กองกำลังป้องกันตนเองทางเรือ ของญี่ปุ่น (JMSDF)
|
ความคิดเห็นที่ 1 ขึ้นชื่อว่า สงคราม มันมีแต่ความสูญเสียและสุดท้ายก็ต้องมีผู้แพ้และผู้ชนะ จนถึงช่วงที่ญี่ปุ่นต้องยอมแพ้สงครามในที่สุด หลังจากที่โดนทิ้งระเบิดปรมาณูที่ ฮิโรชิมาและนางาซากิ หลังจากนั้นญี่ปุ่นต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆในช่วงหลังจากเป็นผู้แพ้สงครามซึ่งต้องพบกับความยากลำบากในทุกๆด้าน แต่ขึ้นชื่อว่า นักรบซามูไร สายเลือดบูชิโด ที่ถ่ายทอดจากคนรุ่นสู่รุ่นมาเป็นระยะเวลาหลายร้อยปี ญี่ปุ่นก็สามารถฟื้นฟูประเทศจนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก กองทัพเรือที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต ถึงแม้จะด้วยจากสนธิสัญญาหรือรัฐธรรมนูญที่ญี่ปุ่นกำหนดไว้ก็ตาม กองทัพเรือก็เปลี่ยนไปเรียกชื่อใหม่ว่า กองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น หรือ JMSDFที่ย่อมาจาก Japan Maritime Self-Defense Force นั้นปัจจุบันก็ยังความยิ่งใหญ่เหมือนเดิมถึงแม้อาจจะไม่เท่าในอดีตก็ตาม
ถึงแม้จะใช้ชื่อว่า กองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) พูดง่ายๆว่าใช้สำหรับในการป้องกันตนเองเท่านั้น ห้ามไปรุกรานใครและห้ามผลิตอาวุธขายให้ใครก็ตาม แต่ในช่วงระยะเวลาเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา กองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) ก็มีศักยภาพในการต่อเรือรบเองได้ไม่ว่าจะเป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์,เรือพิฆาต,เรือดำน้ำและเรือประเภทอื่นๆรวมไปถึงอากาศยานต่างๆ เหมือนในอดีต เพียงแต่ที่สำคัญเรือรบและอากาศยานส่วนใหญ่ได้รับลิขสิทธิ์และเทคโนโลยีจากอเมริกา ผู้ที่ในอดีตเคยรบราฆ่าฟันกันมา ให้ญี่ปุ่นมาผลิตใช้งานเองเกือบบอกได้ว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ใน กองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF)เกือบทั้งหมดผลิตขึ้นใช้งานเองในประเทศแทบทั้งสิ้น มันแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถและจิตใจที่คนในประเทศนี้ไม่เคยยอมแพ้ ดร.เซมเป้ไม่แปลกใจเลยครับ ที่พอได้มีโอกาสรวบรวมอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น (JSDF) บอกได้เลยว่าศักยภาพและขีดความสามารถน้องๆพวกที่ชอบเรียกตัวเองว่า มหาอำนาจทั้งหลายเลยครับ และอาจจากการที่เคยเป็นมหาอำนาจทางเรือในอดีต ปัจจุบันนี้ญี่ปุ่น มีกองกำลังทางเรือที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง มันทำให้ดร.เซมเป้ ยังเคยนึกถึงซีรียส์ญี่ปุ่น เรียวมะ ผู้ที่เป็นจุดเริ่มต้นในการเปิดประเทศญี่ปุ่น โดยการเดินทางทางทะเลออกไปในภูมิภาคต่างๆให้ทั่วโลกได้รู้จักพวกเขามาจนถึงทุกวันนี้

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:02] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 อย่างที่ทราบแล้วว่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นหมู่เกาะ มีเกาะขนาดใหญ่มากๆถึง 4 เกาะและเกาะเล็กๆอีกสามพันกว่าๆมีทะเลล้อมรอบทั้งทะเลญี่ปุ่นที่ใกล้ทวีปเอเซีย และทางมหาสมุทรแปซิฟิค ที่เป็นทะเลเปิด เพราะฉะนั้น กองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) จึงต้องจัดวางกำลังและขีดความสามารถในการป้องกันตนเองให้มากที่สุด ดร.เซมเป้แปลกใจนิดหน่อยตรงที่กองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) มีกำลังพลประมาณ 45,800 นาย ซึ่งพอๆกับประเทศเราเลยครับและการจัดวางกำลังก็ใกล้เคียงกัน แต่ทำมั๊ยทำไมอาวุธยุทโธปกรณ์ของเราน้อยกว่าเขาตั้งเยอะทั้งที่กำลังพลก็ใกล้เคียงกัน เข้าใจนะครับว่าบ้านเรางบทางทหารทุกเหล่าทัพมันน้อย เพราะสิ่งเหล่านี้มันเป็นแค่การป้องกัน มีแต่ใช้กับใช้หรือสิ้นเปลืองผลที่ได้ตามมาอาจไม่เข้าตานักการเมืองรวมถึงประชาชนที่ไม่ทราบว่าทำไมเราต้องมีกองทัพไว้ปกป้องเราไม่ใช่แต่แค่ตัวเราแต่ยังปกป้องทรัพย์สินของส่วนรวมนั่นคือ ทรัพยากรต่างๆของประเทศ
ดร.เซมเป้ คิดว่าพวกเราจะเห็นคุณค่าอะไรสักอย่างก็ต่อเมื่อเราต้องสูญเสียสิ่งเหล่านั้นไปแล้ว เหมือนน้ำท่วมที่ผ่านมาถึงค่อยมาเห็นค่าว่าจะต้องหางบประมาณมาทำการป้องกันอย่างจริงจัง จะหวังได้หรือเปล่าโปรดติดตามกันให้ดีๆนะครับ ซึ่งอย่างที่ทราบมันต้องใช้เงินก้อนมหาศาลเท่าไร เงินทุกบาททุกสตางค์มาจากใครมิทราบ ก่อนหน้านี้ไม่รู้จักทำกันเหมือนสุภาษิตที่ว่า วัวหายล้อมคอก กลับมาต่อที่กองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) เดี๊ยวความดันขึ้นอีก...555 เพราะฉะนั้นกองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่และกองบัญชาการ ตั้งอยู่ที่ โยโกซูกะและแบ่งขอบเขตความรับผิดชอบออกเป็นกองเรือ 4 ภาคก็อาจจะคล้ายบ้านเรา ซึ่งจะประกอบด้วย

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:04] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 กองเรือภาคที่ 1 มีฐานทัพเรืออยู่ที่ โยโกซูกะ ซึ่งรับผิดชอบด้านตะวันออกและตอนกลางของเกาะญี่ปุ่นที่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิค
กองเรือภาคที่ 2 มีฐานทัพเรืออยู่ที่ ซาเซโบะ รับผิดชอบทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะญี่ปุ่นหรือทะเลญี่ปุ่นตอนล่าง
กองเรือภาคที่ 3 มีฐานทัพเรืออยู่ 2 แห่งคือที่ มาอิซุรุ และ โอมินาโตะ มีพื้นที่รับผิดชอบคลอบคลุมพื้นที่ตอนกลางของญี่ปุ่นที่ติดทางฝั่งทะเลญี่ปุ่นและตอนเหนือของญี่ปุ่นคือรอบๆเกาะฮกไกโด
กองเรือภาคที่ 4 มีฐานทัพเรืออยู่ที่ คิเระ มีพื้นที่รับผิดชอบตอนกลางช่วงล่างของญี่ปุ่นและพื้นที่โดยรอบเกาะชิโกกุ ที่ติดกับฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:05] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 การเรียกชื่อของกองเรือต่างๆ บางชื่อ ดร.เซมเป้อาจตั้งชื่อไว้ให้เข้าใจภาพมากขึ้น ถ้าไม่ถูกต้อง 100% ถ้าผิดเพี้ยนไปบ้างก็อย่าว่ากันนะครับ กองเรือภาคทั้ง 4 ภาคของกองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) จะมีการจัดกำลังทางเรือในแต่ละภาคจะประกอบด้วย
กองเรือหลักป้องกันตนเอง ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 4 กองเรือหลัก ในแต่ละกองเรือหลักจะมีอยู่ 2 หมวดเรือ ซึ่งจะกระจายไปในกองเรือภาคและฐานทัพเรือประจำภาคต่างๆ มีหน้าที่หลักโดยตรงก็คือป้องกันตนเอง รักษาดูแลน่านน้ำรอบๆเกาะญี่ปุ่น ปกป้องผละประโยชน์และทรัพยาการทางทะเลเหมือนกับกองทัพเรือของทุกประเทศนั่นแหละครับ การจัดกำลังหมวดเรือจะมี เรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์(DDH) ,เรือพิฆาต(หนัก)ติดอาวุธปล่อยนำวิถี(DDG),เรือพิฆาต(DD) รวมถึงเรือพิฆาตเบาหรือจัดอยู่ประเภทเรือฟริเกต(DE) ในอัตราหมวดละ 3-4 ลำ กองเรือประจำภูมิภาค ซึ่งอาจจะคล้ายๆกับภารกิจกองเรือตรวจอ่าวของบ้านเรา กองเรือประจำภูมิภาคจะมีอยู่ 5 หมวดเรือซึ่งประจำการอยู่ในภูมิภาคและฐานทัพเรือทั้ง 5 ฐานทัพเรือและรับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ จากภูมิศาสตร์ที่เป็นเกาะ ซึ่งจะมีหน้าที่ลาดตระเวนตรวจการณ์หรืออาจร่วมกับกองเรือหลักป้องกันตนเองเพราะฉะนั้นจึงต้องใช้เรือที่มีขนาดใหญ่และมี เช่น เรือพิฆาต(DD) และ เรือพิฆาตเบาหรือจัดอยู่ประเภทเรือฟริเกต(DE) ในอัตราหมวดละ 3-4 ลำ เป็นกองกำลัง

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:08] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 กองเรือดำน้ำ ของกองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) จะมีอยู่ 2 กองเรือดำน้ำคือกองเรือดำน้ำที่1 (หมวด 1,3 และ5) กับกองเรือดำน้ำที่ 2 (หมวด 2 และ 4) หมวดละ 3-4 ลำ ซึ่งกองเรือดำน้ำญี่ปุ่นมีเรือดำน้ำประจำการอยู่ทั้งหมด 17 ลำ (อนาคตเพิ่มอีก 3 ลำ)ซึ่งถือว่ามากพอสมควรนะครับ มีฐานทัพอยู่ 2 แห่งคือ โยโกซูกะ ที่กองเรือดำน้ำที่ 2 ใช้เป็นฐานทัพและ คิเระ ที่มีกองเรือดำน้ำที่ 1 ประจำการอยู่และอย่างที่ทราบเรือดำน้ำทุกลำผลิตเองใช้งานในประเทศ นี่ถ้าญี่ปุ่นติดว่าไม่สามารถส่งอาวุธขายให้ใครได้ กองทัพเรือไทยและแฟนๆที่เชียร์ให้จัดหาเรือดำน้ำก็น่าจะจัดหาเรือดำน้ำมาจากญี่ปุ่นนะครับ อย่างน้อยในอดีต(สมัยคุณลุง)เราก็เคยสั่งซื้อเรือดำน้ำประจำการเป็นชาติแรกก่อนใครในภูมิภาคนี้มาแล้ว 
| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:11] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 กองเรือกวาดทุ่นระเบิด ถือว่าเป็นกองเรือที่มีความจำเป็นต่อทุกกองทัพเรือนอกเหนือจากเรือรบหลัก เพราะสงครามทุ่นระเบิดก็มีผลมากถ้าถูกปิดล้อมโดยการวางทุ่นระเบิด ถึงแม้รอบๆเกาะญี่ปุ่นจะเป็นทะเลเปิดแต่ก็มีบางพื้นที่ถ้าถูกปิดอย่างทะเลญี่ปุ่นก็จะส่งผลต่อการเดินทางทางทะเล กองเรือกวาดทุ่นระบิดของของกองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) มีเรือพี่เลี้ยงและสนับสนุนเรือกวาดทุ่นระเบิด,เรือกวาดทุ่นระเบิดไกลฝั่งและเรือกวาดทุ่นระเบิดใกล้ฝั่ง รวมๆกันประมาณ 30 ลำซึ่งกองเรือกวาดทุ่นระเบิดจะมีฐานทัพอยู่ที่โยโกซูกะ และ คิเระ เหมือนกับกองเรือดำน้ำ
| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:16] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 กองเรือยกพลขึ้นบกและลำเลียง จะเป็นกองเรือที่ให้การสนับสนุนการรบยกพลขึ้นบกทั้งทหารราบและรถถัง ยานเกราะขนาดต่างๆตามความเหมาะสม ซึ่งมีเรือสงครามสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกขนาดใหญ่ (LST)จำนวน 3 ลำสามารถบรรทุก ยาน LCAC รถถังและยานเกราะ รวมถึงเฮลิคอปเตอร์,เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่(LSU),เรือยกพลขึ้นบกขนาดกลาง(LCU) อย่างละ 2 ลำ ,เรือระบายพลขนาดต่างๆ(LCM) รวมถึงยานสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก (LCAC)อีก 6 ลำ ซึ่งกองเรือยกพลจะมีฐานทัพหลักอยู่ที่ โยโกซูกะ และบางส่วนก็กระจายไปตามอีก 4 ฐานทัพเรือที่เหลือ
| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:17] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 8 กองเรือสนับสนุน จะเป็นกองเรือสนับสนุนในด้านต่างๆ เช่น เรือส่งกำลังบำรุงขนาดใหญ่(AMS) , เรือเติมน้ำมันขนาดใหญ่ (AOE) ซึ่งเรือทั้งสองประเภทสามารถส่งเสบียงและเติมน้ำมันได้ในกลางทะเล มีไม่กี่ประเทศที่สามารถทำภารกิจแบบนี้ได้ ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งที่มีศักยภาพด้านนี้นะครับ นอกจากนี้ก็ยังมี เรือตัดน้ำแข็ง(AGB),เรือสำรวจทะเลลึกและเรืออุทกศาสตร์(AGS-ASE),เรือกู้ภัยช่วยเหลือโดยใช้เรือดำน้ำและเรือกู้ภัยเรือดำน้ำ(ASR-AS) และเรือประเภทต่างๆสำหรับใช้งานในการสนับสนุน ซึ่งกองเรือสนับสนุนนี้จะมีฐานทัพหลักอยู่ที่ โยโกซูกะและฐานทัพเรืออื่นๆตามภารกิจ
| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:19] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 กองเรือฝึก จะมีหน้าที่สำหรับฝึกฝึกนักเรียนนายเรือและกำลังพลโดยเฉพาะ ซึ่งทางกองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) มีเรือที่ออกแบบมาเป็นเรือฝึกโดยตรงอยู่ 1 ลำ และก็ได้ทำการปรับปรุงเรือพิฆาตชั้น ฮัทซูยุกิ และ อซากิริ อย่างละ 2 ลำมาปรับปรุงเป็นเรือฝึก ซึ่งกำลังพลหรือนักเรียนนายเรือ สามารถทำการฝึกฝนได้เหมือนจริง เพราะระบบอาวุธและระบบต่างๆก็ไม่แตกต่างจากเรือรบหลักที่ประจำการเท่าไหร่ รวมไปถึงการปรับปรุงเรือดำน้ำชั้น ฮารุชิโอะ 2 ลำให้เป็นเรือดำน้ำฝึกด้วย เพื่อสร้างศักยภาพให้กำลังพลเรือดำน้ำ นอกจากนี้ ยังกองบัญชาการฝึกทางเรือและทางอากาศ และหน่วยงานด้านอื่นๆ ดร.เซมเป้ ไม่ได้ลงรายละเอียดเพราะจะเน้นในส่วนกำลังรบเป็นหลักนะครับ

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:20] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 10 กำลังรบทางเรือของกองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) จะประกอบด้วย
เรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์(DDH) 4 ลำ (ชั้น Hyuga 2 ลำและชั้น Shirane 2 ลำ)
เรือพิฆาต(หนัก)ติดอาวุธปล่อยนำวิถี (DDG) 8 ลำ (ชั้น Kongo 4 ลำ,ชั้น Atago 2 ลำ,ชั้น Tachikaze 2 ลำ)
เรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถี(DD) 29 ลำ (ชั้นMurasame 9 ลำ,ชั้นTakanami 5 ลำ,ชั้นHatsuyuki 9 ลำ,ชั้น Asagirii 6 ลำ)
เรือพิฆาต(เบา)หรือเรือฟริเกต (DE) 6 ลำ (ชั้น Abukuma 6 ลำ)
เรือดำน้ำ (SS) 17 ลำ (ชั้น Soiyu 4 ลำ,ชั้น Harushio 2 ลำ,ชั้น Oyashio 11 ลำ)
เรือตรวจการณ์ติดอาวุธปล่อยนำวิถี (PG) 6 ลำ (ชั้น Hayabusa 6 ลำ)
เรือสนับสนุนการกวาดทุ่นระเบิด(MST-MCL) 4 ลำ (ชั้น Uraga มี 2 ลำ,ชั้น Nijima มี 1 ลำ,ชั้น Ieshima มี 1 ลำ)
เรือกวาดทุ่นระเบิดไกลฝั่ง(ทะเลลึก)(MSO) 3 ลำ (ชั้น Yaeyama มี 3 ลำ)
เรือกวาดทุ่นระเบิดใกล้ฝั่ง (MSC) 19 ลำ (ชั้น Sugashima 12 ลำ,ชั้น Uwajima 7 ลำ)
เรือสงครามสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกขนาดใหญ่(LST) 3 ลำ (ชั้น Osumi 3 ลำ)
เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ (LSU) 2 ลำ (ชั้น Yura 2 ลำ)
เรือยกพลขึ้นบกขนาดกลาง (LCU) 2 ลำ (ชั้น I-Go 2 ลำ)
เรือระบายพล (LCM) 12 ลำ (LCM ชั้น YF 2121 จำนวน 10 ลำ ,LCM ชั้น YF 2150 จำนวน 2 ลำ )
ยานเบาะอากาศสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก (LCAC) 6 ลำ
เรือส่งกำลังบำรุงขนาดใหญ่ (AMS) 5 ลำ (ชั้น Hiuchi 5 ลำ)
เรือเติมน้ำมันขนาดใหญ่ (AOE) 5 ลำ (ชั้น Mashu 2 ลำ,ชั้น Towada 3 ลำ)
เรือสำรวจอุทกศาสตร์ (AGS) 4 ลำ เรือสำรวจทางทะเล (ASE) 2 ลำ เรือตัดน้ำแข็ง (AGB) 1 ลำ เรือสำหรับวางเคเบิลใต้น้ำ (ARC) 1 ลำ เรือกู้ภัยเรือดำน้ำ (ASR) 1 ลำ เรือสนับสนุนกู้ภัยเรือดำน้ำ (AS) 1 ลำ
เรือฝึก (TV) 5 ลำ (ชั้น Kashima 1 ลำ,ชั้น Hatsuyuki 2 ลำ,ชั้น Asagiri 2 ลำ)
เรือดำน้ำฝึก (TSS) 2 ลำ (ชั้น Harushio 2 ลำ)
เรือพี่เลี้ยงและสนับสนุนการฝึก (ATS) 2 ลำ (ชั้น Tenryu 1 ลำ,ชั้น Kurobe 1 ลำ)
| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:29] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 11 ดร.เซมเป้ ขออนุญาตแบ่งเรือออกเป็น 2 กลุ่มเพื่อจะได้เข้าใจง่ายๆนะครับ ก็คือกลุ่มของเรือรบหลัก (Combatant Ship) ที่ทำการรรบโดยตรงหรือป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ซึ่งประกอบด้วย เรือพิฆาต-เรือดำน้ำ,เรือกวาดทุ่นระเบิด,เรือตรวจการณ์และเรือยกพลขึ้นบก กับกลุ่มที่สองคือกลุ่มเรือสนับสนุน( Auxiliary Ship) ที่ประกอบด้วยเรือส่งกำลังบำรุงขนาดใหญ่,เรือฝึกและเรือสนับสนุนงานในด้านต่างๆ นะครับ
กลุ่มของเรือรบหลัก (Combatant Ship) ประกอบด้วย
เรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์(DDH) มี 2 ชั้น คือชั้น Hyuga 2 ลำ และชั้น Shirane 2 ลำ
เรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์(DDH) ชั้น Hyuga 2 ลำ เป็นเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ที่ JMSDF สร้างขึ้นใหม่ 2 ลำคือ DDH 181 Hyuga และ DDH 182 Ise สร้างขึ้นเพื่อทดแทนเรือรุ่นเก่าที่อีก 3-4 ปีข้างหน้าจะปลดประจำการ ถึงแม้แบบเรือน่าจะเป็นเหมือนและน่าจะเรียกว่าเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์มากกว่า แต่ JMSDF ก็จัดให้อยู่ในประเภทเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ เหมือนรุ่นก่อนๆ จึงใช้เรียก DDH มากกว่า OPHC (เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ )เรือทั้งสองลำนี้มีระวางขับน้ำ 18,000 ตัน(สูงสุด) มีความยาวเกือบสองเท่าสนามฟุตบอลคือ 197 เมตร กว้าง 33 เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบ COGAG (Combined Gas Turbine and Gas Turbine) ก็คือใช้เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ จำนวน 4 เครื่องขนาด 75,000 KW มีเพลาใบจักร 2 เพลา สามารถทำความเร็วได้ถึง 30 นอต มีระบบอำนวยการรบ(ATECS)-เรดาห์ตรวจการณ์-ระบบควบคุมการยิงที่ทันสมัย ในส่วนระบบอาวุธจะมีระบบท่อยิงแนวดิ่งแบบ MK 41 VLS จำนวน 16 ท่อยิงใช้สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศแบบ ESSM (Evolved Sea Sparrow Missile) และจรวดปราบเรือดำน้ำ RUM-139 VL ASROC,ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำแฝดสาม 2 แท่นยิง,ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ,ปืนกลขนาด 12.7 มม. มีเฮลิคอปเตอร์ประจำการ 2 แบบคือ ฮ. SH 60 K Seahawk 3 เครื่องและ ฮ. MCH-101 อีก 1 เครื่อง ที่แปลกใจก็คือถ้าเราลองเปรียบเทียบกับร.ล จักรีนฤเบศร ก็ถือว่ามีขนาดมิติของเรือใกล้เคียงกัน แต่ DDH 181 Hyuga มีระวางขับน้ำมากกว่าถึง 6,000 ตัน (ร.ล จักรีนฤเบศร ระวางขับน้ำสูงสุดไม่ถึง 12,000 ตัน) และมีกำลังพลเพียง 360-370 นายเองครับ
| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:33] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 12 เรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์(DDH) ชั้น Shirane 2 ลำ
เป็นเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ที่ JMSDF สร้างขึ้นมาใช้งานตั้งแต่ยุค 80 ซึ่งมี 2 ชั้นคือชั้น Haruna 2 ลำ(ปลดประจำการไปแล้ว) และชั้น Shirane 2 ลำ คือ DDH 143 Shirane และ DDH 144 Kurama ที่ยังประจำการอยู่ เรือทั้งสองลำมีระวางขับน้ำ 7,500 ตัน(สูงสุด) มีความยาว159 เมตร กว้างเพียง 17.5 เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบ เครื่องยนต์กังหันไอน้ำเทอร์โบชาร์จ 2 ตัวและเครื่องยนต์เทอร์ไบน์อีก 2 ตัว ให้กำลังขนาด 52 MW โดยมีเพลาใบจักร 2 เพลา สามารถทำความเร็วได้ถึง 31 นอต มีพลประจำเรือ 350 นาย มีเขี้ยวเล็บอย่างระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศพิสัยใกล้แบบ Sea Sparrow Missile บนแท่นยิง 8 ท่อยิง(คล้ายๆท่อยิงอัสปิเด้ ใน ร.ล รัตนโกสินทร์),จรวดปราบเรือดำน้ำ ASROC MK 112 (8 ท่อยิง),ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ MK 32 จำนวน 2 แท่นยิง,ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ,ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว (127 มม.) Mark 42 จำนวน 2 กระบอก มี ฮ.ปราบเรือดำน้ำ SH 60 J(K) Seahawk จำนวน 3 เครื่อง

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:35] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 13 เรือพิฆาต(หนัก)ติดอาวุธปล่อยนำวิถี (DDG) มี 3 ชั้น เรือรวม 8 ลำ คือ
เรือพิฆาต(หนัก)ติดอาวุธปล่อยนำวิถี (DDG) ชั้น Kongo 4 ลำ เป็นเรือพิฆาต(หนัก)ติดอาวุธปล่อยนำวิถี (DDG) ที่ JMSDF สร้างขึ้นเองและเป็นเรือที่ถอดแบบจากเรือพิฆาตชั้น Arieigh Burke ของอเมริกา ที่ติดตั้งระบบ Aegis ซึ่งเป็นระบบอำนวยการรบที่ทันสมัยที่สุดในโลก สามารถจะควบคุมสั่งการเชื่อมโยงในระบบต่างๆ เข้าด้วยกันไม่ว่าจะเป็นระบบตรวจจับและระบบอาวุธที่สามารถทำการรบได้ทั้ง 3 มิติ คิดดูนะครับว่าในอดีตสองประเทศนี้เคยเป็นคู่สงครามมาก่อน แต่ตอนนี้อเมริกา ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับญี่ปุ่นได้ จะมีกี่ประเทศในโลกนี้ครับ ถึงแม้อาจให้ไม่ทั้งหมดอาจมีกั๊กไว้บ้างก็ตามเถอะ
เรือพิฆาต(หนัก)ติดอาวุธปล่อยนำวิถี (DDG) ชั้น Kongo มีทั้งหมด 4 ลำคือคือ DDG 173 Kongo , DDG 174 Kirishima, DDG 175 Myoko , DDG 176 Chokai เรือทั้ง 4 ลำมีระวางขับน้ำสูงสุด 9,500 ตัน มีความยาว161 เมตร กว้าง 21 เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบ เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 เครื่อง ขนาด 75 MW มีเพลาใบจักร 2 เพลา ทำความเร็วได้ถึง 30 นอต มีพลประจำ 300 นาย และมีเขี้ยวเล็บที่ทันสมัยอย่างระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น RGM 84 Harpoon 2 แท่นๆละ 4 ท่อยิง ระบบแท่นยิงแนวดิ่งแบบ MK 41 VLS สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศพิสัยกลางแบบ SM-2 MR Standard และรุ่น SM 3 Standard IA (หัวเรือ 29 ลูกและท้ายเรือ 61 ลูก)และจรวดปราบเรือดำน้ำ RUM VL 139 ASROC(ยิงแนวดิ่ง) ,ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 หรือ Type 73 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ Type 68 จำนวน 2 แท่นยิง,ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ,ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว (127 มม.) Oto-Breda จำนวน 1 กระบอก.และมี ฮ.ปราบเรือดำน้ำ SH 60 J(K) Seahawk 1 เครื่อง

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:38] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 14 เรือพิฆาต(หนัก)ติดอาวุธปล่อยนำวิถี (DDG) ชั้น Atago 2 ลำ
เรือพิฆาต(หนัก)ติดอาวุธปล่อยนำวิถี (DDG) ชั้น Atago เป็นเรือที่พัฒนาและปรับปรุงแบบมาจากเรือชั้น Kongo มีทั้งหมด 2 ลำคือ DDG 177 Atago , DDG 178 Ashigara เรือทั้ง 2 ลำมีระวางขับน้ำสูงสุด 10,000 ตัน มีความยาว170 เมตร กว้าง 21 เมตร ซึ่งมีระวางขับน้ำที่มากกว่าและยาวกว่าชั้น Kongo ขับเคลื่อนด้วยระบบ เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 เครื่อง เพลาใบจักร 2 เพลา ขนาด 75 MW ทำความเร็วได้ถึง 30 นอต มีพลประจำ 300 นาย และมีการปรับปรุงระบบเรดาห์ตรวจการณ์ ,โซนาร์,ระบบสงครามอิเลคทรอนิกส์รุ่นใหม่ มีเขี้ยวเล็บอย่างระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น SSM 1 B (Type 90) ที่ญี่ปุ่นพัฒนาเองใช้ยิงโจมตีทำลายเรือรบ,ระบบแท่นยิงแนวดิ่งแบบ MK 41 VLS ใช้สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศพิสัยกลางแบบ SM-2 MR Standard (หัวเรือ 64 ลูกและท้ายเรือ 32 ลูก) และจรวดปราบเรือดำน้ำ RUM 139 ASROC(ยิงแนวดิ่ง),ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 หรือ Type 73 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ Type 68 จำนวน 2 แท่นยิง,ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ,ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว (127 มม.) MK 45 Mod 4,จำนวน 1 กระบอกและปืน 12.7 มม. ยังมี ฮ.ปราบเรือดำน้ำ SH 60 J(K) Seahawk 1 เครื่อง

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:39] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 15 เรือพิฆาต(หนัก)ติดอาวุธปล่อยนำวิถี (DDG) ชั้น Hatakaze (Tachikaze) 2 ลำ
เป็นเรือพิฆาต(หนัก)ติดอาวุธปล่อยนำวิถีรุ่นๆแรกที่ประจำการช่วงกลางยุค 80 ซึ่งจริงๆแล้วเรือรุ่นนี้อยู่ในชั้น Tachikaze แต่ได้ปลดประจำการไปแล้ว 3 ลำรวมทั้งเรือชื่อเดียวกับชั้นนี้ด้วย จึงยังเหลือใช้งาน 2 ลำคือ DDG 171 Hatakaze , DDG 172 Shimakaze เรือทั้งสองมีระวางขับน้ำสูงสุด 4,700 ตัน มีความยาว150 เมตร กว้าง 16.4 เมตร ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบ เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 เครื่อง ของ Rolsl-Royce Spey และ Rolsl-Royce Olympus อย่างละ 2 เครื่องมีเพลาใบจักร 2 เพลา ขนาด 54,000 KW ทำความเร็วได้ถึง 30 นอต มีพลประจำ 260 นาย ติดตั้งเขี้ยวเล็บอย่างระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น RGM 84 Harpoon ใช้ยิงโจมตีทำลายเรือรบ2 แท่นๆละ 4 ท่อยิง ,อาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศพิสัยกลางแบบ SM-2 MR Standard บนแท่นยิงเดี่ยวรุ่นแรกๆ,จรวดปราบเรือดำน้ำ RUM 139 ASROC,ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ Type 68 จำนวน 2 แท่นยิง,ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ,ปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว (127 มม.) Mark 42 จำนวน 2 กระบอก และมี ฮ.ปราบเรือดำน้ำ SH 60 J(K) Seahawk 1 เครื่อง

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:42] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 16 เรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถี(DD) มีทั้งหมด 4 ชั้นเรือ รวม 29 ลำ
เรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถี(DD) ชั้น Hatsuyuki 9 ลำ
เป็นเรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถีรุ่นๆแรกที่ประจำการช่วงกลางยุค 80 ซึ่งจริงๆแล้วมีเรือรุ่นนี้ที่ปลดประจำการไปแล้ว 1 ลำรวมคือเรือชื่อเดียวกับชั้นนี้ด้วย DD 122 Hatsuyuki และนำไปเป็นเรือฝึกอีก 1 ลำคือ TV 3513 Shimayuki (DD 122) แต่ยังเหลือใช้งานอีกถึง 9 ลำคือ DD 124 Mineyuka , DD 125 Sawayuki, DD 126 Hamayuki , DD 127 Isoyuki ,DD 128 Haruyuki , DD 129 Yamayuki, DD 130 Matsuyuki , DD 131 Setoyuki และ DD 132 Asayuki เรือทั้งหมดมีระวางขับน้ำสูงสุด 3,099 ตัน มีความยาว 130 เมตร กว้าง 13.6 เมตร ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบ เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 เครื่อง ของ Rolsl-Royce Kawasaki RM1C(7.4 MW) และ Rolsl-Royce Olympus(34 MW) อย่างละ 2 เครื่อง มีเพลาใบจักร 2 เพลา ทำความเร็วได้ถึง 30 นอต มีพลประจำ 200 นาย ติดตั้งเขี้ยวเล็บอย่างระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น พื้น RGM 84 Harpoon ใช้ยิงโจมตีทำลายเรือรบ 2 แท่นๆละ 4 ท่อยิง ,อาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศพิสัยใกล้แบบ Sea Sparrow Missile Mark 29 บนแท่นยิง 8 ท่อ,ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ,จรวดปราบเรือดำน้ำ RUM 139 ASROC และตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ HOS-301จำนวน 2 แท่นยิง,ปืนใหญ่ขนาด 76 มม.Otobreda จำนวน 1 กระบอก และมี ฮ.ปราบเรือดำน้ำ SH 60 J(K) Seahawk 1 เครื่อง
หมายเหตุ ต้องขออภัยนะครับที่ภาพในความคิดเห็นที่ 15 และ 16 ภาพสลับกันต้องขออภัยมา ณ ที่นี้...ฮิฮิ 
| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:48] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 17 เรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถี(DD) ชั้น Asagirii 6 ลำ
เป็นเรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถีรุ่นที่สร้างต่อจากชั้น Hatsuyuki ประมาณต้นยุค 90 ซึ่งจริงๆแล้วมีเรือรุ่นนี้นำไปเป็นเรือฝึก 2 ลำคือ TV 3516 Asagiri(DD 151) และ TV 3515 Yamagiri(DD 152) แต่ยังเหลือใช้งานอีก 6 ลำคือ DD 153 Yugiri , DD 154 Amagirii, DD 155 Hamagirii , DD 156 Setogiri ,DD 157 Sawagiri และ DD 158 Umigiri เรือทั้งหมดมีระวางขับน้ำสูงสุด 4,900 ตัน มีความยาว137 เมตร กว้าง 14.6 เมตร ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบ เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 เครื่องเพลาใบจักร 2 เพลา ทำความเร็วได้ถึง 30 นอต มีพลประจำ 200 นาย ติดตั้งเขี้ยวเล็บอย่างระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น พื้น RGM 84 Harpoon ใช้ยิงโจมตีทำลายเรือรบ 2 แท่นๆละ 4 ท่อยิง ,อาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศพิสัยใกล้แบบ Sea Sparrow Missile Mark 29 บนแท่นยิง 8 ท่อ,ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ,จรวดปราบเรือดำน้ำ RUM 139 ASROC และตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ HOS-301จำนวน 2 แท่นยิง,ปืนใหญ่ขนาด 76 มม.Otobreda จำนวน 1 กระบอก และมี ฮ.ปราบเรือดำน้ำ SH 60 J(K) Seahawk 1 เครื่อง

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:50] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 18 เรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถี(DD) ชั้น Murasame 9 ลำ
เป็นเรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถีที่สร้างประจำการปลายๆยุค 90 จนเข้ายุคปี 2000 ซึ่งสร้างทั้งหมดรวม 9 ลำคือ DD 101 Murasame, DD 102 Harusame, DD 103 Yudachi, DD 104 Kirisame,DD 105 Inajuma, DD 106 Samidare, DD 107 Ikajuchi , DD 108 Akebono และ DD 109 Ariake เรือทั้งหมดมีระวางขับน้ำสูงสุดถึง 6,100 ตัน มีความยาว151 เมตร กว้าง 17.4 เมตร ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบ เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 เครื่อง ของ Kawasaki Rolls-Royce Spey และ Ishikawajima Harima LM-2500 อย่างละ 2 เครื่องและ 2 เพลา ทำความเร็วได้ถึง 30 นอต มีพลประจำ 165 นาย มีเขี้ยวเล็บอย่างระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น SSM 1 B (Type 90) ที่ญี่ปุ่นพัฒนาเองใช้ยิงโจมตีทำลายเรือรบ , ระบบท่อยิงแนวดิ่งแบบ MK 48 VLS จำนวน 16 ท่อยิงใช้สำหรับปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศแบบ ESSM (Evolved Sea Sparrow Missile) ,ระบบท่อยิงแนวดิ่งแบบ MK 41 VLS จำนวน 16 ท่อยิงใช้สำหรับจรวดปราบเรือดำน้ำ RUM 139 VL ASROC ,ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 หรือ Type 73 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ Type 68 จำนวน 2 แท่นยิง,ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ และ ปืนใหญ่ขนาด 76 มม.OTO Melara 3 จำนวน 1 กระบอก สามารถบรรทุก ฮ.ปราบเรือดำน้ำ SH 60 J(K) Seahawk จำนวน 1 เครื่อง

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:51] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 19 เรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถี(DD) ชั้น Takanami 5 ลำ
เป็นเรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถีที่สร้างใหม่ช่วงระหว่างปี 2003-2006 ซึ่งสร้างทั้งหมดรวม 5 ลำคือ DD 110 Takanami , DD 111 Onami (ไม่ใช่ที่ลดเอวนะครับ), DD 112 Makinami, DD 113 Sazanami และ DD 114 Suzunami เรือทั้งหมดมีระวางขับน้ำสูงสุดถึง 6,300 ตัน มีความยาว151 เมตร กว้าง 17.4 เมตร ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบ เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 เครื่อง ของ Kawasaki Rolls-Royce Spey และ Ishikawajima Harima LM-2500 อย่างละ 2 เครื่องและ 2 เพลา ทำความเร็วได้ถึง 30 นอต มีพลประจำ 175 นาย มีเขี้ยวเล็บอย่างระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น SSM 1 B (Type 90) ที่ญี่ปุ่นพัฒนาเองใช้ยิงโจมตีทำลายเรือรบ , ระบบท่อยิงแนวดิ่งแบบ MK 41 VLS จำนวน 32 ท่อยิงใช้สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศแบบ ESSM (Evolved Sea Sparrow Missile) และจรวดปราบเรือดำน้ำ RUM 139 VL ASROC,ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 หรือ Type 73 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ Type 68 จำนวน 2 แท่นยิง,ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ และปืนใหญ่ขนาด 5 นิ้ว (127 มม.)รุ่นOto-Breda จำนวน 1 กระบอก และสามารถบรรทุก ฮ.ปราบเรือดำน้ำ SH 60 J(K) Seahawk 1 เครื่อง

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:52] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 20 เรือพิฆาต(เบา)หรือเรือฟริเกต (DE) มีเพียง 1 ชั้นเรือ มีประจำการอยู่ 6 ลำ
เรือพิฆาต(เบา)หรือเรือฟริเกต (DE) ชั้น Abukuma 6 ลำ
เป็นเรือพิฆาตเบาหรือจัดอยู่ในประเภทเรือฟริเกตติดอาวุธปล่อยนำวิถีที่ประจำการช่วงปลายๆยุค 80 จนถึงปัจจุบันมีใช้งาน 6 ลำคือ DE 229 Abukuma , DE 230 Jinsu, DE 231 Oyodo, DE 232 Sendai ,DE 233 Chikuma และ DE 234 Tone เรือทั้งหมดมีระวางขับน้ำสูงสุด 2,550 ตัน มีความยาว109 เมตร กว้าง 13 เมตร ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบ CODOG (Combined Diesel or Gas Turbine) คือใช้เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 2 เครื่อง ของ Rolsl-Royce Kawasaki SM1A(19.9 MW) หรือ Mitsubishi S12U MTK Diesels(4.4 MW) อีก 2 เครื่อง มีเพลาใบจักร 2 เพลา ทำความเร็วได้ถึง 30 นอต มีพลประจำ 120 นาย ติดตั้งเขี้ยวเล็บอย่างระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น พื้น RGM 84 Harpoon ใช้ยิงโจมตีทำลายเรือรบ 2 แท่นๆละ 4 ท่อยิง ,จรวดปราบเรือดำน้ำ RUM 139 ASROC,ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 บนแท่นยิงแฝดสามแบบ HOS-301จำนวน 2 แท่น,ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ,ปืนใหญ่ขนาด 76 มม.Otobreda จำนวน 1 กระบอก

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:54] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 21 เรือดำน้ำ (SS) มีทั้งหมด 3 ชั้นเรือ รวม 17 ลำ
เรือดำน้ำ (SS) ชั้น Soiyu 4 ลำ
เป็นเรือดำน้ำรุ่นใหม่ล่าสุดของ JMSDF ที่เข้าประจำการแล้วรวม 4 ลำคือ SS 501 Soryu ,SS 502 Unryu ,SS 503 Kakuryu และ SS 504 Kenryu(ซึ่งเข้าประจำการในปีนี้) ส่วนอีก 3 ลำจะทยอยเข้าประจำการภายในปี 2016 เรือดำน้ำรุ่นนี้มีระวางขับน้ำ ที่ผิวน้ำ 2,900 ตัน และใต้น้ำสูงสุด 4,200 ตัน มีความยาว 84เมตร กว้าง 9.1 เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบ Kawasaki 12 V 25/25 Type Diesel Engines จำนวน 2 เครื่องและ Kawasaki Kockums V4-275R Stirling Engines จำนวน 4 เครื่อง เพลาใบจักร 1 เพลา สามารถทำความเร็วที่ผิวน้ำ 13 นอตและใต้น้ำสูงสุด 20 นอต มีพลประจำเรือ 65 นาย มีเขี้ยวเล็บท่อยิงตอร์ปิโด 6 ท่อยิง HU-606 21 (ขนาด 533 มม.) ซึ่งสามารถยิงตอร์ปิโด Type 89 (30 ลูก)และ ระบบอาวุธปล่อยนำวิถีใต้น้ำ-สู่-พื้น UGM 84 Harpoon รุ่นที่สามารถยิงจากใต้น้ำได้

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 20:56] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 22 เรือดำน้ำ (SS) ชั้น Oyashio 11 ลำ
เรือดำน้ำชั้น Oyashio เป็นชั้นที่มีเรือดำน้ำประจำการจำนวนมากที่สุดใน 3 ชั้นและใช้ระยะเวลาสร้างตั้งแต่ 1998 จนถึง 2008 ที่เข้าประจำการแล้วรวม 11 ลำคือ SS 590 Oyashio ,SS 591 Michishio ,SS 592 Uzushio ,SS 593 Makishio,SS 594 Isoshio ,SS 595 Narushio, SS 596 Kuroshio ,SS 597 Takashio,SS 598 Yaeshio, SS 599 Setoshio และ SS 600 Mochishio เรือดำน้ำรุ่นนี้มีระวางขับน้ำ ที่ผิวน้ำ 2,750 ตัน และใต้น้ำสูงสุด 4,000 ตัน มีความยาว 81.7 เมตร กว้าง 8.9 เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบ เครื่องยนต์ดีเซลไฟฟ้า Kawasaki 12 V 25S จำนวน 2 เครื่อง เพลาใบจักร 1 เพลา สามารถทำความเร็วที่ผิวน้ำ 12 นอตและใต้น้ำสูงสุด 20 นอต มีพลประจำเรือ 70 นาย มีเขี้ยวเล็บท่อยิงตอร์ปิโด 6 ท่อยิง HU-605 21 (ขนาด 533 มม.) ซึ่งสามารถยิงตอร์ปิโด Type 89 (20 ลูก)และ ระบบอาวุธปล่อยนำวิถีใต้น้ำ-สู่-พื้น UGM 84 Harpoon รุ่นที่สามารถยิงจากใต้น้ำได้

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:00] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 23 เรือดำน้ำ (SS) ชั้น Harushio 2 ลำ
เรือดำน้ำชั้น Harushio ปลดประจำการไปแล้ว 3 ลำและนำไปเป็นเรือดำน้ำฝึก 2 ลำคือ SS 588 Fuyushio(TSS 3607) และ SS 589 Asashio (TSS 3601)เป็นเรือดำน้ำรุ่นต้นยุค 90 ของ JMSDF ที่ผลิตใช้เองจนถึงปัจจุบันเหลือเข้าประจำการเพียง 2 ลำคือ SS 586 Arashio และ SS 587 Wakashio เรือดำน้ำรุ่นนี้มีระวางขับน้ำ ที่ผิวน้ำ 2,450 ตัน และใต้น้ำสูงสุด 2,750 ตัน มีความยาว 77 เมตร กว้าง 10 เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเครื่องยนต์ดีเซล-ไฟฟ้า จำนวน 2 เครื่องและเพลาใบจักร 1 เพลา สามารถทำความเร็วที่ผิวน้ำ 12 นอตและใต้น้ำสูงสุด 20 นอต มีพลประจำเรือ 75 นาย มีเขี้ยวเล็บท่อยิงตอร์ปิโด 6 ท่อยิง Type 21 (ขนาด 533 มม.) ซึ่งสามารถยิงตอร์ปิโดได้ 2 แบบคือ ตอร์ปิโดType 89 และ ตอร์ปิโด Type 80 ASW(20ลูก) รวมถึงระบบอาวุธปล่อยนำวิถีใต้น้ำ-สู่-พื้น UGM 84 Harpoon รุ่นที่สามารถยิงจากใต้น้ำได้

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:01] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 24 เรือตรวจการณ์ติดอาวุธปล่อยนำวิถี (PG) ชั้น Hayabusa 6 ลำ
เป็นเรือตรวจการณ์ติดอาวุธปล่อยนำวิถี ชั้น Hayabusa ที่ JMSDF สร้างใช้งานเองตั้งแต่ปี 2000 จำนวนทั้งสิ้น 6 ลำคือ PG 824 Hayabusa,PG 825 Wakataka,PG 826 Otaka,PG 827 Kumataka,PG 828 Umitaka และ PG 829 Shirataka เรือทั้ง 6 ลำมีระวางขับน้ำสูงสุด 240 ตัน มีความยาว 50.1 เมตรและกว้าง 8.4 เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบ General electric LM 500-G07 Gas-turbine จำนวน 3 เครื่อง สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 46 นอต(ประมาณ 85 กม.ต่อชั่วโมง) มีพลประจำเรือ 21 นาย มีระบบอาวุธปล่อยพื้น-สู่-พื้น SSM 1 B (Type 90) สำหรับทำลายเรือรบ,ปืนใหญ่ขนาด 76 มม.Otobreda จำนวน 1 กระบอก และปืนกลขนาด12.7 มม จำนวน 2 กระบอก

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:02] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 25 เรือพี่เลี้ยงและสนับสนุนการกวาดทุ่นระเบิด(MST-MCL) มี 3 ชั้นเรือรวม 4 ลำ
เรือสนับสนุนการกวาดทุ่นระเบิดชั้น Uraga ที่สร้างปลายยุค 90 มีจำนวน 2 ลำคือ MST 463 Uraga และ MST 464 Bungo เป็นเรือที่มีระวางขับน้ำถึง 8,400 ตัน ความยาว 141 เมตรกว้าง 22 เมตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2 เครื่อง ทำความเร็ว 22 นอต มีกำลังพล 170 นาย นอกจากอุปกรณ์ระบบกวาดทุ่นขนาดใหญ่และยังสามารถบรรทุก เฮลิคอปเตอร์กวาดทุ่นระเบิด MH 53 E Super Stallion จำนวน 1 เครื่องเพื่อสนับสนุนช่วยในการกวาดทุ่นระเบิดทางอากาศได้ นอกจากนี้ยังมีเรือสนับสนุนและควบคุมการกวาดทุ่นระเบิดอีก 2 ลำคือ ชั้น Nijima มี 1 ลำ และชั้น Ieshima อีก 1 ลำ (คาดว่าน่าจะปลดประจำการเร็วๆนี้)

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:04] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 26 เรือกวาดทุ่นระเบิดไกลฝั่ง(ทะเลลึก)(MSO) มีเพียง 1 ชั้นเรือรวม 3 ลำ
เรือกวาดทุ่นระเบิดไกลฝั่ง ชั้น Yaeyama สร้างขึ้น 3 ลำ คือ MSO 301 Yaeuama ,MSO 302 Tsushima, MSO 303 Hachijyo เป็นเรือที่ถอดแบบจากเรือกวาดทุ่นระเบิดชั้น Avenger ของอเมริกา เป็นเรือที่มีระวางขับน้ำถึง 8,400 ตัน ความยาว 141 เมตร กว้าง 22 เมตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2 เครื่อง ทำความเร็ว 14 นอต มีกำลังพล 60 นาย นอกจากอุปกรณ์ระบบกวาดทุ่นสำหรับใช้งานที่มีความลึกและยังมีโซนาร์ SQQ-32 minehunting และ AQS-14 sidescan ในการตรวจจับและค้นหา รวมถึงยังติดปืนกลขนาด 20 มม. จำนวน 1 กระบอก

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:06] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 27 เรือกวาดทุ่นระเบิดใกล้ฝั่ง (MSC) มี 2 ชั้นเรือรวม 19 ลำ คือ
เรือกวาดทุ่นระเบิดไกลฝั่ง ชั้น Sugashima สร้างตั้งแต่ปี 1997-2007 สร้างขึ้นทั้งหมด 12 ลำ คือ MSC 681- MSC 692 เป็นเรือที่มีระวางขับน้ำถึง 510 ตัน ความยาว 57.7 เมตร กว้าง 9.4 เมตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2 เครื่อง ทำความเร็ว 14 นอต มีกำลังพล 40 นาย นอกจากอุปกรณ์ระบบล่าทำลายทุ่นและยังมีโซนาร์ Type 2093 สำหรับตรวจหา พร้อมกับติดปืนกลขนาด 20 มม. จำนวน 1 กระบอก
เรือกวาดทุ่นระเบิดไกลฝั่ง ชั้น Uwajima สร้างตั้งแต่ต้นยุค 90 ปัจจุบันน่าจะเหลือประจำการ 7 ลำ คือ MSC 674,MSC675,MSC676Kumijima,MSC677Makishima,MSC678Tobishima,MSC679 และ MSC680 เป็นเรือที่มีระวางขับน้ำถึง 490 ตัน ความยาว 58 เมตร กว้าง 9.4 เมตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2 เครื่อง ทำความเร็ว 14 นอต มีกำลังพล 40 นาย นอกจากอุปกรณ์ระบบกวาดทุ่นใกล้ฝั่ง พร้อมกับติดปืนกลขนาด 20 มม. จำนวน 1 กระบอก

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:16] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 28 เรือสงครามสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกขนาดใหญ่(LST) มีเพียง 1 ชั้นเรือจำนวน 3 ลำ
เรือสงครามสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ชั้น Osumi เป็นเรือสำหรับใช้เป็นฐานยกพลขึ้นบกโดยสามารถใช้การเคลื่อนที่ทั้งทางเรือโดยใช้ยาน LCAC หรือเรือระบายพลขนาดต่างๆ และทางอากาศโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงกำลังพล เรือ LST ชั้นนี้ถูกสร้างขึ้น 3 ลำคือ LST 4001 Osumi,LST 4002 Shimokita และ LST 4003 Kunisaki มีระวางขับน้ำสูงสุด 14,000 ตัน ยาว เมตรกว้างเมตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล Mitsui 16V42M-A จำนวน 2 เครื่อง ทำความเร็ว 22 นอต มีพลประจำเรือ 135 นาย มีระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx (CIWS) จำนวน 2 ระบบ.ปืนขนาด 12.7 มม. จำนวน 2 กระบอก สามารถบรรทุกยาน LCAC จำนวน 2 ลำ และมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ขนาด CH 47 Chinookได้ 2 เครื่องอย่างสบายๆ

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:18] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 29 เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ (LSU) มีเพียง 1 ชั้นเรือจำนวน 2 ลำ (ชั้น Yura 2 ลำ)
เรือยกพลขึ้นบกขนาดกลาง (LCU) มีเพียง 1 ชั้นเรือจำนวน 2 ลำ (ชั้น I-Go 2 ลำ)
เรือระบายพล (LCM) มีเพียง 2 ชั้นเรือ รวม 12 ลำ LCM ชั้น YF 2121 จำนวน 10 ลำ LCM ชั้น YF 2150 จำนวน 2 ลำ

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:20] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 30 ยานเบาะอากาศสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก (LCAC) จำนวน 6 ลำ
ยานเบาะจู่โจมสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก สามารถบรรทุกยานยนต์ทางทหาร,รถถัง,ยานเกราะรวมถึงกำลังพลเพื่อขึ้นบก ยานนี้ติดตั้งปืนกลขนาด 12.7 มม.และปืน 0.5 นิ้วอย่างละ 2 กระบอกช่วยในการสนับสนุน ยานนี้สามาถบรรทุกน้ำหนักได้สูงสุด 75 ตันและสามารถทำความเร็วสูงสูด 40 นอต
| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:28] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 31 กลุ่มเรือสนับสนุน( Auxiliary Ship) ประกอบด้วย
เรือส่งกำลังบำรุงอเนกประสงค์ (AMS) มีเพียง 1 ชั้นเรือ จำนวน 5 ลำ เรือส่งกำลังบำรุงอเนกประสงค์ ชั้น Hiuchi สร้างขึ้นทั้งหมด 5 ลำคือ AMS 4301 Hiuchi ,AMS 4302 Suo AMS 4303 Amakusa ,AMS 4304 Genkai และ AMS 4305 Enshu มีระวางขับน้ำ 1,000 ตัน ยาว 65เมตร กว้าง12 เมตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2 เครื่องทำความเร็ว15นอต มีกำลังพล 40 นาย ทำหน้าที่ส่งกำลังบำรุง,ดับไฟ,ลากจูงและอีกหลายหน้าที่
เรือเติมน้ำมันขนาดใหญ่ (AOE) มี 2 ชั้นเรือรวม 5 ลำ ชั้น Mashu 2 ลำ ชั้น Towada 3 ลำ
เรือสำรวจอุทกศาสตร์ (AGS) มี 4 ลำ
เรือสำรวจทางทะเล (ASE) มี 2 ลำ
เรือตัดน้ำแข็ง (AGB) มี 1 ลำ
เรือสำหรับวางเคเบิลใต้น้ำ (ARC) มี 1 ลำ
เรือกู้ภัยเรือดำน้ำ (ASR) มี 1 ลำ คือ ASR Chihaya เรือสนับสนุนกู้ภัยเรือดำน้ำ (AS) มี 1 ลำ คือ AS Chiyoda

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:30] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 32 เรือฝึก (TV) มี 3 ชั้นเรือ รวม 5 ลำ เรือฝึกชั้น Kashima สร้างใช้งานสำหรับฝึกนักเรียนนายเรือและกำลังพลจำนวน 1 ลำ มีระวางขับน้ำ 4,050 ตัน ยาว 143 เมตร กว้าง 18 เมตร เครื่องยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบ CODOG(Combined Diesel or Gas Turbine) คือใช้เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 2 เครื่อง ของ Rolsl-Royce Spey Gas-Turbines หรือ Mitsubishi S16U MTK Diesels อีก 2 เครื่อง มีเพลาใบจักร 2 เพลา ทำความเร็วได้ถึง 25 นอต มีพลประจำ 370 นายตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ MK 46 บนแท่นยิงแฝดสามจำนวน 2 แท่น,ปืนใหญ่ขนาด 76 มม.Otobreda จำนวน 1 กระบอก
เรือฝึกชั้น Hatsuyuki 2 ลำ เป็นเรือพิฆาตชั้น Hatsuyuki ปรับปรุงให้เป็นเรือฝึก
เรือฝึกชั้น Asagiri 2 ลำ เป็นเรือพิฆาตชั้น Asagiri มาปรับปรุงให้เป็นเรือฝึก
เรือดำน้ำฝึก (TSS) มี 1 ชั้น จำนวน 2 ลำ ชั้น Harushio 2 ลำ
เรือพี่เลี้ยงและสนับสนุนการฝึก (ATS) มี 2 ชั้นๆละ 1 ลำรวม 2 ลำ ชั้น Tenryu 1 ลำ ชั้น Kurobe 1 ลำ

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:42] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 33 กองบินนาวีของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น (JMSDF)
นอกจากกำลังทางเรือแล้วก็ยังมีกำลังทางอากาศในส่วนของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น หรือเรียกกันเข้าใจง่ายๆว่า กองบินนาวี นะครับ ซึ่งมีสำนักงานหรือกองบัญชาการตั้งอยู่ที่ อัทซูกิ และมีฐานบินอยู่ถึง 7 แห่ง คือ อัทซูกิ ,เคโนยะ,ฮาชิโนเฮะ,นาฮา,ทาเทะยะมะ,โอมูระ และอิวาคูนิ ซึ่งส่วนใหญ่มีภารกิจตรวจการณ์ทางทะเล ค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ลำเลียงทางยุทธวิธี ปราบเรือดำน้ำอย่างเช่น เครื่องบิน P 3 C Orion ที่มีประจำการถึง 80 เครื่อง(ประเทศไทยมีใช้งานตั้ง 3 เครื่อง) หรือ เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ SH 60 J/K Seahawk ที่มีประจำการแค่ 130 เครื่องเอง....ฮิฮิ กองบินนาวีของญี่ปุ่นถือว่าเป็นกองบินนาวีที่มีขนาดใหญ่ประเทศหนึ่งของโลกนะครับ ซึ่งแบ่งออกเป็น

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:44] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 34 กองบินที่ 1 มี บ. P 3 C และ ฮ. UH 60 J สำหรับภารกิจตรวจการณ์/ลำเลียงและกู้ภัย
กองบินที่ 2 มี บ. P 3 C และ ฮ. UH 60 J สำหรับภารกิจตรวจการณ์/ลำเลียงและกู้ภัย
กองบินที่ 4 มี บ. P 3 C และ ฮ. UH 60 J สำหรับภารกิจตรวจการณ์/ลำเลียงและกู้ภัย
กองบินที่ 5 มี บ. P 3 C และ ฮ. UH 60 J สำหรับภารกิจตรวจการณ์/ลำเลียงและกู้ภัย
กองบินที่ 21 มี ฮ. SH 60 J/K สำหรับภารกิจตรวจการณ์/ปราบเรือดำนำน้ำ
กองบินที่ 22 มี ฮ. SH 60 J/K สำหรับภารกิจตรวจการณ์/ปราบเรือดำนำน้ำ

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:46] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 35 กองบินที่ 31 มีภารกิจ ตรวจการณ์/ค้นหาช่วยเหลือ/ลำเลียง/ธุรการและด้านอื่นๆ ใช้เครื่องบินหลายแบบ ทั้ง บ. US 1A ,US 2,EP 3 C,OP 3 C,UP 3C ,LC 90 และ U 36 A
กองบินที่ 51 มีภารกิจตรวจการณ์/ค้นหาช่วยเหลือ/ลำเลียง/ธุรการและด้านอื่นๆ เหมือนกองบิน 31 ใช้เครื่องบินหลายแบบทั้ง บ.P 3 C,UP 3C/D ,OP 3 C รวมถึง ฮ. SH 60 J/K และ ฮ. UH 60 J
กองบินที่ 61 มี บ. YS 11 M/MA และ บ. LC 90 สำหรับภารกิจลำเลียงทั่วไป
กองบินพิเศษที่ 111 มีภารกิจเฉพาะกิจพิเศษเช่น ลำเลียงบุคคลสำคัญ และ ภารกิจกวาดทุ่นระเบิด ซึ่งใช้ ฮ. MH 53 E Super Stallion , ฮ.ลำเลียง CH 101 และ ฮ. MCH 101

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:47] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 36 อากาศยานกองบินนาวีของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น (JMSDF)
เครื่องบิน เครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเล/ปราบเรือดำน้ำ P 3 C Orion 80 เครื่อง เครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเล EP 3 C 5 เครื่อง เครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเล/สอดแนม OP 3 C 4 เครื่อง เครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเล/ทดสอบอุปกรณ์ UP 3 C 1 เครื่อง เครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเล/สำหรับฝึก UP 3 D 3 เครื่อง
เครื่องบินสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกกู้ภัย/ลำเลียง US 2 4 เครื่อง เครื่องบินสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกกู้ภัย/ลำเลียง US 1 A 4 เครื่อง

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:50] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 37 เครื่องบินตรวจการณ์ U 36 A (Learjet 35) 4 เครื่อง เครื่องบินลำเลียงทางธุรการ YS 11 M/MA 10 เครื่อง
เครื่องบินฝึก Fuji T 5 35 เครื่อง เครื่องบินธุรการ/ประสานงาน LC 90 เครื่องบินฝึก TC 90 เครื่องบินสำรวจทางอากาศ UC 90 ทั้ง 3 แบบรวมกัน 31 เครื่อง

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:52] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 38 เฮลิคอปเตอร์
เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ SH 60 J/K Seahawk 131 เครื่อง เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยและลำเลียง UH 60 J Blackhawk 19 เครื่อง
เฮลิคอปเตอร์กวาดทุ่นระเบิด MH 53 E Super Stallion 10 เครื่อง
เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง CH 101 5 เครื่อง เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง MCH 101 (11 เครื่อง)
เฮลิคอปเตอร์ฝึก TH 135 15 เครื่อง เฮลิคอปเตอร์ฝึก OH 6 D 5 เครื่อง เฮลิคอปเตอร์ฝึก OH 6 J 4 เครื่อง

| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:56] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 39 จะเห็น กองกำลังป้องกันตนเองทางเรือของญี่ปุ่น (JMSDF) มีโครงสร้างคล้ายกองทัพเรือของเรา แต่มีศักยภาพทั้งกำลังพล กำลังเรือรบและอากาศยานมากกว่าเราหลายเท่า ที่ยกมาเปรียบเทียบไม่ได้หมายความว่าเราต้องเป็นเหมือนญี่ปุ่นนะครับ เพราะอย่างที่เราทราบกันดีงบประมาณทางทหารของเราน้อยมากถ้าเทียบงบประมาณในส่วนอื่นๆหรือถ้าพวกนักการเมืองและนักวิชามาร...เอ๊ยนักวิชาการทั้งหลายก็เอาไปเทียบกับ GDP ว่าน้อยขนาดไหน แต่สิ่งที่ ดร.เซมเป้อยากจะบอกก็คือ ถึงแม้เราจะได้งบประมาณทางทหารน้อยขนาดไหนก็ตาม เพราะส่วนใหญ่เราก็ต้องจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆมาจากนอกประเทศให้คุ้มค่ามากที่สุด และที่สำคัญอยากให้เราส่งเสริมทั้งหน่วยงานทางทหารและเอกชนในการพัฒนาสร้างอาวุธใช้งานเองได้นั่นแหละสำคัญที่ซู้ดดด 
| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 21:58] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 40 อย่างกองทัพเรือของเรา ตอนนี้ก็สามารถสร้างเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งขนาดเกือบสองพันตันได้แล้ว ถึงแม้เราจะซื้อแบบเรือมาสร้างก็เถอะ ดร.เซมเป้ ถือว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีนะครับ กองทัพเรือเราสามารถสร้างเรือใช้งานเองได้มาตั้งนานแล้ว ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นเรือที่มีระวางขับน้ำไม่กี่ร้อยตัน แต่อนาคตไม่แน่เราก็คงสามารถสร้างเรือฟริเกตหรือเรือขนาดใหญ่กว่านี้อีกก็ได้ชิมิ ถึงเวลาหรือยังครับที่เราจะช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุดอย่างน้อยเงินทุกบาททุกสลึงก็อยู่ในมือคนไทยด้วยกันจริงมั๊ยครับ
| โดย: ดร.เซมเป้ [8 ก.พ. 55 22:01] ( IP A:110.168.6.255 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 41 สำหรับทุกท่านที่ชื่นชอบแวดวงทางการทหาร ทุท่านสามารถติตามชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.penguin-village.pantown.com/ ครับผม. | โดย: ดร.เซมเป้ [9 ก.พ. 55 7:29] ( IP A:58.11.196.94 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 42 ข้อมูลสุดยอดมากครับ | โดย: markway [10 เม.ย. 55 12:36] ( IP A:124.121.211.56 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 43 ผมเกลียดยุ่นเข้าใส้เลยคร้บ รุกรานประเทศเพื่อนบ้าน ฆ่าคนนับร้อยล้าน ปล้นทรัพยกรนับหมื่นนับแสนล้านดอลล่า...แต่ไม่ยอมรับ ไม่ขอโทษ ไม่สำนึก
ทำไมยุ่นไม่เอาอย่างเยอรมัน | โดย: หห [29 เม.ย. 56 9:55] ( IP A:125.25.163.12 X: ) |  |
|