Charlie Wilson's War + L Change the world + Alive = > ดูแล้วมาคุยกัน < =
|
ความคิดเห็นที่ 1 Charlie Wilson's War .... การเมืองเรื่องขำขัน
...............ไม่มีกฏเกณฑ์ที่ใหนบัญญัติตายตัวว่า ภาพยนตร์อิงการเมืองจะทำออกมาเป็นหนังตลกไม่ได้ แต่โดยมากแล้วหนังแนวนี้ก็มักจะออกมาในลีลาเคร่งเครียด หรือไม่ก็ตลกเสียดสีซะเป็นส่วนใหญ่ ต้นปีนี้มีหนังแนวการเมืองออกมาฉายบ้านเราแบบเงียบๆ ต้องขอชื่นชมค่ายหนังที่กล้าเอาเข้ามานะครับ เพราะจริงๆเนื้อหามันไม่ตลาดเลย ขนาดผมเองยังไม่รู้สึกอยากไปดูในโรงเลย แต่คงเป็นเพราะว่าหนังเรื่องนี้อุดมไปด้วยดาราดังเพียบกระมังครับ ก็เลยมีโอกาสมาลงโรง เช่นเดียวกันกับ Lion for Lambs หนังแนวการเมืองอีกเรื่อง แต่ทว่า Charlie นั้นฉลาดเฉลียวและเพียบพร้อมไปด้วยความบันเทิงหนักแน่นกว่า Lion อย่างเห็นได้ชัด !! หนังบอกเราว่าเหตุการณ์ทั้งหมดในหนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริง แต่ดูแล้วผมก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่อ่ะ เพราะว่าหนังก็คือหนังน่ะครับ และการขึ้นคำโปรยเก๋ๆแบบนี้ บางทีมันก็แค่สร้างความน่าเชื่อถือให้กับหนังเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่าหนังแทรกคำเฉลยประเภทว่า ...อ้อ ที่บอกตอนต้นเรื่องน่ะ อั๊วะโม้ ...เอาไว้ตรงใหนบ้างแต่เราไม่ทันเห็นหรือเปล่า ??
...............ชาร์ลี วิลสัน เป็นส.ส.อเมริกันที่บังเอิญเป็นกรรมาธิการด้านงบทางทหารของกลาโหมพอดี นิสัยส่วนตัวเป็นพวกเพลย์บอย มั่วสุราเคล้านารีเป็นกิจวัตร ทว่าวันนึงจับผลัดจับผลูเข้าไปรับทราบเหตุการณ์เกี่ยวกับสงครามในอัฟกานิสถานด้วยความเป็นคนดี ( หรือเป็นพวกเอียงขวาจัดไม่ทราบได้ ) ก็เลยพยายามหาทางก่อสงครามลับๆกับคอมมิวนิสต์ โดยเป็นตัวตั้งตัวตีหาเงินและหาอาวุธส่งเข้าไปช่วยฝ่ายอัฟกานิสถานในการทำสงครามกับโซเวียตที่มารุกราน !! ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงโลกโดยชักใยอยู่เบื้องหลังสงครามใหญ่ และเป็นช่วงปลายๆของสงครามเย็นรวมถึงมีส่วนอย่างมากในการยุติสงครามเย็นที่ยืดเยื้อมายาวนานระหว่างสหรัฐกับโซเวียต ?? ผู้ชายคนนั้นคือ ทอม แฮงค์ รับบทเป็น ชาร์ลี วิลสัน บุคคลที่มีตัวตนในประวัติศาสตร์หรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ !! โดยชาร์ลี ก็ได้ผู้ช่วยเหลือเจ๋งๆอย่าง ซีไอเอ ตัวเป้ง กัส กาลาปากอส ที่เล่นโดย ฟิลิปส์ ซีมัวร์ ฮอฟแมน ที่เล่นได้กวนโอ๊ย ขโมยซีนสุดๆ แถมยังลอกคราบเก่าๆได้อย่างหมดจด สมควรแล้วที่ได้ชิงออสการ์ รวมถึง จูเลีย โรเบิร์ต ก็มาเล่นเป็นเศรษฐินีคู่ขาเก่า แถมยังมี เอมี่ อดัมส์ นางเอก Enchanted มาเล่นเป็น เลขาอีกตะหาก มองไปทางใหนก็เห็นดาราหน้าคุ้นๆเพียบไปหมด เรียกว่าแค่ดูดาราก็คุ้มแล้วครับงานนี้
...............ภาพยนตร์เรื่องนี้ยิงอารมณ์ขันกันแบบเนื้อๆเน้นๆ ทั้งมุขกัดๆและมุขแบบตรงไปตรงมา โดยเฉพาะ ซีมัวร์ ฮอฟแมน ต้องถือว่าเป็นคนที่รับส่งมุขตลกได้หน้าตายเหลือเชื่อ ไม่คิดว่าเค้าจะเล่นบทแบบนี้ได้ด้วยซ้ำ ไม่น่าเชื่อว่าหนังแนวการเมือง แถมพ่วงการเมืองระหว่างประเทศด้วย จะสามารถแอบแฝงและแทรกมุขตลกฮาๆได้มากขนาดนี้ จริงๆส่วนตัวผมก็คิดว่าเรื่องการเมืองระหว่างประเทศนั้นมันมีอะไรสนุกๆและน่าติดตามอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเล่ามาเป็นหนังได้ตลกและสนุกขนาดนี้ ? ต้องชื่นชมเซ๊นส์ของคนเขียนบทที่ต้องบอกเลยว่าต้องมีพื้นความรู้อยู่มากพอควรและมีเซ๊นส์ในการแปลงมันออกมาเป็นเรื่องราวสนุกๆบทพูดคมคายได้ดีทีเดียว รวมถึงผู้กำกับไมค์ นิโคลส์ ก็คุมจังหวะของหนังได้อย่างลงตัว ทีมงานโดยรวมก็อยู่ในระดับเกรดเอ เสียดายที่ ฮอฟแมน เล่นขโมยซีนจนกลบคนอื่นไปซะหมด งานนี้ทอม แฮงก์ ก็เลยดูกร่อยๆไปสักหน่อย ทั้งๆที่จริงๆบทบาทก็ถือว่าเป็นพระเอก ที่มีสีสันไม่แพ้กับบทบาทที่เคยได้ออสการ์ อย่าง ฟอร์เรส กัมพ์ เลยด้วยซ้ำ !! งานนี้ดูแล้วแอบคิดไม่ได้ว่า ถ้าเราเป็นประชาชนคนเสียภาษีในประเทศอเมริกันดูหนังเรื่องนี้แล้วคงไม่ตลกนะ มีที่ใหนเงินภาษีของประเทศที่เราเหนื่อยยากเจียดมาให้ กลับเอามาใช้อีลุ่ยฉุยแฉกกับการไปจุ้นจ้านในประเทศอื่น เอาเงินไปผลาญกับอาวุธสงคราม แทนที่จะเอามาพัฒนาประเทศตัวเอง แล้วไอ้คำว่างบลับแบบไม่ต้องแจงเนี่ย ถ้าซื้ออาวุธสัก 100 ล้านเนี่ย คอมมิชชั่นหรือส่วนแบ่งมันจะเข้ากระเป๋าคนจัดซื้อจัดหาขนาดใหนกันหว่า เพราะไม่ต้องมากังวลกับการตรวจสอบด้วย ใครได้เอี่ยวกับงบแบบนี้ คงอู้ฟู่กันน่าดูเลยเนาะ ~ | โดย: Job (พีอาร์ฯ ) [1 ก.ค. 51 18:44] ( IP A:202.57.132.197 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 L Change The World ( สองดาว )
.................ตัวละคร L นั้นถือเป็นตัวละครเด่นที่โลดแล่นอยู่ในโลกเซลลูลอยด์มาถึงสองครั้งแล้วจากภาพยนตร์เรื่อง Death note มาคราวนี้ L กลับมาใหม่ในมาดเดิม พร้อมคำโปรยที่ว่าจะมาเปลี่ยนแปลงโลก ซึ่งผมก็ไม่เห็นว่า L จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ตรงใหน เพราะแม้แต่ตัวเอง L ก็ยังเป็น L ไม่เคยเปลี่ยน ตัวละครตัวนี้ไม่ได้มีเสน่ห์ดึงดูดอะไรเลยในสายตาผม แถมบุคคลิกคาแรคเตอร์ยังไม่น่าที่จะเอาใจช่วยเลยสักนิด เพราะแกทำไปก็แค่สนองตัณหาตัวเอง ถือเป็นตัวละครนึงในโลกภาพยนตร์ที่สะท้อนให้เห็นคนที่มี IQ สูงแต่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ค่อนข้างต่ำมาก !~ ส่วนตัวแล้วยังอยากจะเห็นภาพยนตร์เรื่องที่ Kira ตัวละครเอกอีกตัวจาก Deathnote มาเล่นเป็นพระเอกหนังเดี่ยวๆโดยไม่ต้องมี L มาตามประกบซะมากกว่าเลยด้วยซ้ำ เพราะผมถือว่า Kira นั้นเป็นพระเอก แต่ L นั้นเป็นผู้ร้ายอยู่แต่เดิมแล้ว !! ถ้า Kira กับ Deathnote สิ ถึงจะเป็นคนที่เปลี่ยนแปลงโลกได้จริงๆ เพราะงานนั้นถ้าไม่มี L หรือพวกตำรวจมาจุ้นจ้าน ป่านนี้โลกในหนังเรื่อง Deathnote ก็คงเป็นโลกที่สดใสสวยงามและมีแต่ความสงบสุขไปแล้วล่ะครับ
.................เสียดายมากก็ตรง ภาพยนตร์ชุด Deathnote นั้นได้ดัดแปลงจากการ์ตูนมาเป็นหนังได้ลงตัวดีมาก จนทำให้การ์ตูนมีเนื้อมีหนังขึ้นมา มีเนื้อหาสาระ มีเรื่องราวที่จับต้องได้ มีประเด็นที่โดนใจและเป็นสากล เข้าถึงคนได้ทุกเพศทุกวัย แถมยังมีความสนุกสนานเพลิดเพลิน แต่พอมาแยกเป็นหนัง L ซึ่งความตั้งใจของผู้สร้างคงจะต้องการหาเงินเป็นประเด็นสำคัญ ก็เลยไม่ได้ให้ความสำคัญกับเนื้อหาของหนังเอาเสียเลย เหมือนสักแต่ว่าเขียนๆไป สุดท้าย L Change the world ก็เลยกลายเป็นหนังที่คล้ายจะเป็นหนังการ์ตูนไปเลย เพราะหาความสมจริงอะไรไม่ได้ เนื้อหาและตัวละครก็แทบจะถอดหนังการ์ตูนมาเลย แทบทุกอย่างที่เกิดในหนังล้วนไม่เป็นเหตุผล และมีข้อข้องใจขึ้นมาอยู่เนืองๆตลอดทั้งเรื่อง ตัวผู้ร้ายก็ร้ายหลุดโลก เพี้ยนจนไม่น่าจะดำเนินชีวิตอยู่ได้ ตัวเอกก็ไม่ได้มีความน่าเอาใจช่วยเลย แถมยังตัดสินใจตอนจบได้อย่างเลวร้ายจนไม่น่าให้อภัย นี่ถ้าไม่ใช่หนังแนวสูตรแบบนี้ผมว่ามันน่าจะตายซะด้วยซ้ำ แอคชั่นโดยรวมก็จืดชืดน่าเบื่อหน่ายสิ้นดี แถมผู้ร้ายยังเหยาะแหยะและไม่น่าจะทำความชั่วร้ายอะไรไหวด้วยซ้ำ เรียกว่าหน่อมแน้มสุดๆ แบบนี้แล้วมันจะไปน่าลุ้นตรงใหนล่ะครับ ทนดูจบเกือบไม่ไหวเลยแหละครับงานนี้ | โดย: Job (พีอาร์ฯ ) [1 ก.ค. 51 18:45] ( IP A:202.57.132.197 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 หนังแนวนี้ไม่ค่อยชอบเท่าไร | โดย: แคทค่ะ [2 ก.ค. 51 15:33] ( IP A:77.183.68.30 X: ) |  |
|