ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องแบบนี้มันลางเนื้อชอบลางยาครับ นักร้องนักดนตรีแต่ละคนชอบไม่เหมือนกันเอาซะเลย บางคนชอบฟังเสียงตัวเองแบบห้วน ๆ ด้าน ๆ ไม่ต้องมีเอฟเฟคให้มันฟุ้งกระจายฟังไม่ชัด แบบมั่นใจว่าเสียงตัวเองดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น เอฟเฟคม่ายต้อง แต่ศิลปินบางคนบอกทันที่ ขอเอฟเฟคที่มอร์นิเตอร์ด้วยนะ โดยเฉพาะเสียงร้อง และเสียงแซ๊กโซโฟน ชอบแบบหวานฉ่ำ ๆ (สงสัยจะเห็นเราเป็นพ่อค้าขายสัปปะรด 5555)
ปัญหามันมาเกิดอีตรงที่นักร้องอยากได้เอฟเฟคฉ่ำ ๆ ฟังเสียงตัวเองแล้วจะได้หวาน ๆ แต่มือกลองบอกว่าเสียงนักร้องไม่เอาเอฟเฟคนะพี่ มันเบลอฟังไม่ชัด เดี๋ยวผมตีผิดตีถูก (มันตีมั่วแล้วมีหน้ามาโทษเอฟเฟคอีก 5555) ทำไงดีหว่า | โดย: megasound [15 ม.ค. 54 21:01] ( IP A:124.122.147.174 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 ตอนนี้มันก็อยู่ที่การต่อระบบ หรือซิกนั่ลโฟรน ล่ะครับ ที่ผมทำอยู่เป็นประจำก็คือ ส่งสัญญาณอ๊อกซิรารี่เอ้าท์ไปที่เอฟเฟค จากนั้นก็เอาเอฟเฟครีเทิร์นกลับมาเข้าที่ชาแน่ล จะเป็นหนึ่ง หรือสองหรือสาม หรือสี่ชาแน่ลก็แล้วแต่ว่าจะต่อเอฟเฟคกี่เครื่องและมิกซ์ใหญ่เล็กขนาดไหน โดยปกติแค่หนึ่งหรือสองชาแน่ลก็เหลือละครับสำหรับระบบที่ไม่ใหญ่มาก แล้วคราวนี้มอร์นิเตอร์ไหนอยากได้เสียงที่มีเอฟเฟคก็ปล่อยสัญญาณเอฟเฟคไปที่อ๊อกนั้นได้เลยครับ แต่ที่ต้องระวังก็คือ อย่าไปส่งเอฟเฟคออกไปอ๊อกเดียวกันกับที่เราส่งสัญญาณไปเข้าเครื่องเอฟเฟคนะครับ มันจะเกิดการ วน หรือหลูป แล้วมันก็จะดังอี๊ดดดดดดดดดดด ให้ระวังเรื่องนี้อย่างเดียวละครับ
การต่อแบบนี้ทำให้เอฟเฟคเป็นอิสระครับ จะให้ไปที่อ๊อกไหนก็ได้ ออกหรือไม่ออก พี เอ ก็ได้ แล้วแต่เราเป็นคนสั่ง เป็นคนส่งเลยครับ อ่อ ลืมไปอีกนิด อ๊อกซิรารี่ที่เราส่งสัญญาณไปเอฟเฟคควรจะตั้งให้เป็นโพสต์เฟดนะครับ
พี่ ๆ ท่านใดมีวิธีต่อแบบอื่นช่วยกรุณาแนะนำด้วยครับ | โดย: megasound [15 ม.ค. 54 21:17] ( IP A:124.122.147.174 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 เมือก่อนปล่อยออกมอนิเตอร์ครับ เดียวนี้ไม่ปล่อยแล้วครับ ตั้งแต่ต่อระบบซีรี อนุกลม อินเสิต กรุ๊ปครับ แล้วแต่บางท่านครับ เจอมากกับวงลูกทุ่งครับ ผมบอกเลยว่า ออกมอนิเตอร์ไม่ได้ครับ ส่วน งานสติง นักร้องบอกผมว่าไม่ต้องเอฟแฟคมาทีมอนิเตอร์ครับ จัดไปตามระบบทีเราทำไว้ครับ ตัดปัญหาว่าเอฟแฟคดังไปเบาไปเพราะเรามิกค์หน้าเราต้องการเน้น pa ครับ นักร้อง10คนก็เร่งเอฟแฟคหน่อย6คน ลดเอฟแฟคหน่อย4คนแต่ละคนเสียงหนา บางไม่เท่ากันครับ มันตอบยากครับว่าควรต่ออย่างไรแบบไหนเพราะว่าเอฟแฟค แต่ละท่านต่างรุ่นต่างยี้ห้อ กันไป บางตัว ต่อแบบ ซีรี อนุกลม ดี บ้างก็ ขนานดี เช่น yamaha rev 100-500 ต่อแบบ อนุกลม ไมค์ร้องจากที่ไม่ค่อยดูดเสียง ดูดเสียง สุดยอดเลยครับ ขนาดห่าง ยังดูดดีเลยครับ ไม่ค่อยหอนด้วย แต่พอต่อแบบขนานครับเสียงมันวนครับ ดีสำหรับ เอฟแฟคเครื่องดนตรี ส่วน tc m one ยกตัวย่างครับ อนุกลมสุดยอดครับ หวานเลย ซิบเลยแต่หอนง่ายครับ ส่วนต่อแบบขนานไมค์ไม่ค่อยหอนครับ แต่แร่งเกนกลับ ทีมิกค์มาก พังไม่รู้เรีองเลย หางเสียงไม่ค่อย ซิบเลย ส่วน m 300 อนุกลม ไม่มีผลอะไรออกมาเลยปรับให้ตาย แต่พอต่อขนานครับ เสียงถึงจะถูกใจครับ สั่งได้ ขอบคุณครับ แล้วแต่ท่านจะต่อใช้จะต่อมันอยู่ที่ท่านชอบแบบใหน ไม่เหมือนกันหลอกครับ | โดย: ชัยยะกรุ๊ป [17 ม.ค. 54 2:56] ( IP A:182.53.91.164 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 อิอิอิ ....การต่อเอฟเฟกใน ระบบใหญ่ๆ ส่วนมากเขาจะมีการจำกัดเสียงของไมค์เพื่อเข้าเอฟเฟกโดยเฉพาะ.... แต่อย่างที่ต่อทั่วๆไปก็คือ การใช้ AUX SENT บวกกับ สัญญานมิกซ์ที่ผ่านโวลลุ่มเฉพาะช่องแล้วออกมิกซ์เมน ถ้าจะให้เห็นภาพก็คือเหมือนกับที่เราเสียบไมค์แล้วเร่งโวลลุ่มที่ช่องมิกซ์ แล้วเอาไปออกที่ สไลท์เมนของมิกซ์นั่นเอง เสียงของไมค์ส่วนหนึ่งก็จะออกทาง AUX SENT เพื่อไปเข้าที่เอฟเฟกแล้วย้อนกลับมาที่มิกซ์อีกครั้งแล้วแต่จะใช้ช่องอะไรก็ ได้เพื่อดึงสัญญานเอฟเฟกเข้ามาผสม เพื่อจะได้เสียงก้องกังวาลตามที่เราได้แต่งไว้แล้วที่ตัวเอฟเฟก การต่อแบบนี้เราเรียกว่าต่อแบบขนาน เสียงเอฟเฟกที่ได้จะผสมกับเสียงไมค์โดยตรง อย่างนี้เราก็จะได้เสียงร้อง 100% บวกกับเสียงเอฟเฟกที่แต่งไว้แล้วแต่ว่าจะใช้เอฟเฟกกี่เปอเซนต์ก็เร่งที่ AUX SENT เอาครับ...แต่การต่อแบบนี้ไมค์จะเห็นผีและเห่าหอนได้ง่ายครับเพราะว่าเสียง ตรงหรือที่เราเรียกว่าเสียง DRY จะออกที่มิกซ์เมนโดยตรงนั่นเอง... ....เดี๋ยว นี้เอฟเฟกรุ่นใหม่ๆเขาสามารถที่จะเอาเสียงร้องหรือเสียงพูดเข้าได้โดยตรงเลย ครับเหมือนกับการ INSERT แต่การต่อแบบนี้จะใช้ไมค์ได้เพียงตัวเดียวหรือไม่เกิน 2 ตัว ก็ทำได้อย่างนี้เรียกว่าการต่อแบบอนุกรม ผลที่ได้ก็คือ เสียงที่เราร้องทั้งหมดจะถูกบังคับด้วยเอฟเฟก 100 % ฉะนั้นเสียงร้องแบบนี้จะมีคุณภาพสูงสุดครับเพราะเราสามารถควบคุมเสียง DRY ได้ว่าจะให้ผสมกับเสียงเอฟเฟกกี่เปอเซนต์ ซึ่งเอฟเฟกรุ่นใหม่เขาจะมีการลดเสียงตรงหรือเสียง DRY ได้ครับ อย่างเอฟเฟกรุ่นที่มีปุ่ม DRY/WET ไม่ว่าจะเป็นของค่ายไหนก็จะมีปุ่มหรือโปรแกรมตัวนี้ครับ อย่างเช่นค่าย YAMAHA ก็อาจจะเขียน DRY/WET ของ SONY ก็จะเขียน DRY/EFFECT หรือของ ROLAND ก็เขียนว่า DRY/EFFECT เหมือนกัน ฉะนั้นท่านต้องเข้าใจก่อนว่า ปุ่ม 2 ปุ่มนี้มีหน้าที่อะไร DRY ก็หมายถึงเสียงตรง ยิ่งเร่งมากก็ออกมากไมค์หอนเก่งเร่งน้อยก็ออกน้อยไมค์ไม่ค่อยหอนแต่เสียงเบา ฉะนั้นเราก็ต้องปรับให้เหมาะสมครับ...ส่วนปุ่ม EFFECT ก็เร่งลดเอาตามชอบใจสไตล์ไหนมากน้อนก็เลือกให้เหมาะกับแนวเพลงเท่านั้น เอง.... ....เราจะต่ออย่างไรดี...นี่คือคำถาม?.... ....การต่อเอฟเฟก ถกเถียงกันมามาก บางท่านก็ว่าใช้ AUX SENT ดี เมื่อออกจากเอฟเฟกก็ย้อนกลับมาเข้าที่ช่องมิกซ์ที่เหลืออีก บางท่านก็ว่าปรับง่ายดี เร่งลดเสียงเอฟเฟกได้ง่ายครับ ก็ว่ากันไป บางท่านก็บอกว่ามีช่อง RETURN ไว้แล้วทำไมไม่ใช้ เดี๋ยวเรามาคุยกันต่อครับ.. ....เรามาดูที่ตัวของมิกซ์ก่อนว่า ท่านมือใหม่ทั้งหลายท่านเข้าใจกันหรือเปล่าว่าที่ AUX SENT เขาจะมีคำว่า PRE กับ POST ไว้ทำอะไรทำไมบางทีท่านเลือก มาทาง PRE เสียงก็ออก หรือบางทีเลือกมาทาง POST ก็ดัง เอาเป็นว่าเรามาทำความเข้าใจกันเลยดีกว่าว่า...สัญญานที่ส่งออกที่ AUX SENT นั้นสัญญานของ AUX นี้ถ้าท่านเลือกมาทาง PRE ก็คือสัญญานก่อน โวลลุ่ม ของช่องตัวมันเองนั่นหมายความว่าเมื่อท่านเร่ง AUX SENT ออกไป สัญญานความแรงที่ออกไปจะออกแบบอิสระ ไม่ถูกบังคับด้วยโวลลุ่มของช่องตัวมันเอง...แต่ถ้าท่านเลือกมาทาง POST สัญญานที่ออกทาง AUX SENT จะออกแปรผันตามโวลลุ่มของช่องมิกซ์นั่นเอง เมื่อเราลดโวลลุ่มลง สัญญานที่ AUX SENT ก็จะลดตามลงไปด้วยซึ่งจะตรงข้ามกับ PRE นั่นเอง มาถึงตรงนี้แล้วก็ต้องกลับไปสำรวจที่มิกซ์ของท่านว่ามี PRE และ POST หรือไม่ ก็จะตรงกับคำถามที่ผมถามไปว่าท่านใช้มิกซ์อะไร.... ....ถ้า มีไมค์มากกว่า 2 ตัว ท่านสามารถเลือกการต่อแบบการใช้ AUX SENT ก็ได้ครับ โดยการใช้ AUX SENT มาทาง POST ครับ และก็ปิดหรือกดปุ่ม ON หรือ L/R หรือ MAIN ออกซะเพื่อตอนที่เราเร่งเสียงไมค์แต่ละช่อง เสียงก็จะไม่ไปออกที่มิกซ์เมน แต่มันจะไปออกที่ช่อง AUX SENT แทน นั่นเอง การต่อแบบนี้ก็คือการต่อแบบอนุกรมนั่นเองครับ พูดกันง่ายๆก็คือเราจะส่งเสียงร้องทั้งหมดไปผ่านที่เอฟเฟก 100% ไงครับ
พิมพ์ชนก: | โดย: ลูกกบตัวเล็กๆ 081-4427157 (aodder ) [18 ม.ค. 54 9:57] ( IP A:58.8.251.153 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 อิอิอิ ส่วนออกจากเอฟเฟกเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกเรื่อง.... ....ถ้ามิกซ์ท่านมี GROUP 1/2 หรือ 3/4 หรือมากกว่า การต่อเอฟเฟกก็จะสะดวกมากขึ้นครับ นั่นก็คือ เราจะจัดการไมค์ทั้งหมดให้ออกที่กรุ๊ฟชุดใดชุดหนึ่งเท่านั้นเช่น เราจะเอาไมค์ทั้งหมด ออกที่ กรุ๊ฟ 1/2 เราก็จะกดปุ่มกรุ๊ฟที่เป็นเฉพาะช่องที่ใช้ไมค์ทุกช่อง ส่วนปุ่มที่อยู่ด้านล่างของกรุ๊ฟที่เขียนว่า ON หรือ L/R หรือ MAIN เราก็ไม่ต้องกดใช้งานครับ แต่ถ้าเรากดใช้ร่วมด้วยมันก็จะเป็นการต่อเอฟเฟกแบบขนานครับ ถ้าเราไม่กดก็จะเป็นการต่อเอฟเฟกแบบอนุกรมนั่นเอง...เมื่อใช้กรุ๊ฟให้เป็น ประโยชน์ ที่มิกซ์มันก็จะมีโวลลุ่มที่เขียนเอาไว้ว่าเป็นโวลลุ่มควบคุบ กรุ๊ฟ 1/2 อะไรทำนองนี้โวลลุ่มตัวกรุ๊ฟ 1/2 จะคอยควบคุบสัญญานของ 1/2 ทั้งหมดที่ใช้อยู่ครับ เพื่อเร่ง/ลดสัญญานที่ออกไปเข้าที่เอฟเฟกนั่นเอง... ....การ เลือกต่อบอกแล้วมี 3 หนทางที่อธิบายมาคือ ต่อขนานใช้ AUX SENT หรือ ต่อแบบอนุกรมใช้ AUX SENT ทาง POST และสุดท้ายคือการใช้กรุ๊ฟ ที่สะดวกที่สุด และควบคุมได้ง่ายที่สุด มาถึงตรงนี้ก็ลองเลือกเอาครับ... ....เมื่อมีขาเข้าเอฟเฟกก็ต้องมีขาออกทางเอฟเฟก เราจะเข้าที่ไหนดี ตรงนี้ท่านลองมาฟังอ่านตามที่ผมอธิบายแล้วแต่จะชอบก็แล้วกัน... ....อย่าง ที่ 1 คือเมื่อออกจากเอฟเฟก ก็ย้อนกลับมาเข้าทางช่องมิกซ์ที่เหลือ เอาเป็นว่าผมมีช่องมิกซ์เหลือเยอะไม่จำเป็นต้องเข้าช่อง RETURN เสียงไม่ดี ควบคุมก็ง่าย เอาเป็นว่าถ้าเข้าช่องนี้ผมไม่ค่อยแนะนำครับ ท่านต้องเข้าใจว่า สัญญานของเสียงร้องเมื่อต่อแบบนี้แล้วเอฟเฟกมีหน้าที่วิเคาะห์เสียงร้องให้ มีเสียงที่หนาแน่นอยู่แล้วเสียงจะโปร่งใส เอฟเฟกก็มีส่วนหนึ่งที่ทำให้เสียงร้องเพราะได้ แล้วทำไมเราจะต้องเอามาเข้าที่ช่องมิกซ์อีก ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็พยายามอย่าเร่งภาค EQ ของมันให้มากเกินครับ เอาแค่ 0 db ก็พอแล้ว แค่ออกมาจากเอฟเฟกก็ดีพอแล้วครับคือให้มันเป็นแฟตๆไปเลยดีกว่า และข้อที่สำคัญคือ ระวังเรื่องการ ลูป ของสัญญานก็คือการขยายซ้ำซ้อน เนื่องจาก สัญญานที่ออกจากเอฟเฟกแล้วย้อนมาเข้าที่ชองมิกซ์นี้ห้ามบิดโวลลุ่มของ AUX SENT โดยเด็จขาดนะครับจะเกิดอาการลูปทันที วี๊ดว้าด กันไปหมดนี่ต้องระวังครับถ้าต่อแบบนี้... ....อย่างที่ 2 คือการย้อนกลับเข้ามาที่ทาง RETURN ที่ขาเข้าของช่อง RETURN สัญญานจะถูกปรับให้แฟตโดยอัตโนมัติครับ ไม่มีการขยายของสัญญานอีก เพียงเร่งระดับให้เบาค่อยได้เท่านั้นเองและไม่ต้องกลัวการเกิดลูปของสัญญา นครับ ผมขอแนะนำให้ใช้ช่อง RETURN ให้เป็นประโยชน์ก็จะดีครับ.... ....เรื่อง การใช้กรุ๊ฟนี่ ถ้าหากเรามีเอฟเฟกมากกว่า 1 ตัว การต่อใช้กรุ๊ฟ สามารถสร้างแนวเสียงจากเอฟเฟกได้มากเลยทีเดียว เพราะสามารถเลือกใช้เอฟเฟกตัวไหนก็ได้โดยการโยนกรุ๊ฟครับ หรือจะผสมสัญญานของเอฟเฟก 2 ตัวเข้าด้วยกันก็ได้ ถ้าท่านมีความเข้าใจในการใช้กรุ๊ฟที่ดีพอ.. ....ว่ากันมาซะยาวครับ พอเขียนให้ฟังแล้วก็บางทีก็หยุดไม่ได้ครับเรื่องเทคนิคต่างๆนี่ ผมบอกได้เลยนะครับว่าการต่อเอฟเฟกถูกวิธี การเลือกใช้เอฟเฟกที่ดีๆ นอกจากจะทำให้เสียงเป็ดกลายเป็นเสียงหงษ์ได้เหมือนกันครับ ไมค์ที่ท่านใช้มันก็จะไม่ค่อยเห็นผี ถ้าท่านปรับถูกวิธี เอาเป็นว่าเขียนมาซะยาวแบบนี้ ค่อยๆอ่านแล้วกัน ไม่เข้าใจหรืองงยิ่งกว่าเก่าก็เขียนถามกันเข้ามาครับ...จะผิดถูกอย่างไรก็ อย่าพิ่งว่ากัน ต่างคนต่างมีความคิดครับ บางทีก็คิดกันไปคนละทาง ก็ไม่ว่ากัน...แต่อย่าลืมนะครับสังคมเรามีไว้เพื่อแบ่งปัน...มัวแต่เก็บไว้ กลัวคนอื่น เก็บไวนานแลว อิอิอิ ลองอ่านเล่นๆๆ ดูเขาว่ามาแบบนั้น | โดย: ลูกกบตัวเล็กๆ 081-4427157 (aodder ) [18 ม.ค. 54 9:59] ( IP A:58.8.251.153 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 คุณลูกกบ ช่วยเขียนวงจรการต่อเอฟเฟคทั้ง 3 แบบ ด้วย จะทำให้เข้าใจยิ่งขึ้น เพราะ ภาพ หรือวงจร เพียงภาพเดียวแทนคำพูดหรือคำอธิบายเป็นล้านคำ ขอบคุณครับ (อยากรู้และรอคำตอบ จะใช้งานจริง 27 เม.ย. 54) | โดย: โย่ง (โย่ง ) [26 เม.ย. 54 16:53] ( IP A:61.7.170.17 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 ได้ความรู้เพิ่มเยอะเลยครับ ขอบคุณสำหรับสาระดีๆแบบนี้ครับ | โดย: aood [16 มิ.ย. 54 15:45] ( IP A:180.180.148.169 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 8 คุณลูกกบ ช่วยเขียนวงจรการต่อเอฟเฟคทั้ง 3 แบบ ด้วย จะทำให้เข้าใจยิ่งขึ้น เพราะ ภาพ หรือวงจร .....
...ผมสมาชิกใหม่ ยังไม่ค่อยมีความรู้ ... เห็นด้วยกับคุณโย่ง ครับ ... | โดย: ศุภชัย ... (ศุภชัย ) [6 ก.ค. 54 17:25] ( IP A:118.172.252.174 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 มีรูปให้ดูจะดีมากๆๆ ขอบคุณ โดยน้าหนุ่ย | โดย: ถนัด-คำปลื้ม [5 ก.ย. 54 1:17] ( IP A:115.87.119.13 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 10 พี่ครับ ผมขอความรู้พี่หน่อยครับ คือผมต้องการต่อแอฟเฟก เข้ามิกโดยใช้ช่องกรุ๊ปครับพี่ พี่ช่วยชี้แนะวิธีการต่อหน่อยครับ ผมใช้แอฟเฟกเอลนซิส ไม่โครเวิป ใช้มิกซาวคร๊าฟ ไล 4 ครับพี่ รบกวนพี่ด้วยนะครับ | โดย: สว่างพงษ์_คล้ายสุวรรณ์ (สว่างพงษ์_คล้ายสุวรรณ์ ) [9 ก.พ. 55 12:15] ( IP A:125.26.115.137 X: ) |  |
|