสุดแบบติดสุดๆ สารภาพเคยลืมดับเครื่อง 2ชม.ด้วยนะ ได้ประมาณ 6โล/ลิตร มากสุดที่ทำได้ 9 โล/ลิตร(ขับกลางคืน รถอย่างโล่งครับ)
นอกเมืองขับเฉลี่ย 100-150 กม./ชม. ประมาณ 10 โล/ลิตร ถ้ามองเรื่องความคุ้มเทียบระหว่างความประหยัดน้ำมันของทั้งสองรุ่น ผมว่าไม่ต่างกันมาก เอาจริงๆเทียบส่วนต่างราคารถยังไม่ค่อยได้เลย (ถ้าคิดว่าใช้ 5 ปี 100,000 โล) การบำรุงรักษา ราคาขายต่อ (ไฮบริดราคาตกกว่านะครับ) ฟิลลิ่งในการขับ อันนี้แล้วแต่คน อย่างไฮบริดจะไม่มีการทดรอบ ความเร็วจะขึ้นแบบเนียนๆ ไม่มีกาารเปลี่ยนเกียร์ ชิลๆ เวลาไฟฟ้าทำงาน หรือรถหยุด เงียบมากๆ (หัวใหม่)
แต่ 2.4G เป็นเกียร์ 7 สปีด อัตราเร่งดีกว่า ให้อารมณ์เวลาคิกดาวน์ ให้อารมณ์ของความเป็นเครื่องยนต์มากกว่า (หัวเก่า)
| โดย: kan.kom [2 ต.ค. 52 4:22] ( IP A:61.90.38.54 X: ) |  |
|