{{ นาคปรก ... บทสรุปของหนังเรื่องนี้ อาจนำพาเราไปถึงแก่นแท้ของศาสนาพุทธ }}
|
ความคิดเห็นที่ 1 .........................นาคปรก เป็นหนังที่ถ้าให้พูดตรงๆก็คงไม่ต่างจากที่หลายๆคนที่ได้ดูมาแล้วพูดกันมานั่นแหละครับ คือเป็น " หนังดี " แต่ก็ไม่ใช่หนังดีเลิศ หนังดียอดเยี่ยมแห่งปี อะไรประมาณนั้นแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี การเดินไปตีตั๋วหนังเรื่องนี้ เพื่อเข้าไปชมในโรงหนัง ยังไงก็คุ้มค่าตั๋วครับ และถือว่าเป็นการสนับสนุนหนังไทย " น้ำดี " ที่มีการนำเสนอเนื้อหาที่แปลกใหม่ ท้าทาย ไม่ซ้ำซากวนเวียนอยู่กับแนวเดิมๆที่มักจะขายได้ !! นอกจากนั้นยังถือว่าเป็นหนังที่กล้าหยิบยกเรื่องของศาสนา มาวิเคราะห์ และถกเถียงกัน ซึ่งไม่ค่อยมีคนทำหนังในประเทศนี้กล้าหยิบเรื่องราวพวกนี้ออกมาทำเป็นหนังเพื่อความบันเทิง กันเท่าไหร่ ? เพราะนอกจากจะขายยากแล้ว ยังต้องผจญปัญหากับกองเซนเซอร์บ้านเรา ซึ่งอ่อนไหวกับประเด็นเหล่านี้ซะเหลือเกิน อย่างหนังเรื่องนี้ก็ว่ากันว่า กว่าจะได้ฉายบ้านเรา ต้องผ่านการดองเค็ม ร่วม 3 ปี กว่าคนดูจะได้พิสูจน์กัน
.........................หนังเล่าเรื่องราวของ โจร 3 คน ที่บังเอิญเอาถุงเงินที่ปล้นมาจากรถขนเงิน ไปซ่อนไว้ในวัดแห่งนึง แต่พอตอนจะกลับไปเอา ปรากฏว่าดันมี " โบสถ์ " สร้างขึ้นมาครอบบริเวณที่ตัวเองไปฝังเงินไว้ซะงั้น ครั้นไม่รู้จะทำไง ก็เลยจำใจต้องปลอมตัวด้วยการบวช เพื่อที่จะได้หาทางขุดเงินที่ฝังไว้ขึ้นมาให้จงได้ ?? ไอเดียแรงๆแบบนี้ ก็ตามมาด้วยภาพแรงๆอีกมากมาย อาทิ พระพกปืนจ่อหัวกัน แบบหนัง จอห์น วู หรือว่าสีกา เมียเก่าของพระโจร ที่ขึ้นไปหาแล้วก็ร่วมสังวาสกันถึงบนกุฏิ !! รวมถึง โจรในคราบพระเหล่านี้ รุมกระทืบคนบางคนที่เข้ามายุ่มย่ามสมบัติตัวเอง ฯลฯ จริงๆภาพแรงๆเหล่านี้หาชมได้ในตัวอย่างหนังครับ ถ้าใครเคยดูทีเซอร์มาแล้ว ก็อาจจะไม่ตื่นเต้นอะไรมากมายนัก เพราะภาพช่วงที่เหลือของหนัง ก็ถือว่าเรียบๆ เน้นการวางภาพเชิงสัญลักษณ์อยู่หลายๆช็อต ซึ่งเล่นบ่อยไปก็ดูเหมือนเฝือ และจงใจเกินไปสักหน่อย
.........................วิเคราะห์ในเชิงภาพยนตร์บันเทิง หนังเรื่องนี้ก็ถือว่าเอาตัวรอดได้หวุดหวิด คงเพราะได้ภาพแรงๆ เนื้อหาประเด็นแรงๆ ทำให้ดึงดูดสายตาของคนดูไปได้ตลอดรอดฝั่ง แม้หลายช่วงหลายตอนอาจจะต้องบอกว่า หนังดูเนือยๆ น่าเบื่อ และสนุกน้อยไปสักนิด ? รวมถึงการนำเสนออาจจะดู " ทื่อ " และ " ซื่อ " เกินไป แต่มองอีกมุมก็คงต้องบอกว่า คนทำหนัง จริงใจ และตั้งใจในการนำเสนออยู่ค่อนข้างมาก !! โชคดีที่ภาพรวมของหนังถือว่าจับต้องได้ และดูเป็นเรื่องใกล้ตัว ทำให้หลายคนอินได้ไม่ยาก และซีนอารมณ์ช่วงท้ายเรื่องถือว่าทำได้ดี เลยช่วยฉุดหนังให้ภาพรวมดูดีขึ้นได้มาก ทั้งๆที่จริงๆแล้วหนังมีรายละเอียดหลายอย่างที่ " หลุด " และไม่ค่อยสมเหตุสมผล รวมถึงขาดความน่าเชื่อถือในเรื่องของห้วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ แต่โดยรวมๆถือว่ายอมหยวนให้ได้อยู่ครับ !! ถือว่ายกประโยชน์ให้จำเลยโทษฐานที่บกพร่องโดยสุจริต ~ | โดย: Job (พีอาร์ฯ ) [8 เม.ย. 53 16:55] ( IP A:125.25.12.136 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 .........................เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ตัวละครล้วนๆครับ และการได้ดาราคุณภาพหลายๆคนมาประชันบทบาทกัน ถือว่าเป็นอะไรที่น่าชมมากๆครับ เรย์ , ทราย , เต้ ( ไอ้ฟัก ) นั้นถือว่าเป็นระดับแนวหน้าอยู่แล้วกับหนังแนวหนักๆแบบนี้ ส่วน เต๋า สมชาย ซึ่งเครดิตที่ผ่านมายังไม่มีผลงานระดับเจ๋งๆในเครดิต ก็ได้มีหนังเรื่องนี้แหละครับ ที่เอาไปเก็บใน port folio ของตัวเองได้ การที่ได้ประกบกับดาราฝีมือ ต่างคนต่างก็ช่วยกันส่งเสริมให้พลังการแสดงของคนที่อยู่ร่วมซีนได้เจิดจรัสมากขึ้น แต่คนที่ผมปลื้มที่สุดก็คือ คุณสะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์ ในบทหลวงตา ซึ่งเป็นบทสมทบชายที่โดดเด่นมากๆ ลิสท์ชื่อไว้สำหรับการชิงรางวัลสาขานี้ในการประกวดรางวัลด้านภาพยนตร์ไทยเอาไว้ได้เลยครับ !! ในส่วนของเต๋านั้น มีฉากนั่งกัณฑ์เทศน์ฉากเดียวที่ผมคิดว่า เต๋าแสดงล้นไปนิดนึง ถ้าลดความฟูมฟายออกไปบ้าง น่าจะทำให้หนังดูมีพลังกว่านี้ ~
( Spoiled - ย่อหน้าถัดจากนี้ มีเฉลยปมสำคัญของหนัง )
.........................บทภาพยนตร์ นาคปรก เขียนกันถึง 5 คน เข้าใจว่าคงช่วยกันแก้ไขงานเต็มที่ ซึ่งก็ถือว่ากลมกล่อมพอประมาณครับ แต่การนำเสนอด้วยภาพของผู้กำกับยังทำได้ไม่สมบูรณ์นัก แทนที่จะเล่าเรื่องด้วยภาพ หลายๆซีนกลับออกมาด้วยการ เอาคำพูดเก๋ๆใส่ยัดปากตัวละคร ทำให้มันดูไร้ชั้นเชิงไปนิดนึง แต่ก็เข้าใจง่ายสำหรับคนดู หนังหักมุมได้หลายตลบ และสร้างความตะลึงให้กับคนดูได้หลายหน แต่คงไม่มีหนใหนเจ็บปวดที่สุดเท่าฉากจบ แม้ว่าจะมีการแก้ไขให้ดู " ซอฟส์ " และ " สูตรสำเร็จ " อยู่บ้าง แต่ก็พอมองเจตนาของคนทำหนังได้แจ่มชัด ~ อย่างที่หนังบอกนั่นแหละครับ ศาสนาไม่มีวันเสื่อมหรอกครับ แม้ว่าจะมีคนไม่ดีไปทำเสีย แต่สุดท้ายแก่นแท้แห่ง ธรรมะ นั้นยังไงก็ยังชัดเจน รอให้ทุกคนเปิดรับและทำความเข้าใจ !! ศาสนาจะกล่อมเกลาจิตใจคนเลวให้กลายมาเป็นคนดีได้จริงๆหรือ ? และคนที่อยู่กับ " ธรรมะ " มาทั้งชีวิต เที่ยวสอนคนโน้นคนนี้อยู่ตลอดเวลา แท้จริงแล้วเขาปรับใช้กับตัวเองได้ดีขนาดใหน ?
.........................ถามว่า ใครบาปที่สุดในหนังเรื่องนี้ ? ผมเองก็ยากจะตอบได้ถูก !! ตัวละครหลักทุกตัวในหนังเรื่องนี้ " ชั่ว " หมดครับ แม้บางคนจะอ้างว่าทำความผิดเพราะต้องการเอาไปช่วยแม่ตัวเอง ออกแนว ทำชั่วแต่ " คิดดี " ก็ตามทีเหอะ แต่สุดท้าย ต่างก็หลีกหนีความจริงไม่พ้น เพราะจริงๆแล้วเราทุกคนมีทางเลือกกันทั้งนั้น เพียงแต่เราไม่ทำสิ่งที่ถูก สิ่งที่ควร เราต่างมี " ข้ออ้าง " ที่จะทำในสิ่งที่เราอยากจะทำกันทั้งนั้น ~ หนังใช้ฉากจบแบบปลายเปิด ให้คนดูไปขบคิดหลายๆอย่างกันต่อเอง รวมถึงเปิดโอกาส ให้คนดูได้จินตนาการบางฉากที่ขาดหายไปกันอย่างสนุก !! ฟังดูเหมือนหนังจะให้คำสอนดีๆกันทั้งเรื่อง แต่สรุปตบท้ายเหมือนตบหน้าคนดูฉาดใหญ่ๆ เมื่อบอกเราว่า สุดท้ายคนที่สอนเราซะดิบดี มีคำพูดสวยหรู มีการวางตัวที่ดี สุดท้ายก็ทำเลวไม่ได้แตกต่างไปจาก " โจรชั่ว " เลยแม้แต่น้อย !! การเป็นคนดี ไม่ได้ดูกันที่ ตำแหน่งหน้าที่การงาน หรือชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ หรืออิมเมจดีๆ นั่นมันแค่เปลือก ~ คนเราก็ชอบมองกันแต่เปลือก หากมองเข้าไปถึงเนื้อแท้จริงๆ อาจจะได้พบว่า สุดท้ายเปลือกที่สวยๆอาจจะห่อหุ้มไว้ด้วยความเน่าเฟะ ที่อยู่ภายใน ก็เป็นไปได้ ... | โดย: Job (พีอาร์ฯ ) [8 เม.ย. 53 18:18] ( IP A:125.25.12.136 X: ) |  |
|