(( วิจารณ์ The Artist / The Skin I live in / บางกอกกังฟู ))
|
ความคิดเห็นที่ 1 The Skin I live in ( สามดาว )
..................เจ้าป้าอัลโมโดวาร์ ยังคงรักษามาตรฐานการทำหนังชั้นเลิศล้ำเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่มีข้อกังขา หนังเจ้าป้านั้นถ้ามาฉายโรงบ้านเราก็การันตีคุณภาพตั้งแต่เคยดูมาไม่มีหนังห่วย มีแต่หนังดีถึงดีมากเท่านั้น ไม่ว่าจะได้รางวัลหรือไม่ได้ก็ตามไม่มีเงื่อนไข อย่างเรื่องล่าสุดนี้ได้ชิงลูกโลกทองคำ แต่ไม่ได้ชิงออสการ์ ก็ไม่น่าแปลกใจเพราะเนื้อหามันวิปลาสมาก ถ้าได้ชิงออสการ์สิเป็นเรื่องน่าประหลาด หนังยังคงวนเวียนกับตัวละครที่เหมือนมีสติ แต่จริงๆสติแตกไปแล้ว ตัวละครเป็นถึงนักวิทยาศาสตร์ผู้ฉลาดเฉลียวแต่ไม่แน่ใจว่าเพราะเมียโดนแย่ง หรือว่าเพราะดีเอ็นเอข้างในกันแน่ที่ทำให้แกหลุดโลกไปได้ถึงเพียงนั้น หมอแกลุ่มหลงอยู่กับการปลูกถ่ายผิวหนังของมนุษย์ เพื่อสร้างคนมาแทนที่เมียตัวเอง แต่ปัญหาคือ คนที่มาเป็นตัวแทนเมียนั้นมีความลับดำมืดมากๆที่หนังค่อยๆเฉลยออกมาอย่างช้าๆ กว่าจะถึงบทสรุปก็เล่นเอาคนดูอึ้งแดร๊กกันไปทั้งโรงทีเดียว หนังมีตัวละครที่ไม่ปกติอยู่แทบทั้งเรื่องแถมความสัมพันธ์ของตัวละครก็ลึกลับ
...................The Skin อาศัยการล่อหลอก และหลอกล่อคนดูอย่างเมามันส์ ว่าตัวพระเอกเป็นไงมาไงกับเรื่องราวที่ผ่านมา รวมถึงเหยื่อทดลองที่คฤหาสน์ของพระเอกว่ามีความเป็นมาอย่างไรด้วยเช่นกัน เจ้าป้ายังคงเล่นสนุกกับการทดลองข้ามเพศ แปรงพันธ์ บางอย่างดูเหลือเชื่อมากในหนังอัลโมโดวาร์ แต่เรากลับรู้สึกถึงความน่าเชื่อถือในเรื่องราว หนังป้าส่วนใหญ่แจ่มตั้งแต่บทหนังที่มีตัวละครวิจิตรพิศดาร ความสัมพันธ์ผูกพันในแบบที่เหลือเชื่อ และน่าหงายหลังตกเก้าอี้ ทีสำคัญหนังป้าเปโดรทุกเรื่องนั้น ผ่านกระบวนการคิดอันสลับซับซ้อนและเกลาออกมาจนดูง่าย แถมยังแฝงความเป็นศิลปะ และลูกเล่นทางภาพเอาไว้อย่างแนบเนียน สีสันฉูดฉาดเป็นสไตล์ของป้าอยู่แล้ว การจัดวางองค์ประกอบภาพนั้นป้าทำดีมาตลอด หลายๆฉากดูอาร์ตมากๆ หนังหลายเรื่องดูเป็นหนังอาร์ตแต่ดูไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ผิดกับเจ้าป้าที่ทำหนังออกมาดูอาร์ตแต่เข้าใจง่าย และไม่ชวนมึนหัว เพราะงั้นหนังเจ้าป้าจึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก เพราะดูได้ทุกชนชั้น
...................คำถามที่ว่าเป็นไปได้ใหมในหนังของเปโดร อัลโมโดวาร์นั้น คำตอบดูเหมือนจะกลายเป็นว่า ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แต่สิ่งที่เป็นไปได้จะกลายเป็นอย่างที่คิดหรือเปล่า อันนั้นก็คงไม่มีใครตอบได้อีกเช่นกัน ความสนุกของการดูหนังเจ้าป้าก็อยู่ตรงนี้แหละ เดาไม่ออกจริงๆว่าบทเฉลยจะเป็นอย่างไร สิ่งที่เราคาดคิดจะตรงกับที่เป็นหรือเปล่า ความเว่อร์แบบฉบับหนังฮอลลีวู๊ดไม่มีในหนังเจ้าป้า แต่เจ้าป้าเว่อร์ในแบบที่เรามักจะนึกไม่ถึงเสมอ จะว่าไปแล้วความวิปลาสของมนุษย์นั้นบางทีมันก็รุนแรงและน่ากลัวเกินความคิดของคนปกติได้นัก และศิลปินที่มีฝีมือเท่านั้นที่จะถ่ายทอดความอัจฉริยะหรือไอเดียเหนือชั้นออกมาให้คนดูหนังอย่างเราๆได้ดื่มด่ำ ในสิ่งที่เรียกว่าศิลปะภาพยนตร์ โชคดีที่คนรุ่นเราได้ดูหนังดีๆแบบนี้ นอกจากเรื่องราวสนุกๆหนังยังมีดนตรีประกอบและเพลงประกอบเพราะๆแอบอยู่อีกด้วย หนังออกจะเนิบๆนิ่งๆไปหน่อยแต่เจ้าป้าก็ทำให้เราคนดูได้ติดตามไปไม่คลาดสายตาไปจนจบ ดูว่าเฉลยอย่างไร แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆครับ คนบ้าหลอกคนไม่บ้า คนไม่บ้าหลอกคนบ้า สรุปแล้วว่าใครบ้ากันล่ะทีนี้ | โดย: Joblovenuk (พีอาร์ฯ ) [11 มี.ค. 55 12:18] ( IP A:124.121.151.18 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 บางกอกกังฟู ( สามดาว )
.................ผู้กำกับ ยุทธิเลิศ สิปปภาค ก้าวกระโดดไปไกลมากๆนับจากวันที่ทำหนังเรื่องแรกออกมาได้ห่วยแตก นั่นก็คือเรื่อง มือปืน/ โลก / พระ / จัน ไม่น่าเชื่อว่าอดีตคนเขียนบทมือดีที่เคยมีผลงานที่ถูกเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเมื่อกลายเป็นบทหนัง " โอเนกกาทีฟ " จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้กำกับเลือดใหม่ คุณภาพน้ำดีคนใหม่ของบ้านเราได้อย่างเต็มภาคภูมิ จริงๆต้องบอกว่าโชคดีด้วยซ้ำที่ โอเนกาทีฟ หรือ รักออกแบบไม่ได้ ถูกซื้อบทไป ทำใหม่ แก้ไขใหม่หมด ออกมาเป็นหนังที่ดีมากๆ ด้วยฝีมือคุณภิญโญ ทำให้ ยุทธเลิศ พลอยได้เครดิตไปด้วยในฐานะเจ้าของเรื่อง แม้ว่าเจ้าตัวจะออกมาด่าสาดเสียเทเสียว่าเอาบทของตัวไปทำใหม่จนไม่เหลือเค้าเดิม ผมยังแอบคิดอยู่ว่า ถ้าวันนั้น ยุทธิเลิศเอา โอ เนกกาทีฟ มาทำเป็นหนังของตัวเอง เค้าอาจจะไม่มีวันนี้ก็ได้นะครับ เพราะหนังมันอาจจะออกมาห่วยเหลวเละเทะไปเลยก็มีความเป็นไปได้สูง เมื่อดูจากผลงานหนังเรื่องแรก ผมจำได้ว่าแทบอยากจะเดินออกจากโรง เพราะมันไม่มีความเป็นหนังเอาซะเลยด้วยซ้ำ ก่อนจะมาถึงหนังเรื่อง 2 กุมภาพันธ์ ซึ่งถือว่าพัฒนาฝีมือขึ้น และมาเป็นบุปผาราตรี ??
.................เห็นได้ว่าการทำงานที่หลากหลายแนวทาง และการพัฒนาตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้การทำงานของพี่ต้อม ยุทธเลิศออกมากลมกล่อมขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มอยู่ตัวกันหนังอย่าง สายล่อฟ้า และ รัก/สาม/เศร้า ซึ่งทำออกมาได้ดีมากๆ และก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆกับผลงานต่อมา จนถึงหนังเรื่องหลังๆที่ยุทธเลิศถือว่าติดลมบนไปแล้ว ไม่ว่าจะเล่าหนังดราม่าหรือแนววัยรุ่น แนวโหด หนังรัก หนังผี แกก็ทำออกมาได้มีสไตล์ มีลายเซ็นยุทธเลิศชัดเจน มีความเป็นตัวตนในหนังชัดเจน ตัวละครมีความเป็นธรรมชาติ สมจริงในแบบตัวเค้า จับต้องได้ มีชีวิต แรงในจังหวะที่ควรแรง และอ่อนไหวในช่วงเวลาที่สมควรพริ้ว ช่วงดราม่าก็ถ่ายทอดออกมาได้ดี และดิบอย่างไม่น่าเชื่อ ประกอบกับทีมงานรอบข้างที่มากฝีมือ ก็ทำให้หนังออกมาดูดีขึ้นอีกมากโข อาทิ การใช้บริการของ คุณจิ๊บ ทิวา เมยไธสง ในการกำกับภาพ หนังอย่าง หมาแก่อันตราย และ บางกอกกังฟู ? ที่ต้องชื่นชมอีกอย่างก็คือฝีมือการกำกับดารานักแสดงวัยรุ่นทั้งหลาย ในงานหลายเรื่องของพี่แกที่ต้องบอกว่า ทำให้นักแสดงเหล่านี้สามารถเล่นได้สมบทบาททีเดียว
.................คาแรกเตอร์ตัวละครฉีกมากๆ 5 คนกับฝีมือกำลังภายในเฉพาะอย่าง คนนึงเป็นใบ้ คนนึงหูหนวก คนนึงตาบอด คนนึงปัญญาอ่อน และผู้หญิง ? รักสามเส้าสลับซับซ้อน กับหนังสะท้อนสังคมที่ว่าถึงปัญหาพวกจับเด็กมาทารุณแล้วทำเป็นแก๊งค์ขอทาน ยุทธเลิศแทบจะขึ้นทาบรัศมี เควนติน ตารานติโน่ ผู้กำกับระดับโลกจอมคัลท์คนนั้นได้เลยทีเดียวครับ ในฐานะที่หยิบจับหลายๆอย่างมาผสมผสานในหนังตัวเองได้ดี ใส่ความรุนแรงในระดับบ้าดีเดือด แต่ก็แฝงความเป็นเชิงพาณิชย์ลงไป และมีการใช้ภาษาหนังที่ฉลาด สามารถประนีประนอมกับคนดูได้ เล่าเรื่องไม่ยากแต่มีชั้นเชิง มีหลายช็อตที่ผมพูดได้เลยว่า " แรงมาก " แม้จะมีการเซอรไพร๊ซ์หักมุมนิดหน่อยแต่ก็ยังถือว่าเล่าเรื่องได้แรง และตบบทสรุป รวมถึงแก้ปมที่มาที่ไปของตัวละครและเรื่องราวได้ดี ให้คนดูได้ตัดสินว่า อะไรคือความถูก อะไรคือผิด และเราควรจะเลือกทางเดินแบบใหน ตัวละครเด่นทุกตัวแม้แต่ตัวสมทบอย่างน้องออมก็ตาม มาริโอ้ เทพมาก ขโมยซีนได้อีก เพลงประกอบโดนใจมากๆน้องแก้ว เกิดเรียบร้อยในฐานะนางเอก สรุปชอบมาก จบป่ะ | โดย: Joblovenuk (พีอาร์ฯ ) [11 มี.ค. 55 12:29] ( IP A:124.121.151.18 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 ไปดู The Artist มา ก็ดีนะคะ | โดย: jk [23 มี.ค. 55] ( IP A:101.51.170.179 X: ) |  |
|