ღღღღ ซุปเซี้ยงจี้กับผักปวยเหล็งღღღღ
    ซุปเซี้ยงจี้กับผัก ปวยเหล็ง (SPINACH )



เซี้ยงจี้ หรือทางกวางตุ้งจะเรียกว่า จี้ยิ้ว (ถ้าตับหมูก็จะเรียกว่าจี้หยน) เวลาสะกดคำว่าจี้ปากจะจู๋ๆคะ



คิดว่าหลายๆคนอาจจะพอรู้จัก ขอบอกว่าที่บ้านไม่ได้ทำเครื่องในหมูกินมาหลายปีแล้วคะ พอดีไปเจอเซี้ยงจี้สดๆเลยอยากกินก็เลยเอามาทำ พอดีมีคนเอ็มมาบอกว่าอยากทำเมนูนี้แต่ทำไม่เป็นก็เลยมาขอแนะนำวิธีทำต้มเซี้ยงจี้แบบง่ายๆมาให้ดูนะคะ ถ้าคนไม่ชอบกินเครื่องในก็ผ่านไปได้เลยนะคะ แต่นานๆกินทีก็ดีนะคะสำหรับคนที่เลือดน้อยๆมือเท้าเย็นก็ขอแนะนำให้ทานอาทิตย์ละครั้งสัก1เดือนจะดีมากๆเลยคะ เพราะเป็นยาบำรุงเลือดดีคะ บางทีของที่หาทำง่ายๆและราคาก็ไม่แพง ก็น่าลองทำทานกันดูนะคะ



มาเริ่มเลยนะคะ

หาซื้อเซี้ยงจี้ที่สีแดงสดๆ (ผัก ปวยเล้งSPINACH เอามาแช่น้ำให้สะอาดล้างหลายๆน้ำ)

หลังจากซื้อมาแล้วใช้มีดที่คมกริบมาค่อยๆหั่นแบ่งเป็น2ส่วน

แล้วค่อยๆเลาะสีขาวๆด้านในออกมาให้หมด ถ้ายังมีขอบๆที่อยู่ติดกับสีขาวๆแดงๆอมคล้ำๆ ก็ต้องหั่นแบบแฉลบ เอาออกให้หมด

และหลังจากนั้น มาสไล้ด้านที่เราหั่นตรงส่วนขาวๆออก หั่นแบบเฉียงๆอย่าให้เข้าเนื้อมากไปนะคะเหมือนกับเราสไล้ปลาหมึกนะคะ แล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ

แล้วก็เอาน้ำส้มสายชูใส่ลงไปในเซี้ยงจี้ที่หั่นแล้ว สัก1ชต. เกลือ 1ชช.ผสมให้เข้ากันหมักทิ้งไว้10นาที แล้วเอามาล้างด้วยน้ำเย็นสักพัก แบบเปิดน้ำให้น้ำใหลออกมาล้างให้สะอาดจากว่าน้ำที่ล้างจะใสออกมา แล้วเทเซี้ยงจี้พักใส่ในกระชอนให้สะเด็ดน้ำ



ซอยขิงสัก1ชต. ต้นหอม 1 ชช.

เอาน้ำซุปกระดูกหมู(น้ำสต๊อก)เอามาต้มให้เดือด ประมาณ2ถึง3ถ้วยตวง

พอน้ำซุปเดือด ก็ให้เอาผักปวยเล้งใส่ลงไปแล้วคอยให้น้ำเดือดอีกทีก็ใส่เซี้ยงจี้ตามลงไป ห้ามคนเด็ดขาดไม่งั้นน้ำซุปจะขุ่น แล้วก็ใส่ขิงซอยตามลงไป ต้นหอม แล้วก็เติมเกลือลงไปนิดนึง และก็ใส่พริกไทยนิดหน่อย พอเริ่มดูว่าเซี้ยงจี้เริ่มเปลี่ยนสีและไม่มีเลือดซึมออกมาก็ยกขึ้นเลย เพราะถ้าต้มนานไปจะทำให้เซี้ยงจี้แข็งทำให้ไม่ได้รสชาติ อร่อยเท่าที่ควรคะ

หวังว่าเมนูนี้เพื่อนๆคนที่ชอบทานเครื่องในกันคงได้เอาไปลองทำทานกันดูนะคะ

เวลาทานน้ำซุปจะหวานมากๆ และเซี้ยงจี้จะไม่มีรสคาวเลย แต่จะมีรสออกเปรี้ยวนิดๆ

เพราะเราหมักด้วยน้ำส้มสายชูคะ เวลาทาน ถ้าชอบรสจัดๆก็เอาพริกดองตำ เอามาจิ้มทานได้นะคะ แต่ขอบอกว่า น้ำส้มสายชูก็อย่าทานมากนะคะ เพราะจะทำให้กระดูกเสื่อมหรือกระดูกเปราะ แต่ถ้านานๆทานทีก็ไม่เป็นไรคะ ด้วยรักและห่วงจากครัวชมพู่คะ

โดย: ชมพู่ [5 ก.พ. 49 21:58] ( IP A:213.114.231.248 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 2
   

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 1:38] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
    หลังจากซื้อมาแล้วใช้มีดที่คมกริบมาค่อยๆหั่นแบ่งเป็น2ส่วน

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 1:40] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
    แล้วค่อยๆเลาะสีขาวๆด้านในออกมาให้หมด ถ้ายังมีขอบๆที่อยู่ติดกับสีขาวๆแดงๆอมคล้ำๆ ก็ต้องหั่นแบบแฉลบ เอาออกให้หมด

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 1:41] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   
และหลังจากนั้น มาสไลด์ด้านที่เราหั่นตรงส่วนขาวๆออก หั่นแบบเฉียงๆอย่าให้เข้าเนื้อมากไปนะคะเหมือนกับเราสไล้ปลาหมึกนะคะ แล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 1:43] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 1:45] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
    แล้วก็เอาน้ำส้มสายชูใส่ลงไปในเซี้ยงจี้ที่หั่นแล้ว สัก1ชต. เกลือ 1ชช.ผสมให้เข้ากันหมักทิ้งไว้10นาที

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 1:46] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 1:47] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
    แล้วเอามาล้างด้วยน้ำเย็นสักพัก แบบเปิดน้ำให้น้ำใหลออกมาล้างให้สะอาดจากว่าน้ำที่ล้างจะใสออกมา แล้วเทเซี้ยงจี้พักใส่ในกระชอนให้สะเด็ดน้ำ

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 1:48] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
    ผักปวยเล้งเอามาแช่น้ำล้างให้สะอาดหลายรอบหน่อยคะ

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 1:55] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
    ซอยขิงสัก1ชต. ต้นหอม 1 ชช.

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 1:56] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
    เอาน้ำซุปกระดูกหมู(น้ำสต๊อก)เอามาต้มให้เดือด ประมาณ2ถึง3ถ้วยตวง พอน้ำซุปเดือด ก็ให้เอาผักปวยเล้งใส่ลงไป

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 2:04] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
    แล้วคอยให้น้ำเดือดอีกทีก็ใส่เซี้ยงจี้ตามลงไป ห้ามคนเด็ดขาดไม่งั้นน้ำซุปจะขุ่น แล้วก็ใส่ขิงซอยตามลงไป ต้นหอม แล้วก็เติมเกลือลงไปนิดนึง และก็ใส่พริกไทยนิดหน่อย

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 2:05] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
    พอเริ่มดูว่าเซี้ยงจี้เริ่มเปลี่ยนสีและไม่มีเลือดซึมออกมาก็ยกขึ้นเลย เพราะถ้าต้มนานไปจะทำให้เซี้ยงจี้แข็งทำให้ไม่ได้รสชาติ อร่อยเท่าที่ควรคะ

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 2:06] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 18
    เวลาทานน้ำซุปจะหวานมากๆ และเซี้ยงจี้จะไม่มีรสคาวเลย แต่จะมีรสออกเปรี้ยวนิดๆ

เพราะเราหมักด้วยน้ำส้มสายชูคะ เวลาทาน ถ้าชอบรสจัดๆก็เอาพริกดองตำ เอามาจิ้มทานได้นะคะ แต่ขอบอกว่า น้ำส้มสายชูก็อย่าทานมากนะคะ เพราะจะทำให้กระดูกเสื่อมหรือกระดูกเปราะ แต่ถ้านานๆทานทีก็ไม่เป็นไรคะ ด้วยรักและห่วงจากครัวชมพู่คะ อิอิ

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 2:08] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 19
   

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 2:08] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 20
    สูตรนี้ก็เป็นสูตรเดียวกับลิ้งค์ข้างล่างนนี้คะ

เห็ดยัดไส้หมู+กุ้ง+รองด้วยผัดบ๊อกโคลี่

เอาเห็ดที่ยัดไส้แล้วมาทอดไฟอ่อนๆให้สุก
เอาผักปวยเล้งมาผัดแบบรวดเร็วใส่เกลือนิดหน่อย
แล้วเอาไปนึ่งให้ได้ซอสน้ำผักปวยเล้งออกมา
ก็เอาน้ำของผักปวยเล้งมาทำซอสถ้าน้ำน้อยไปก็เติมน้ำสต๊อกลงไปหน่อยก้อได้คะ
ใส่เครื่องปรุงแบบในลิ้งค์ข้างล่างนะคะ แต่ไม่ต้องใส่เต้าซี่คะ




พริกปาปริก้าใส้หมู+กุ้งสับ
https://www.pantown.com/market.php?id=10749&name=market8&topic=12&action=view

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 2:19] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 21
    ผักปวยเล้งหลังจากผัดและก็นึ่งแล้วเทน้ำที่ผักออก เอาผักใส่จาน เอาเห็ดที่ทอดให้ไส้ข้างในสุกแล้วมาวางเรียงที่ในจาน

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 2:21] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 22
    แล้วมาทำซอส เมื่อทำซอสเสร็จแล้วก็เอาซอสมาราดที่เห็ดคะ
เห็ดในรูปนี้ที่นี่เรียกกันว่าเห็ด ชามปิยูน คะ champinjon, svamp

ลิ้งค์รูปเห็ดนะคะ

Button mushroom
https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/0/01/ChampignonMushroom.jpg/200px-ChampignonMushroom.jpg

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 2:34] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 26
    นี่ก็เป็นอีกเมนูที่อยากจะแนะนำคะ
ผักปวยเล้งเอามาผัด1นาทีใส่เกลือนิดหน่อย แล้วเอาไปนึ่ง5นาที เอาผักใส่จาน แล้วเอาน้ำที่นึ่งผักออกมาเทน้ำซุปผสมลงนิดหน่อยเอาไปเคี่ยวกับเนื้อปูไฟปานกลาง แล้วใส่เครื่องปรุง ก็มีซอสหอยนางรม + เกลือ+พริกไทย+แล้วชิมดูถ้ารสโอเคก็ตอกไข่ขาวใส่ถ้วยคนๆผสมลงไป ให้รีบคน แล้วเอาแป้งมันผสมน้ำนิดหน่อย รีบเทลงไปในกระทะแล้วปิดไฟรีบคนๆให้เป็นเนื้อเดียวกันกับเนื้อปู ยกขึ้นราดที่ผักปวยเล้งคะ แล้วถ้ามีหมูแฮมรมควันก็เอามาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆวางที่หน้า ก็รับทานได้แล้วคะ

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 2:53] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 27
   

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 2:54] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 28
    ขนมยอดฮิตของคนสวีเดนคะ

คาแนบูละ

แล้วเปิดไฟเตาอบไฟบน+ล่าง 200 c.ไว้ล่วงหน้าก็ดีคะ



วิธีทำแป้ง

นวดแป้ง
เอาเนย 200 กรัม มาใส่หม้อ เปิดเตา
ให้เนยละลาย แล้วเติมนมลงไป 4 dl.น้ำตาล1 dl, ผงฟู1ช้อนชาไข่ไก่แดง1ลูก เกลือครึ่งช้อน ผสมคนให้เข้ากัน
แล้วพักไว้ให้ อุ่นๆ ห้ามร้อน เกือบจะเย็น แล้ว ใส่ ยีสต์สดลงไป 25กรัม ละลายลงไปให้ยีสต์เข้ากับนม แล้ว เติมแป้งสาลีลงไปผสมๆ ไปประมาณ 8 ถึง10 dl. นวดจนแป้งไม่ติดมือ ก็เอาพลาสติกคลุมไว้ แล้ว ปิดฝาหม้อ ทิ้งไว้ 40นาที มาดู แป้งจะพองขึ้นมาเป็นเท่าตัว โรยแป้งที่โต๊ะที่จะนวดก่อน เทแป้งออกมาแล้วก็ เอาไม้มากลิ้งให้แป้งแบน ความหนาของแป้งประมาณ 1 เซนต์ แล้วก็เอาเนยมาทานใช้เนยที่ละลายแล้ว หรือเนยที่อุณภูมิเท่ากับห้อง เมื่อทาเนยทั่วแล้วก็เอาผง ซินาบ่อน หรือที่นี่เรียกว่าผงคาแน
มาโรยโดยใช้กระชอนร่อนแล้วค่อยๆเคาะให้ผงโรยให้ทั่วตัวแป้ง แล้วเอาน้ำตาลมาโรยอีกทีแล้วจับแป้งม้วนๆแล้วมาหั่นเป็นชิ้นๆ แบบในรูป แล้วก็เอาพลาสติดคลุมไว้ ประมาณ20ถึง30นาที จนดูแล้วว่าแป้งมันพองขึ้น แล้วก็เอาไข่มาทาหน้า ขนมปัง แล้วโรยด้วยเล็ดน้ำตาล เม็ดจะใหญ่กว่าน้ำตาลธรรมดาหน่อยนึงคะ

เอามาอบเตาอบ ทาไข่ที่ซาลาเปาก่อนเอาเข้าเตาอบ
แล้วเปิดไฟ 200 c. ถ้าเตาไฟแรงก็ลดลงมา180 องศา
ไฟบน+ล่าง อบ 15 ถึง 20 นาที ก็ ทานได้แล้วคะ

ปล. ถ้าเอาไปทานที่ทำงาน ก็เอาเข้าเตาไมโครเวฟ ใส่น้ำเข้าไปด้วย1แก้ว เวลาอบแล้วแป้งซาลาเปาจะไม่แห้ง รสชาติเหมือนเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆเลยคะ

ให้ดูรูปประกอป ในลิ้งค์ข้างล่าง หค.34+35+36+37 ในรูปจะโรยด้วยผงวนิลลา ก็ให้เปลี่ยนมาเป็นโรย ซินนาม่อนบัน


https://www.pantown.com/board.php?id=10749&name=board1&topic=3&action=view

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 3:19] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 30
   

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 3:21] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 32
    แล้วก็มาทำซาลาเปา ตอนแรกก็เอาหมูแดงที่ทำไว้มาหั่นแล้วเอามาผัดปรุงเครื่องให้รสออกหวานนิดๆคะ

ในรูปเที่ยวที่แล้วทำหมูแดงไปร่วม10กิโล พอดีในตู้ฟรีซมีเหลือก็เอามาทำไส้หมูแดงไว้ใส่ซาลาเปาหมดเลยคะ

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 3:45] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 33
    ดูแป้งซิคะนิ่มมากๆ
สูตรแป้งอันนี้เอาไปทำได้หลายอย่างเลยคะ

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 3:46] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 34
    เมื่อวานพอทำขนมปังและซาลาเปาเสร็จก็ทำขนมเข่งทอด อะไรจะขยันปานนั้น อิอิ

แค่อยากจะบอกว่าตอน9ขวบดึกๆมาหิวมากๆ(ที่บ้านไม่มีใครอยู่เลยเค้าไปงานอะไรกันจำไม่ได้ ไม่มีอะไรกินเลย แบบว่าอยากกินขนมขบเคี้ยวนะ เข้าไปในครัวเจอขนมเข่งแห้งๆเอามาชุบไข่ใส่แป้งมัน+เกลือ+น้ำตาลทอด อร่อยมากๆจำความหลังได้เลยคะ
และนี่ก็เป็นเมนูแรกที่ทำละค๊า แค่อยากจะเล่าให้ฟังอะ

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 3:49] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 35
    อีกรูปคะ เมื่อเอาขนมเข่งมาทอดแล้วแป้งจะกรอบหอมไข่ด้วยอะ ของโปรดเลยคะ

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 3:50] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 36
    ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าผักปวยเล้งกับเป็ดย่างคะ กินเมื่อเที่ยงนี้เองคะ

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 3:52] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 37
    ต้มจืดบวบฝรั่งแบบง่ายๆคะ

โดย: ชมพู่ [6 ก.พ. 49 3:54] ( IP A:213.114.231.248 X: )
ความคิดเห็นที่ 66
    ทางเข้าหน้าเวป ครัวชมพู่
https://chompoo-kitchen.pantown.com/
โดย: ครัวชมพู่ [23 ก.พ. 49 11:14] ( IP A:213.114.231.248 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน