วันนี้ว่างเลยถ่ายรูป เมนู ประจำวัน บรรดาหมาๆ ที่บ้านมาให้ดูครับ
|
ความคิดเห็นที่ 1 พอจะยก เสริฟ ก็ คลุกเคล้าให้เข้ากัน หน้าตาก็ออกมาเป็นแบบนี้แหละครับ
| โดย: PHaT [6 ต.ค. 47 19:44] ( IP A:61.90.18.232 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 รูปตอนกิน ไม่สามารถ ถ่ายได้ครับ กินกันด้วยความเร็วแสง หุหุหุ | โดย: PHaT [6 ต.ค. 47 19:45] ( IP A:61.90.18.232 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 คุณแม่บู่บอกว่า ฟักทองกินดิบได้เลยนะ แครอทกับมะเขือเทศก็กินดิบได้อยู่แล้วนี่ ทำไมต้องต้มล่ะ | โดย: ป้าวิ [7 ต.ค. 47 9:00] ( IP A:203.172.57.28 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 มาตอบในกระทู้นี้อีกที เพราะคุณ PHaT อาจจะไม่เข้ามา เดี๋ยวไม่มีใครบอกเรื่องเบต้าแคโรทีน
คุณ PHaT อยากให้หมาได้เบต้าแคโรทีน เลยต้มผักสุกให้หมา เพราะการกินผักดิบ ร่างกายจะได้รับเบต้าแคโรทีนน้อยมาก แต่ถ้าเป็นผักต้ม จะมีเบต้าแคโรทีนมากกว่าผักดิบ 5-10 เท่า (แล้วแต่ชนิดของผัก) ฉะนั้น ถ้าต้องการให้หมาได้เบต้าแคโรทีน (ช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ผิวหนังสุขภาพดี ฯลฯ) ก็ต้องให้หมากินผักต้มด้วย ผักที่มีเบต้าแคโรทีนสูงคือ ฟักทอง แครอท บร็อกโคลี ผักโขม ตำลึง ฯลฯ
แต่ผักต้มจะเสียวิตามินและแร่ธาตุเกือบหมด ก็ต้องให้ผักดิบปั่นละเอียดด้วยนะคะ สรุปว่า ให้ทั้งผักต้มและผักดิบ ของแม่บู่ให้ผักดิบเป็นประจำทุกวัน ผักต้มอาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง (ของเหลือจากอาหารคน) | โดย: แม่บู่ [7 ต.ค. 47 21:35] ( IP A:82.161.49.175 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 เปลี่ยนเป็นนึ่งแทนได้มั๊ยคะ เจ้าเรดาร์ไม่ค่อยชอบกินผัก ผลไม้สดคะ แต่ลองเอาฟักทองนึ่ง (ของแม่มัน) มาให้กิน ปรากฎว่าชอบมาก กินเปล่าๆแบบไม่ผสมอะไรยังได้เลย | โดย: ทิพย์ [21 ต.ค. 47 16:04] ( IP A:210.246.66.54 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 ตอบคุณทิพย์แทนนะคะ คิดว่าได้ค่ะ ไม่มีปัญหา เพราะหลังจากทำให้สุกแล้วปริมาณเบต้าแคโรทีนก็จะออกมาใกล้เคียงกัน ยิ่งถ้าไม่ได้ใช้น้ำที่ต้มมาผสมด้วย การนิ่งน่าจะเป็นอีกทางเลือกที่ดีค่ะ | โดย: kitten [21 ต.ค. 47 16:28] ( IP A:203.152.22.51 X: ) |  |
|