+++ ถึง เพื่อนๆ ทุกคนจ้า +++
|
ความคิดเห็นที่ 1 แต่แล้วก็เกิดเรื่อง เมื่อประมาณกลางเดือน ม.ค. 53 ที่มหาวิทยาลัยมีงานทางด้านวิชาการก็เลยต้องจัดเตรียมเอกสาร และมันต้องมีเอกสารที่จะต้องยก หน่อยก็เอาเรี่ยวแรงที่มียกของเพื่อให้มันเสร็จให้ทันก่อนงานเริ่ม งานเสร็จทัน แต่แล้ว "เลือดในตาดำมันก็ออก" อีก แต่คราวนี้หนักกว่าคือ ลักษณะเหมือนเราเติมน้ำลงในแก้วมันค่อยๆเต็มจนมิดลูกตาดำของเรา ช่วงนั้นข้างขวาใช่จะมองไม่เห็น แต่มองไม่ชัดสีมันเป็นสีชาค่ะ มองดูคนรู้ว่าเป็นคนแต่ไม่รู้ว่าใคร ตอนนั้นตาซ้ายทำงานหนักรู้เลยแหล่ะ
วันรุ่งขึ้น หน่อยเลยตัดสินใจไปหาหมอ โขคดีเจอหมอคนเดิมที่รักษาเราอยู่ หน่อยแกล้งถามหมอก่อนเลยว่า เกิดจากสาเหตุอะไร หมอถามกลับว่า ยกของหนักมาหรือเปล่า หน่อยก็พยักหน้างุดๆ หมอก็ส่ายหน้าแล้วบอก คนเป็นโรคเกี่ยวกับตา ห้ามยกของหนัก ห้ามจาม ไอ แรงๆ (ทำยากมากอยากบอกหมอ) เพราะคนเป็นโรคนี้แล้ว เส้นเลือดเปราะบางกว่าคนอื่น หน่อยก็รีบถามว่า แล้วอย่างนี้จะทำไงดีค่ะ หมอบอกว่า พอดีมันมีเส้นเลือดฝอยเสียโผล่มาด้วย งั้นวิธีการคือ คงต้อง "ฉีดยาเข้าตา" เพื่อกำจัดเส้นเลือดฝอยทิ้ง ไม่อย่างนั้น มันจะทำให้การรักษายิ่งลำบาก ก็เลยตกลงต้องฉีด 1 เข็ม เบิกประกันสังคมไม่ได้ แต่เพื่อร่างกายก็ต้องยอม ก็ผ่านพ้นไป หลังจากนั้นก็เริ่มดีขึ้น เลือดที่ปริ่มตาก็เริ่มลดลง เปลี่ยนมาเป็นเส้นเหมือนเดิม เออ สบายใจตอนมันปริ่มเป็นเลือดอีก
เดือน ก.พ. 53 มาถึง ต้นเดือน หมอตานัดไปเลเซอร์ คราวนี้ก็คือ เลเซอร์ทั้งตาซ้าย และตาขวา เพราะหมอบอกว่า ยิ่งสะกัดตาซ้ายด้วย เพื่อไม่ให้เส้นเลือดมันแตก เราก็ต้องยอมเนอะ ทำไงได้ แต่พอเลเซอร์เสร็จทีไร จะมีผลข้างเคียงคือ จะอาเจียน และมึนหัวเหมือนคนอาหารเป็นผิดค่ะ และหลังจากนั้น ก็จะมีอาการตลอด ทุกๆ ทีที่เลเซอร์ ครั้งนี้ หมอให้ยามากิน พร้อมยาหยอดอีกประมาณ 2 ตัว ซึ่งหมอบอกว่ายาหยอด หยอดเพื่อช่วยในเรื่องของการขยายม่านตาของหน่อย เพราะม่านตาหน่อยขยายยากมาก และความดันในตาสูงมาก เลยต้องให้มากินด้วย แต่ยาที่กินก็มีผลข้างเคียงบ้างคือ อาจมีการชา ๆ ตามนิ้วบ้างแต่ไม่ต้องตกใจ เราก็รับทราบ กินก็กิน หยอดก็หยอด
ผลจากการหยอดยา ทำให้หน่อยเห็นแสงสว่างจ้ากว่าปกติ และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับหน่อย เมื่อข้างซ้ายเริ่มมีอาการหนักๆที่ลูกตาเหมือนกัน แต่ว่ามันไม่ใช่เลือดอ่ะ หน่อยก็เลยหาหมอ เพื่อดูอาการของตาข้างซ้าย ปรากฎว่า หมอบอก "ฉีดยา"เลย เพราะมีเส้นเลือดฝอยโผล่มาแล้วในข้างซ้าย (อีกแล้วกรู) ยอมค่ะ ยอม เอาไงก็เอา ฉีดก็ฉีด วันนั้นเลยโดนอีก 1 เข็ม ข้างซ้าย สบายใจไป วันนั้นเลยต้องให้น้องชายมารับกลับบ้าน เพราะตาขวาเองก็มองไม่ค่อยชัดแล้ว ตาซ้ายดันมาโดนปิดอีกเลยต้องอาศัยใบบุญคนอื่นซะ
วันที่ 8 มี.ค. 53 ผลการเจาะเลือดคือ เลือดเหลือแค่ 99 น้ำตาลต่ำจนหมอบอกว่าเป็นคนละคนกับที่เมื่อเดือน พ.ย. เลยเนอะ หน่อยก้ได้แต่ยิ้มๆ ค่ะ สู้ๆ
สรุปในตอนนี้ น้ำตาลในเลือดหน่อยก็ถือว่าปกติแล้ว ความดันก็อยู่ในเกณฑ์แล้ว คลอเรสเตอร์รอลก็ดีแล้ว แต่ตาของหน่อยตอนนี้ก็ยังต้องรักษากันต่อไปค่ะ อาการโดยรวมตอนนี้ของตาหน่อยคือ เจอแสงจ้ามากๆ จะทำให้การมองเห็นไม่ค่อยชัด เลยต้องใช้แว่นกันแดดช่วย และหน่อยเองก็สายตาสั้น พอใส่แว่นกันแดด การมองเห็นก็ไม่ค่อยดีอีก แว่นสายตาก็กันแดดไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ค่ะ ก็เลยใส่แว่นสายตาไว้ข้างใน เวลาดูรถ ก็เอาแว่นแดดใส่ซ้อน เท่านั้นแหล่ะ 555 การอ่านหนังสือก็ค่อนข้างมีปัญหาค่ะ ถ้าหนังสือตัวเล็กมากๆ ก็ใช่แว่นขยายช่วงค่ะ
ดังนั้นหน่อยขอให้ทุกคนระวังเรื่องสุขภาพ ขอให้ถือว่าเรื่องของหน่อยเป็นเรื่องที่เราเล่าสู่กันฟัง แต่มันก็คงพอมีประโยชน์บ้างสำหรับผู้ที่มั่นใจในสุขภาพชองตัวเองมากๆ อย่างหน่อยค่ะ และหากพิมพ์ผิดหรืออะไรก็แล้วแต่ขออภัยด้วยนะคะ เพราะสายตาไม่ค่อยอำนวย แต่ใจอยากจะเล่าให้ฟังค่ะ คิดถึงทุกคนเลย ส่งกำลังใจให้หน่อยด้วยนะ จุ๊บ จุ๊บ รักและห่วงใย หน่อย | โดย: คุณหน่อย Dark girl [6 เม.ย. 53 19:57] ( IP A:125.25.18.61 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 เพิ่งได้อ่านฟอร์เวิลด์เมล์ของคุณหน่อย ( จากน้องไก่ ) เรื่องอาการป่วย อ่านแล้วตกใจมากมายครับ เลยขอก๊อปมาฝากที่นี่ไว้ ยังไงก็ขอให้คุณหน่อย หายจากอาการป่วยไวๆนะครับ | โดย: Job (พีอาร์ฯ ) [6 เม.ย. 53 20:03] ( IP A:125.25.18.61 X: ) |  |
|