ตัวเลือกอื่น เมื่อมองจากเมืองที่เรายังไม่เคยไป ก็มีไม่กี่เมือง อย่างบิเอะ ก็เล็กไป อา๙าฮีคาว่า ก็ยังไม่ถึงฤดูท่องเที่ยว โอบิฮิโระ หรือคูชิโระ ก็ดูไม่น่าดึงดูด ก็เหลือเมือง ฟูราโน่ นี่แหละ ที่ถือเป็นไฮไลท์ ของฮอกไกโดหน้าร้อน เป็นเมืองที่มี ดอกไม้หลากสี ปูพรมเต็มภูเขานั่นแหละครับ เป็นแลนด์มาร์คของฮอกไกโดหน้าร้อนเลย แต่ก็พอเช็คข้อมูลไว้แล้วล่ะว่า ดอกไม้ยังไม่บานหรอก แต่ที่นี่มีกิจกรรมผจญภัย ล่องแก่งแบบไม่เปียก เราก็เลยเลือกที่นี่ อยากรู้ว่าล่องแก่งญี่ปุ่นต่างจากไทยอย่างไร ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง ได้ล่องแก่งสมใจ จากนั้นก็มาบริหารเวลาว่า หลังล่องแก่งเราจะทำไรดี ก็คิดว่าไปเสี่ยงดวงในเมืองดูละกัน คิดว่าฟูราโน่ ถึงไม่มีดอกไม้ก็ต้องมีอะไรให้ทำบ้างล่ะนะ ปรากฏว่า .... คิดผิดเล็กน้อย เมืองฟูราโน่ เล็กมาก ไม่มีรถเมล์ ไม่มีกิจกรรมอะไร เป็นเมืองเงียบเหงา ร้านค้าก็ปิดเร็วมาก พอดีว่าล่องแก่งเสร็จเร็ว เข้ามาถึงตัวเมืองตั้งแต่ 4 โมงเย็น โดยประมาณ ก็เลยเลือกไปโรงงานไวน์ เป็นอันดับแรก นั่งแท๊กซี่ไป 1000 เย็น ก็สะดวกสบายดีครับ ถ้าเดินก็คงไม่ไหว รถนำเที่ยวก็ไม่มี เพราะยังไม่เข้าหน้าเที่ยว เสียดายวันนั้นเขาไม่มีทัวร์ชมโรงงานไวน์ ก็เลยได้แค่เดินๆชิมๆ ช็อปๆ พอหมดเวลา 17.00 ก็กะจะไปนั่งชิลที่ Wine House แต่ฝนเจ้ากรรมดันตก ก็เลยเดินต่อไปม่ะได้ ต้องเรียกแท๊กซี่เข้าเมือง อีก พันเย็น ทำไรดีล่ะทีนี้ ก็เลยไปเดิน ฟูราโน่ มาร์เช่ เป็นร้านแบบ โอท๊อปของเมือง ก็ฆ่าเวลาได้อีกนานโข ร้านปิดหกโมงเย็นมั้ง เดินซุปเปอร์แถวนั้นด้วย แล้วก็หาของกินด้วย เลือกชิมราเม็ง ( การมาเมืองฟูราโน่ แลกกับการ อดกิน ขาปูยักษ์บุฟเฟ่ท์ร้านนันดะ เจ้าดังของเมืองซัปโปโร เนื่องจากกลับไปไม่ทันตามเวลาแน่นอน ) คิดผิดอีกอย่างคือฝนมันตก เลยทำอะไรมากไม่ได้ เดินถ่ายภาพไม่ได้ จะไปใหนมาใหนก็ไม่สะดวก แล้วดันเลือกรถไฟขากลับไว้ดึกเกินไป คือออกประมาณ 20.38 ก็เลยต้องนั่งแกร่วรอที่สถานีเป็นชั่วโมง แอบเฟลเล็กน้อยเหมือนกัน
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.10210191287397312.1073742328.1193107661&type=1&l=9a7d893f04