,มีใครยังให้ปลาเหยื่ออยู่บ้างครับ
|
ความคิดเห็นที่ 1 คำว่าบาปหรือไม่บาปมัอยู่ทีมุมมองของแต่ละคนนะครับ หากยึดหลักศีลห้า ข้อแรกการไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต การให้ปลาเหยื่อก็ถือว่าบาปทั้งนัน้ครับ และโดยปกติเค้าเชื่อกันว่าการทำบุญไม่สามารถมาทดแทนหรือลบล้างบาปที่เราทำได้ หากเราเชื่อแบบนี้ หากไม่อยากทำบาปก็เลี่ยงไม่ใช่ปลาเหยื่อ และหากปลาของเราไม่กินของตายก็คงต้องเลิกเลี้ยงครับ แต่ในอีกแง่มุมเค้าก็แย้งว่า การให้ปลาเหยื่อมันคือวงจรของธรรมชาติเป็นห่วงโช่อาหารก็ไม่น่าจะผิด ก็คือไม่บาป การไปดัดแปลงไปให้กุ้งชิ้น มันผิดหลักธรรมชาติ น่าจะเป็นบาปมากกว่า......มันแล้วแต่มุมมองจริงๆครับ แต่โชคดีปลาของผมกินของตายหมดครับเลยไม่มีปัญหา | โดย: mdmuping [20 ก.ย. 53 9:36] ( IP A:58.181.149.27 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 คิดเหมือน พี่mdmuping ครับ
อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน แต่ส่วนตัวก็ยังให้ปลาเหยื่ออยู่ ( กับปลาอื่น ที่ไม่ใช่มังกร )
โดยส่วนตัวคิดว่าถ้ากลัวบาป มันบาปตั้งแต่เราเอาปลามาเลี้ยงแล้วครับ เพราะถือเป็นการเอาสัตว์มากักขังไว้
แต่วิธีที่ผมนำมาช่วยทำให้ไม่คิดมากเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้คือ พยายามทำบุญให้มากครับ และก็คิดเข้าข้างตัวเองไว้ ( 555 ) ว่าเอาชีวิตแลกชีวิต
แต่ถึงยังไงก็ตามขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละคนเป็นสำคัญ
แต่ทางท่าดี ถ้าละเว้นได้ ก็ดีครับ | โดย: Ataz [20 ก.ย. 53 9:49] ( IP A:203.146.11.252 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อก่อนผมก็ให้ปลาเหยื่อครับ แต่แฟนผมบอกว่าการให้ปลาเหยื่อมันบาป ผมเลยหันมาให้กุ้งชิ้น
แต่ผมเคยไปถามพระ พระบอกว่ามันคือวงจรชีวิต ปลาใหญ่กินปลาเล็กเป็นเรื่องปกติครับ ไม่บาป ''
แต่ผมก็ยังให้บ้างนะครับ ^_^" | โดย: Ewa_Yui [20 ก.ย. 53 9:56] ( IP A:125.26.63.11 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 เขาว่า...ถ้าความเค็มคือบาป ตักเกลือ1ช้อนเทใส่แก้วใบเล็ก พอเกลือละลายหมดลองชิมดูมันจะเค็มมาก แต่ถ้าเติมน้ำจืดมากๆ จนปริมาตรน้ำมากเท่ากับน้ำในโอ่ง แล้วลองชิมดูจะรู้สึกว่าจืดสนิท ทั้งๆที่เกลือก็ยังอยู่ในโอ่งเหมือนเดิม เปรียบเหมือนการทำบุญมากๆเพื่อละลายบาปให้เจือจาง มิใช่ลบล้างบาปนะครับ | โดย: ลุงมังกร [20 ก.ย. 53 10:31] ( IP A:118.173.89.120 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 จะให้ก็ให้เถอะครับ พระยังกินเนื้อสัตว์ที่คนฆ่ามาถวายเลย แล้วคนเอาไปถวายจะบาปมั้ย? | โดย: จอม [20 ก.ย. 53 10:33] ( IP A:118.173.151.104 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 ท่าน ลุงมังกร คมมากครับ ซูฮกๆ | โดย: Buzz Lightyear [20 ก.ย. 53 11:03] ( IP A:58.9.109.17 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 สาธุครับ ลุงมังกร..... | โดย: indara_arowana [20 ก.ย. 53 12:16] ( IP A:125.25.238.69 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 8 ผมว่าอยู่ที่ความสบายใจของแต่ละคนมากกว่าครับ ส่วนตัวผมเคยให้ปลาเหยื่อ แต่เห็นแล้วสงสาร โดนเสือตอผมไล่กินทีละตัว ที่เหลือก็ว่ายหนีกันจ้าละหวั่น เห็นแล้วอดไม่ได้ครับ เลยจับเสือตออดให้กินกุ้งขาวแทน ยังดีที่ยอมกินครับ แต่ทางที่ดีอย่าไปเบียดเบียนชีวิตใครเลยครับ ไม่ว่าจะสัตว์หรือคน ต่างรักชีวิตตัวเองทั้งสิ้น เลี่ยงได้ก็เลี่ยงครับ ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ | โดย: เฟริส [20 ก.ย. 53 13:10] ( IP A:58.137.93.82 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 ผมคิดเหมือนหลายๆคนครับว่าบุญมิอาจจะล้างบาปได้ในสิ่งที่เราทำ แล้วกรรมหละมันก็เป็นเรื่องของผลของการกระทำ ครับ ถ้าเราให้ปลาเหยื่อแล้วเรารู้สิกบาปนั่นแหละผลของการกระทำ แต่สิ่งที่ผมคิดคือ มันเป็นธรรมดาของสัตว์โลกครับผู้ถูกล่าเป็นเหยื่อของผู้ล่าครับ ถ้ามองอีกทางนึงหละ เราให้กุ้งชิ้นมันก็ได้เราจะไม่บาป ผมเถียงตาย ห้าเลย มันก็บาปเหมือนกันหละหว่า ลองนึกถึง ในกรณีของคนบ้าง นาย กอ ไม่ชอบหน้า นาย ขอ นาย กอ เลย จ้างให้นาย คอ ยิง นาย ขอ แต่ นาย คอ ขี้เกียจไปเลยให้นาย งอ ไปยิงนายขอตาย อยากรู้ว่าใครบาป ตำรวจ จะ จับใคร มันก็โดนกันตั้ง แต่ นาย กอ นาย คอ นาย งอ สรุปแล้วก็บาปกันทั้งสามคน มันก็เหมือนเรา กิน หมู กิน ไก่ ถามว่าเราบาปไหม ผมก็สำนึกว่าที่เรากินนั้นมันบาป แต่หลายคนว่าไม่บาป แต่ถ้ายกตัวอย่างข้างบนที่เอ่ยมาหละเราอยากกินปลาช่อน เรากำเงินไปซื้อ ที่ตลาด แม่ค้าทุบหัว(ป๊อกปลาดิ้นกะแด่วๆ)เราได้ปลากลับบ้าน เราก็บอกตัวเองว่าเราไม่บาป เพราะแม่ค้าทำปลาตาย กลายเป็นว่าแม่ค้า(ฆาตรกร)บาปคนเดียว คนหาปลา(บังคับล่อลวง)ขายให้แม่ค้าไม่ผิด คนซื้อ(จ้างวานฆ่า)ก็ไม่ผิดอย่างนั้นหรือ | โดย: เยสเก้ง [20 ก.ย. 53 18:58] ( IP A:117.47.56.138 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 10 1เราไม่ได้กระทำ 2เราไม่ได้สั่งให้ใครทำ 3เราไม่ได้ยินดีในสิ่งที่เค้ากระทำ ผ่าน3ข้อนี้จึงจะถือว่าไม่บาปจ้า(คงไม่รอด) | โดย: ต้องต้อง [20 ก.ย. 53 20:18] ( IP A:182.232.83.34 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับค.ห.10ครับ ^_^" | โดย: พยัคฆ์แห่งสายน้ำ [20 ก.ย. 53 22:16] ( IP A:61.90.122.85 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 12 มันแล้วแต่การมองอย่างที่ข้างบนว่าแหล่ะครับ
ว่าคุณจะมองจากมุมไหน
ถ้ามองในทางพระผมเชื่อว่าเป็นบาปแน่นอนครับ
(การไปถามพระ ต้องลองถามหลายๆ ท่านดูครับ
พระแต่ละท่านผมเชื่อว่าความคิดเห็นไม่เหมือนกันทุกท่านนะครับ
แต่หลักๆ ถ้าในทางพระท่านจะสอนให้เรามีเมตตาธรรมต่อสัตว์โลกทุกชนิดเป็นสำคัญนะครับ
แม้ว่าจะเป็นสัตว์นั้นจะเป็นเพียงมดหรือปลวกก็ตาม
ท่านจะสอนการไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกันเป็นหลักนะครับ)
การที่คุณทำแล้วรู้สึกผิด รู้สึกไม่สบายใจ
นั่นแหล่ะครับ
กรรมกำลังให้ผลของมันอยู่ไงครับ
แต่ผมว่าคุณดูจะมีจิตใจอ่อนโยน มีเมตตาธรรมอยู่ในใจนะครับ
ไม่อย่างนั้นคุณคงไม่เกิดความไม่สบายใจ
จนมาตั้งกระทู้ถามแบบนี้หรอกครับ
จิตใจด้านเมตตาธรรมต่อสัตว์โลกในใจคุณ
กำลังต่อต้านการกระทำของคุณอยู่นะครับ | โดย: HORNBILL [20 ก.ย. 53 22:20] ( IP A:58.9.234.236 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 13 วงจรชีวิตของธรรมชาติ
คือสัตว์เล็กย่อมเป็นเหยื่อ เป็นอาหารของสัตว์ใหญ่
เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามหลักของธรรมชาติอยู่แล้วครับ
แต่คุณอย่าลืมนะครับว่า
การที่คุณนำปลามาเลี้ยงในที่เลี้ยงที่มันจำกัด
(ซึ่งมิใช่ธรรมชาติที่สัตว์อยู่)
แล้วนำปลาเล็กมาให้มันกิน
มันเลยกลายเป็นว่า
สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้น หรือเป็นไปตามธรรมชาติ
ถูกต้องมั้ยครับ
เพราะกรรมไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติ
แต่คุณเป็นคนทำให้มันเป็นไป
เพราะฉะนั้นบาปกรรมในครั้งนี้จะตกอยู่ที่ใครครับ
ก็ตัวเรายังไงหล่ะครับ
เพราะเป็นกรรมที่เกิดจากที่เราเจตนาจะให้มันเป็นไป | โดย: HORNBILL [20 ก.ย. 53 22:29] ( IP A:58.9.234.236 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 14 ผมจะอธิบายให้เห็นภาพแบบง่ายๆ แล้วกันนะครับว่า
ทำไมกรรมถึงเกิดจากตัวเราและสุดท้ายจะตกอยู่ที่ตัวเราทั้งหมด
เริ่มต้นจาก
1.ไปหาซื้อปลาเหยื่อ - 2.นำมาปล่อยลงตู้ปลาใหญ่ - 3.ปลาเหยื่อถูกกินเป็นอาหาร(เสียชีวิต)
พอเห็นภาพเหตุการณ์ตั้งแต่ 1-3 มั้ยครับ
ว่าเจตนาและการกระทำมันอยู่ที่ตัวเราโดยครบบริบูรณ์เลยนะครับ
เพราะฉะนั้นสิ่งนี้จึงเป็นบาปอย่างแน่นอนครับ
เพราะเกิดจากการกระทำและเจตนาของเรา
เหตุการณ์มิได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติตามกรรมของสัตว์โลก | โดย: HORNBILL [20 ก.ย. 53 22:35] ( IP A:58.9.234.236 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 15 ส่วนการให้กุ้งชิ้นหรือเนื้อหั่นของสัตว์ที่ตายแล้ว
ผมมองว่าไม่บาปหรอกครับ
แต่เชื่อว่าเดี๋ยวต้องมีคนแย้งขึ้นมาแน่ๆ ครับ
ตรงนี้ให้ลองไปศึกษาดูเองแล้วกันครับ
เพราะหากผมนำมาบอกตรงนี้แล้วมันยาวมากๆ แน่ๆ ครับ
แต่ทางพระ
ท่านมีคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ชัดเจนอยู่แล้วครับ
( ข้อที่ว่าห้ามฆ่าสัตว์เพราะเป็นบาป แต่ทำไมถึงกินเนื้อสัตว์ได้ )
เรื่องแบบนี้ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ
คงไม่สามารถไปห้ามได้ครับ
เพราะมนุษย์ทุกคน สติ ปัญญา ความเชื่อ ความศรัทธา
ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลอยู่แล้วครับ
ส่วนใครจะเชื่อไม่เชื่อก็สุดแท้แต่กรรมของแต่ละคนครับ
ขอบคุณมากครับ | โดย: HORNBILL [20 ก.ย. 53 22:46] ( IP A:58.9.234.236 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 16 ผมขอเพิ่มเติมนิดนึงในส่วนความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ
ที่บางท่านว่า
หากจะเป็นบาปก็เป็นบาปตั้งแต่เราเอาเค้ามาเลี้ยง เพราะเป็นการกักขัง
ตรงนี้ผมอยากให้แยกเป็นกรณีไปนะครับ
หากเรานำเค้ามาเลี้ยงด้วยความเมตตา
จัดให้อยู่ในสถานที่กว้างขวางตามสมควร
เลี้ยงไม่ให้เค้าอดยาก (เป็นทุกข์)
เมื่อยามเจ็บป่วยก็คอยดูแลรักษา ไม่ทอดทิ้ง
กล่าวคือเลี้ยงเค้าด้วยความรัก ความเมตตา เอาใจใส่
หากเป็นอย่างนี้ผมถือว่าไม่เป็นบาปนะครับ ได้บุญซะอีกครับ
เพราะสัตว์หรือปลาหลายชนิด
พูดกันตามตรงหากเราไม่นำเค้ามาดูแล เพาะเลี้ยง ขยายพันธุ์
ผมเชื่อว่าสัตว์หรือปลาหลายๆ ชนิดในโลกนี้คงได้สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้แล้วอย่างแน่นอนครับ | โดย: HORNBILL [20 ก.ย. 53 22:54] ( IP A:58.9.234.236 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 17 แต่การเลี้ยงสัตว์หรือเลี้ยงปลาที่เป็นบาป
สำหรับผมก็คือ
การเลี้ยงแบบไม่เอาใจใส่ ปล่อยให้เค้าอดยากหิวโซ
เลี้ยงในสถานที่คับแคบมากจนเกินไป
และยามเค้าเจ็บป่วยก็ไม่สนใจดูแล
คือเลี้ยงแบบตามมีตามเกิด ไม่เอาใจใส่นั่นเอง
แบบนี้ต่างหากที่ผมคิดว่าเลี้ยงแล้วเป็นบาปแน่นอน
เพราะเลี้ยงแล้ว
สัตว์ได้รับทุกขเวทนาจากการกระทำของเรา
ขอบคุณมากครับ | โดย: HORNBILL [20 ก.ย. 53 22:59] ( IP A:58.9.234.236 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 18 การให้เนื้อสัตว์(น้ำ)หั่น
ไม่ถือว่าเป็นบาป
เพราะทำให้ผิดธรรมชาติของปลา(กินเนื้อ, นักล่า)นะครับ
ถึงแม้ธรรมชาติสัตว์นั้นจะเป็นนักล่าสัตว์เป็นๆ ก็ตาม
ดูอย่างเสือ สิงโต หมาป่า หรือ *** ในสวนสัตว์นะครับ
โดยธรรมชาติสัตว์เหล่านี้เป็นนักล่าสัตว์อื่นเป็นอาหาร
แต่เมื่อถูกนำมาเลี้ยงก็ไม่ได้ล่าสัตว์เป็นๆ กินอีกต่อไปนะครับ
พวกนี้ถูกเลี้ยงด้วยเนื้อสัตว์หั่นเป็นชิ้นๆ ทั้งนั้นแหล่ะครับ
(สิ่งที่ไม่มีชีวิตแล้ว)
แถมมันยังมีอายุยืนยาวกว่าอยู่ในธรรมชาติของมันซะอีกนะครับ | โดย: HORNBILL [20 ก.ย. 53 23:05] ( IP A:58.9.234.236 X: ) |  |
|