ความคิดเห็นที่ 17 ง่ายดีไหม ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม แถมเป็นประโยชน์อีก ว่าปะ เปลือกไข่ไล่แมลงศัตตรูพืช เมื่อตอนที่แล้วเราได้เทคนิคจากแม่มาแล้วรอบหนึ่งตอนนี้เลยขอหยิบเอาอีกเทคนิคที่เห็นแม่ทำตอนเด็กๆมาขยายซะหน่อย เมื่อก่อนจะเห็นแม่ชอบเอาเปลือกไข่ไปวางไว้ตามโคนมะนาวเพื่อไล่มดเมื่อไม่มีมดเพลี้ยก็ไม่มา แล้วทำไมมันถึ่งเป็นแบบนั้นหละมาหาคำตอบกัน เปลือกไข่(shell)มีส่วนประกอบเกือบทั้งหมดเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต(CaCo3) มีลักษณะเป็นแท่งๆมาต่อกัน ตรงรอยต่อระหว่างแท่งจะไม่สนิทมีช่องว่างหรือรูพรุน(pores)เกิดขึ้นจำนวนมากบนเปลือกไข่ ประโยชน์เพื่อการแลกเปลี่ยนแก๊สและการระเหยของน้ำออกจากฟองไข่ในขณะฟัก ไข่ไก่แต่ละฟองจะมีรูพรุนเหล่านี้ประมาณ 6,000-8,000 รูเปลือกไข่ด้านในจะติดสนิทอยู่กับเยื่อเปลือกไข่ โครงสร้างชั้นในสุดเรียกว่า basal cap ฝังติดอยู่ในเยื่อเปลือกไข่ชั้นนอกชั้นนอกสุดของเปลือกไข่จะมีสารอินทรีย์ (organic material) ซึ่งเรียกว่า cuticle เคลือบที่ผิวของฟองไข่ทั้งหมด ในการสร้างเปลือกไข่แต่ละฟองนั้นจะใช้แคลเซียมประมาณ 2 กรัม ขั้นตอนการทำ สูตร1.เปลือกไข่ ล้างให้สะอาด เผาให้เหลืองและแห้งสนิท ตำให้ละเอียดเทเปลือกไข่ลงในแก้ว 1 ส่วนแล้วเติมน้ำ 2 ส่วน คนให้เข้ากัน ตั้งทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงใช้ฉีดพ่น หรือราดบริเวณรังมด "เปลือกไข่ที่เผาไฟแล้วบดละเอียด เมื่อผสมกับน้ำก็จะได้แคลเซียมไฮดรอกไซด์ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นเบส(ด่าง) สามารถขับไล่มดได้ สูตร2.แต่บางคนก็ว่าในเปลือกไข่มีกรดกำมะถันแค่นำเปลือกไข่ทั้งลูกมาวางคว่ำบริเวณโคนต้นไม้ เมื่อเรารดน้ำลงไปกรดกำมะถันจะถูกปลดปล่อยออกมา แมลงไม่ชอบกรดกำมะถัน ดังนั้นเปลือกไข่จึงมีคุณสมบัติในการขับไล่แมลง จ้าไม่ว่าเพลี้ย หนอน ไรแดง แมลงหวี่ พวกนี้เป็นศัตรูพืชได้ ไม่ว่าข้อเท็จจริงทางเคมีจะเป็นอย่างไรแต่ที่แน่ๆปัญหามดและแมลงในสวนเราก็หมดไปด้วยภูมิปัญญาง่ายๆแบบไทยๆนี่แหละไม่เห็นต้องไปพึ่งเคมีฝรั่งปลอดภัยหายห่วง เก็บตก : เปลือกไข่อุดมด้วยธาตุเหล็ก นำเปลือกไข่มาล้างให้สะอาด อบย่างให้ร้อนแล้วตำให้เป็นผงละเอียดนำไปหุงปนกับข้าวสาร เป็นอาหารที่มีคุณค่าบำรุงดีมาก และสารอาหารที่จะได้รับจากเปลือกไข่ ก็คือ แคลเซี่ยม
|