Echo Planet 3D .... อนิเมชั่นไทยไม่แพ้ชาติใดในสามโลก ?
   เอคโค่ จิ๋วก้องโลก ( Echo 3D ) .... 3 ดาว ....

..................โฆษณาหนังเรื่องนี้บ้าบิ่นมากๆถึงขนาดกล้าท้าคนดูลงหนังสือพิมพ์เลยว่า ถ้าหากว่าไม่ประทับใจหนังสามารถเอาตั๋วมาคืนเงินได้เลยนะ เงื่อนไขมีแค่ว่าต้องมาคืนเงินภายใน 20 นาทีแรกเท่านั้นนะจ๊ะ ถ้าดูหนังเกินกว่านั้นไปแล้วก็ตัวใครตัวมัน ? จริงๆก็ถือว่าเป็นเงื่อนไขที่โอเคนะครับ เพราะลำพังดูฉากช่วงแรกๆก็น่าจะเพียงพอต่อการตัดสินใจแล้วว่าหนังมันดีพอหรือเปล่า หรือควรจะดูต่อจนจบหรือไม่ ? ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครบ้าไปคืนตั๋วหรอกครับเพราะว่าเอาแค่ฉากเปิดเรื่องโชว์ความหวือหวาของงานภาพและ 3 D ก็คงทำให้เด็กๆและใครต่อใครอ้าปากค้างกันแล้วล่ะครับ เพราะขนาดผมไม่ได้ดูระบบ ทรีดี ผมยังรู้สึกเลยว่าหนังมันมีมิติ มีความลึก ถ้าดูแบบใส่แว่นสามมิติคงจะสนุกขึ้นอีกเป็นกอง แล้วงานภาพของการ์ตูนไทยเรื่องนี้ก็พัฒนาขึ้นอีกเยอะมาก ดีกว่าก้านกล้วย งานก่อนของค่ายเดียวกันนี้ รวมถึงการ์ตูนอนิเมชั่นไทยเรื่องอื่นที่พยายามออกมาตีตลาดแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่นัก เนื้อหาเรื่องราวของหนังก็ถือว่าเป็นความพยายามในการฉีกจากกรอบ สร้างความแปลกใหม่ให้กับหนังอนิเมชั่น ? โดยคนทำหนังเค้าหยิบยกเรื่องราวใกล้ตัวอย่างพวกโลกร้อน ปัญหาสิ่งแวดล้อม การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ระบอบทุนนิยมกับโลกาภิวัฒน์ ฯลฯ มาย่อยสลายให้เนื้อหาเบาบางลง เด็กๆสามารถเข้าถึงได้และผู้ใหญ่ก็สามารถดูได้เพลิดเพลินในระดับหนึ่ง

..................ความพยายามครั้งนี้ให้ผลตอบรับทางรายได้อาจจะไม่ดีมาก เพราะความอ่อนด้อยการประชาสัมพันธ์ อาจจะเพราะไม่มีงบหรืออะไรก็ตามแต่ แต่ภาพรวมของผลงานถือได้ว่าน่าพอใจครับ อาจจะไม่ใช่งานที่ดีเด่นมากแต่ก็เต็มไปด้วยความละเมียดละไมพิถีพิถันงานโดยรวมอย่างเห็นได้ชัด หนังพากษ์ได้น่ารัก งานภาพสวยงามมากๆ มิติของหนังถูกขับเน้นเห็นชัด รายละเอียดในส่วนต่างๆของตัวการ์ตูนและฉากหลัง ทำได้ไม่แพ้ค่ายหนัง Pixar หรือค่ายหนังฝรั่งที่มีทุนสร้างมากกว่าเป็นร้อยเท่า แต่เราทำได้อยู่ในระดับใกล้เคียง น่าภูมิใจและน่ายกย่องมากครับ งานดนตรีประกอบของคุณ ชาติชาย พงษ์ประพาพันธ์ นั้นถือเป็นมือ 1 คนทำซาวน์แทรคหนังเมืองไทยอยู่แล้ว หยิบดนตรีพื้นบ้านกับดนตรีป๊อปๆมาผสมผสานเข้ากันได้อย่างน่าฟัง ส่วนของเพลงร้องก็ฟังง่าย ฟังสบาย เข้ากับเนื้อหาของหนังเป็นอย่างดี หนังพูดถึง พี่น้องเผ่ากะเหรี่ยงคอยาว ที่ได้ไปเจอะเจอรู้จักกับ ลูกเสือฝรั่ง จากที่เคยเกลียดขี้หน้ากันแล้วต้องมาใช้เวลาอยู่ร่วมกัน ก่อนจะกลับกลายเป็นความเข้าใจ ความผูกพัน หนังใช้เวลากับการพัฒนาความสัมพันธ์ตัวละครได้ดีในระดับหนึ่ง เด็กน้อยคนน้องมีความสามารถพิเศษสามารถสื่อสารกับสัตว์ ต้นไม้ และโลกได้ จนเกิดภาวะวิกฤตกับโลกด้วยความที่พวกเราทำร้ายโลกมามากเกินไป ก็เลยเกิดการเอาคืนกลายๆจากผลลัพธ์ที่พวกเราเป็นคนก่อ เด็กๆเหล่านี้จะแก้ไขยังไง

..................คิดแล้วก็น่าขำตรงที่ ผู้ใหญ่ชอบสอนเด็กให้ทำดี คิดดี อยู่ในกรอบ อยู่ในจริยธรรม แต่แล้วก็ต้องให้เด็กมาเป็นคนสอนพวกเราว่า เราควรจะทำตัวอย่างไร แบบใหน เมื่อเราเองรู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี แต่ก็ทำไม่ได้ ไม่รู้คนอื่นจะคิดเหมือนกันหรือเปล่าว่าแบบนี้ใครกันแน่ที่มีวุฒิภาวะมากกว่ากัน ? เอคโค่ จิ๋วก้องโลก มีจุดดีอยู่เยอะในภาพรวมแต่จริงๆหนังก็มีข้อด้อยอยู่มากพอสมควรเช่นกัน ปัญหาของหนังทั้งหมดมาจากบทหนังและการพาตัวเองไปสู่บทสรุปของหนัง ซึ่งทำไม่ได้ง่ายๆ แม้จะร่วมหัวกันถึง 4 คนในส่วนของบทภาพยนตร์แล้วก็ตามแต่มันก็ไม่ง่าย ปัญหาโลกร้อนและการใช้พลังงานเกินตัวของมนุษย์ การแก้ไขปัญหาทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ถ้าแก้ได้ง่ายๆโลกเราคงไม่วุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะงั้นการแก้เงื่อนปมไปสู่บทสรุปของหนัง การพามนุษย์ผู้ถูกครอบงำด้วยระบอบทุนนิยมให้กลับสู่ความเป็นธรรมชาติแบบดั้งเดิมภายในสองชั่วโมง คงเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ง่ายๆอีกเช่นกันทั้งในแง่ของความเป็นจริงและการจูงใจให้เราเชื่อ ? Pocahontus เวอร์ชั่นดิสนีย์กับ Avartar เป็นภาพฝันแบบฮอลลีวู๊ดที่พยายามจูงใจเราให้เชื่อว่า คนเรากับธรรมชาติ ผู้มาใหม่กับเผ่าพันธ์ดั้งเดิมอยู่ร่วมกันได้ เหมือนกับบางประเทศพยายามโปรโมทว่า เราอยู่ร่วมกันได้บนความแตกต่างทั้งๆที่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิด คำพูดสวยหรูอย่างในโฆษณากับเหตุการณ์บนโลกความเป็นจริงช่างแตกต่างกันราวกับฟ้ากับเหว ไม่มีวันมาบรรจบพบกันได้ไม่ว่าจะวันใหน
โดย: Joblovenuk (พีอาร์ฯ ) [11 ส.ค. 55 15:52] ( IP A:124.121.195.215 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
Counter : 1413 Pageviews
ความคิดเห็นที่ 1
   ..................Echo 3D น่าจะหาทางออกที่ประนีประนอมกว่านี้อีกสักหน่อย การด่าฝรั่งด้วยการทำตัวแบบฝรั่ง หรือการที่เรายกชุมชนพื้นเมืองมาเป็นบุคคลตัวอย่าง ก็ไม่ได้หมายความว่าคนในชาตินั้นๆจะสามารถทำตามแบบนั้นได้ทั้งหมด ทำอย่างไรเราจึงจะลดละความคิดในการเอาเปรียบโลก หรือหยุดยั้งระบอบทุนนิยมได้ ในเมื่อโลกเราทุกวันนี้มีแต่ปลูกฝังส่งเสริมระบอบนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ? การปิดไฟหรือหยุดใช้พลังงาน 1 วันแล้วเปิดใช้ใหม่ ใช้มากกว่าเดิม สูบพลังงานใต้ดินมาใช้เพิ่มขึ้นอีกทุกวันๆ มันจะทำให้โลกเราดีขึ้นได้อย่างไร ? ในเมื่อมนุษย์เราเพิ่มขึ้นทุกวัน ต้องใช้พลังงานในการขับเคลื่อนประเทศ เราส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานทุกรูปแบบ สร้างอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน เกิดผลประกอบการ นโยบายรักษ์โลกก็เป็นอะไรเพ้อฝันไปวันๆก็เท่านั้นเอง วิธีการที่จะทำให้โลกอยู่ได้และดีขึ้น ก็คือเกิดภัยพิบัติอะไรสักอย่างขนาดใหญ่ หรือไม่ก็ต้องทำลายล้างเผ่าพันธ์มนุษย์ตัวการทำลายโลกให้หมดสิ้นหรือเหลือน้อยลงไปให้มากที่สุด แค่นั้นแหละครับ โลกเราจะดีขึ้นและน่าอยู่กว่าเดิมอีกเป็นกอง ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น หลังมหาอุทกภัยน้ำท่วม รถราก็หายไปจากท้องถนน ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกรุงเทพก็ดีขึ้นอีกมาก ลองถ้าเปลี่ยนเป็นมนุษย์ถูกล้างเผ่าพันธ์ไปสัก 80 - 90 % ของทั้งหมด เชื่อขนมกินเลยครับว่าโลกจะสงบขึ้นกว่านี้อีกเป็นกอง หากการแก้ไขปัญหาไม่ใช่การทำลายเผ่าพันธ์มนุษย์ ผมก็ยังมองไม่ออกเลยว่าวิธีใหนกันบ้างที่จะลดโลกร้อนได้อย่างแท้จริง ?

โดย: Joblovenuk (พีอาร์ฯ ) [11 ส.ค. 55 15:57] ( IP A:124.121.195.215 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน