= = รักวัวให้ผูก...รักลูกให้ตี ?!= =
   = = รักวัวให้ผูก...รักลูกให้ตี ?!= =

คำถามที่พบบ่อยๆอีกคำถามหนึ่ง จากการทำงานเป็นจิตแพทย์เด็ก คือ

“การตีลูก เป็นเรื่องที่สมควรทำไหมคะ?”

หลังจากลองให้พ่อแม่ท่านนั้นเล่าเรื่องราวที่ตีลูกคร่าวๆ
ผมมักจะตั้งคำถามกลับไปว่า

“คุณเคยมีข้อตกลงกับลูกเรื่องการตี มาก่อนหรือไม่”

“เมื่อตีลูก คุณตั้งใจว่ายังไง และลูกได้เรียนรู้ผลจากการตีอย่างไรบ้าง”

“ตอนคุณตีลูก อารมณ์ช่วงนั้นของคุณเป็นอย่างไร โกรธ โมโหมากๆอยู่หรือไม่”

ประเด็นที่ผมตั้งคำถามนี้กลับไป
เพราะในความเห็นส่วนตัวของผม

การตีลูก ไม่ได้เป็นข้อห้าม
มีข้อดีตรงที่ช่วยหยุดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของลูกได้เร็ว
ลูกเกิดความตระหนัก หรือหลาบจำได้นาน
แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข ดังนี้

1. มีการตั้งกฎเกณฑ์ หรือข้อตกลงอย่างชัดเจน ว่าการลงโทษด้วยการตี
จะเกิดขึ้นเมื่อลูกละเมิดกฎในกรณีใดบ้าง อย่างไร

เช่น เล่นวัตถุอันตราย ออกไปนอกบ้านโดยไม่ขออนุญาต พูดคำหยาบในบ้าน เป็นต้น

2. พ่อแม่ ไม่ได้อยู่ภายใต้สภาวะอารมณ์โกรธ โมโห(มากๆ)
เพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ตีลูกเพื่อระบายความโกรธของตัวเอง แทนจุดประสงค์เดิมที่เราตีลูกเพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ผลของการกระทำผิดตามข้อตกลง

เรามีหน้าที่คุมกฎ ลงโทษไปตามกฎ เพื่อให้เกิดความเป็นระบบระเบียบเท่านั้น
อย่าลืมว่าลูกไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ของเรา

3. หลังตีลูก เมื่อพ่อแม่ลูกเริ่มอารมณ์สงบ คุยกับลูกอีกครั้ง
เพื่อตอกย้ำในสิ่งที่ลูกควรจะได้เรียนรู้จากการลงโทษครั้งนี้ เช่น

“ลูกรู้ใช่ไหม ว่าเพราะอะไรที่แม่ตีลูกครั้งนี้”
เพื่อให้ลูกได้ทบทวนกฎ และการกระทำของตัวเอง
พร้อมกระตุ้นให้ลูกคิดวิธีแก้ไข จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีก
ภายใต้คำแนะนำที่เป็นมิตรจากพ่อแม่


สิ่งที่ทำให้การลงโทษด้วยการตี เป็นปัญหาเพราะพ่อแม่ทำผิดเงื่อนไข
เช่นตีลูกโดยไม่เคยมีข้อตกลง ไม่ใช้เหตุผล
แต่ตีโดยใช้ความรุนแรงทั้งด้านรุนแรงด้านอารมณ์ และรุนแรงด้านร่างกายกับลูก
ซึ่งมักเกิดจากพ่อแม่ขาดสติ คุมอารมณ์ไม่อยู่

ความรุนแรงเช่นนี้อาจสร้างบาดแผลในใจลูก
ทำให้ลูกเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่มั่นคง ขาดความเชื่อมันในตัวพ่อแม่
ยิ่งทำให้ลูกดื้อรั้นมากกว่าเดิมได้

ลูกที่ถูกตีเช่นนี้บ่อยๆ
อาจชาชินและซึมซับกับกระบวนการการใช้ความรุนแรงไปโดยไม่รู้ตัว
กลายเป็นเด็กก้าวร้าว และใช้กำลังตัดสินปัญหามากกว่าใช้เหตุผล

พ่อแม่หลายคนที่ตีลูกแบบใช้ความรุนแรง จะเกิดความรู้สึกผิดตามมา
หลังจากที่เริ่มมีสติและอารมณ์โกรธหายไป
จึงชดเชยกับลูกด้วยการตามใจเป็นพิเศษ หรือร้องไห้เสียใจกับลูกที่ตัวเองทำรุนแรงไป
จะยิ่งทำให้ลูกเกิดความสับสน ขาดความเชื่อมั่น กลายเป็นว่าลูกก็ไม่ได้เรียนรู้สิ่งที่เราจะสอนจริงๆ


ฝากทิ้งท้ายเรื่องการตีคือ ควรจะเลือกวิธีนี้กับเรื่องที่สำคัญจริงๆ และยังมีวิธีลงโทษแบบอื่นที่ไม่จำเป็นต้องใช้การตี เช่น การตัดสิทธิ์บางอย่างถ้าละเมิดกฎ
ซึ่งถ้าคุมลูกได้ จะไม่ใช้วิธีการตีเลยก็ยิ่งดี

ควรหยุดวิธีการตี เมื่อลูกเข้าวัยรุ่น เพราะลูกเริ่มหวงแหนสิทธิส่วนบุคคล การตีเหมือนกับเป็นการการละเมิดด้านร่างกายกับลูก


....ลูกต้องการพ่อแม่ที่เป็นแบบอย่างในการควบคุมอารมณ์ พ่อแม่ต้องมีสติ
และก่อนตีลูก ลองตอบคำถามข้างต้นของบทความกับตัวเองให้ได้ก่อนทุกครั้งนะครับ...
โดย: เจ้าบ้าน [29 พ.ค. 56 22:53] ( IP A:58.9.235.81 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน