ความคิดเห็นที่ 1 ........................หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงควรจะไปดูภาพยนตร์ของค่าย จิบลิ ในโรงหนังด้วย ? การที่หลายๆคนยกย่องผลงานภาพยนตร์ของค่ายนี้ออกหน้าออกตา เป็นเพราะพวกนี้ เค้ากระแดะหัวสูง ทำตัวเป็นเด็กแนวชอบหนังแนวๆ หรือเปล่า ? ท่านจะได้คำตอบเหมือนผม เมื่อเดินก้าวเข้าไปตีตั๋ว และชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ต้องบอกว่าเป็นเรื่องตลกร้ายมากๆ เพราะเราได้ดูหนังอนิเมชั่นของชาติอื่นมาเยอะมาก ไม่ว่า อนิเมชั่นฝรั่งเศส , อเมริกัน , อังกฤษ หรือแม้แต่อนิเมชั่นของ เกาหลี , ฮ่องกง แต่กลับไม่เคยมีภาพยนตร์อนิเมชั่นของค่ายจิบลิแม้แต่เรื่องเดียวที่เข้ามาฉายโรงภาพยนตร์บ้านเราอย่างเป็นทางการ !! ครั้งที่เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมมีโอกาส ชมภาพยนตร์อนิเมชั่นของ จิบลิ ในโรงภาพยนตร์ ก่อนหน้านี้ก็คือเรื่อง Princess Mononoke ที่เคยดูในเทศกาลหนังอะไรสักอย่างที่โรงหนัง เฉลิมกรุง เมื่อนานแสนนานมาแล้ว !!
........................Ponyo อ่านว่า " โพเนียว " เป็นหนังที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างเด็กชาย เด็กหญิง , มนุษย์ กับ ธรรมชาติ และความผูกพันระหว่างคนในครอบครัวครับ หนังไม่ได้มีเนื้อหาอะไรสลับซับซ้อน เล่าเรื่องง่ายๆตรงไปตรงมา ไม่มีผู้ร้าย ไม่มีจุดหักเหหักมุม โลกในหนังค่อนข้างบริสุทธิผุดผ่อง แม้แต่ตัวละครก็ยังใช้เด็กในวัย 4 - 5 ขวบเป็นตัวดำเนินเรื่อง หนังใช้บทพูดน้อย ถึงน้อยมาก ! เน้นไปทางงานภาพการ์ตูน และคลอเคล้าไปด้วยเสียงดนตรีประกอบแบบ ออเครสตร้า ซึ่งฟังแล้วชวนเคลิบเคลิ้มมากๆๆ , โพเนียว อาจจะไม่ใช่งานมาสเตอร์พีซ ของ อ.ฮายาโอะ มิยาซากิ หรือค่ายหนังแห่งนี้ แต่ก็ถือเป็นงานที่รักษาระดับคุณภาพของค่ายตัวเองไว้ได้อย่างเหนียวแน่น จนไม่น่าแปลกใจที่มันทำเงินถล่มทลายในแผ่นดินบ้านเกิด !! แม้จะเป็นหนังที่มีเนื้อหาเด็กๆล้วนๆ แต่กลับมีการเล่าเรื่องที่ไม่ทำให้คนดูรู้สึกน่าเบื่อหรือง่วงนอนเลยครับ เป็นหนังที่เหมาะสำหรับการชมร่วมกันทั้งครอบครัวเป็นยิ่งนัก ~
........................ความโดดเด่นที่ทำให้ จิบลิ แตกต่างจากค่ายพิกซ่าร์ , ดิสนีย์ หรือค่ายอนิเมชั่นอื่นๆบนโลกนี้ก็คือ ค่ายจิบลิ ยังคงยึดมั่นในการทำหนัง อนิเมชั่น 2 มิติเป็นหลัก คือใช้ภาพวาดแทบจะล้วนๆ ในขณะที่ค่ายอื่นนิยมทำอนิเมชั่นในคอมกันหมดแล้ว ? นอกจากนั้นด้วยปรัชญาการเล่าเรื่องของคนตะวันออก ในบางอย่างก็ต้องบอกว่าลึกซึ้งกว่าคนตะวันตก โดยเฉพาะปรัชญาของการดำเนินชีวิตและเรื่องของธรรมชาติ รวมไปถึงระดับจิตวิญญาณ !! และเท่าที่ผมสังเกตุ ผมว่าจิบลิ ไม่ได้เน้นกลุ่มคนดูผู้ใหญ่นะครับ เค้าเน้นเด็กกันล้วนๆเลยครับ ทว่าผู้ใหญ่ก็สามารถซึมซับอารมณ์ และความประทับใจ แบบหนังเด็กในตัวหนังได้ด้วย ~ หลายครั้งที่เราเห็นงานภาพในหนังการ์ตูนที่พยายามเหลือเกินที่จะให้เหมือนของจริง ซึ่งผมว่ามันดูเฟคๆ แต่ในหนังของจิบลิ ส่วนใหญ่ ฉากหลังเค้าทำให้เป็นภาพการ์ตูนแบบการ์ตู๊นการ์ตูนนะครับ อย่างฉากบ้านนี่ก็เป็นภาพวาดไปเลย ดูคลาสสิกไปอีกแบบ ...
........................คาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนของค่ายนี้ อาจจะไม่ได้สวยงามเหมือนของที่อื่น แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันเต็มไปด้วยเสน่ห์นะครับ และด้วยความที่พูดน้อย ดังนั้นหนังเรื่องนี้ก็จะต้องใช้ตัวภาพล้วนๆในการเล่าเรื่องและดึงอารมณ์คนดูให้อยู่หมัด ซึ่งหนังทำได้ผล !! อย่างน้อยผมมองไปข้างๆ ก็เห็นเจ้าหนู Movie นั่งจ้องมองจอหนังตาแป๋วๆ มีหันมาคุยบ้างนิดๆหน่อยๆ แต่พอบอกให้หยุด เธอก็จะกลับไปดูหนังอย่างตั้งใจ และหนังเรื่องนี้ก็เป็นหนังเรื่องแรกที่ Movie ดูหนังตั้งแต่ต้นจนจบแบบไม่หลับเลยสักช่วง !! แอบประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อคิดขึ้นได้ว่า เมื่อเกือบ 10 ปีก่อน ค่ายนี้เองไม่ใช่เหรอที่ทำหนัง Mononoke ที่ว่าด้วยสงครามระหว่าง ธรรมชาติ กับ มนุษย์ แต่ถึงวันนี้ ธรรมชาติ กลับพยายามสร้างความสมานฉันท์กับมนุษยชาติซะเอง ?? ผมยังจำภาพฉากรบราฆ่าฟัน ชนิด ตัดคอกันเลือดพุ่งกระฉูดในหนังการ์ตูนเรื่องนั้นได้ติดตาเลย ดีใจที่วันนี้สงครามต่างๆแบบนั้นมันจบลงแล้ว และภาพสุดท้ายของหนังก็มีแต่ความชื่นมื่นระหว่างมนุษย์ กับธรรมชาติ .. แต่มันจะคงอยู่ไปได้นานสักแค่ใหนกันนะ ?? ตราบใดที่มนุษย์ยังเห็นแก่ตัวและเบียดเบียนธรรมชาติอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ !! |