ความคิดเห็นที่ 1 ลองทำเองไม่น่าจะยากนะครับที่สำคัญผักและผลไม้ต้องไม่มีแมลงมาวางไข่หรือร่องลอยตามที่ผมบอก และถ้าคุณลองทำดู ลองหาซื้อแกลลอนนำมันขนาด 5 ลิตร หรือถังที่มีฝาปิด ซื้อผักที่ตลาดที่สะอาดพอประมาณสับให้ละเอียดใส่ลงในแกลลอนน้ำมัน ถ้าเป็นถังให้หาเศษผ้าหรือวัสดุอื่นๆห่อและรัดให้แน่น หานำที่สะอาดเทใส่แกลลอนหรือถังหานำที่สะอาดใส่ถ้าเป็นนำปะปาควรปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน ใส่กากน้ำตาลประมาณ 1 แก้ว ถ้าไม่มีกากน้ำตาลให้ใช้น้ำตาลทรายแดง(ผมไม่เคยใช้นำตาลทรายแดง แต่ถ้าเป็นผม ผมจะใช้ประมาณ 1 ขีด ใช้น้ำประมาณ 1 แก้ว รวมกันต้มให้เดือดก่อน รอจนน้ำตาลละลาย ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วใส่รวมกัน )ถ้าใส่ถังควรจะหาพลาสติกสีดำปิดหาเวือกรัดและปิดฝาตามปกติ ถ้าใส่แกลลอนน้ำมันหลังจากใส่ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วการปิดฝาอย่าปิดจนแน่นมาก เพื่อระบายแก๊สขณะทำปฎิกริยา และหลังจากใส่ทุกอย่างรวมกันแล้ว ควรมีที่วางของแกลลอนน้ำมันหรือถังเพื่อให้แก็สเช่นกัน หลังจากทุกอย่างเรียบแล้วให้เก็บไว้ในที่ที่ไม่โดนแดด ทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน ลองเปิดดู ถ้าได้ผลจะมีฝ้าสีขาวบางๆจับ ให้ใส่กากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดงเหมือนที่ใส่ตอนแรกแล้วแล้วคนให้เท่ากันปิดฝาเหมือนเดิมทิ้งไว้อีกประมาณ 15 วัน จะเป็นน้ำหมักฯสามารถนำไปใช้งานได้ครับ ขอให้ทำได้และนำไปใช้กับน้องหมาได้ผลครับ | โดย: MARCRO [6 ก.พ. 50 16:11] ( IP A:202.6.107.59 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 ขออภัยครับ ควรมีที่ ว่าง ของแกลลอนน้ำมัน ฯเพื่อเป็นที่อยู่ของแก๊สขณะทำปฏิกริยา | โดย: MARCRO [6 ก.พ. 50 16:18] ( IP A:202.6.107.59 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 อาการเท่าที่คุณเล่ามา น่าจะเป็นขี้เรื้อนเปียก ซึ่งโรคนี้รักษาได้ยากกว่าขี้เรื้อนแห้ง เมื่อหายแล้วสามารถจะเป็นได้อีก ถ้าร่างกายอ่อนแอ เชื้อโรคตัวนี้จะมีอยู่เป็นปกติอยู่แล้วบนผิวหนังสุนัข แต่ไม่ก่อนให้เกิดอันตรายใดๆ เพราะมีอยู่จำนวนน้อย เมื่อใดที่ร่างกายอ่อนแอและเชื้อโรคเพิ่มมากขึ้น อาการก็จะแสดงออกมา
เรื่องอาหารกับโรคเรื้อนเปียก ตอบไม่ได้เพราะไม่ทราบจริงๆ ค่ะ แต่ถ้าหมามีร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดี มีสภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัยที่ดี ก็จะปลอดโรคได้แน่นอนค่ะ | โดย: เต้าเจี้ยว [7 ก.พ. 50 11:39] ( IP A:124.121.172.106 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณค่ะ แล้วเรื่อง barf ละคะ สมควรที่จะให้ด้วยหรือเปล่าค่ะ ขอบคุณค่ะ | โดย: อำ [7 ก.พ. 50 11:43] ( IP A:203.156.118.162 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 ข้อมูลเพิ่มครับ 1. กากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง 1 ส่วน 2. ผักหรือผลไม้ 3 ส่วน 3. น้ำสะอาด 10 ส่วน | โดย: MARCRO [7 ก.พ. 50 13:39] ( IP A:202.6.107.59 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 หมอ มั่ว... ฟันธง หมอที่ไหน พูดจาเชื่อถือไม่ได้...
ถ้าคุณ จำมาเล่าไม่หมด ...ผมแปลว่า สมมุติฐานของหมอ เกิดจากความไม่รู้เรื่อง NUtrition เลย...
น่าดูถูกภูมิความรู้ของหมอคนนั้นมากๆ... | โดย: ต้น [9 ก.พ. 50 1:35] ( IP A:125.25.188.164 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 หมอ ที่เชียงใหม่ นี่ละคะ ตอนนี้เปลี่ยนหมอ เป็นคลีนิคที่สี่แล้ว คลีนิคแรก ตอนที่พาน้องหมาอายุ สามเดือนไปหา บอกว่าให้รอก่อนรักษาไม่ได้ เพราะยารักษาขี้เรื้อนอาจมีผลต่อตับ เขาก็ให้แชมพูมาอาบ พอครบสามเดือนได้ยามากิน ก็เหมือนจะช้าไปเสียแล้ว เพราะน้องหมาเละมาก แล้วก็มีผลถึงตัวที่สองด้วย พยายามถามเขาแล้ว เขาก็บอกว่า เราโชคดี มีหมาขี้เรื้อน ทั้งๆ ที่กลุ้มมากๆ เลยเปลี่ยนหมอครั้งที่สอง คราวนี้ให้ยากินมา เราก็เล่าทุกอย่างให้หมอที่สองฟังว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่า ถึงหมายังไม่ถึงสามเดือน ก็มียาให้น้องหมาได้ เรางงๆ อะไรเอ่ย ทำไมหมอคนแรกถึงปล่อยให้น้องหมาระบมขนาดนั้น เราก็ทำการรักษาต่อกับหมอที่สอง อาบน้ำทุกอาทิตย์ที่คลีนิคประมาณ สองเดือน น้องหมาดีขึ้น ขนมาแล้ว แต่ยังไม่เต็มที่ เราก็เอาว่ะ ไม่เป็นไร รอได้ ขออย่าให้มีอะไรมากไปกว่านี้เลย พอสัปดาห์ที่เก้า น้องหมามีอาการกลับหลัง อาการเดิมมาอีกแล้ว ตุ่มมาอีกแล้ว พร้อมกับตุ่มม่วงๆ เลือดอาบแก้มเวลาเขาเกา ทรมานสุดๆ ทั้งๆ ที่ให้ยาตามที่หมอให้ทุกอย่าง เอากลับไปหาหมอ หมอสอง งงเต๊ก เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้กลับหลังอย่างนี้ เขาก็ถามถึงสภาพแวดล้อมที่บ้านว่า แพ้อะไรหรือเปล่า เราก็บอกว่า ที่บ้านมีบ่อเลี้ยงปลา แต่น้องหมาไม่ได้ลงนะคะ พาน้องหมาไปเดินเล่นที่อ่างเก็บน้ำที่หมู่บ้าน ทุกเสาร์ อาทิตย์ เขาก็บอกว่า น่าจะแพ้เกสรดอกไม้ ต้ายแล้ว น้องหมาแพ้เกสรดอกไม้ แล้วจะทำยังไงดี เขาก็ให้ยาแก้แพ้ แต่เหมือนยิ่งแย่ไปกว่าเดิม เราก็ถามหมอว่า มีวิธีที่รักษาวิธีอื่นใหม่ หมอ ได้แต่ยิ้มๆ จนปัญญา ให้ยาปฏิชีวนะเพิ่มอีก แต่ยิ่งเพิ่มยิ่งแย่ คราวนี้เท้าบวมเดินไม่ได้เลย ก็เลยไม่ไหวแล้ว เปลี่ยนอีกดีกว่า ที่ไหนเขาว่าดี ไปหมดเลยค่ะ พอไปหาหมอที่สาม อันนี้มาแปลก บอกว่าที่หมาเป็นอย่างนี้ไม่ใช่เพราะเรื้อนสักหน่อย เรื้อนมีอยู่กับหมาทุกตัว ถึงหมาดีก็เถอะ ขูดเป็นเจอ คราวนี้หมอสามไม่ขูดเหมือนหมอหนึ่งหมอสอง ใช้วีธีจับๆ เอาค่ะ แล้วก็พุ่งประเด็นไปที่ เชื้อรา เรา งงๆ สุดท้าย เราจะเชื่อใครดี ก็ลองอีก หมอฉีดยาให้ค่ะ เอายามากิน น้องหมาขาหายบวม แต่ยังแดงไปทั่งตัว อาทิตย์หนึ่งอาการดีขึ้น เราก็คิดว่า เฮ้ย มาถูกทางแล้ว ดีขึ้นแล้ว แต่ที่ไหนได้ เหมือนเดิม อาทิตย์ที่สองย่างเข้าที่สาม น้องหมามีตุ่มมโหฬาร หมอสามบอกว่า ให้เอาไว้ที่คลีนิคห้าวัน เราก็เชื่อใจ อยู่กับหมอนะ ไม่มีอะไรหรอก แต่ที่ไหนได้พอไปรับ น้องหมามีตุ่มเหมือนเดิม เลือดออกทุกแห่งที่เก่า ที่สำคัญมี เห็บ ประมาณสิบตัว ตามหงามเท้า เราก็ช็อคอย่างรุนแรง อยู่ร้านหมอ ทำไมมีเห็บ หมอเห็นเห็บเขาก็ทำหน้าเฉยๆ แล้วใช้มือดึงออกเฉยเลย เราก็ช็อครอบสอง ก็ในตำราบอกเอาไว้ว่า เห็บมันมีเขี้ยว ห้ามดึงให้ใช้สเปรย์ฉีด เดี๋ยวมันจะถอนเขี้ยวออกเอง ถ้าเราไปดึงเขี้ยวเห็บยังอยู่ จะทำให้น้องหมายิ่งแย่ หมอดึงออกเฉยเลย เราก็เลย เปลี่ยนดีกว่าไปไม่รอดแล้ว พอเปลี่ยนคลีนิคสาม คราวนี้ หมอเห็นแล้วช็อค เกิดอะไรขึ้น เราก็นั่งวิเคราะห์กับหมอ สามชั่วโมง หมอบอกว่า เอาไว้กับหมอเถอะ สองเดือน แล้วมาเยี่อมเอา หมอสามดูแลดีค่ะ น้องหมามีขนแล้ว เราก็ให้คำปรึกษาเรื่องอาหารด้วย แต่อาการยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เราก็ถามหมอว่า เรื่องอาหารน้องหมา ก็ได้รับคำตอบอย่างที่บอกนั้นแหละค่ะ เขาบอกว่า รอไปก่อนไหม เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่า ตอนนี้นอกจากขี้เรื้อนแล้ว น้องหมาจะแพ้อะไรอีกหรือเปล่า อาจจะแพ้น้ำยาถูพื้นที่บ้าน ยากันยุง น้ำค้าง แพ้อาหาร ให้อาหารเม็ดไปก่อน ส่วนอาหารสด ไม่แนะนำ เพราะอาจจะมีผลต่อน้องหมา เหตุผลก็อย่างที่บอก ใครมีคำแนะนำอื่นๆ บอกด้วย ทำอะไรไม่ถูกแล้ววววว อยากให้บาล์ฟก็อยากให้ แต่ไม่กล้า ซื้อหนังสือทั้งไทย ทั้งภาษาอังกฤษมาอ่านก็แล้ว มีข้อแนะนำเยอะมาก จนไม่รู้ว่าจะใช้ข้อมูลอันไหน ใครมีประสบการณ์อย่างเรา ช่วยด้วยยยยยยยยยย | โดย: อำ [10 ก.พ. 50 15:18] ( IP A:58.136.50.219 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 8 แก้ค่ะ คลีนิคแรก น้องหมายังไม่ถึงสามเดือน ประมาณเดือนครึ่งเกือบๆ สองเดือน | โดย: อำ [10 ก.พ. 50 15:20] ( IP A:58.136.50.219 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 ลองใช้กำมะถันกับน้ำมันมะพร้าวดูนะครับ คิดว่ารักษาหาย 80% น้องหมาที่บ้านก็กำลังจะหายแล้วครับ | โดย: ponchemistry@hotmail.com [12 ก.พ. 50 11:51] ( IP A:203.172.165.7 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 10 ตอนนี้ สุนัขของหนูมีลักษณะขนร่วงเป็นกระจุกๆ มีอาการคันอย่างต่อเนื่อง บริเวณที่ขนร่วง จะมีแผลเหมือนถูกเห็บกัด อาการดูเศร้า ไม่ค่อยขี้เล่นเหมือนเมี่อก่อน และก่อนหน้านี้ สุนัขของหนูมักมีอาการตามผิวหนังที่ดูเหมือนกับถูกน้ำร้อนลวก และก้อจะหายไปเอง | โดย: ออ [16 เม.ย. 50 21:35] ( IP A:58.147.118.237 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 11 หมาของหนูเป็นขี้เรื้อนมาหลายเดือนแล้วค่ะ หนูจะทำอย่างไรดี หนูรักเขามากๆไม่อยากเห็นเขาเป็นแบบนี้(จีจี้) | โดย: conun-007@hotmail.com [13 ต.ค. 50 22:13] ( IP A:124.121.218.252 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 12 เราเลี้ยงหมาพันธุ์ชิสุห์ เป็นโรคเรื้อ(หมอบอก)เป็นที่ตาล่างข้างเดียว น้องหมามีอาการคันมาก พยายามเกาตลอด ลักษณะจะเปียกๆๆมีน้ำตาตลอดข้างเดียวที่เป็น มีขี้ด้วย ปกติไม่ค่อยมีขี้ตา สาเหตุเราว่าน่าจะมาจาก...........หน้าบ้านเรามีหมาจรจัดขี้เรื่อนทั้งตัวชอบมาอยู่หน้าบ้านเราและชอบมาเกา และข้างๆๆๆบ้านเราเมีคนมาขายไก่ย่าง(เลยเป็นที่ชุมนุมของหมาจรจัด) แต่เราเล้ยงน้องหมาเราดีมากๆๆนะ สงสัยเป็นเพราะที่หมาจรจัดเดินผ่านไปมาหน้าบ้านแน่ลย ไปหาหมอก้อฉีดยา2เข็มและให้น้ำยามาอาบ แต่ก้อไม่หายสักที จะ2อาทิตย์แล้ว
เซงเลย กลุ้ม | โดย: rsgame_kk@yahoo.co.th [28 ก.พ. 52 1:46] ( IP A:124.157.220.212 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 13 ขณะนี้มียารักษาขี้เรื้อนสุนัข ทุกพันธุ์ ทั้งขี้เรื้อนชนิดแห้งและขี้เรื้อนชนิดเปียก หายภายใน 1 ขวด รับประกันความพอใจ ไม่เห็นผลยินดีคืนเงิน สนใจติดต่อแวะชมได้ที่ https://www.keelearn.com | โดย: joyy [7 ส.ค. 52 11:51] ( IP A:125.26.17.103 X: ) |  |
|