◎ Joblovenuk วิจารณ์ มึงกูเพื่อนกันจนวันตาย / ฝนตกขึ้นฟ้า / Nader and Simin a Separation ◎
   มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย ( สองดาวครึ่ง )

................ภาพรวมของหนังแอคชั่นดราม่าที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของพวกนักเลงอันธพาลกลุ่มหนึ่งเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างสวยงาม ในที่นี้หมายถึงด้านรูปลักษณ์ อิมเมจ และวิธีการสื่อออกมาสู่ตลาดวงกว้าง ชีวิตของเด็กเทคนิค ช่างกลตีกัน เพื่อนฝูงนักเลงหัวไม้ในหนัง ซึ่งไปเล่าถึงชีวิตเด็กวัยรุ่นเทคนิคในเชียงใหม่ ถ่ายออกมาในแง่มุมสวยงามแทบทั้งสิ้น ทุกอย่างดูดีไปเสียหมด ผมแทบไม่เห็นชีวิตด้านมืดของพวกเค้าสักเท่าไหร่เลย หากถามพวกคุณทุกคนว่า คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับพวกเด็กเทคนิค ช่างกลตีกัน เชื่อว่าคำตอบนั้นคงจะออกมาดูไม่ดีเท่าไหร่ จริงๆถ้าว่าไปแล้วหนังเรื่องนี้พยายามลดดีกรีความแรงของพวกช่างกลให้ออกมาเป็นเหมือน นักเลงมัธยมหัวไม้มากกว่า โดยยึดบริบทความเป็น แอคชั่นฮีโร่ โรแมนติกเข้าไป หนังเน้นเรื่องราวมิตรภาพระหว่างเพื่อน โดยไม่ลงประเด็นดราม่าหนักๆ หรือเรื่องเครียดๆใส่ลงไปมากนัก คงเชื่อว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ได้ต้องการเห็นอะไรที่มันแรงๆ หรือทำร้ายจิตใจเท่าไหร่ เพราะชีวิตจริงในข่าวทุกวันนี้เราก็รันทดมากมายพอแล้ว ? เพราะงั้นหนังเลยทำหนังแนวฟีลกู๊ดชดเชยแทนที่เสียเลย

................มึงกู เล่าเรื่องของหนุ่มหน้าละอ่อนชื่อ สอง ที่เพิ่งย้ายโรงเรียนมาอยู่ในโรงเรียนที่มีกลุ่มแก๊งค์วัยรุ่นอันธพาล ด้วยชีวิตที่ค่อนข้างขาดความอบอุ่น ครอบครัวมีปัญหา ทำให้วัยรุ่นเหล่านี้มารวมตัวมั่วสุม และบางครั้งก็มีเรื่องมีราวกระทบกระทั่งกัน เค้าบอกว่า เค้าไม่ได้ไปหาเรื่องใครนะ แต่คนอื่นมาหาเรื่องพวกเค้าเอง แล้ววันหนึ่งสองก็ได้เข้าไปคลุกคลีกับแก๊งค์หนึ่งที่ชื่อแก๊งค์สเปิร์ม จนได้สนิทสนมแล้วได้เรียนรู้ชีวิตและคำว่า มิตรภาพของเพื่อน คนเราถ้าได้เพื่อนดี ชีวิตก็จะดีขึ้น ถ้าได้เพื่อนเลว ชีวิตก็จะตกต่ำย่ำแย่ลง มันเป็นเรื่องธรรมชาติ พ่อแม่ต้องเข้ามาให้ความดูแลอบอุ่น ใกล้ชิดลูก โดยเฉพาะเวลาที่พวกเค้าต้องการเรา สังเกตได้ว่าวัยรุ่นเหล่านี้ก่อปัญหาเพียงเพราะต้องการความสนใจ เรียกร้องให้คนหันมามองเค้า ไม่ใช่นักเลงหัวไม้โดยกำเนิด จะว่าไปแล้วหนังมองโลกในแง่ดีมากๆที่ไม่พยายามองปัญหาลึกๆว่า คนจำนวนมากมันเลวโดนสันดานก็มีเยอะ และนักเลงฮีโร่ ประเภทว่าคนจริง ไม่ใช้อาวุธ สู้แค่แพ้ชนะ ไม่เล่นนอกเกมส์ ไม่ทำเรื่องเลวๆแบบพระเอกเรื่องนี้มันจะมีสักกี่คนในความเป็นจริง ? หนังชวนให้คิดว่า ที่บอกว่าสร้างจากเค้าโครงเรื่องจริง มันจริงแค่ใหน ?

................คาแรคเตอร์แก๊งค์วัยรุ่นในหนังถือว่ามีสีสันดี แต่ออกแนวน่ารักซะมากกว่า มีตัวละครบางตัวสามารถขโมยซีนตัวพระเอกได้ด้วยซ้ำ ในแง่ของการแสดงถือว่าสอบผ่านในระดับหนึ่ง คือผมเชื่อว่าน่าจะทำให้คนดูส่วนใหญ่เชื่อได้ แต่อาจจะไม่ทั้งหมด โดยเฉพาะคนดูสาวๆและกลุ่มวัยรุ่นน่าจะถูกใจกับหนังเรื่องนี้ เพราะเต็มไปด้วยหนุ่มหล่อๆน่ารัก แบ๊ดบอย โชว์ลีลาพะบู๊แบบมันส์ๆสะใจ โดยเฉพาะแฟนๆมาริโอ้ เมาเร่อ ถูกใจแน่นอนครับเพราะเรื่องนี้ น้องโอ้ หล่อมากกกก เท่ห์สุดๆแถมยังได้บทที่ขายความเป็นพระเอกฮีโร่สุดๆ คือนอกจากจะหล่อ เท่ห์แล้วยังเป็นคนดึ เป็นขวัญใจของทุกๆคนอีกต่างหาก แบบนี้สาวๆที่ใหนจะทานทนไหวกันล่ะครับ ? แล้วอย่าคิดว่าหนังจะดูยากหรือหนักหนาสาหัส เลือดสาดรุนแรงนะครับ ตรงข้ามเลย หนังถ่ายออกมาสวยทุกฉาก แล้วก็สดใสน่ารักกุ๊กกิ๊ก จนผมคิดว่าน่าจะได้เรท ส.ส่งเสริมซะด้วยซ้ำไปครับ คอหนังที่ชอบความซาดิสต์ ดิบเถื่อนรุนแรง ดราม่าลึกซึ้ง อาจจะผิดหวังเล็กน้อย แต่สำหรับคนดูทั่วไปที่พิศวาสคาดหวังความบันเทิงแฝงสาระ ดราม่าเบา เบา จากหนังที่แอบมีสะท้อนสังคมบ้าง เห็นพัฒนาการตัวละครบ้างคงถูกใจ
โดย: Joblovenuk (พีอาร์ฯ ) [25 ม.ค. 55 6:15] ( IP A:124.121.170.165 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
Counter : 11807 Pageviews
ความคิดเห็นที่ 1
   ................ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกยังไม่ค่อยปลื้มหนังเรื่องนี้มากเท่าไหร่นัก คงเพราะไม่รู้สึกเชื่อในความเป็นมาเป็นไปของตัวละครเท่าไหร่ พอรู้สึกไม่เชื่อ ไม่จริง มันก็จะเริ่มเกิดความรู้สึกต่อต้านขึ้นมาทีละนิดๆ แต่หากเป็นคนดูประเภทดูหนังชิลชิล ไม่คิดมากอะไร ไม่ชอบอะไรที่มันสุดโต่งสุดทาง น่าจะชื่นชอบหนังเรื่องนี้เพราะเท่าที่ซาวเสียงคนดูส่วนใหญ่ที่ดูรอบปฐมทัศน์ และรอบเดียวกันมาส่วนใหญ่เค้าก็จะชอบกัน คุณนายที่บ้านผมปลื้มหนังออกนอกหน้าเลยทีเดียว แต่ตัวเองเป็นคนชอบแนวดิบๆเถื่อนๆสะใจไปเลยมากกว่า อย่างเช่น 2499 อันธพาลครองเมือง หรือ ท้าชน ซึ่งเป็นหนังแนวนักเลงที่ทำออกมาได้สมจริงสมจังและดุเดือดเลือดพล่านกว่ากันมากนัก !! ในส่วนของงานกำกับ ผกก.อัศจรรย์ สัตโกวิท คุมโทนและเรื่องราวให้ออกมาได้ดีในระดับนึงครับ เล่าเรื่องได้ลื่นไหล มีเหตุและผล และเข้าสู่ไคลแมกซ์พร้อมมอบบทสรุป ข้อคิดดีๆให้กับคนดูได้พอสมควร งานหลายส่วนในหนังทำได้ดีตามมาตรฐานครับ ไม่ว่าจะเป็นงานกำกับภาพ โลเกชั่นสวยๆถูกนำมาใช้อย่างเหมาะเจาะ เพลงประกอบเพราะๆมาให้ฟังกันทั้งแบบหวานๆมันส์ๆเต็มพิกัด จัดเป็นหนังบันเทิงที่ดูสนุกอีกเรื่องที่เป็นทางเลือกสำหรับคนดู ใหนๆเค้าก็เลื่อนจากช่วงน้ำท่วมมาให้ชมกันแล้วก็ไปอุดหนุนกันหน่อยนะครับ

โดย: Joblovenuk (พีอาร์ฯ ) [25 ม.ค. 55 6:16] ( IP A:124.121.170.165 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ฝนตกขึ้นฟ้า ( สามดาว )

................คำถามง่ายๆในนิยายเกี่ยวกับยีนส์มนุษย์ที่สอดแทรกอยู่ในหนังเป็นคำพูดที่ไม่ได้สละสลวยคมคายอะไร แต่สะท้อนความจริงบนโลกบูดๆเบี้ยวๆของเรานี้อย่างชัดเจน ความดีไม่มีวันชนะความชั่วได้ ถ้าชนะได้ก็คงมีแต่ในหนัง เพราะสันดานดิบของคนเรา ความชั่วมักชนะความดีเสมอ ด้านมืดชนะด้านสว่างประจำ เราจึงเห็นโลกโสมมของเรา สกปรกลงทุกทีๆ ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ความดีไม่สามารถเอาชนะความชั่วได้ และทุกคนพร้อมใจกันสนับสนุนให้คนทำชั่ว หรือทำเรื่องชั่วๆเพียงเพื่อจัดการ คนที่ตัวเองเห็นว่าชั่วกว่า ? คำถามต่อมาก็คือ สรุปแล้วอย่างใหนที่ชั่วกว่า หรือคนใหนที่ชั่วกว่ากันกันแน่ คนที่ทำชั่วเพื่อจัดการคนที่ตัวเองคิดว่าชั่ว สุดท้ายแล้วก็ไม่เหลือใครดี ไม่เหลือใครที่ยังมีคุณงามความดีอยู่เลยสักคน ในเมื่อทุกคนแพ้ด้านมืด แพ้ความชั่วร้ายในจิตใจของตัวเองเสียแล้ว? ทุกวันนี้คนเราไม่มีใครเลือกความถูกต้อง มีแต่เลือกความถูกใจ ปัญหาก็คือความถูกใจของเรามันใช่ความถูกต้องจริงแน่แท้หรือเปล่า ? ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ชนะก็คือความชั่วร้าย หรือความต่ำช้าเลวทรามที่อยู่เบื้องลึกในจิตใจของเราเท่านั้นเอง !!

................ฝนตกขึ้นฟ้า ผลงานภาพยนตร์ลำดับที่ 8 ของเป็นเอก รัตนเรือง เป็นหนังฟิล์มนัวร์ ว่าด้วยอดีตตำรวจคนหนึ่งที่ผันตัวเองมาเป็นนักฆ่ารับจ้างเนื่องจากเหตุผลส่วนตัว และความไม่โปร่งใสในระบอบราชการ ทำให้คนดีๆต้องกลายมาเป็นเหยื่อสังคม คนดีอยู่ยาก คนชั่วอยู่นาน และคนดีมักไม่มีที่อยู่ สุดท้ายเมื่อโดนสังคมบีบจนหมดทางสู้ เค้าก็หันกระบอกปืนมายิงตามใบสั่ง โดยมากมักเป็นพวกนักการเมืองชั่วผู้มีอิทธิพลเถื่อน การทำแบบนี้เค้าคิดว่าส่วนหนึ่งก็เป็นการช่วยเหลือสังคม หรือบำบัดตัวเขาเอง หรือเพื่อเป็นการต่อลมหายใจ จนวันหนึ่งเค้าถูกยิงทะลุหัวโคม่าไปสามเดือน ฟื้นขึ้นมา ทุกอย่างบนโลกนี้ที่ผ่านสายตาเขา ก็กลายเป็นตาลปัตรกลับหัว เค้าเริ่มคิดที่จะหยุด แต่เขาจะหยุดได้หรือเปล่า และคนที่อยู่เบื้องหลังเขาจะยอมให้เค้าหยุดหรือไม่ และเหยื่อที่เค้ากำจัดไป มีใครต้องการล้างแค้นด้วยหรือเปล่า ? โดยภาพรวมของหนังดูสนุก แบบอย่าคิดถึงบทหนังนะครับ บทหนังสร้างจากหนังสือของ วินทร์ เรียววารินทร์ เป็นงานเขียนบทที่เพลินๆ แบบที่ว่าดูไม่ติดขัดอะไร แต่ถ้าคิดลึกๆ มันก็มีโพรงวนเวียนซ้อนกันที่แก้ไม่ตกอยู่หลายมุม

................หนังเรื่องนี้อย่าดูแล้วคิดมาก จริงๆงานของเป็นเอก ไม่ใช่หนังอาร์ต มันเป็นงานเชิงพาณิชย์เลยแหละ เพียงแต่อิมเมจคุณเป็นเอกมันทำให้หนังมีลุคไปแบบนั้น อีกประการก็คือหนังฟิล์มนัวร์แบบนี้ไม่ค่อยมีคนทำหนังไทยสร้างเท่าไหร่เพราะมันมักจะเจ๊ง และขายยาก หาความบันเทิงไม่ค่อยได้ แต่พรสวรรค์ของเป็นเอกคือ แกทำหนังสนุก และทำหนังที่มีเนื้อหาหนักๆได้ออกมาลื่นไหล แกเป็นผู้กำกับหน้าใหม่เมื่อสักสิบปีก่อน โดยเป็นคลื่นลูกที่เท่าไหร่ไม่รู้ เติบโตจากสายงานโฆษณาพร้อมๆกับ อุ๋ย นนทรีย์ อีกคนก็คือ อ๊อกไซค์ ( แต่รายหลังนี่ไม่ได้มาสายโฆษณา ) หลายปีผ่านไป เป็นเอกก็ไม่เคยล้มหายไปกับกาลเวลา และยังคงสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์คุณภาพได้ออกมาเรื่อยๆอย่างน่าชื่นชม ในส่วนของงานกำกับหนังลงตัวเอามากๆ ผสานความลึกลับและความไม่เข้าท่าบางอย่าง เนื้อเรื่องที่ดูเฝือๆและซ้ำซากให้ออกมาได้อย่างน่าติดตาม โดยหนังเรื่องล่าได้นักแสดงระดับบิ๊กเนม มาร่วมแสดงหลายคนทั้งนำและรับเชิญ แต่ที่เด่นที่สุดคงเป็นนักแสดงหน้าใหม่ใจถึงที่กล้าเล่นบท โสเภณีสาวคู่ขาของพระเอก เธอ กล้าหาญมาก
โดย: Joblovenuk (พีอาร์ฯ ) [25 ม.ค. 55 6:18] ( IP A:124.121.170.165 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ................หากใครเป็นคอหนังฟิล์มนัวร์ ที่มีตัวละครหญิงร้าย ชายโฉด ทุกคนพร้อมที่จะทำเรื่องชั่วๆ และนำพาเรื่องราวไปสู่ด้านมืดของจิตใจ น่าจะชื่นชอบหนังเรื่องนี้หรือถึงเป็นคนที่มองโลกแง่บวก ก็น่าจะได้ข้อคิดและคติสอนใจไปจากหนังอยู่มากเหมือนกัน ประสาคนมองโลกแง่ร้ายอย่างผม หนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้ดาร์คมาก หรือพาคนดูไปสุดทางอย่างที่น่าจะทำ คิดว่าเป็นเอกคงอยากจะให้หนังมันขายได้บ้าง มุขตลกที่แทรกมาก็มีบ้าง หนังเล่นง่าย เล่าง่าย มีความไม่สมเหตุสมผลปนๆอยู่บ้าง แต่ทุกอย่างอยู่ในขีดจำกัดที่รับได้กระนั้นดูเหมือนตลาดคนดูหนังบ้านเราก็ยังไม่รับหนังแนวๆนี้อยู่นั้นเอง ทุกคนพยายามหลอกตัวเองอยู่ในโลกแห่งความฝัน ความหลอกลวง เรื่องราวสวยๆงามๆ คุณงานความดีของมวลมนุษย์ชาติ หรือเรื่องรักพาฝันหรรษา บ้าๆบอๆ มีแต่คำพูดคมๆราวกับชีวิตนี้คุณขาดแคลนคำคม หรือคนรอบตัวคุณสรรหาคำเฟคๆมาพูดกันประหนึ่งใช้ชีวิตในเฟสบุค หรือประเภทบ้าบอเป็นการ์ตูนไปเลยนี่ขายดีมาก เรื่องราวจริงจังเข้มข้นหดหู่ ไม่ค่อยอยากจะยอมรับแล้วมันก็ผ่านไป กลายเป็นแค่เศษเสี้ยวสะท้อนสภาพสังคมที่มันแหว่งวิ่น แล้วเราก็เบือนหน้าหนีมัน เพ้อฝันกันต่อไป น่าเศร้าใจยิ่งนัก แต่นี่ล่ะครับคือชีวิตจริง ...

โดย: Joblovenuk (พีอาร์ฯ ) [25 ม.ค. 55 6:20] ( IP A:124.121.170.165 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ชมตัวอย่างหนัง Nader and Simin - A seperation กันก่อน เดี๋ยววิจารณ์ตามมา
หนังอิหร่านเรื่องนี้คว้ารางวัลมาแล้วมากมาย รวมถึงเข้าชิง 2 ออสการ์
หนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

โดย: Joblovenuk (พีอาร์ฯ ) [25 ม.ค. 55 6:24] ( IP A:124.121.170.165 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   Nader and Simin - a separation ( หนึ่งรักร้าง วันรักร้าว ) ... 3 ดาว ...

..................ครอบครัวชนชั้นกลางอิหร่านคู่หนึ่งซึ่งอยู่กินกันมาสิบกว่าปีกำลังจะแตกหักต้องร้างรากัน เพียงเพราะว่า เมียขอวีซ่าไปทำงานต่างประเทศได้ แต่ผัวไม่ยอมไปด้วยเพราะต้องดูแลพ่อแท้ๆที่เป็นอัลไซเมอร์ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ? เมียก็อยากเอาลูกสาวไปเติบโตอยู่เมืองนอก มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ต้องอยู่ในประเทศเส็งเคร็งอย่างที่ตัวเองโตมา ใครๆก็อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกันทั้งนั้น ยกเว้นพวกหน้าโง่ สมองฝ่อสติเฟื่องเท่านั้นแหละที่อยากให้ลูกตัวเองโตมาได้ประเทศด้อยพัฒนาที่มีแต่พวกเผด็จการครอบงำความคิดทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าไม่ดักดานจริงก็คงต้องเลือกชีวิตที่ดีขึ้นอยู่แล้ว เหลือเวลาเดินทางอีก 40 วันผัวก็ยังไม่ยอมไปสุดท้ายเมียก็เลยฟ้องหย่า แต่ปัญหากำลังเกิดขึ้นหลังจากนั้นเพราะการหย่าไม่ได้ทำง่ายๆ เพราะว่าสามีก็ไม่มีอะไรบกพร่อง เป็นคนดี สถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อมาก็คือ ผัวต้องหาแม่บ้านมาดูแลพ่อตัวเองช่วงที่ตัวเองไปทำงาน แล้วก็มีเรื่องราววุ่นวายเกิดมาอีกหลายอย่าง ปัญหาครอบครัวที่สะสมก็เริ่มปะทุรอวันระเบิด
โดย: Joblovenuk (พีอาร์ฯ ) [25 ม.ค. 55 7:45] ( IP A:124.121.170.165 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   .................หนังเกริกเกียรติด้วยการเข้าชิง 2 ออสการ์ประจำปึนี้ได้แก่ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ไม่ต้องห่วงผมว่าหนังได้แน่ๆอย่างน้อยหนึ่งรางวัลคือหนังต่างประเทศ และหนังก็คว้าลูกโลกทองคำสาขาเดียวกันมาแล้วรวมถึงหนังเยี่ยมอีกหลายสถาบัน คำถามคือหนังดีอย่างที่หลายคนยกย่องจริงหรือ ? คนดูจำนวนมากในบ้านเราก็พลอยยกย่องตามสถาบันต่างๆไปด้วย แอบสงสัยไม่ได้ว่า เค้ารู้สึกว่ามันดีแบบนั้นจริงๆหรือแค่อวยหนังตามฝรั่งจ๋าเขาไปด้วย แบบลูกขุนพลอยพยัก เพราะถ้าถามผมผมว่าหนังมันก็ดีประมาณหนึ่งแต่ไม่ได้รู้สึกน่ายกย่องอะไรมากมาย หนังน่าเบื่อมาก ขาดความบันเทิง มีความสมจริงในแบบไม่แต่งแต้ม ค่อนข้างรู้สึกอึดอัดมากกว่า เชื่อว่าคนทำหนังชาวอิหร่านคงไม่ได้จงใจทำออกมาด่าประเทศตัวเองแน่ๆไม่งั้นคงไม่ได้ส่งชื่อเข้าชิงรางวัลในฐานะหนังประจำชาติหรอก มันก็ต้องมีดีอยู่แล้ว แต่ผมรู้สึกค่อนข้างแน่ชัดว่าฝรั่งหรือชาวต่างชาติที่มองหนังเรื่องนี้ มองสังคมมุสลิมในหนัง ดูต่ำต้อย น่าสมเพชยิ่ง


..................แค่พี่เลี้ยงมาดูแลคนป่วยวัยชรา ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดตัวให้ ยังต้องโทรไปถามกรมการศาสนาว่าทำได้หรือเปล่า ? ชีวิตความเป็นอยู่ขนาดระดับปัญญาชน ชนชั้นกลางที่มีฐานะ ยังโดนกฏระเบียบ กฏศาสนาอิสลาม รวมถึงกฏหมายงี่เง่าบ้าๆบอๆมาบีบคั้นทำให้ชีวิตต้องซวนเซ และเห็นได้ชัดว่าชีวิตในแบบสังคมมุสลิม ไม่มีความน่าอยู่ ขาดเสรีภาพ โดดนบีบคั้นสารพัด เป็นวิถีชีวิตที่ มนุษย์ทำตัวเองให้มีความเป็นมนุษย์น้อยลง ซึ่งตรงข้ามกับวิถีความเป็นอยู่ของชาวตะวันตกเป็นที่สุด จริงๆมันก็ไม่ต่างกับ หนังอย่างหมากเตะที่ทำดูถูกชาติพันธ์อื่นนั่นแหละครับ เพียงแต่การเล่าเรื่องของ Separartion นั้นเหนือชั้นกว่า และเราต้องดูในสายตาของคนระดับบน มันไม่ได้ดูถูกกันแบบเว้าๆซื่อๆโต้งๆ แต่มีนัยนะทับซ้อนกันอยู่อย่างเบาๆ แต่ไม่ถึงกะต้องปัญญาชนปีนกะไดดูถึงจะเข้าใจหนังนะครับ หนังก็เล่าเรื่องแบบง่ายๆ ใครมองตื้นๆก็ได้อะไรแบบตื้นๆ ใครมองลึกเข้าไปหน่อยก็จะได้อะไรแบบที่ลึกๆเข้าไปอีกระดับหนึ่ง ตามระดับปัญญาคนดู


..................คำถามนี้ถ้าเป็นบางคนอาจจะตัดสินใจไม่ยาก แต่กับบางคนอาจจะเป็นคำตอบที่ต้องตัดสินใจชั่วชีวิต ระหว่างพ่อแม่ตัวเอง กับลูกเมีย / ลูกผัว คุณจะเลือกอย่างไรเป็นที่ตั้ง แปลตรงๆกว่านั้น จะเอาบุพการีมาก่อน หรือเอาผัวกะลูก ( ลูกเมีย ) มาก่อน ถ้าต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งคุณจะเลือกอย่างใหน ? บางทีชีวิตมันก็ต้องเดินหน้า เราต้องจำเลือกตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของเราเอง ภาพอย่างที่เห็นในหนังก็ไม่ได้แปลกประหลาดใจหรือพิศดารอะไร ชีวิตผมทุกวันนี้ก็คล้ายๆแบบที่เห็น และผมก็ต้องเลือก คุณแม่ผมท่านก็เป็นอัลไซเมอร์ ไม่ถึงกะขนาดตัวละครในหนัง แต่ก็ความจำเสื่อม ช่วยตัวเองแทบไม่ได้แล้ว นอนๆกินๆ มีพี่เลี้ยง โชคดีที่สังคมเรายังไม่ได้ลำบากขนาดสังคมมุสลิมในหนัง พี่เลี้ยงคนแก่บ้านเราก็เลยสามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง แต่เราก็ไม่สามารถอยู่ดูแลท่านได้ตลอดด้วยปัญหาปัจจัยบางอย่าง เพราะชีวิตไม่ได้ง่ายไปซะหมด แต่เราก็ต้องเลือกความเป็นอยู่ที่เราคิดว่าดีที่สุดที่เรามอบให้ท่านได้ ชีวิตนั้นจะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย อยู่ที่มุมมองของเรามากกว่า มันมีทางสายกลางให้เราเลือกอยู่ที่เราจะเลือกใหม
โดย: Joblovenuk (พีอาร์ฯ ) [25 ม.ค. 55 7:46] ( IP A:124.121.170.165 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   สวัสดีค่ะคุณจ๊อบ อ่านเรื่อง หนึ่งรักร้าง วันรักร้าว แล้วอยากดูจัง เขียนออกมาแล้ว ทำให้น่าติดตาม ขอบคุณมากๆค่ะ
โดย: ชมพู่ [26 ม.ค. 55 5:24] ( IP A:81.227.34.136 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ดูเรื่อง seperation เหมือนกัน รู้สึกไม่ได้ดีขนาดนั้นเหมือนกันค่ะ
โดย: jk [5 ก.พ. 55 23:00] ( IP A:101.109.212.9 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   เห็นด้วยมากๆเลยครับพี jk ... แต่หนังก็คว้ารางวัลออสการ์ หนังต่างประเทศยอดเยี่ยมไปแล้วตามความคาดหมาย
โดย: Job (พีอาร์ฯ ) [27 ก.พ. 55 13:26] ( IP A:124.121.165.134 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน