หลักการเลือกปลาเล็กโดยภาพรวม
   ผมได้รับE-mailจากน้องคนหนึ่งว่าอยากให้ผมลองเปิดกระทู้สักกระทู้หนึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะเปิดอะไรดี ก็เลยเปิดกระทู้นี้ล่ะกัน

กระทู้นี้ผมอาจไม่ได้กลับมาตอบเพราะอีกไม่นานต้องบินกลับไปศึกษาต่อ(ช่วงนี้หยุดปิดเทอม)

สอบถามเพิ่มเติมลองแอดมานะครับหรือส่งE-mailมาก็ได้ที่ TaPhad@hotmail.com

เข้าเรื่องเลยนะครับ

1.ผู้ที่จะทำการชื้อและเลี้ยงปลานั้นจะต้องมีความรู้ และศึกษาข้อมูลของปลาในเบื้องต้น หมั่นหาความรู้เกี่ยวกับปลา ผู้เลี้ยงส่วนมากจะมีปัญหาเพราะไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาก่อนล่วงหน้า อาจโดนร้านค้าหลอกขายปลา และปลาที่ซื้อมาก็เกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย

2.ควรเลือกซื้อปลาที่มีขนาดกลางๆ(6 - 8 นิ้ว)เพื่อที่จะได้เห็นรายละเอียดต่างๆของปลาได้ชัดเจน โดยทั่วไปขนาดของปลาที่แนะนำและสามารถจะเริ่มมองเห็นได้อยู่ที่ขนาด 6 - 8 นิ้ว ถ้าเป็นปลาที่มีเล็ก 4 - 5 นิ้วจะดูค่อนข้างยาก ถ้าปลาขนาด 8 นิ้วขึ้นไปจะเห็นได้ชัดเจน (แต่ถ้าผู้เลี้ยงมีความชำนาญ หรือ มีประสบการณ์มาบ้างสำหรับการเลือกซื้อปลาทองมาเลย์ใต้ขาว ปลาขนาดเล็ก 6 นิ้วถ้าทำการศึกษาและดูบ่อยๆ ก็สามารถดูได้แล้ว)

ขออนุญาตเจ้าของภาพด้วยนะครับ

โดย: หมอ TaPhad [22 ต.ค. 53 7:39] ( IP A:182.52.96.9 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   3.ควรเลือกซื้อปลาจากร้านค้าที่มีความน่าเชื่อถือและดำเนินกิจการอย่างถูกกฎหมาย (ปัจจุบันมีการซื้อขายกันทางอินเตอร์เน็ต หรือชื้อขายต่อกันเองเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย)ดังนั้นจะต้องชื้อจากร้านที่ดำเนินการอย่างถูกต้องคือมีใบ สป.11 (ใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์)สิ่งที่ผู้ชื้อควรทำเมื่อต้องการชื้อปลาจากร้านค้าคือ ข้อแรกควรสอบถามว่า สามารถทำเอกสารใบกำกับให้ได้หรือไม่ ข้อสองทำใบเคลื่ยนย้ายให้ได้หรือไม่ ถ้าทำได้แสดงว่าปลาตัวนั้นนำเข้ามาอย่างถูกต้อง ทำให้สามารถซื้อได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้การซื้อปลาตามร้านที่ขายปลาถูกต้องตามกฎหมาย จะทำให้ผู้เลี้ยงสามารถปรึษาในกรณีที่ปลามีปัญหาหรือสอบถามเรื่องที่สงสัยได้อย่างสบายใจ

เดี๋ยวกลับมาต่อครับ ขอทำธุระสักครู่
โดย: หมอ TaPhad [22 ต.ค. 53 7:52] ( IP A:182.52.96.9 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ต่อครับ

4.ควรมีใบCertificateมาพร้อมกับตัวปลา(ตามหลักสากลปลาทุกตัวที่นำเข้าอย่างถูกต้อง จะต้องฝัง Microship และจะต้องมีใบCertificateเพื่อยื่นยันว่าปลาสายพันธุ์อะไร ตรงตามสายพันธุ์หรือไม่ ซึ่งในใบCertificate จะมีหมายเลขไมโครชิพอยู่ ซึ่งจะสามารถสแกนได้ในตัวปลา(ดังนั้นตอนซื้อปลาควรจะให้ร้านสะแกนให้ดูเพื่อดูว่าตรงกันหรือไม่) และเลขไมโครชิพนี้จะถูกบันทึกที่กรมประมงส่วนกลางและมีรายละเอียดเกี่ยวกับตัวปลา ซึ่งสามารถไปตรวจสอบว่าปลามาจากแหล่งได้
ปัจจุบันมีการฝังชิพ 2 ที่คือที่ท้องกับที่หลังสามารถเลือกฝังที่จุดใดจุดหนึ่งได้

5.เรื่องสุขภาพปลา ปลาที่สุขภาพไม่ดี จะเป็นภาระต่อผู้เลี้ยง อีกทั้งยังเสียเวลา เสียสุขภาพจิต ทำให้ไม่มีความสุขในการเลี้ยงปลา ลักษณะของปลาที่สุขภาพไม่ดี เช่น กินไม่ดี กินน้อย เหงือไม่ดี หายใจไม่ได้ เหงืออ้า เป็นตัน ส่วนลักษณะที่ดีคือ เมื่อว่ายน้ำแล้วต้องไม่จอดหรืออยู่นิ่ง ว่ายแล้วครีบ หาง กระโดง ต้องไม่ลู่ จะบังบอกถึงสภาพปลาสมบรูณ์

ขออนุญาตเจ้าของรูปด้วยนะครับ

โดย: หมอ TaPhad [22 ต.ค. 53 8:34] ( IP A:182.52.96.9 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   หายไปนานเลยนะครับ
โดย: คนสะสมหมู [22 ต.ค. 53 9:15] ( IP A:58.8.64.241 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   หาข้อมูล เลือกสายพันธุ์ เลือกปลา เลือกร้าน รับรองคุณภาพครับ
หลักการตามที่คุณหมอว่ามาหล่ะครับ ขอบคุณครับ
โดย: คุณสิบสามบาทครับ [22 ต.ค. 53 9:31] ( IP A:110.49.205.137 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   6.ควรเลือกชื้อปลาที่ถูกใจเรา วัตถุประสงค์ของการซื้อปลาของคนเราแตกต่างกันไป บางเหตุผลคือ ซื้อมาไว้เป็นเพื่อน ให้ผ่อนคลายความเครียดเป็นงานอดิเรก เป็นสิ่งที่อยู่กับเราแล้วมีความสุข ทุกวันนี้คนชื้อมาแล้วเครียดเพราะคาดหวังว่าจะต้องเป็ยอย่างนี้อย่างนั้นแล้ววิตกไปเอง เช่น ตาตก เป็นต้น

7.ข้อระวังร้านขายปลาบ้างร้านใช้การจัดไฟเยอะ ทำให้ปลาดูสวยเกินจริง ทำสีหลอกผู้ชื้อ โดยเฉพาะปลาแดงจะเกิดขึ้นมาก

ขอโทษที่มาเขียนช้านะครับ

อ้างอิงจาก หนังสือปลา AROWANA ครับ
โดย: หมอ TaPhad [22 ต.ค. 53 9:36] ( IP A:182.52.96.9 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ตอบความคิดเห็นที่ 3 ผมไปศึกษาต่อต่างประเทศครับเลยไม่ค่อยได้มาตอบ ช่วงนี้ที่นั้นให้หยุดครับ

นี้คือรูปใบCertificate ครับ(เพื่อใครไม่เคยเห็น^^)

ขออนุญาตเจ้าของรูปด้วยครับ

โดย: หมอ TaPhad [22 ต.ค. 53 9:44] ( IP A:182.52.96.9 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน