onninn.pantown.com
บทความดีๆ <<
กลับไปหน้าแรก
^ 10วิธีเลี้ยงลูกให้คนดี ^^
^^ 10วิธีเลี้ยงลูกให้คนดี ^^
"คนดี" ต่อครอบครัวต่อสังคมรู้จักรับผิดชอบมีคุณธรรม และเคารพตัวเอง
เด็กก็คือเด็ก ไม่ว่าจะดื้อ โยเย เกเร แค่ไหน การปรับเปลี่ยนวิธีการรับมือก็สามารถสร้างผลลัพท์ได้ดีอย่างเหนือความคาดหมายเลยคะ
1. อย่าโทษว่าลูกเป็นคนผิด
เรามักโยงพฤติกรรมของเด็กเข้ากับตัวของเขา เช่น ถ้าเด็กไม่เรียนหนังสือ เราก็จะเรียกเขาว่าขี้เกียจ การเหมาว่าเด็กเป็นคนไม่ดีโดยตัดสินจากพฤติกรรมที่ไม่ดีบางอย่างจะยิ่งทำให้เด็กเชื่อว่าเขาเป็นคนเช่นนั้นจริงๆ
คุณพ่อคุณแม่ต้องเชื่อมั่นว่าลูกเป็นคนดี มีเจตนาดี ไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติ และเข้าใจว่าพฤติกรรมดื้อรั้นเกเรเป็นเพียงสิ่งที่สะท้อนออกมาจากความพยายามที่จะให้ได้สิ่งที่ตัวเด็กต้องการ เช่นอยากจะเล่นมากกว่าการทำการบ้าน เราจำเป็นต้องยอมรับในตัวเด็ก และค่อยๆ ให้คำแนะนำ และโอกาสลูกปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยมีเราเป็นผู้ให้กำลังใจ
2. ต้องเข้าใจว่าลูกมีความคิดต่าง
คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจว่าเด็กมองโลกในมุมมองเด็กๆ ซึ่งจะต่างจากผู้ใหญ่อย่างแน่นอน อาจจะดูเหมือนว่าลูกพูดคนละภาษากับเรา เราอาจจะคิดว่ากำลังให้คำแนะนำแต่เด็กอาจจะเห็นว่าเรากำลังบ่น การแสดงความเป็นห่วงในแบบของเราอาจจะดูเหมือนเป็นการบังคับซะเหลือเกินในความคิดพวกเขา แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าไปโทษว่าเขาไม่เข้าใจเรา ในทางกลับกัน คุณพ่อคุณแม่ต่างหากที่จะต้องพยายามเข้าใจธรรมชาติของลูก และหาวิธีพูดคุย ตั้งกฎกติกา แบบง่ายๆ เข้าใจได้ และจะดีมากถ้าอธิบายให้ลูกๆ เข้าใจด้วยภาษาง่ายๆ สั้นๆ ว่าเราทำอย่างนั้นอย่างนี้ทำไม
3. เคารพในความคิดของลูก
ก่อนที่จะเราจะสามารถโน้มน้าวให้ใครสักคนเปลี่ยนทัศนคติ และยอมรับคำแนะนำของเราได้ เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับมุมมองของเขาเสียก่อน เด็กส่วนใหญ่มักเก็บเรื่องหลายๆ เรื่องไว้ในใจ ไม่บอกคุณพ่อคุณแม่ และบางครั้งก็แสดงท่าทีต่อต้านคำแนะนำ และความคิดของคุณพ่อคุณแม่อย่างชัดเจน ถ้าเราอยากให้ลูกพูดคุยอย่างเปิดเผย และยอมฟังอย่างเปิดใจ เราต้องสร้างความเชื่อใจเสียก่อน พยายามใช้ประโยคเช่น แม่เห็นด้วยว่า .. พ่อเข้าใจว่า .. เมื่อคุยกับลูก เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าเราฟังเขา ที่สำคัญกว่านั้นเมื่อลูกมีปัญหา คุณพ่อคุณแม่ต้องบอกถึงแนวทางการแก้ปัญหาให้ลูกๆทราบไปด้วยในคราวเดียวกัน โดยพูดเป็นแนวแนะนำ ส่วนการตัดสินใจทำหรือไม่อย่างไรต้องให้ลูกตัดสินใจ
4. ปรับเปลี่ยนท่าที และมุมมองของลูกอย่างมีชั้นเชิง
การปรับเปลี่ยนท่าที และมุมมองของคนโดยไม่ใช้การบีบบังคับถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เมื่อเราได้สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับลูก และทำให้ลูกรู้สึกว่าเราเข้าใจเขาแล้ว ลูกจะเริ่มยอมรับสิ่งที่เราชี้แนะมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น ลูกอาจจะบอกว่า การบ้านไม่ต้องทำก็ได้ ไปลอกเพื่อนพรุ่งนี้ดีกว่า คุณพ่อคุณแม่อาจจะตอบว่า จะดีหรอลูก? แม่ว่าถ้าเราไม่ทำเองเราก็ไม่ได้ฝึกปรือความเข้าใจ และเมื่อถึงวันสอบลูกก็จะไม่เข้าใจ พอถึงเวลานั้นเพื่อนจะให้ลูกลอกไม่ได้นะ ลูกจะทำยังไงหล่ะ เป็นคำตอบที่ให้ลูกคิดต่อได้ดีทีเดียว
5. เริ่มต้นจากตัวเรา
คุณพ่อคุณแม่หลายท่านคิดว่าลูกต้องเป็นฝ่ายเปลี่ยนเพียงฝ่ายเดียว แม้ว่าลูกจะยอมเปลี่ยนทัศนคติ และพฤติกรรมแล้ว ก็ยังมีโอกาสที่เขาจะกลับมาทำตัวเหมือนเดิม นั่นเป็นเพราะคุณพ่อคุณแม่ไม่ยอมปรับเปลี่ยนตัวเองตามนั่นเอง
พ่อแม่ที่ดีควรเชื่อว่าตัวเองมีบทบาทสำคัญในการ กำหนดกรอบความคิด และพฤติกรรมของลูก คุณพ่อคุณแม่เป็นคนรับผิดชอบต่อการกระทำ และทัศนคติที่ไม่ดีของลูก เปลี่ยนมุมมองของเราซักเล็กน้อย คอยรับฟัง และให้กำลังใจในสิ่งที่ลูกทำได้ดี และถูกต้องเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี เมื่อลูกรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า เขาจะรู้จักรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง และเคารพตัวเองมากขึ้น
6. เปลี่ยนวิธีถ้าของเดิมไม่ได้ผล
เราอาจจะพร่ำบ่นเรื่องลูกไม่เรียนหนังสือมาสามปี แต่ก็ไม่เคยมีอะไรดีขึ้น อย่าเพิ่งคิดโทษตัวเอง หรือโทษลูก แต่ลองมาพิจารณาว่าทำไมวิธีนี้จึงไม่ได้ผล คุณพ่อคุณแม่ที่ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงดูสั่งสอนลูกจะรู้ว่า ความล้มเหลว เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ และเป็นก้าวหนึ่งที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ลองเปลี่ยนวิธีการแก้ปัญหา หากวิธีที่ใช้อยู่ไม่ได้ผล สุดท้ายก็จะเจอวิธีที่ใช่ การเปลี่ยนแนวทางในการแก้ปัญหาค่อนข้างหลากหลาย อาจจะเริ่มจากไม้อ่อน-ไม่แข็ง หรือบางบ้าน เริ่มจากไม้แข็งเลย อันนี้ไม่มีผิดถูก เพียงแต่ให้ปรับใช้ให้เข้ากับเด็กแต่ละคน แต่ละเหตุการณ์
7. ต้องรู้จักยืดหยุ่น
คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่รู้วิธีการสื่อสารแค่หนึ่ง หรือสองวิธี นั่นคือการพูดดีๆ หรือไม่ก็ใช้น้ำเสียงข่มขู่ เมื่อทั้งสองวิธีนี้ไม่ได้ผล พวกเขาก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ และจะโทษว่าเพราะลูกอย่างนั้นอย่างนี้ การจะเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จนั้น เราต้องรู้จักผ่อนปรน และปรับเปลี่ยนวิธีรับมือให้เข้ากับสถานการณ์ เมื่อใดก็ตามที่เราไม่รู้จักผ่อนปรน และทำตัวเดาง่าย ลูกก็จะกลายเป็นคนคุมเกม และความยืดหยุ่นของเด็ก (โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ) นี่เองที่ทำให้พวกเขาคุมคุณพ่อคุณแม่อยู่เสมอๆ
8. อย่าทำให้ลูกเข้าใจว่าตัวเองไม่ดี
เด็กๆ มักจำกัดตัวเองโดยการคิดว่า ฉันแค่ขี้เกียจ หรือ ฉันไม่ฉลาดพอ ฯลฯ ซึ่งความเชื่อเหล่านี้มักเกิดจากความรู้สึกที่ว่าพวกเขาไม่สามารถควบคุมอะไรในชีวิตตัวเองได้สักอย่าง พวกเขาเชื่อว่าความสำเร็จ หรือความล้มเหลวของพวกเขาขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก ถ้าลูกบอกว่า วิชาคณิตศาสตร์ยาก และคุณพ่อคุณแม่คอยบอกลูกว่ามันง่าย มันง่าย ลูกก็จะรู้สึกว่าเราไม่สนใจความรู้สึก หรือความคิดของเขา หรือแย่กว่านั้น อาจจะรู้สึกว่าตัวเองโง่ เพราะแก้โจทย์ง่ายๆ ไม่ได้ ทางที่ถูกคือ คุณพ่อคุณแม่ ต้องมอง และบอกลูกว่า ไม่น่ายากนะลูก เราเชื่อว่าลูกทำได้ ลูกลองค่อยๆ คิดซิจ๊ะ แล้วก็ชี้แนะโจทย์ข้อนั้น หรือแนะวิธีคิดที่ง่ายแบบที่ลูกสามารถทำเองได้ เพียงไม่กี่ครั้ง ลูกจะมีความพยายามทำอะไรด้วยตนเองมากขึ้นแน่นอน
9. สนับสนุนให้ลูกกล้าฝัน
คุณพ่อคุณแม่ ควรคอยกระตุ้นให้ลูกกล้าที่จะฝัน ไม่ว่าความฝันนั้นจะแปลกประหลาดแค่ไหนก็ตาม สิ่งสำคัญคือความฝันจะทำให้เด็กๆ ตื่นเต้น และกระตุ้นให้พวกเขาอยากเรียนรู้ เสริมสร้างจินตนาการณ์ความฝัน แล้วความฝันของพวกเขาจะเปลี่ยนไปตามอายุ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะเป้าหมายในชีวิตต้องค่อยๆ สร้าง เรามีหน้าที่ช่วยลูกตามหาความฝัน เพราะนั่นจะทำให้ลูกรู้ทิศทาง และเป้าหมายของชีวิต ซึ่งเด็กบางคนอาจไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่าตัวเองอยากทำอะไรอยากเป็นอะไร นั่นเป็นเพราะความคิดพวกเขาถูกจำกัดซึ่งคงไม่มีคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนอยากให้เป็นเช่นนั้น
10. แนะนำลูกด้วยคำถาม
การบอกให้เด็กทำนู่นทำนี่โดยตรงจะยิ่งทำให้เด็กสร้างกำแพง และไม่เชื่อในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่พูด การจะทำให้เด็กยอมรับในสิ่งที่เราแนะนำ ก่อนอื่นควรให้พวกเขาได้บอกความรู้สึกตัวเอง แล้วเราค่อยชี้แนะหนทางให้เขา เราต้องถามคำถามที่กระตุ้นให้เด็กคิด ถึงผลลัพธ์ของการกระทำ เช่น ลูกคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าลูกทำอย่างนั้น? แทนที่จะทำอย่างนั้น ลูกทำอะไรแทนได้บ้าง? ฯลฯ คำถามปลายเปิดเช่นนี้จะสนับสนุนให้เด็กได้รู้จักคิดแก้ปัญหา และสร้างความมั่นใจในตัวเองให้กับเขาเมื่อเขาสามารถแก้ปัญหาได้เอง
ลองปรับใช้ดูนะคะ อาจจะไม่สามารถทำได้พร้อมกันทั้ง 10 ข้อ แต่เชื่อเถอะคะทยอยทำไปเรื่อยๆ 10 ข้อนี้สบายอยู่แล้วคะ
โดย: เจ้าบ้าน
[5 มี.ค. 57 23:43] ( IP A:171.97.73.179 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม
ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :
แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้
(ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)
คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน