nitemate.pantown.com
ยิ้มก่อนนอน <<
กลับไปหน้าแรก
เก็บมาฝาก เพื่อแบ่งปัน
เรื่องขนมคุ๊กกี้ห่อหนึ่ง......
ที่สนามบินนานาชาติระดับโลก
มีนักธุรกิจหญิงแต่งตัวดีจำเป็นต้องรอเวลาถึง 3 ชั่วโมง
ในการเปลี่ยนเครื่องบินเพื่อไปจุดหมายปลายทาง
เธอจึงตัดสินใจเดินไปซื้อหนังสือ 1 เล่มและคุ๊กกี้ 1 ห่อ
และเตรียมหาที่นั่งเพื่ออ่านและกินฆ่าเวลาไปพลางๆ
เธอสอดส่ายมองหาที่นั่งได้ 1 แห่ง
เมื่อนั่งลงก็เตรียมหนังสือและคุ๊กกี้
เพื่ออ่านและกินไปพลาง ๆ เธอสังเกตเห็นว่าข้างๆ เธอมีชายหนุ่ม
ซึ่งนั่งเหยียดกายอย่างไม่สนใจใคร
ว่าจะมีใครนั่งอยู่ข้าง ๆ เขา
สักครู่หนึ่ง ขณะที่เธออ่านหนังสือ
ชายหนุ่มก็หยิบขนมคุ๊กกี้ออกจากถุง
ซึ่งวางอยู่ระหว่างคนทั้งสอง
แล้วกินมันอย่างละชิ้น เธอมองด้วยความโกรธ
แต่ไม่ต้องการทำเรื่องวุ่นวาย
เธอจึงทำเป็นไม่สนใจ
เธอเริ่มรู้สึกเบื่อที่จะกินคุ๊กกี้และเฝ้ามองนาฬิกา
ในขณะที่ชายหนุ่มซึ่งเป็นผู้ขโมยไร้ยางอาย
กำลังกินมันให้หมดสิ้นไป
เธอเริ่มโมโหและคิดในใจว่า
"ถ้าฉันไม่ใช่ผู้ดีมีการศึกษาแล้วละก็..ฉันจะชกหน้าเจ้าหมอนี้ให้แหลกไปเลย"
ทุกครั้งที่เธอหยิบกิน 1 ชิ้น
ชายหนุ่มก็หยิบมันกิน 1 ชิ้น
ทั้งสองส่งสายตามองกัน
เมื่อคุ๊กกี้เหลือเพียงชิ้นสุดท้าย
เธอหยุดและอยากรู้ว่าชายหนุ่มจะทำอย่างไร
ชายหนุ่มค่อย หยิบคุ๊กกี้ชิ้นสุดท้ายแล้วหักออกเป็น 2 ชิ้น
ส่งให้เธอครึ่งชิ้นและกินเองครึ่งชิ้น
เธอรับจากชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและคิดในใจว่า
"เขาช่างเป็นคนไร้มารยาทสุด ๆ ช่างไร้การศึกษาไม่มีแม้แต่พูดขอบคุณสักคำ"
เธอลุกขึ้นหยิบข้าวของทั้งหมดแล้วตรงไปยังประตูขึ้นเครื่อง
ไม่แม้แต่เหลียวหลังกลับมามองหัวขโมยผู้ไร้มารยาทซึ่งยังนั่งอยู่ที่เดิม
ภายหลังจากขึ้นเครื่องและนั่งประจำที่อย่างสบายแล้ว
เธอก็หยิบหนังสือที่อ่านค้างอยู่ขึ้นมาอีกครั้ง
ในขณะที่หยิบหนังสือจากกระเป๋า
ก็พบว่ามีขนมคุ๊กกี้ 1 ห่อ เธอตกใจมาก
ถ้าคุ๊กกี้ของฉันยังอยู่ที่นี่ ก็แปลว่า.....
คุ๊กกี้ห่อนั้นเป็นของชายหนุ่มที่แบ่งให้เธอกิน
เธอลุกขึ้นทันทีแล้ววิ่งออกจากเครื่องบินไปยังที่นั่งของชายหนุ่ม
แต่คงเหลือแต่ที่นั่งว่างเปล่า
มันสายไปเสียแล้วที่จะได้ขอโทษชายหนุ่ม
ระหว่างเดินกลับเข้าเครื่อง
เธอรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ เธอนั่นเองที่ไร้มารยาท
เป็นหัวขโมยที่ไร้การศึกษาตัวจริง
กี่ครั้งในชีวิตของคนเราค้นพบในภายหลังว่า
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ใช่เรื่องจริงมันเป็นการเข้าใจผิด
กี่ครั้งในชีวิตที่เราขาดความไว้วางใจผู้อื่น
และทำให้เราตัดสินผู้อื่นจากความคิดเย่อหยิ่งของเราเอง
ซึ่งห่างไกลจากความเป็นจริงมากมาย
นี่แหละที่ทำให้เราต้องคิดซ้ำแล้วซ้ำอีก
ก่อนตัดสินผู้อื่นหลายๆสิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น
ควรมองผู้อื่นในแง่ดี แล้วคอยสงสัยตัวเองว่า
"เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง?
เราเคยแบ่งปันอะไรแก่คนอื่นบ้างหรือไม่"
โดย: เมศ [10 มี.ค. 47 14:13] ( IP A:203.155.225.142 X: )
ความคิดเห็นที่ 1
"นิทานเกี่ยวกับความผูกพันอันเหนียวแน่นของแผ่นฟ้า "
ผืนดิน และแผ่นน้ำ
แผ่นฟ้า ผืนดิน และ ผืนน้ำ
เป็นเพื่อนสนิทอยู่ร่วมตัวกันเป็นก้อนเดียว
แต่แล้วฟ้าก็เริ่มแยกตัวออกไป เพื่อค้นหาความกว้างใหญ่ของจักรวาล
วันเวลาผ่านไปแผ่นฟ้าก็ยิ่งแยกตัวออกไปไกลยิ่งขึ้น
ผืนดิน กับ ผืนน้ำ รู้สึกคิดถึงท้องฟ้ามาก
แต่ว่าท้องฟ้าอยู่สูงเกินกว่าที่จะไปหาได้
เมื่อพระอาทิตย์รู้ความเข้าเลยช่วยเหลือ
โดยทำให้น้ำระเหยกลายไอลอยขึ้นไปสู่ท้องฟ้า
เพื่อบอกท้องฟ้าว่า เราสองคน
------คิดถึงเธอมาก --------
ท้องฟ้ารู้สึกตื้นตันมาก เมื่อได้ยินเช่นนั้น
แต่ในขณะเดียวกันก็เสียใจที่มาไกลเกินเท่าที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว
ทำได้อย่างมากก็แค่เพียงใช้กำลังทั้งหมดของตนส่งน้ำลงไปสู่พื้นดิน เพื่อบอกว่า
---ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนกัน ------
น้ำจึงกลั่นลงมาเป็นสายฝน
และนี่แหละ คือ สาเหตุที่คนเรามักคิดถึง
คนที่เรารักและผูกพันเสมอเวลาฝนตก
======================
โดย: ป้าดึก [10 มี.ค. 47 22:54] ( IP A:203.151.227.72 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
เราคิดว่าคนรุ่นใหม่ไม่เคยสังเกตอะไร แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาสังเกตอะไร มากกว่าพวกเราผู้ใหญ่มากนัก และพวกเขาสังเกตและเข้าใจมากกว่าที่พวกเราจะยอมรับ เด็กนักเรียนโคลัมเบียนเขียนข้อความที่น่าสนใจนี้....
คำพูดที่ขัดแย้งกันแต่เป็นความเป็นจริงในช่วงเวลาของเราในประวัติศาสตร์คือ
เราสร้างตึกที่สูงขึ้น แต่วัดที่เตี้ยลง
เรามีทางด่วนที่กว้างมากขึ้น แต่มีทัศนคติที่แคบลง
เราใช้จ่ายมากขึ้น แต่เรามีน้อยลง
เราซื้อมากขึ้น แต่เรามีความสุขกับของนั้นน้อยลง
เรามีบ้านที่ใหญ่มากขึ้น แต่มีครอบครัวที่เล็กลง
เราสะดวกสะบายมากขึ้น แต่มีเวลาน้อยลง
เรามีการศึกษามากขึ้น แต่มีสามัญสำนึกน้อยลง
เรามีความรู้มากขึ้น แต่มีการตัดสินน้อยลง
เรามีผู้ชำนาญการมากขึ้น แต่ก็มีปัญหามากขึ้น
เรามียามากขึ้น แต่ความอยู่ดีน้อยลง
โดย: เมศ [10 มี.ค. 47 23:45] ( IP A:203.155.226.237 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
โอ้โฮ....หายไปนานหลายวัน...
พอกลับมาก้อเอาไรดีๆมาให้อ่านกันตรึมเลยนะครับ......
ขอบคุณ....ในน้ำใจอันแสนชุ่มฉ่ำของ....คุณเมศ....ด้วยนะคร๊าบบบ
โดย: เด็กฯ [11 มี.ค. 47 3:47] ( IP A:203.107.193.215 X: )
คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน
 s