Joblovenuk's วิจารณ์ The King's Speech / รักมันใหญ่มาก / ศพเด็ก 2002 ....
|
ความคิดเห็นที่ 2 Love Julinsee ( รักมันใหญ่มาก ) .... 3 ดาว ....
................................หน้าหนังวัยรุ่นจ๋า แถมตีหัวเข้าบ้านฉายตัดหน้าอีกค่ายที่ชอบทำหนังโปรวัยรุ่น ซึ่งเตรียมจะปล่อยหนังในสัปดาห์หน้า เรียกว่าใครดีใครได้กันเลยทีเดียว ถ้ามองเผินๆก็ดูเหมือนว่า M ๓๙ จะไม่มั่นใจในศักยภาพหนังของตัวเองจึงต้องรีบปล่อยของออกมาก่อน แต่ความจริงกลับเป็นตรงกันข้าม หนังเรื่อง Love จุลินทรีย์ โดยภาพรวมนั้นตัดได้ดีกว่าตัวอย่างหนังหลายเท่า พูดได้เลยว่ามันคือ Love Actually เวอร์ชั่นไทยที่มีผู้กำกับหนังไทยหลายคนพยายามทำออกมาแต่ยังไม่เคยทำได้ คือหนังแนวโรแมนติก หลายชีวิต มีตัวละครหลายๆคู่เนี่ย ตั้งแต่ Love Actully ฮิต ก็มีคนทำหนังทั่วโลกพยายามทำเลียนแบบ แต่หาเรื่องที่ทำได้ดี หรือดีกว่าได้น้อยมากๆๆๆ เพราะหนังแนวนี้มันเล่าเรื่องยากน่ะ จะว่าไปแล้ว ผู้กำกับคู่นี้คิดถูกที่ใช้การเล่าเรื่องแบบเรียงลำดับทีละคู่ ไม่ตัดสลับให้วุ่นวายเพราะเสี่ยงกับการที่หนังจะเละตุ๊มเป๊ะได้
................................ลำปางหนาวมาก รอ รักไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และเพื่อนรัก คือเรื่องราวความรักสี่แบบ เล่าเรียงแบบหนังสั้นสี่ตอนโดยมีบทสรุปของเรื่องราวทุกคู่ ที่คอนเสริท บิ๊กเม๊าท์เทนบนเขาใหญ่ หนังมีธีมชัดเจนแยกกันไป ความรักแต่ละแบบก็ฉีกกันโดยสิ้นเชิง ตัวละครไม่เอามาเล่นข้ามเรื่องกัน พูดง่ายๆก็เหมือนแยกกันเป็นเอกเทศนั้นเอง มีบทสรุปของความรัก ไปว่ากันบนเขาใหญ่ กับฉากคอนเสริทยักษ์ฉากนั้น เพลงของแต่ละตอนก็เป็นไปตามแนวเนื้อหาของเรื่องราวในตอนนั้นๆ ถือว่าเป็นการเล่าเรื่องแบบเรียบง่าย ใสซื่อ เล่นโจทย์ง่ายแต่ชัดเจน ไม่พยายามเล่นท่ายากแบบสุ่มเสี่ยงโดยไม่จำเป็น ? ผมคิดว่าเรื่องราวความรัก 4 แบบอย่างที่เห็นในหนัง น่าจะตรงกับชีวิตจริงของน้องๆวัยรุ่นบ้าง ไม่คู่ใหน ก็เรื่องใหนสักเรื่องอย่างแน่นอนครับ เพราะมันครบรสมาก
................................หนังมีนักแสดงมากกว่า 4 คู่ เพราะมีตัวสมทบชนิดที่ขโมยซีนอยู่หลายคน แต่บอกได้คำเดียวว่า นอกจากหน้าเก่าอย่าง เก้า จิรายุ และ อเล็กซ์ กับสายป่านแล้ว ดาราหน้าใหม่ทุกคน เกิดหมดครับ คู่แรก น้องโบ๊ท ณัฐพงษ์ หนุ่มเชียงใหม่ที่เล่นกับสายป่าน ใครจำไม่ได้ก็แย่แล้ว เพราะเล่นโชว์กันแบบถึงอกถึงใจสาวๆสุดๆครับ เห็นทั้งเรือนร่าง กล้ามากพ่อหนุ่ม คู่สอง น้องไอด้า ก็สวยเป็นเอกลักษณ์ น้องเม๊าท์ ณัฐชา ที่เล่นเป็นนายไบร๊ท์ ถึงจะหล่อร้ายแต่ก็โดนใจสาวแน่นอน น้องไอด้าเล่นบทเศร้าได้โดนใจมาก รอรักหรือรอเลิก พี่อุ๊ หฤทัยก็มารับเชิญแบบโดน บทหนังเรื่องนี้เขียนได้คมคายสุดๆครับ เจ๋งกว่าหนังค่าย M 39 ที่ผ่านมาทุกเรื่อง คู่สาม นางเอกทั้งสองที่เล่นกับน้องอเล็กซ์ ก็น่ารักมีเสน่ห์ทั้งคู่ ไม่ว่าน้อง นาว ทิสานาฏ และน้อง แอน กมลนัทธ์ ส่วนตอนสุดท้าย น้อง โม มนชนก ที่เล่นเป็นเพื่อนสาวที่แอบรักเพื่อนตัวเอง แบบว่า น่ารักมากๆๆๆ กี๊ซซซ โดนใจ | โดย: joblovenuk (พีอาร์ฯ ) [5 มี.ค. 54 21:16] ( IP A:124.122.237.56 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 ตัวอย่าง รักมันใหญ่มาก ทั้งสองเวอร์ชั่นที่ตัดมา ไม่ได้ครึ่งนึงของตัวหนังจริงๆเลยครับ มันไม่โดนอ่ะ ตรงกันข้ามกับตัวหนังที่ดีมากๆ | โดย: Job (พีอาร์ฯ ) [5 มี.ค. 54 21:19] ( IP A:124.122.237.56 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 หากราชวงศ์ไทยใจกว้าง ยอมให้คนพูดถึงได้บ้าง เอาแค่ที่ชาวบ้านได้พบเห็นตามปรกติก็พอ แล้วมีการไปสร้างเป็นหนังออกฉาย น่าจะเป็นหนังดังของศตวรรษเลยก็ได้นะครับ | โดย: คนยูเอสเอ [7 มี.ค. 54 2:41] ( IP A:64.2.172.254 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 พูดก็พูดเหอะครับ หนังแนวนี้ไม่ได้สร้างกันง่ายๆ เขียนบทให้ดีก็ยาก กำกับให้ออกมาเป็นหนังดีก็ยาก ไม่งั้นคงมีหนังแนวนี้จากประเทศอื่นกันออกมาให้เกร่อไปแล้วล่ะ คงด้วยหลายๆปัจจัย หลายเหตุผล สาเหตุเรื่องการตอบรับของตลาดคนดูหนังก็เป็นอีกเหตุผลนึงด้วย ส่วนบ้านเราเชื่อว่า ถ้าทำ ก็มีคนดูอยู่แล้วครับ ปัญหาก็คือ ผมคิดว่าจริงๆสถาบันบ้านเราน่าจะใจกว้างนะครับ แต่ .. คนใกล้เคียง ที่ปรึกษา หรือบรรดาคนที่มีเอี่ยวกับสถาบัน อาจจะต้องการรักษาภาพลักษณ์ หรือมุ่งหวังอะไรบางอย่าง คือเซ็ททุกอย่างมาแบบนึงแล้ว เลยไม่ยอมให้เปลี่ยนแปลงไปในทางอื่นอย่างเด็ดขาด ต้องรอให้คนพวกนี้ลงโลงให้หมดก่อนนั่นล่ะกระมังครับ จึงจะมีโอกาสได้เปลี่ยนแปลง .... อย่างในหนังอังกฤษเกี่ยวกับเจ้าๆเหล่านี้ พูดซ้ำด้วยว่า สถาบันของราชวงศ์อังกฤษ ก็ไม่ต่างจากบริษัท ( The Firm ) เค้ามีบริษัทที่ปรึกษาที่รับจัดการเรื่องอิมเมจและทุกอย่างให้เป็นอย่างดี แต่ไม่ได้สร้างความงมงายให้กับประชาชนของเขา ... พระเจ้าจอร์จ ที่ 6 ที่เล่นโดย โคลิน เฟิร์ธ พูดในฉากนึงประมาณนี้นะครับว่า " ราชวงศ์ก็เหมือนกับบริษัท ถ้าเราทำงานไม่ดี ใครเขาจะจ้างเรา " !! ( ตัดพ้อที่ตัวเอง แม้แต่พูดปราศรัยอวยพรวันคริสต์มาส ออกวิทยุ ยังทำไม่ได้ เพราะติดอ่าง ) | โดย: Job (พีอาร์ฯ ) [7 มี.ค. 54 7:14] ( IP A:124.121.200.236 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 ศพเด็ก 2002 ( สามดาว )
................................ข่าวคราวครึกโครมบนสื่อทุกแขนง เรื่องการขุดค้นพบซากเด็กทารกจากการทำแท้งที่วัดไผ่เงินรวม 2002 ศพ ได้กลายมาเป็นภาพยนตร์จอเงินเรียบร้อยแล้วภายในเวลาไม่กี่เดือน ต้องบอกว่ารวดเร็วจริงๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นคงจะเสร็จเร็วแบบนี้ไม่ได้ ถ้าทีมงานที่ร่วมลงมือทำไม่มีฝีมืออยู่ในระดับเจ๋งจริงๆ โดยเฉพาะมันสมองของผู้กำกับที่เป็นคนต้นคิดไอเดียเกี่ยวกับหนังเรื่องศพเด็กทำแท้งเช่นนี้ ใครจะคิดว่าผู้กำกับที่ทำหนังตลก กระเทย ไร้สาระมาตลอดอย่าง พจน์ อานนท์ จะกำกับหนังผีสยองขวัญเต็มตัวออกมาได้ ? อ้อ ไม่สิ จริงๆผู้กำกับหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่ พจน์ อานนท์นะครับ ขอแก้ข่าว หากแต่เป็น คุณ อานนท์ มิ่งขวัญตา และคุณ เจมส์ ธนดล 2 ผกก.หน้าใหม่ไฟแรงที่เข้ามากุมบังเหียนโครงการหนังและสร้างสรรผลงานคุณภาพออกมาสู่ท้องตลาดได้สำเร็จ ~
................................ศพเด็ก 2002 เล่าเรื่องของครอบครัวหนึ่ง พ่อแม่ลูก มีความสุขกันดี แต่อยู่มาวันนึง หลังจากขับรถผ่านย่านวัดไผ่เงิน ตัวลูกสาวหรือน้องใยไหม ก็บอกพ่อแม่ว่า มีน้องแถววัด อยากขอมาอยู่ด้วย .. อุย พิมพ์ไปกลางดึก ขนก็ลุกซู่ขึ้นมาท้นใด ? นอกจากตัวละครครอบครัวนี้แล้ว ก็ยังมีตัวละครสมทบหลักๆอีกหลายตัวมาก ที่เกี่ยวพันกับเรื่องราวของการทำแท้ง และชีวิตก็เริ่มพบกับสิ่งแปลกประหลาดน่ากลัวสารพัดตามมา เหมือนเนื้อหาตัวละครจะค่อนข้างกระจัดกระจาย แต่แท้จริงแล้วทุกชีวิตในหนังเรื่องนี้ ก็คล้ายๆกับเรื่องของมนุษย์เรา นั่นก็คือ บางทีคนเราก็มักจะมีเส้นด้ายบางๆเกี่ยวโยงกันเอาไว้ โดยเฉพาะคนที่เคยทำอะไรมาเหมือนๆกัน ในเมื่อตัวละครเยอะ เรื่องราวที่เป็นพล็อตรองก็เลยยิบย่อยมาก ง่ายต่อการที่จะหลงทางมาก แต่สุดท้ายเรื่องทั้งหมดก็ขมวดปมเข้ามาคลี่คลายได้จนครบ
................................ความเจ๋งของหนังเรื่องนี้คือมันมีอะไรให้เราประหลาดใจเยอะครับ ผมบอกเลยว่ามันไม่ใช่หนังผีเต็มตัว แต่มันเป็นหนังดราม่าที่มีสัดส่วนของเรื่องราวผีๆอยู่เยอะมาก และผกก. อานนท์ ก็โชว์ฝีมือการเล่าเรื่องในซีนอารมณ์แบบดราม่าได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งในส่วนของการแสดงและการกำกับ มันไม่ใช่หนังโฉ่งฉ่างแบบ ใช้เสียงตุ้งแช่เข้าล่อ หรือโชว์ผีกันทุกห้านาทีเหมือนบางเรื่อง ซึ่งผมว่านั่นไร้สาระมาก หนังผีไม่จำเป็นต้องมีผีด้วยซ้ำ แต่ผู้กำกับ อานนท์ สามารถทำให้เรารู้สึกขนลุกซู่ในหลายๆฉากได้ทั้งๆที่เรายังไม่เห็นผีโผล่เลยด้วยซ้ำ นั่นคือความเก่งกาจของผู้กำกับล้วนๆ ปกติแล้ว พจน์ อานนท์ เป็นผู้กำกับที่ชอบใส่อะไรเยอะๆ ถ้าดราม่าก็จะฟูมฟายจัดๆ ตลกก็ต้องโอเว่อร์หลุดโลกแต่ผู้กำกับ อานนท์ วงศ์ขวัญตา เป็นประเภท minimalist ( มินิมัลลิส ) ใช้เทคนิคแบบ น้อยได้มาก ซึ่งได้ผลอย่างแรง ยิ่งเราไม่เห็นมากเท่าไหร่ ทั้งประสาทตาและหูเราก็ยิ่งเบิกกว้างขึ้นมากเท่านั้น และทันทีที่เราเห็นอะไรเต็มๆ ผลก็คือ แทบจะช็อคกันไปเลย ~ | โดย: Joblovenuk (พีอาร์ฯ ) [8 มี.ค. 54] ( IP A:124.121.235.225 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 8 ................................หนังมีส่วนที่บกพร่องบ้างเหมือนกัน เช่นพร๊อพจัดได้หรูหราเกินไปนิด แต่ภาพรวมๆถือว่าเป็นหนังที่มีองค์ประกอบรวมๆน่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง แม้อาจจะยัดเยียดคำสั่งสอนไว้บ้าง แต่สุดท้ายหนังก็หักมุมเข้าไปสู่บทสรุปแบบภาพยนตร์ได้อย่างน่าประทับใจ ผมเชื่อว่า ศพเด็ก 2002 จะทำให้แฟนหนังชาวไทยส่วนใหญ่ต้องตกตะลึงกับฝีมือการกำกับที่พัฒนาขึ้นทุกๆวันอย่างน่าตกใจของ คุณอานนท์ วงศ์ขวัญตา และจะทำให้ใครหลายคนที่เคยปรามาสพี่แกเอาไว้ จะต้องหันกลับมามองแกใหม่ด้วยสายตาที่ชื่นชมเต็มตัว เพราะบางคนที่อาจจะเคยแย่ เค้าก็ไม่จำเป็นต้องแย่เสมอไป ขณะเดียวกัน คนที่มีภาพพจน์ดี ดูน่าเคารพ เหมือนจะเป็นคนดีที่น่าชื่นชม คอยควบคุมคนอื่นให้อยู่ในศีลธรรมอันดี เป็นเหมือนพ่อพระของชาวบ้าน แต่แท้จริงแล้วอาจจะเลวยิ่งกว่าผีห่ .. ซาตาน แต่อย่างว่าคนเรามักชอบมองคนแค่เปลือก ตัดสินอะไรง่ายๆจากแค่ตาเห็น เพราะงั้นเราถึงได้โดนหลอกลวงกันอยู่เรื่อยๆ เชื่อว่าหลังจากที่ดูหนังเรื่องนี้จบ นอกจากข้อคิดที่ได้กลับไปถกเถียงกัน ไม่ใช่แง่ว่าใครผิดใครถูกนะครับ เพราะประเด็นนี้ไม่มีคำว่าผิดถูกอยู่แล้ว สิ่งที่ผมอยากชวนคุยต่อไปก็คือ คนบางคนมันเลวเพียงเพราะ " เงิน " หรือมันเลวอยู่แล้วโดยสันดานกันแน่ ??
ป.ล. ฉากไคลแมกซ์ , ฉากหักมุมปิดท้าย โปรดระวังเพราะทั้งหลอนและสยองขวัญสุดๆ | โดย: Joblovenuk (พีอาร์ฯ ) [8 มี.ค. 54] ( IP A:124.121.235.225 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 เบรอไปหน่อย ลืมตรวจทานข้อมูล ขอแก้ไขข้อความหน่อยนะครับ พี่พจน์ อานนท์ มิ่งขวัญตา นะครับ ไม่ใช่วงศ์ ขออภัยสำหรับความผิดพลาด ... | โดย: Joblovenuk (พีอาร์ฯ ) [8 มี.ค. 54 15:10] ( IP A:124.122.226.181 X: ) |  |
|