Drag me to Hell + Vicky Christina Barcelona + High School Musical 3 ... แผ่น DVD ออกแล้ว !!
|
ความคิดเห็นที่ 1 Vicky Christina Barcelona ( สามดาว )
......................เซ๊กส์เป็นปัจจัยหลักในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ทุกคน ใครบ้างจะเถียงว่า เซ๊กส์ไม่ใช่แรงขับเคลื่อนให้เราดำรงชีวิตกันอยู่อย่างที่เป็นทุกวันนี้ ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เคยมีเซ๊กส์แล้ว ลองไปสอบถามดูสิครับว่า ชีวิตของเค้า ( หรือเธอ ) ขาดเซ๊กส์ได้อีกต่อไปหรือไม่ ? ถ้าไม่ตอบอย่างหลอกตัวเองคุณก็คงจะทราบคำตอบนั้นดีอยู่แล้ว !! ปัจจัยที่ทำให้คนเรามีเซ๊กส์กันได้ก็คือความพึงพอใจซึ่งกันและกันนั่นเอง แต่หากว่าคุณไม่ได้พึงพอใจคนๆนั้น คุณจะสามารถมีอะไรกับเค้าหรือเธอ ได้หรือเปล่าครับ ? หลายคนคงบอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะมีอะไรกับคนที่ไม่ชอบหน้า แต่ใครจะรู้ล่ะ ? บางทีคนที่คุณไม่ชอบหน้าเอาซะเลย ถ้าลองได้คบหา ลองได้รู้จักกันลึกซึ้ง ลองได้พูดคุยกันเป็นกิจจะลักษณะ หรือไปใหนมาใหนด้วยกัน ในสภาวะแวดล้อมที่เป็นใจ ในช่วงเวลาที่เหมาะสม มันก็ไม่แน่เสมอไปว่าคุณอาจจะเผลอตัวเผลอใจให้กับเค้าไปก็เป็นได้ ?? ชีวิตบางทีก็มีเรื่องตลกๆเกิดขึ้นกับเราได้เสมอ การที่เราจะขบขันกับชีวิตที่สุดจะผันผวนได้นั้น ผมว่าคงต้องใช้สายตาจากมุมมองของคนที่ผ่านโลกมาพอสมควรล่ะ
......................Vicky Christina คือชื่อของ 2 สาวเพื่อนซี้ ที่ตัดสินใจแพคกระเป๋าหนีไปเที่ยวยุโรป คนหนึ่งหนีเรียน คนหนึ่งหนีรัก ?? โอ๊ะ โอ๊ววว ... ฟังดูคุ้นๆเหมือนหนังไทยบางเรื่องใหมครับท่านผู้อ่าน ? คอนเซปท์เหมือนกันเกือบจะเป๊ะๆ โครงเรื่องแทบจะลอกกันมา แต่สิ่งที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงก็คือ เรื่องราวระหว่างทางนับตั้งแต่เริ่มต้นออกเดินทาง ไปจนถึงจุดหมายปลายทาง ผมชอบไอเดียและการผจญภัยแบบกึ่งๆ Road movie แบบนี้อยู่แล้ว ตัดเรื่องความสวยงามของโลเกชั่น การจัดแสง องค์ประกอบศิลป์ต่างๆของหนัง ฝีมือของนักแสดงและงานโปรดักชั่นดีไซน์ที่เหนือกว่าทุกด้านของหนังออกไป ขอพูดถึงแง่มุมการเขียนบท และการกำกับเท่านั้นละกันครับ เพราะสิ่งที่ทำให้ Vicky เหนือกว่าหนังไทยเรื่องนั้นแบบเทียบไม่ได้ก็คือ บทหนังครับ !! บทหนังเล่นสนุกกับชีวิตมนุษย์ได้อย่างเมามันส์มากๆๆ หนังวางแง่มุมตรงข้ามให้กับตัวละครอย่างชัดเจน และใช้ประโยชน์ตรงนั้นได้อย่างคุ้มค่า !! ความที่ชีวิตเป็นเรื่องที่พยากรณ์ไม่ได้ บางเรื่องดูเมคเซ๊นส์แต่บางครั้งมันก็ไม่เมคเซ๊นส์ในตัวมันเอง คนที่น่าจะเข้าคู่กันอย่างที่สุด ใครจะรู้ว่าอยู่กันรอดหรือเปล่า ??
......................ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีการมาสอนเรื่องศีลธรรมใดๆทั้งสิ้น แต่ใช้เรื่องของตัณหา ราคะ ในการสะท้อนความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์ได้อย่างคมคาย เพราะภายใต้ฉากหน้าของมนุษย์ทุกคน ล้วนแล้วแต่อ้างความถูกต้อง ความชอบธรรม คุณงามความดีของตัวเอง ทว่าสุดท้ายคนเรามักจะพ่ายแพ้แก่อำนาจด้านมืด หรือสันดานดิบที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจกันแทบทั้งนั้น !! นอกจากนั้นผมยังชอบประเด็นสิ่งที่เห็นมักไม่เป็นอย่างที่คิด ที่ วู๊ดดี้ อัลเลน สะท้อนในหนังเรื่องหลังๆหลายเรื่อง ปกติแล้วผมไม่ได้ปลื้ม อัลเลน เท่าไหร่ !! เพราะผมมองว่า วู๊ดดี้ อัลเลน เป็นผู้กำกับที่ทำหนังแนวปัญญาชนคนชั้นสูงมากไปหน่อย ต้องปีนกะไดดู แต่งานช่วงหลังของผู้กำกับท่านนี้เล่าเรื่องง่ายขึ้น สนุกกว่าเดิม แต่ยังคงคุณค่าและชั้นเชิงทางศิลปะภาพยนตร์ไว้ได้เป็นอย่างดี !! ขนาดว่าหนังเล่าแบบ Voice Over ที่ผมเกลียดมากๆ แต่มาดูหนังเรื่องนี้แล้วผมกลับชอบ แถมยังรู้สึกว่าเป็นวิธีที่เหมาะกับหนังโดยแท้ !! และงานของผู้กำกับอัลเลนเรื่องนี้เป็นตลกร้าย ที่ดูแล้วไม่ขำขื่นครับ ไม่เครียด แต่สามารถสนุกไปพร้อมๆกับหนังได้ ~ | โดย: Job (พีอาร์ฯ ) [21 ก.ย. 52 12:47] ( IP A:202.57.132.197 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 ยังไม่ได้สักเรื่องเลย แต่เมื่อสองสามวันที่ผ่านมานี่แวะไปดูมา 3 เรื่อง -Aliens in the Attic -UP -Night at the Museum: Battle of the Smithsonian (2009)
สนุกและได้หัวร่อตลอดทั้งเรื่อง มีฉากซึ้งๆและตื่นเต้นเพียบเหมือนกัน
| โดย: คนยูเอสเอ [22 ก.ย. 52] ( IP A:174.49.109.41 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องแรกสนุกดี แต่เรื่องที่สามดูไม่จบอ่ะ ช่วงนี้ พักผ่อนน้อยเลยพาลให้หลับง่ายๆได้ | โดย: jenny [22 ก.ย. 52 8:29] ( IP A:125.25.41.47 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีครับพี่คนยูเอสเอ
- Aliens in the Attic เรื่องนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยครับ ไม่รู้ว่าหนังแนวใหนกันแน่
- up อันนี้คำวิจารณ์ดีมากๆๆ ตอนหนังเข้าโรงก็อยากดูครับ แต่ดันเอาเวลาไปทำอะไรหมดไม่รู้ เผลอแป๊ปเดียว หนังออกแล้ว คงต้องรอแผ่นกันต่อไป
- Night at the Museum 2 เรื่องนี้เฉยๆมากๆ เคยดูภาคแรกแล้วก็ไม่ปลื้ม เห็นแผ่นออกนานแล้ว ไว้ว่างๆจะลองเช่ามาชมดูครับพี่ | โดย: Job (พีอาร์ฯ ) [22 ก.ย. 52 12:48] ( IP A:202.57.132.197 X: ) |  |
|