Helen - The baby fog .... ซาบซึ้ง ประทับใจ แต่ Miami Vice ชวนง่วงมั่กๆ
    .................สัปดาห์นี้แวะไปดูหนังมาสองเรื่อง เลือกดู Miami vice ก่อน เพราะเห็นว่าเป็นหนังฟอร์มใหญ่ของผู้กำกับดัง ไมเคิล มานส์ แต่ผลที่ได้คือความผิดหวัง ขณะที่หนังที่เลือกดูทีหลังอย่าง เธอชื่อเฮเลน ( Helen the baby fog ) นั้นออกมากินใจในระดับที่สมราคาคุยจริงๆ หนังมีคำโปรยเอาไว้ว่า หนังสำหรับคุณๆที่อยากจะร้องไห้ ....

..................Helen the baby fog ( สามดาว ) เป็นหนังญี่ปุ่นที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่าง เด็กน้อย กับ สุนัขจิ้งจอก โดยมีคำจั่วหัวหน้าหนังว่า based on true story ( ซึ่งก็ไม่รู้ว่ากว่าจะดัดแปลงมาเป็นหนังจะเรื่องโครงจริงขนาดใหน ) เรื่องราวเกิดขึ้นในชนบททางภาคเหนือแถวๆเกาะฮอกไกโด น่าจะใกล้ๆเขตสงวนพันธ์สัตว์ป่าอะไรสักแห่ง เมื่อเด็กน้อยคนนึงซึ่งเป็นเหมือนเด็กถูกทอดทิ้ง เพราะแม่มัวแต่ไปทำงานต่างประเทศ ฝากลูกเลี้ยงไว้กับกิ๊ก ตัวเด็กก็เลยค่อนข้างจะหงอยเหงาเพราะขาดความอบอุ่น เมื่อบังเอิญมาเจอกับลูกสุนัขจิ้งจอกหลงทาง ( เอ๊ะ ฟังดูคล้ายๆ ลูกกวางน้อยหลงทาง กะปีศาจจิ้งจอกเงินยังไง๊ก็ไม่รู้แฮะ คริคริ ) ก็เลยเกิดเป็นความสัมพันธ์ขึ้น เพราะคงไม่มีอะไรแมทซ์กันมากไปกว่า เด็กเศร้า กับ หมาเหงาอีกแล้ว ( มั๊ง )

..................ก่อนที่คนดูจะค่อยๆได้รับรู้เพิ่มเติมขึ้นมาทีหลังว่า เจ้าสุนัขจิ้งจอกตัวเนี้ย ไม่ได้เป็นหมาจิ้งจอกธรรมดา แต่เป็นหมาจิ้งจอกที่มีอาการผิดปกติทางสมอง เป็นหมาพิการซ้ำซ้อน ทั้งตาบอด หูหนวก แถมยังเป็นใบ้อีก จะว่าไปแล้ว การมีชีวิตอยู่ก็คงเป็นเพียงการรอคอยความตาย แล้วเราควรจะทำการุณยฆาตใหม๊ ? หรือจะยอมเลี้ยงดูเป็นภาระ รอจนความตายมาพรากมันไปอย่างสงบดีกันล่ะ ? แน่นอนล่ะว่าเจ้าหนูคงไม่ยอมปล่อยให้เจ้าหมาจิ้งจอกที่น่ารักถูกฆ่าเป็นแน่ เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ก็คือเรื่องราวความรัก ความผูกพัน ของคนกับสัตว์ แน่นอนว่า สัตว์มักจะนำพาความอ่อนโยน และ harmony มายังคนเสมอ ... ก่อนที่ท้ายที่สุด ความสัมพันธ์ครั้งนี้จะนำมาซึ่งการเรียนรู้ชีวิตทั้งต่อเด็กน้อยคนนี้ และคนดูหนังทั่วโรง อย่างอบอุ่น งดงาม และน่าประทับใจเป็นที่สุด

...................ความงดงามมันอยู่รอบตัวเราจริงๆ แม้หลายครั้งที่เราจะรู้สึกว่าโลกเรามันโหดร้าย มีแต่เรื่องสกปรก มีแต่ผู้คนที่พยายามทำลายโลกของเรา ทำแต่สิ่งที่เลวทราม แต่ถ้าลองมองกันดีๆ ก็ยังมีอีกหลายแง่มุมที่งดงามให้เราสัมผัส ให้เราดื่มดั่มได้เสมอ อยู่ที่เราเลือกจะมองมุมใหน แล้วก็ให้หัวใจเราสัมผัสกับสิ่งใหน ถ้าเราเลือกสิ่งดี จิตใจเราก็เบิกบาน ถ้าเราเลือกมองสิ่งแย่ๆ มันก็รังแต่จะทำลายจิตใจของเราเอง

...................ฉากนึงที่หนูน้อยโดนถามว่า อยากรู้ใหม๊ ว่าโลกที่เจ้าเฮเลนอยู่มันเป็นอย่างไร เจ้าหนูตอบตกลงทันที ก่อนจะรู้ว่า โลกมืดที่ไร้สรรพเสียงนั้นมันน่ากลัว ขนาดใหน ผมเชื่อว่า ณ เวลานั้นคนที่ได้สัมผัสไปพร้อมๆกันย่อมจะมีความรู้สึกต่างกันออกไป แต่เชื่อว่าสิ่งที่ผมและหลายคนได้รับรู้ไปพร้อมๆกันก็คือ เราช่างโชคดีที่เราเติบโตมาเป็นมนุษย์ที่มีอวัยวะครบ 32ประการ ได้มีโอกาสการใช้ชีวิตที่ดี ( กว่าสัตว์ ) ได้มองเห็นความงดงามของโลกใบนี้ ได้สัมผัสสายลม แสงแดด ทะเล ได้ยินความไพเราะของสรรพสิ่ง ได้มีโอกาสเปล่งคำพูดออกจากปากของเราเอง ในขณะที่เจ้าหมาจิ้งจอกน้อยอย่างเฮเลน ไม่มีโอกาส ..... เชื่อว่าอย่างน้อยถ้าใครกำลังหดหู่ หมดหวัง หมดอาลัยตายอยากกับชีวิต ถ้ามีโอกาสดูหนังเรื่องนี้ บางทีอาจจะเป็นแรงใจให้คุณฮึดกลับมาสู้อีกครั้ง ผมเชื่อว่าชีวิตยังคงงดงามเสมอ หรือคุณคิดว่าไงครับ ?

ป.ล. หนังยังฉายอยู่ที่ลิโด้ สำหรับท่านที่ไปไม่ถูก ก็รอดูแผ่นวีซีดีลิขสิทธิเอาละกันนะครับ คงอีกสักสามสี่เดือน
โดย: joblovenuk (เจ้าบ้าน ) [1 ส.ค. 49 22:45] ( IP A:203.118.73.66 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
Counter : 1408 Pageviews
ความคิดเห็นที่ 1
    Miami Vice .... แอคชั่นชวนหลับ ที่ไม่น่าจะเหมาะกับคนดูชาวไทย
Miami Vice ( สองดาวครึ่ง )

.....................ฮอลลีวู๊ด ดินแดนคนทำหนังที่ไม่ค่อยจะมีไอเดียอะไรใหม่ๆ นอกจากทำภาคต่อ รีเมคหนังประเทศอื่น อีกวิธีหนึ่งก็คือขุดของเก่าเอาออกมาเล่าใหม่ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ไมเคิลมานส์ อดีตโปรดิวเซอร์ ซีรี่ย์ชุดนี้ ก็หยิบเอาหนังทีวีเก่ายุค 70-80 ออกมาปัดฝุ่นทำใหม่เป็นหนังฟอร์มใหญ่อีกครั้ง โดยหลังจากสั่งสมบารมีมาพอสมควร ก็เลยได้ทุนหนา ดาราดัง มาร่วมแจมในผลงานชิ้นนี้

.....................คาดหวังหรือเปล่า อืมย์ อาจจะมีนิดๆ ในเมื่อผลงานล่าสุดของลุงเค้า Collateral ที่ เจมี ฟ๊อกซ์ นำแสดง กับ ทอม ครูซ หนังออกมาดีถึงระดับทีเดียว .. แต่ ไมอามี่ ไว๊ซ์ กลับเป็นผลงานที่ดูจะด้อยกว่าเรื่องที่ผ่านมาอยู่พอสมควรทีเดียว หนังเล่าเรื่องของ คู่หู2ตำรวจ ที่เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ ซึ่งเข้าไปคลุกคลีกับเหล่าอาชญากร พูดง่ายๆก็คือเป็นสายตำรวจ แต่หนังก็ไม่ได้บอกว่าหน่วยงานนี้เค้ามีอภิสิทธิ ขนาดใหน ถึงได้แต่งตัวโก้หรู แล้วก็ทำตัวรวยฟู่ฟ่า ขี่รถสปอร์ตสวยเฉียบ กลมกลืนกับพวกอาชญากรมีระดับได้ขนาดนั้น

....................ฉากแอคชั่น จริงๆผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะต้องมีฉากตูมตามหรอก เพราะหนังสไตล์ ไมเคิล มานส์ ก็ไม่ใช่แนวๆนั้นอยู่แล้ว แอคชั่นเรื่องนี้ก็มีน้อยมาก แต่ที่แย่ก็คือ ระหว่างดำเนินเรื่อง หนังไม่ได้มีช่วงเวลาที่ทำให้รู้สึกเลยว่า ภารกิจแต่ละครั้ง เป็นงานที่เสี่ยงตาย น่าตื่นเต้น แต่กลับทำให้ดูว่ามันเป็นอะไรที่ง่ายๆ สบายๆ ไม่น่าลุ้น ผมไม่รู้สึกถึงความกดดันในงานของคู่หูพระเอกเลย เหมือนกับว่าเป็นงาน daily routine อย่างนึงของเค้าเท่านั้น หนังบอกว่า สองคนนี้คลุกคลีกับงานจนแทบจะกลายเป็นอาชญากรไปแล้ว แต่หนังก็ไม่ได้สะท้อนความรู้สึกนึกคิดของตัวละครออกมาเท่าไหร่ ( ลองเปรียบเทียบกับหนังชั้นดีในแนวทางนี้ เรื่อง Infernal affairs ดูนะครับ จะเห็นความแตกต่าง )

....................จุดน่าสงสัยมีหลายจุดครับ คู่หูพระเอก ทำไมถึงลองเข้าไปคลุกวงใน อาชญากรข้ามชาติได้ง่ายดายขนาดนั้น ทั้งๆที่ไม่เคยมีผลงาน ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีประวัติ ?? แล้วข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ที่ส่งไปถึงชายแดนปารากวัย บราซิล ที่เปิดจอขึ้นมาเห็นว่า พระเอกเป็นเอฟบีไอ นั้น ตกลงใครได้เห็น แล้วตอนท้ายไม่เห็นมีผลเลยว่า พระเอกจะมีใครรู้ทัน ... บุคคลอย่างนางเอก กงลี่ ด้วยผลงานประวัติโชกโชนขนาดนั้น ทำไมถึงได้อ่อนไหว แล้วก็ดูไม่มีพิษภัยได้ขนาดนั้น ?? ตอนจบก็แบบเรียบๆ ไคลแมกซ์ก็ไม่ได้น่าตื่นตา ไม่มีเซอร์ไพร๊ซ์ใดๆทั้งสิ้น เรียกว่า ดูไปหาวไปครับ ค่อนข้างน่าเบื่อ อย่างเดียวที่ดูดีในหนังเรื่องนี้ก็คือ กงลี่ครับ เสียดายที่เธอไป ฮอลลีวู๊ดช้าไปนิด อ้อ ส่วน โคลิน ฟาร์เรล ก็ถือว่ากลมกลืนกับบทดีพอสมควรครับ
โดย: joblovenuk (เจ้าบ้าน ) [1 ส.ค. 49 22:46] ( IP A:203.118.73.66 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน