ความคิดเห็นที่ 31 ไม่รู้มาทันหรือปล่าวครับคุณสา พอดีผมป่วยเป็นไข้หวัดครับ อากาศบ้านเราตอนนี้เปลี่ยนแปลงบ่อยครับ ฝนตกหนักมากมา2-3วัน ทางแพร่บ้านผมถึงกับฟ้าผ่าหม้อแปลงทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าพังกันหลายครัวเรือนเลยครับ เข้าประเด็นดีกว่า เรื่องลาบเป็นอาหารมงคลของทางภาคเหนือนะครับ เหมาะสำหรับทานเป็นครอบครัว คือทำจริงๆจะทำนานครับเกือบ2ชั่วโมง จะพิถีพิถันพอสมควร คือจะเป็นเรื่องแปลก สำหรับผมนะครับถ้าอยู่คนเดียวแล้วทำลาบเหนือทาน เพราะส่วนผสมค่อนข้างเยอะ คือคนนึงต้องลาบเนื้อ อีกคนต้มเครื่องใน ถ้าเป็นลาบหมูก็ต้องต้มหนังหมู ถ้าเป็นลาบเนื้อจะมีไส้เพลี๊ยะขมต้มแล้วเอามากรอง รสจะออกขมกล่อมกลม อีกคนตำน้ำพริก อีกคนต้องล้างผัก ซึ่งผักกับลาบมาหลายหลากนะครับแล้วแต่สะดวกจะนำมากับ เช่นแตงกวา ผักกาด ถั่วฝักยาว มะเขือกรอบ ตลอดไปจนผักป่าหายากต่างๆ เรียกว่าไม่ธรรมดาแน่ๆ และในแต่ละที่ก็ทำไม่เหมือนกันอย่างเชียงใหม่จะผสมเครื่องเทศลงไปด้วย คือมี ผักป้อม(ลูกผักชี), พริกน้อย(พริกไทยดำ), บ่าแหล็บ, , หมากอี้(เร่ว) , เทียนแกลบ(ยี่ร่า), ดอกจันทน์, กระวาน ซึ่งเมืองแพร่ไม่ใส่ และคนเมืองแพร่ไปกินลาบเชียงใหม่จะบอกว่าไม่อร่อย เกริ่นมาเสียนาน หากคุณสาต้องการผมก็จัดไปครับ เป็นสูตรให้ชุดลาบ1กิโลนะครับ (รวมเนื้อและเครื่องใน1กิโล) น้ำพริกลาบ สูตรเมืองแพร่ ส่วนประกอบ ได้แก่ พริกแห้งเผ็ด15-20เม็ดแล้วแต่ชอบเผ็ดนะครับ , กระเทียม3-5หัวแกะเป็นกลีบ , หอมแดง5หัวหั่น3 , ตะไคร้1ต้นซอย,ข่า1แง่ง(เท่าหัวแม่โป้ง) ซอย,มะแขว่น 1กำมือ,ดีปลี3-4ช่อ ,กะปิ2ช้อนชานำไปย่าง ,เกลือนิดหน่อย นำส่วนผสมทุกอย่างไปคั่วให้สุกจนหอม และโขลกรวมกัน ส่วนตัวจะตำกระเทียม+หอมแดง+ข่า+ตะไคร้+พริกคั่ว+มะแขว่น+ดีปลี+กะปิย่างเรียงตามลำดับเลยครับ ลาบเหนือมี2อย่างคือลาบเลือดกับลาบแค่น(แปลว่าลาบแห้ง) ถ้าเป็นลาบแห้งคือไม่มีเลือดครับ สามารถผสมกับหมูหรือเนื้อสดและเครื่องในได้เลย ถ้าเป็นลาบเลือด เลือดต้องสดโดยเลือดจะมี2อย่างคือเลือดที่เป็นน้ำกับเลือดที่เป็นก้อน ถ้าทำดีหน่อยเค้าจะเอาเลือดก้อนไปคั้นกับใบตะไคร้แก้คาว(ทำอย่างนี้เหมาะแก่การกินดิบ) ถ้ากินสุกก็ไม่ต้องครับให้นำเลือดก้อนไปวางบนเนื้อลาบแล้วลาบรวมกัน ส่วนเลือดที่เป็นน้ำ ให้น้ำเอาน้ำพริกลาบมาละลายแล้วคนให้เข้ากัน แล้วนำไปคั่ว ก่อนจะคั่วก็เจียวกระเทียมก่อนครับ แล้วคั่วจนสุกพอดีอย่าแห้งมากจะไม่หวานให้มีน้ำของหมูหรือเนื้อออกพอชุ่มๆ โรยด้วยต้นหอมผักชี สะระแหน่ และที่ขาดไม่ได้คือผักไผ่หรืออีสานจะเรียกผักแพรวซอย ตกแต่งกินกับผักสดแช่เย็นยิ่งอร่อยครับ ลองดูสูตรเมืองแพร่นะครับคุณสา อิอิอิ |