onninn.pantown.com
บทความดีๆ <<
กลับไปหน้าแรก
#เลี้ยงลูกรักต้องพักให้เป็น
#เลี้ยงลูกรักต้องพักให้เป็น
เคยอ่านเรื่องตลก(ที่ไม่ค่อยตลกนัก)ที่แชร์กันใน facebook มั๊ยคะ
มีคนถามผู้ชายคนหนึ่งว่า ภรรยาคุณทำงานอะไร ผู้ชายคนนั้นตอบว่า "ไม่ได้ทำอะไร เป็นแค่แม่บ้านเฉยๆ" หรือ "ไม่ได้ทำอะไร เลี้ยงลูกอย่างเดียว"
...ฟังประโยคนี้แล้วรู้สึกยังไงกันคะ...
คุณผู้หญิงอาจจะอินกับประโยคนี้มากกว่าคุณผู้ชายอยู่บ้าง 555 หมอก็อินค่ะ
เรื่องทำนองนี้มีให้อ่านกันอยู่บ่อยๆ และมันก็เป็นเรื่องตลก(ที่ไม่ตลก)ที่มาจากชีวิตจริงเช่นกัน
เมื่อลองทบทวนถึงภาระหน้าที่ในการดูแลบ้านและลูกแล้ว เราจะพบว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ สิ่งที่จะเค้าต้องรับผิดชอบนั้นมีมากมายมหาศาล อาทิเช่น
ทำงานบ้าน.. นั่นคือ ดูแลข้าวของเครื่องใช้ทุกชิ้นในบ้านตลอด24ชม. ถ้าใกล้หมดก็เตรียมซื้อมาเติม ถ้าเสียก็จัดการหาคนมาซ่อมมาเปลี่ยน
ดูแลลูก.. นั่นคือ ดูแลอาหารการกิน3มื้อ พาลูกเข้านอน อาบน้ำแต่งตัว ดูแลเมื่อลูกเจ็บไข้ได้ป่วย ตัดสินใจว่าต้องพาไปหาหมอมั๊ยหรือแค่ซื้อยามากิน ดูแลน้ำหนักส่วนสูงและพัฒนาการให้เป็นไปตามวัย คอยจำตารางฉีดวัคซีน คอยเล่นกับลูก พาลูกไปทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ เลือกโรงเรียนให้ลูก .... โอย เยอะค่ะ
และยังหมายถึง ดูแลสามี/ภรรยาในฐานะคู่ชีวิต ซึ่งหากละเลยข้อนี้ก็บ้านแตกอีก 555
ในฐานะที่เป็นผู้หญิงที่ทำงานนอกบ้านและเป็นแม่บ้านเองด้วย บอกได้เลยว่า ไม่ว่างานนอกบ้านจะเครียด เหนื่อยและหนักหนาแค่ไหน งานในบ้านนั้นจุกจิก กวนใจ และเหนื่อยกว่ามากค่ะ เพียงแต่มันเป็นความเหนื่อยที่มีความสุขมากเช่นกัน จึงทำให้เราเลือกที่จะเหนื่อยตลอดมาและตลอดไป
อย่างไรก็ตาม คนเราทุกคนมีขีดจำกัดของความอดทน ถ้าเราปล่อยให้ตัวเองเหนื่อย เหนื่อยจัง เหนื่อยมาก เหนื่อยโคตรๆ เหนื่อยชิบ..(อุ๊ย เริ่มมันส์ พอดีกว่า) ไปเรื่อยๆ ความเหนื่อยจะเริ่มมีผลให้เราหงุดหงิดและมองโลกในแง่ลบ รวมทั้งบั่นทอนความสุขในการเลี้ยงลูกอันเป็นที่รักของเราค่ะ
แล้วเราจะทำอย่างไรเมื่อเราเหนื่อย??
1. คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้จักสังเกตตัวเองค่ะ รู้อารมณ์ รู้limitของตัวเอง รู้ว่าอาการแบบนี้แปลว่าเราเหนื่อยเกินไป เช่น รู้สึกเบื่อ ขี้เกียจเล่นกับลูก อารมณ์ไม่ดี หงุดหงิดง่าย ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณว่าเราควรจะพัก
2. ต้องรู้จักหาตัวช่วยและขอความช่วยเหลือจากคนอื่นบ้างเมื่อรู้ตัวว่าเหนื่อยเกินไป ตัวช่วยของแต่ละบ้านไม่เหมือนกันค่ะ บางบ้านมีปู่ย่าตายายพร้อมหน้า บางบ้านมีพ่อที่น่ารัก บางบ้านมีพี่เลี้ยง บางบ้านมีกลุ่มเพื่อน ตัวช่วยในที่นี้คือคนที่จะช่วยให้เราวางมือจากลูกได้ในช่วงที่เรารู้ว่าเราไม่ไหวแล้ว
3. ฝากลูกไว้กับตัวช่วยของเราในข้อ2 และไปชาร์จแบต(เติมพลัง)ตัวเองค่ะ วิธีชาร์จแบตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หมออยากเชียร์ให้ทุกคนหาวิธีที่ว่านี้ไว้หลายๆแบบ เพราะบางวิธีก็อาจทำไม่ได้ในบางเวลา โดยวิธีที่ดีที่สุด คือ วิธีที่ใช้เวลาน้อย(เร็ว) และทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย หายเครียด มีพลังได้อย่างมาก(แรง) ...จำง่ายๆคือ เร็วและแรง ค่ะ
การเลี้ยงลูกก็เหมือนงานอีก1ชิ้นที่เพิ่มขึ้นมาในชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องน่าเห็นใจอย่างยิ่งที่ไม่ค่อยถูกนำไปคิดเป็นภาระงานของผู้ที่ต้องรับผิดชอบ โดยที่พ่อแม่บางคนก็มีงานหลัก หรือแม้แต่งานเสริมอยู่แล้ว
ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องมีเวลาพักผ่อน ซึ่งก็แปลว่าจำเป็นต้องมีคนช่วยดูลูกในเวลาดังกล่าว หากบ้านไหนที่เป็นครอบครัวเดี่ยว ไม่มีปู่ย่าตายายช่วยดูแล หมอคิดว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่ทั้งคุณพ่อคุณแม่จะต้องช่วยเหลือกัน ทั้งในการดูแลลูกและดูแลบ้าน ถึงแม้ว่าบางบ้านคุณพ่อจะออกไปทำงานเป็นหลักและคุณแม่เป็นแม่บ้านfulltimeก็ตาม
หมอยังเชื่อว่าหากคุณพ่อยอมสละเวลาเพียงเล็กน้อยมาช่วยดูลูก เพื่อให้คุณแม่ได้ออกไปพัก คุณแม่จะกลับมาพร้อมกับความสุขสดชื่น และมีพลังกายและใจอย่างเต็มเปี่ยมทีเดียวค่ะ เผลอๆอาจมีรางวัลให้กับความน่ารักของคุณพ่อด้วยนะคะ
หมอก้อย
โดย: เจ้าบ้าน
[8 เม.ย. 57 15:53] ( IP A:115.87.148.190 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม
ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :
แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้
(ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)
คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน