The Reader > Doubt > The Wrestler .... คุยหนังชิงรางวัล Oscar กันหน่อยมั๊ย ?

pandagroup.pantown.com

Movie Review << กลับไปหน้าแรก


The Reader ( ในอ้อมกอดรักไม่ลืมเลือน ) ... เกือบๆสามดาว ... กำกับ - สตีเฟน ดัลดรี นำแสดง - ราล์ฟ ไฟน์ส , เคท วินสเล็ท , เดวิด ครอส เรท - R ความยาว - ประมาณ 110 นาที แนวหนัง - ดราม่า
โดย: Job (พีอาร์ฯ ) [20 ก.พ. 52 20:11] ( IP A:125.25.63.140 X: )

Counter : 1832 Pageviews

ความคิดเห็นที่ 1
.............ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะเป็นหนังเยอรมันร่วมสมัย ถ่ายทอดจากคนเยอรมันแท้ๆมากกว่าจะเป็นหนังสัญชาติอื่น ภาษาอื่นนะเนี่ย ที่สำคัญน่าจะเป็นตัวแทนชิงออสการ์จากเยอรมันมากกว่าหนังอย่าง The Baader Meinhof ซะอีก !! น่าแปลกใจที่หนังที่มีเนื้อหาอิงเยอรมันขนาดนี้ กลับถ่ายทอดได้อย่างลึกซึ้งโดยผู้กำกับอังกฤษ และทุนจากเมกา ? หนังชื่อเรื่องว่า ผู้อ่านครับ ทั้งเรื่องพระเอกหนุ่มน้อย วัย 15 ก็อ่านนิยายให้นางเอกสาวสวย เคท วินสเล็ท ฟังกันเกือบทั้งเรื่องอ่ะครับ ส่วนใหญ่ก็อ่านกันบนเตียง เสร็จแล้วก็ป่ามป้ามป๊าม บางทีก็ป๊ามป่ามเสร็จก็กลับมาอ่านกันต่อ ผู้อ่านก็ปากแฉะไป ส่วนคนฟังก็อะไรต่อมิอะไรแฉะไปหมด แล้วคนดูแฉะป่าวหว๊า ? ฟังดูเหมือนหนังแผ่นเรตๆอาร์ที่วางขายข้างทางนะครับ แต่จริงๆหนังมีอะไรมากกว่านั้น ( หรือเปล่าหว๊า ? )

.............เนื้อหาหนังค่อนข้างอินเทรนด์นะครับ ครูสาวเอ๊ย พนักงานสาววัย 30 กับบังเอิญมาเจอเด็กนักเรียนมัธยมวัย 15 ทั้งสองต่างต้องตาต้องใจกันและกัน ไม่ต้องให้ใครบอก แล้วทั้งสองก็มีอะไรลึกซึ้งระหว่างกัน สาวเคทมีเงื่อนไขอย่างนึงให้กับหนุ่มน้อยก่อนมีไรกันว่า เขาจะต้องอ่านหนังสือให้เธอฟังทุกครั้ง ถ้าเป็นคุณๆจะยอมใหม๊ครับ ฮันแน่ อยากเป็นนักอ่านกันขึ้นมาเลยอ่ะดิ๊ ! แต่แล้ววันนึงเธอก็หายตัวไปจากชีวิตเขา กลับมาเจอกันอีกที ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทั้งหมด ทั้งสถานการณ์ ทั้งจุดยืน ความคิด และสถานะของคนทั้งสอง หนุ่มน้อยกลายมาเป็นนักเรียนกฏหมายผู้กำลังหาประสบการณ์ในศาล ส่วนเธอ กลายเป็นจำเลยในคดีอุกฉกรรจ์ที่อยู่ในกระแสสังคม ? หากว่าเรื่องนี้เกิดกับตัวคุณ คุณจะปรับอารมณ์ ปรับหัวจิตหัวใจอย่างไรกันครับ ในเมื่อคนที่คุณรักที่สุดในชีวิต คนที่คุณตามหามาทั้งชีวิต กลับอยู่ห่างไกลเหลือเกิน และคุณเพิ่งพบว่า คุณยังไม่เคยได้มีโอกาสเข้าใจเขาเลยจริงๆแม้แต่น้อย

.............เซ็กส์ที่สุดเร่าร้อน ลีลาที่สุดประทับใจของเค้าหรือเธอ จะกลายมาเป็นรักแท้ชั่วชีวิต หรือตะกอนที่ตกค้างในตัวคุณๆจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตหรือเปล่า ? หนังเรื่องนี้วิพากษ์ความสำคัญและความหมายของเซ็กส์ได้อย่างน่าสนใจครับ บางคนบอกว่า เซ็กส์คือองค์ประกอบส่วนนึงในการแสดงความรัก แต่แท้จริงแล้วผมกลับคิดว่า " เซ๊กส์ " ต่างหากที่เป็นตัวขับเคลื่อนชีวิตของคนเราและเป็นตัวผลักดันให้ความรักก้าวไปข้างหน้า มนุษย์เราไม่ได้ดำรงอยู่เพราะความรัก แต่ดำรงอยู่ด้วยความเกลียด และมีเซ็กส์เป็นแรงขับ !! ผมเชื่อว่ามนุษย์ขาดรักได้ แต่ขาดเซ็กส์ไม่ได้ ผมเชื่อมั่นในความจริง ซึ่งแม้ว่าบางคนอาจจะไม่ยอมรับก็ตามที นอกจากนั้นหนังเรื่องนี้ยังพยายามตีประเด็นความพร่าเลือนของ คำว่าถูกและผิดอีกด้วย หนังทำให้ผมรู้สึกเห็นใจ ฮันนา สมิธ อย่างจับใจ แม้จะไม่เข้าใจเลยสักนิดก็ตามว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับ ไมเคิล กันแน่ จะมีความรักให้เค้าสักนิดหรือเปล่า ?

โดย: Job (พีอาร์ฯ

) [20 ก.พ. 52 20:12] ( IP A:125.25.63.140 X: )

ความคิดเห็นที่ 2
.............หนังเรื่องนี้อาจจะมองกันได้หลายมุมมอง ตามแต่วุฒิภาวะทางความคิดของคนดู แม้แต่ตัวละครก็ยังมองความหมายของแต่ละช่วงชีวิตแตกต่างกันออกไป หนังมองชีวิตมนุษย์อย่างเข้าอกเข้าใจ และไม่พยายามพิพากษาอะไรลงไปชัดๆ ผู้กำกับ ดัลดรี ยังคงทำหนังได้ละเมียดและเข้มข้นเช่นเดิม เพราะแม้แต่คนที่หลายคนจะมองว่าเลวร้ายชั่วช้าขนาดใหน ถ้ามองกันตามจริงในอีกมุมนึงด้วยสายตาที่เข้าใจ เราก็จะพบว่า เขาเหล่านั้นมีเหตุผลในการตัดสินใจหรือทำอะไรลงไป ใครกันล่ะที่จะตัดสินว่า อะไรดี อะไรชั่ว อะไรถูก อะไรผิด ? แล้วกฏหมายน่ะมันเที่ยงธรรม มีมาตรฐานขนาดใหน ? ใครเป็นคนเขียน ? บางทีมันเป็นเรื่องง่ายที่เราจะตัดสินคนอื่น แต่ถ้าถึงคราวตัวเราเองล่ะ เราทำใจได้หรือยังถ้าคนอื่นพร้อมใจกันมาตัดสินตัวคุณ ? ถึงตอนนี้แล้วย้อนกลับมาถามคุณๆว่า คุณๆเคยมีเซ็กส์ที่สุดเร่าร้อน สุดประทับใจกันบ้างหรือยัง และเซ็กส์ครั้งนั้นของคุณส่งผลอะไรต่อชีวิตคุณบ้าง ? ขอให้ท่านผู้อ่านกระทู้จงมีความสุขในรัก ถ้าหากมีเซ็กส์ก็ขอให้เสร็จพร้อมๆกับเค้าหรือเธอนะคร๊าบบ

ป.ล.จะมีใครกล้าตอบกระทู้ตรงๆใหมเนี่ย ? อิอิ ...ลืมไป เคท วินสเล็ท เล่นได้ดีตามมาตรฐานนะครับ แต่บทน้อยไปนิด น่าจะได้ชิงสมทบหญิงยอดเยี่ยมมากกว่านะ บางที ปีนี้อาจจะไม่ใช่ปีของเคท อีกครั้งก็เป็นได้ ! ( อย่าลืมนะ เธอเป็นดาราอังกฤษ )

โดย: Job (พีอาร์ฯ

) [20 ก.พ. 52 20:12] ( IP A:125.25.63.140 X: )

ความคิดเห็นที่ 3
Doubt ( ปริศนาเกินคาดเดา ) ..... 2 ดาวกว่าๆ .....
The Wrestler ( เพื่อเธอขอสู้ยิบตา ) ..... 2 ดาวครึ่ง .......

...................เมื่อพิจารณาจากชื่อหนังเวอร์ชั่นภาษาไทย และเครดิตรางวัลที่หนังทั้งสองห้อยมาเป็นพะเรอเกวียน ก็อดไม่ได้ที่จะคาดหวังไว้สักนิด เพราะไม่งั้นคงไม่ถ่อจากบ้านที่นวนคร เพื่อมาดูหนังยังสยามติดกันสองเรื่องควบในวันเดียวหรอกครับ !! ขอบอกว่า ชื่อหนังภาษาไทยของหนังสองเรื่องนี้ ตั้งซะเว่อร์ไปหน่อย จริงๆชื่อภาษาอังกฤษของหนังก็ตรงตัว และได้ใจความดีกว่าชื่อไทยมากๆ แต่อย่างว่า ไม่งั้นจะได้ผลดึงคนดูมาจากบ้านได้เหรอ ? โชคดีที่ตามกำหนดรอบเวลาแล้ว ผมต้องดู The Wrestler ก่อน ก็เลยทำให้รู้สึกไม่น่าเบื่อหน่ายเกินไปนัก เนื่องจากทั้งสองก็เป็นหนังดราม่าที่ไม่ได้บีบคั้น เร่งเร้าอารมณ์อะไรมากมายนัก เรียกว่าเป็นหนังขายการแสดงทั้งคู่

...................The Wrestler คงเป็นหนังที่เปิดโอกาสให้ มิคกี้ รูค โชว์บทบาทที่ดีที่สุดในชีวิตการแสดงของเค้าแล้วล่ะ เนื่องจากตรงกับตัวเขาเองเป็นที่สุด นึกถึงสมัย 20 ปีก่อน ตอนที่ผมเริ่มดูหนังบ่อยๆ พี่แกดังมาก แล้วก็เป็นเซ๊กส์ซิมโบลที่ขายดีคนนึงเลยแหละ วันนี้เหรอ มีใครจำเค้าได้มั่งเนี่ย ? แล้วความจริงอีกอย่างก็คือ แกเคยเป็นนักมวยปล้ำมาก่อนด้วย ( ?? ) นักมวยปล้ำตกอับที่มีชีวิตอับเฉา แต่ก็ยังมีไฟและพยายามที่จะกลับมา นักแสดงตกอับที่ผู้คนลืมหวนกลับมาทวงถามหาที่ยืนบนผืนผ้าใบสีขาวที่เรียกว่าเซลลูลอยด์ งานนี้ต้องบอกว่า มิคกี้ รูค ทุ่มเทจริงๆ และสวมบท " เดอะ แรม " ได้อย่างน่าเชื่อถือ แต่ตัวหนังกลับไม่เปิดโอกาสให้คนดูอินกับตัว เดอะแรมได้มากเท่าที่ควร

โดย: Job (พีอาร์ฯ

) [20 ก.พ. 52 20:38] ( IP A:125.25.63.140 X: )

ความคิดเห็นที่ 4

...................Doubt เข้าชิงออสการ์ 5 รางวัล เท่าที่สังเกตุ 4 ใน 5 มาจากด้านการแสดง ซึ่งก็สมควรด้วยประการทั้งปวง หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังทริลเล่อร์น่าตื่นเต้น ไม่ใช่การเน้นตามล่าหาความจริง แต่เน้นการเฉือดเชือนประชันฝีมือกันระหว่างทีมนักแสดง ตัวเรื่องราวเปิดโอกาสให้มีฉากที่ปะทะบทบาทกันแบบเต็มๆ และนักแสดงทั้งหมดไม่ปล่อยให้โอกาสพลาดไป ซีมัวร์ ฮอฟแมน นั้นเทพอยู่แล้ว ป้าเมอริล ก็รู้ๆกันอยู่ เล่นได้เป็นตัวละครนั้นๆเลย แต่ที่ผมชอบมากคือ ไวโอล่า เดวิส ทีแรกนึกว่าคนใหน ไม่เคยได้ยินชื่อ แต่พอเปิดตัวออกมา โห ฉากปะทะป้าเมอริล เล่นเอาป้าเมอริล หมองไปเลย มีดาราสักกี่คนอ่ะ ที่ปะทะฝีมือกับเจ้าป้าแล้วสยบเจ้าป้าได้ ? ส่วน เอมี่ อดัมส์ ก็พลิกบทบาทแสดงสีหน้าท่าทางได้อินกับบทมาก

....................หากไม่เอาดีกรีที่หนังชิงออสการ์หลายๆสาขามาเป็นเกณฑ์ ผมมองว่า หนังสองเรื่องนี้ก็เป็นหนังดราม่า เน้นโชว์ฝีมือนักแสดงธรรมดาๆเท่านั้น ไม่ได้มีเรื่องราวที่ดึงดูดใจ หรือว่าสร้างผลกระทบทางอารมณ์อะไรมากมายเลย ตัวเรื่องราวค่อนข้างไปในทางน่าเบื่อด้วยซ้ำ ไม่มีความแปลกใหม่อะไร แต่จุดนึงที่ทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจก็คือ สภาพสังคมของอเมริกัน กับไทย นี่มันมีจุดต่างกันหลายอย่างมาก แต่สะท้อนความเป็นจริงบางอย่างได้ดี ในภาพรวมในสภาพความเป็นอยู่ เรื่องภายนอกของเค้าดูจะดี แต่เรื่องภายในอย่างเรื่องของจิตใจ หรือความเป็นห่วงเป็นใย ความเอื้ออาทรของเค้า มันน้อยกว่าเราเยอะ ดูผู้คนเค้าจิตใจหยาบกระด้าง และขาดความเมตตาอย่างมาก สรุปเลยนะครับ หนังสองเรื่องนี้ก็พอดูได้ ถ้าไม่คาดหวังอะไรมาก แต่ไม่ใช่หนังประเภทเทพมาก แบบ ดีสุดๆไรเงี้ย อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานครับ

โดย: Job (พีอาร์ฯ

) [20 ก.พ. 52 20:51] ( IP A:125.25.63.140 X: )

ความคิดเห็นที่ 5 อยากดูหนังอินเดีย ที่ได้รางวัลอ่ะ
โดย: jenny [25 ก.พ. 52 8:32] ( IP A:125.25.48.38 X: )