มีหมาเป็นเพื่อนดีกว่ามีเพื่อนหมาๆ

๔. สู่ชุมชนคนรักสุนัขบางแก้ว

ชีวิตเจ้าปิงปองและครอบครัวของผมดำเนินต่อไปด้วยความสงบสุข บางแก้วเป็นสุนัขที่เลี้ยงง่ายอย่างที่ตำราเขียนไว้ กับข้าวมื้อเย็นที่เหลือเป็นอาหารอย่างดีสำหรับมัน เพราะอาม่าชอบทำกับข้าวอร่อยๆให้สำหรับลูกๆหลานๆได้ทานทุกวัน แต่ก็พยายามระวังไม่ให้กระดูกเป็ดกับมัน เพราะฟังมาว่ากระดูกเป็ดแข็ง ย่อยยากและมีคม อาจจะไปทิ่มแทงกระเพาะมันทะลุได้ ส่วนมากจะเป็นปลาคลุกข้าวพร้อมกระดูกหมูกระดูกไก่ ตามด้วยคุ๊กกี้ซึ่งผมใช้เรียกอาหารสำเร็จรูปของสุนัขที่ซื้อเผื่อไว้ให้มันกินเพิ่มเติมหากกับข้าวมื้อเย็นเหลือไม่มากนัก บางครั้งมันจะได้กินของว่างประเภทกล้วยและน้ำแข็ง ซึ่งมันชอบเป็นพิเศษ

เมื่อกินข้าวอิ่มแล้ว เจ้าปิงปองจะชวนเจ้าโบไปวิ่งเล่นไล่กัดกันอย่างสนุนสนานที่ลานหน้าบ้าน เจ้าโบแม้ว่าอายุจะมากแล้วแต่ยังชอบเล่นกับเจ้าปิงปองเหมือนเด็กๆ รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่ปล่อยให้เจ้าโบอยู่ตัวคนเดียวโดยไม่มีเพื่อนเล่นมาเป็นเวลาถึง ๓ ปี ตอนนั้นมิตรภาพของพี่น้องคู่นี้ดูแนบแน่นจนพวกเราคิดไม่ถึงว่าจะมีวันที่มันทั้งสองจะกลายมาเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันในภายหลัง

เจ้าปิงปองชอบกัดแทะไปทั่ว รองเท้าที่วางอยู่นอกบ้านโดนมันกัดขาดไปหลายคู่จนแฟนรำคาญ ต้องไปหาซื้อกระดูกหมูชิ้นโตๆนำมาต้มเป็นน้ำซุ๊ปสำหรับทำก๋วยเตี๋วยน้ำให้ผมและลูกๆทาน แล้วเจ้าโบและเจ้าปิงปองก็พลอยได้รับอานิสสงค์เป็นกระดูกหมูชิ้นใหญ่ไว้เคี้ยวเล่นแทนรองเท้า และเพราะกระดูกหมูนี่แหละ ที่เป็นสาเหตุให้พี่น้องต้องมาทะเลาะกันจนมองหน้ากันไม่ติดดังที่จะเล่าให้ฟังต่อไปในบทหลังๆ


นอกจากเจ้าปิงปองจะชอบแทะสิ่งของแล้ว มันยังขอบเล่นน้ำเป็นพิเศษ เวลาดื่มน้ำชอบเอาขาจุ่มเข้าไปในอ่างน้ำแล้วตะวักน้ำเข้าหาตัว และชอบลงไปเล่นน้ำในอ่างบัวจนแฟนต้องเอากระเบื้องมาปิดไว้ แต่มันก็ยังแอบไปแช่น้ำในกะลามังซักผ้าที่อาม่าลืมเทน้ำออก แล้วก็ไปนอนคลุกดินและสิ่งสกปรกจนเนื้อตัวมอมแมม




มีอยู่หลายครั้งที่มันก้บเจ้าโบช่วยกันสร้างวีรกรรมด้วยการไล่กัดสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ เช่น งู หรือจิ้งเหลนที่เข้ามาวิ่งเพ่นพล่านในบ้าน และถ้ามีคนเดินผ่านหน้าบ้าน พวกมันจะวิ่งไปมองลอดประตูรั้ว หากเป็นคนแปลกหน้าก็จะช่วยกันเห่าจนชายบ้านแถวนี้ ไม่ค่อยมีใครกล้าเดินผ่านหน้าบ้านนัก เพราะกลัวมันจะหลุดออกไปกัดเอา

สาเหตุที่สุนัขบางแก้วชอบแทะสิ่งของ ชอบเล่นน้ำ ชอบคลุกสิ่งสกปรกและชอบการไล่ล่านั้น เท่าที่ศึกษาจากประวัติของสุนัขบางแก้วทราบว่ามีเชื้อสายมาจากสุนัขบ้านของหล่วงปู่มากที่วัดบางแก้ว จังหวัดพิษณุโลก ไปผสมกับหมาป่าได้ลูกออกมาเป็นสุนัขที่มีความสวยงาม มีความซื่อสัตย์ภักดีกับคนเลี้ยง และมีความกล้าหาญไม่กลัวสุนัขอื่นๆแม้จะใหญ่กว่า มีชาวบ้านมาขอลูกสุนัขไปเลี้ยงกันบนแพเรือ ทำให้สุนัขบางแก้วมีการพัฒนาสายพันธุ์ตามธรรมชาติ จนมีลักษณะเฉพาะของตนเอง และเนื่องจากมันต้องอยู่บนแพกับชาวบ้านที่หากินด้วยการจับปลาไปขาย ทำให้มันชอบกินปลาและชอบเล่นน้ำเป็นพิเศษ แต่สุนัขบางแก้วก็ยังมีนิสัยที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของมันที่เป็นหมาป่า คือชอบการไล่ล่า ชอบกัดแทะสิ่งของและคลุกกับทรากสัตว์เพื่อการอำพรางตัว

มีคนกล่าวว่า ถ้าเลี้ยงสุนัขบางแก้วโดยการขังหรือล่ามไว้ตลอดเวลา จะทำให้มันเครียดและมีนิสัยดุร้ายมากขึ้น โชคดีที่บ้านผมมีบริเวณอยู่บ้างเล็กน้อย จึงปล่อยให้มันวิ่งเล่นหลับนอนอยู่นอกตัวบ้าน ยามเมื่อมีเพื่อนฝูงญาติพี่น้องมาเยี่ยมเยือน จึงจะนำไปล่ามโซ่ไว้หลังบ้าน ซึ่งมันก็ยอมให้ล่ามแต่โดยดี เพราะชินกับการถูกล่ามไว้หลังบ้านมาตั้งแต่เด็ก

แต่พอได้เวลาเที่ยวของมัน มันจะเริ่มหงุดหงิด และจะเห่าเสียงดังเหมือนเตือนให้ผมทราบว่าได้เวลาที่จะไปเดินเล่นนอกบ้านแล้ว เจ้าโบก็เช่นกัน พอได้เวลา ๕ โมงเย็น มันจะมานั่งทำหน้าเศร้าอยู่นอกประตูหลังบ้าน รอว่าเมื่อไหร่ผมจะพามันไปเที่ยวซักที วันไหนผมกลับค่ำ พวกมันก็จะอดเที่ยว

ผมพยายามพาเจ้าโบและเจ้าปิงปองไปเดินเล่นตามถนนในหมู่บ้านทุกเย็น เพื่อให้มันได้คุ้นเคยกับผู้คนที่ออกมาเดินออกกำลังกาย เจ้าโบชอบไปทักทายชาวบ้านด้วยการไปดมรอบๆ มีอยู่ครั้งหนึ่ง มันเกิดคึกคะนองขึ้นมาอย่างไรไม่ทราบ งับเข้าที่กางเกงของชาวบ้านผู้หนึ่งจนชาวบ้านผู้นั้นตกใจ ผมต้องรีบเข้าไปปรามและขอโทษชาวบ้านผู้นั้นอย่างแรง โชคดีที่เจ้าโบมันคงกัดเล่นๆ เลยไม่มีปัญหาอะไรมากนัก แต่เพื่อความปลอดภัย ตอนหลังผมต้องไปซื้อตะกร้อมาครอบปากมันไว้ทุกครั้งที่ปล่อยให้มันออกมาวิ่งเล่นนอกบ้าน

ส่วนเจ้าปิงปองนั้น มันจะดีใจสุดๆ เวลาได้ออกมาเดินเล่นนอกบ้าน มันจะเดินแกว่งหาง ทำขนฟู เข้าไปทักทายกับผู้คนและสุนัขอื่นที่เดินผ่านไปมา แต่ไม่มีใครกล้าเล่นด้วย แม้แต่สุนัขเจ้าถิ่นยังต้องเดินหลบให้มัน ผมต้องคอยจูงเจ้าปิงปองไว้ให้มั่น กลัวมันกระโจนเข้ากัดเด็กที่ขี่จักรยานเล่นตามถนนในหมู่บ้าน

เจ้าปิงปองอายุ ๖ เดือนแล้ว หางมันเริ่มเป็นพวงสวยงามโค้งมาแตะกลางหลัง ขนรอบคอก็ยาวเป็นแผงราวกับสิงโต ที่หลังองมันจะมีขนยาวแผ่กระจายคล้ายอานม้ายาวไปตลอดถึงหาง เวลาตื่นตัว ขนส่วนนี้จะตั้งชูขึ้นเหยียดเป็นแนวยาวตลอดกลางแผ่นหลัง ลำตัวที่เคยขาวเริ่มมีกระเป็นจุดๆขึ้นประปราย ซึ่งเป็นลักษณะดั้งเดิมของหมาป่า บรรพบุรุษของมัน

มักจะมีเพื่อนบ้านมาถามผมว่า เจ้าปิงปองนี้ใช่บางแก้วแท้หรือไม่ ผมเองตอบไม่ได้ แต่ฟังแล้วให้รู้สึกเจ็บใจที่เราไม่ได้ขอใบรับรองพันธุ์ประวัติจากคนขายไว้เป็นหลักฐาน เจ้าปิงปองเลยกลายเป็นลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่ ไม่รู้ชาติกำเนิดของตัวเอง ไม่สามารถไปจดทะเบียนเป็นสุนัขบางแก้วกับเขาได้

เพื่อที่จะตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้แน่ชัด ผมได้เข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุนัขบางแก้วบนอินเทอร์เน็ต ได้พบเว็บไซต์ต่างๆที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสุนัขบางแก้วมากมาย

แต่มีอยู่เว็บไซต์หนึ่งที่มีส่วนสำคัญทำให้ชีวิตเจ้าปิงปองผันแปรไป เว็บไซต์นั้นมีชื่อว่า "ชุมชนคนรักสุนัขบางแก้ว"



อ่านต่อ บทที่ ๕

๕. ใบรับรองสายพันธุ์ สำคัญไฉน

ชุมชนคนรักสุนัขบางแก้วตอนที่ผมได้รู้จักนั้นเป็นชุมชนบนอินเทอร์เน็ต (Cyberspace)ที่ยังมีสมาชิกไม่มากนัก เพราะเพิ่งจะก่อตั้งมาได้ไม่นาน แต่หลังจากที่เข้าไปอ่านกระทู้ต่างๆบนกระดานข่าว (Webboard)ตลอดจนบทความต่างๆในเว็บไซต์นี้แล้ว ผมรู้สึกประทับใจในความตั้งใจจริงของคุณโป๋ผู้ก่อตั้งชุมชนซึ่งเป็นคนรักสุนัขและทุ่มเทเพื่อสุนัขด้วยความบริสุทธิ์ใจโดยไม่มีธุรกิจมาเกี่ยวข้อง และยังทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลเว็บไซต์(เว็บมาสเตอร์ )ด้วยตนเอง ผมคิดว่าชุมชนนี้น่าจะเติบโตไปได้อีกมากและน่าจะเป็นที่รวมของผู้รักสุนัขบางแก้วเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารความรู้ตลอดจนข้อคิดเห็นต่างๆในอันที่จะร่วมกันสร้างสรรค์สังคมที่มนุษย์กับสุนัขทั้งหลายโดยเฉพาะสุนัขบางแก้วจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขด้วยความรักและความเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ไม่ข่มเหงรังแกกัน ไม่ทอดทิ้งกัน ผมคงไม่ได้นั่งฝันเฟื่องอยู่คนเดียวหรอกนะครับ เพราะอย่างน้อย เว็บมาสเตอร์ก็มีคำขวัญอยู่ที่หน้าหลักของชุมชนคนรักสุนัขบางแก้วว่า รักบางแก้วจริง อย่าทิ้งกันนะ

ผมเริ่มต้นด้วยการส่ง(โพสต์ )กระทู้เข้ามาที่กระดานข่าว โดยตั้งหัวข้อกระทู้ว่า "ใบรับรองสายพันธุ์ สำคัญไฉน " เพราะในขณะนั้น ความคิดของผมค่อนข้างสับสนอยู่มากว่า ผมทำผิดพลาดหรือไม่ ที่ไม่ได้ศึกษาให้ดีก่อนและไม่ได้ขอหลักฐานใบรับรองใดๆจากผู้ขายเลย ผมพยายามปลอบใจตัวเองว่า ถ้าเราพอใจสุนัขของเราซะอย่าง ใบรับรองจะมีความสำคัญสักแค่ไหนเชียว ผมมาทราบในภายหลังว่าผมคิดผิด สุนัขบางแก้วเป็นสุนัขที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัวเป็นพิเศษ ไม่ใช่สุนัขทั่วๆไปที่จะนำมาเลี้ยงกันเล่นๆโดยไม่ต้องศึกษาประวัติบรรพบุรุษได้

หลังจากที่ผมโพสต์กระทู้ไปได้ไม่นาน ก็มีเพื่อนสมาชิกหลายๆท่านช่วยกันให้ข้อคิดเห็นมากมายซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่าน จึงขออนุญาตนำข้อคิดเห็นบางส่วนมาลงไว้ ณ ที่นี้



ใบรับรองสายพันธ์นั้นสำคัญไฉน







ปลายปี 45 ไปวิ่งการกุศลที่สวนหลวง ร.9 พบคนมาเปิดท้ายขายสุนัขบางแก้ว 2 ตัว เกิดต้องตาเจ้าปุกปุย เลยซื้อกลับมาฝากลูกสาวตัวหนี่ง ราคา 2000 บาท เจ้าของเดิมบอกว่า ชื่อมอม เพศเมีย อายุ 3 เดือน พ่อแม่เป็นบางแก้วแท้ แต่ไม่มีใบรับรอง ผมเองก็ไม่ทราบว่ากระบวนการรับรองเขาทำกันอย่างไร ถึงขั้นตรวจ ดีเอ็นเอ หรือไม่ และฟังมาว่า ใบรับรองปลอมทำได้ง่ายมาก จึงไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก
กลับถึงบ้าน แทบจะต้องเอากลับไปคืนคนขาย ไม่ใช่เพราะไม่มีใบรับรองหรอกครับ แต่โดนแฟนตำหนิว่าซื้อมาได้ยังไง ไม่ได้ยินที่ในหลวงท่านทรงตรัจไว้หรือว่าบางแก้วดุ รักเจ้าของคนเดียว เดี๋ยวจะกัดคนอื่นรวมทั้งเด็กๆในบ้าน แต่คนขายก็ไม่อยู่แล้ว เลยต้องลองเลี้ยงกันดู อาจจะโชคดีอยู่บ้าง ที่ในบ้านมีเจ้าโบสุนัขพันธ์โดเเบอร์แมนหูตั้งเพศเมีย(3 ปี) คอยเป็นพี่เลี้ยง เพื่อนเล่น และครูฝึกที่คอยปรามไม่ให้เจ้าปิงปอง(ชื่อใหม่)ผยองเกินไป ทำให้มันเข้ากับทุกคนในบ้านได้ดี
Name vichien Date วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2546, 13:15:40 น. IP 203.153.134.99






Comment 1
เลี้ยงมาได้สัก 3 เดือน ขนตามลำตัวและขาที่เคยขาวเริ่มมีจุดสีน้ำตาลขึ้นแซมเเป็นด่างๆ ปากก็ไม่ยอมคาบแก้วเสียที ไม่ทราบว่าเป็นข้อด้อยหรือไม่ครับ ใครทราบช่วยบอกที
Name vichien Date วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2546, 13:25:53 น. IP 203.153.134.99






Comment 2


แต่ก็โชคดีว่าหางเป็นพวง และขนยังปุกปุยเหมือนเดิม เคยเห็นบางแก้วที่อื่นๆ พอโตขึ้น ขนจะราบเรียบ ไม่ปุกปุยเหมือนตอนเด็กๆ จริงไหมครับ
Name vichien Date วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2546, 13:33:42 น. IP 203.153.134.99






Comment 3


แต่มีจุดน่าสังเกตุอยู่อย่างหนี่งคือ ขนข้างหลังที่ขึ้นมาใหม่ เป็นสีขาวรำแพนคล้ายอาน ไม่ทราบว่าสุนัขบางแก้วจะเป็นเช่นนี้หรือไม่ครับ ใครรู้ ช่วยบอกด้วย
แฟนบอกว่า สงสัยจะเป็นพันธ์ทาง บางแก้วผสมหลังอาน ถ้าเช่นนั้น ก็คงดีเหมือนกัน ไม่ทราบว่าตลาดมีความต้องการไหม จะได้เพาะพันธ์ไว้ขาย เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าจะไปหาแฟนให้มันได้ที่ไหน
สรุป ผมไม่คิดว่าใบรับรองสายพันธ์นั้นสำคัญมากนัก ตราบใดที่มันต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงและสามารถปลอมแปลงกันได้ง่าย ขึ้นอยู่กับความพอใจของเรามากกว่า อย่างเจ้าโดเบอร์แมนหูตั้งก็ซื้อมาจากจตุจักร์ราคาไม่กี่ร้อยบาทจากชาวบ้านที่ใส่ตะกร้ามาขาย เห็นตามันแป๋วแล้วก็เกิดปิ้ง ทั้งๆที่รู้ว่าคงไม่แท้ แต่เจ้าโบก็หูตั้งโดยไม่ต้องให้ขลิบให้เจ็บ ส่วนหางก็เก็บไว้ให้มันไล่แมลงวัน เลยไม่ได้ไปตัดให้หางกุด ทุกวันนี้ มันทำหน้าที่เฝ้าบ้านได้ดี และไม่เคยมาสายหรือลาป่วย

Name vichien Date วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2546, 13:58:18 น. IP 203.153.134.99






Comment 4
**แน่นอนครับ บางแก้วเป็นสุนัขที่ดุมาตามสายพันธุ์ ซึ่งหลายคนเชื่อว่า มาจาก หมาบ้าน+สุนัขจิ้งจอก+หมาไน จึงออกมาเป็นบางแก้ว และเพราะไอ้ จิ้งจอกกะหมาไนนี่แหละครับที่ทำให้มันดุ เพราะความแน่นอนของสายพันธุ์ดีกว่า ซึ่งถ้าคุณต้องการบางแก้วที่มีใบสายพันธุ์แท้นั้น(ใบเพ็ดฯจริง) คุณจะต้องเข้าใจว่าบางแก้วย่อมมีนิสัยดุแน่นอน ซึ่งการที่จะมาตัดสินใจว่าจะเลี้ยงเพื่ออะไร สถานที่ๆเลี้ยง และคำนึงว่าคุณพบปะผู้คนยังไง
-ถ้าคุณเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวที่อยู่บ้านกว่าใหญ่ที่เปลี่ยวน่ากลัว และไม่ค่อยมีใคร คุณสมควรเอาไปเลี้ยงครับ
-ถ้าคุณต้องการความสวยงามมีพื้นที่เพียงพอ เดือนหนึ่งจะมีญาติหรือเพื่อนสนทมาเยี่ยม อย่างงี้อันตรายครับ
-ถ้าคุณเป็นคนที่เลี้ยงสุนัขและสามารถฝึกสุนัขได้ ยิ่งดีครับ สามารถเลี้ยงได้
**เอาล่ะเข้าเรื่องใบเพ็ดฯหรือประวัตินะครับ ใบพวกนี้จะขึ้นอยู่เป้าหมายที่คนเลี้ยงมี ซึ่งถ้าต้องการประกวดก็ต้องมีใบเพ็ดฯ แต่ถ้าแค่เฝ้าบ้านไม่มีก็ได้ครับ ไม่จำเป็นก็ได้ครับ ถ้าเพื่อค้าขายใบเพ็ดจะทำให้ ลูกแม่พันธุ์
ที่มีใบเพ็ดฯมีราคาสูงขึ้น ซึ่งใบเพ็ดฯที่ได้มาตรฐานมากที่สุดในปรเทศไทยคือ สมาคมพัฒนาสายพันธุ์(ดูรายละเอียดที่กระทู้0072นะครับ) ซึ่งถ้าคนที่เป็น Breeder หรือ คนที่เชี่ยวชาญ อยู่ในวงการนี้มานานจะรู้ครับ ถ้าไม่ชัร์ก็ให้โทรไปถามทางสมาคมนี้เพราะๆสมาคมที่เกิดขึ้นได้จดทะเบียนที่นี่ทั้งหมด และสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เจอสุนัขย้อมหรือถูกโกงก็คือการศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยตัวเองคับ อย่าหลงคารมคนขาย และการเช็คราคากลางก็เป็นสิ่งที่ดีเพื่อไม่ให้ผู้ขายขายเกินราคาและไม่ว่าคุณจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไหน เค้าจะเป็นพันธุ์ทางหรือไม่ ดุไม่ดุ สิ่งที่คุณต้องทำเมื่อได้เค้ามาคือ ให้ความรักความเอาใจใส่กับเค้ามากๆเท่านั้นคับ
**สุดท้ายผมต้องบอกอีกอย่างว่าบางแก้วไม่ใช่สุนัขดุเสมอไป ขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยงและสภาพแวดล้อมครับ อาจจะจริงที่อายุประมาณ 3-4 เดือน จะเริ่มดุและกัด แต่ถ้าเราฝึก พาเค้าออกไปสังคม สอนเค้าได้ เค้าก็จะเชื่อและเปิดใจกับทุกคนครับ และจำไว้ว่า ยิ่งขังยิ่งมัดสุนัขยิ่งดุนะครับ

Name ธนากร Date วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2546, 20:29:14 น. IP 203.113.57.38








Comment 11


ผมซื้อเจ้าขุนแผนมาราคา 6 พันบาท เมื่อปีที่แล้ว ที่ฟาร์มแถว ๆ เมืองกาญจนบุรี ทางไป อ.ไทรโยค ตัวอื่น ก็ถูกกว่านี้ คือ ราคา 4 พันบาท ที่ตัวนี้แพงเขาบอกว่า มาร์คกิ้งมันดี ผมก็ไม่รู้จักหรอกว่ามาร์คกิ้งคืออะไร ที่ซื้อเจ้าตัวนี้เพราะเห็นมันน่ารักดี ลองดูรูปเขาซิ
Name โป๋ Date วันอังคารที่ 8 เมษายน 2546, 08:12:48 น. IP 203.113.81.165






Comment 16


ขนที่แผงคอก็เยอะนุ่มมือดี มีใบเพ็ดดีกรี ที่หูก็มีเบอร์ตรงกับใบเพ็ดดีกรี แต่ผมไม่ได้ใช้เพ็ดดีกรีทำอะไรเลย ยังซุกอยู่ในตู้ที่บ้าน
ผมไม่เคยรู้จักหมาบางแก้วก่อนที่จะซื้อ ที่ซื้อก็เพราะได้ยินสรรพคุณว่าฉลาดดี ปกป้องเจ้าของได้ สู้กับงูเห่าก็ได้ แหมเก่ง ๆ จริง
พอซื้อเจ้าแผนมาแล้ว จึงมาอ่านตำราเพื่อศึกษา ปรากฎว่าเสียวสันหลังวาบเพราะเรื่องความดุของหมาบางแก้วนี่แหละ ที่กัดไม่เลือก กัดหมาตัวอื่นจนตายแล้วจะกินเลย
ตอนนั้นใจคอไม่ดี กลัวว่าเจ้าแผนมันจะดุจนเอาไม่อยู่ ก็เลยเลี้ยงแบบปล่อยอิสระไม่ขังเลย พาไปเที่ยวนอกบ้านบ่อย ๆ
Name โป๋ Date วันอังคารที่ 8 เมษายน 2546, 08:36:18 น. IP 203.113.81.165






Comment 31


เรื่องขนสวยนั้น ต้องขึ้นอยู่ที่พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ด้วย เรื่องอาหารก็ต้องกินอาหารเม็ดที่ช่วยบำรุงขน ซึ่งตอนเจ้าแผนกินโปรแผน ผมก็เห็นขนสวยเป็นมันดี และ การบำรุงขนก็แปรงขนทุกวัน อาบน้ำเดือนละ 2 ครั้งก็พอ เพราะถ้าอาบบ่อยขนจะร่วง
ถ้ากินอาหารเม็ดสูตรพรีเมียมแล้ว ก็ไม่ต้องให้กินอะไรเพิ่มอีก
ฟาร์มเขาเลี้ยงแบบถนุถนอม ไม่ให้ออกไปวิ่งเล่นทั่วไปเพื่อกันไม่ให้เกิดบาดแผลและกินของนอกบ้าน คงไม่ต้องถึงกับเลี้ยงในห้องแอร์หรอกครับ แต่ถ้าเลี้ยงได้ก็ดี เพราะหมาจะมีสุขภาพจิตดี เพราะแอร์เย็นสบาย
Name โป๋ Date วันอังคารที่ 8 เมษายน 2546, 09:43:33 น. IP 203.113.81.166






และเนื่องจากมีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้ค่อนข้างมาก โดยมีรูปภาพประกอบมากอีกด้วย ทำให้ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะโหลดกระทู้นี้เข้าสู่จอคอมพิวเตอร์ได้ทั้งหมด ผมจึงตั้งกระทู้ใหม่ให้เป็นกระทู้ต่อเนื่อง โดยใช้หัวข้อกระทู้ว่า "ใบรับรองสายพันธุ์ ( ภาค 2 ) ใครว่าไม่สำคัญ" และ "ใบรับรองสายพันธุ์ ( ภาค3 ) การประกวดสุนัขบางแก้ว" โดยได้พยายามรวบรวมข้อมูลจากที่ต่างๆมาโพสต์ไว้ และพยายามเชิญชวนผู้รู้จากที่ต่างๆมาร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี มีผู้รู้มาร่วมให้ความเห็นพอสมควรดังตัวอย่างกระทู้ต่อไปนี้



ใบรับรองสายพันธ์(ภาค 2) ใครว่าไม่สำคัญ

หลังจากที่นำเสนอเรื่องราวของเจ้าปิงปองในกระทู้ ใบรับรองสายพันธ์นั้นสำคํญไฉน ไปแล้ว ต้องขอบคุณเพื่อนๆที่ช่วยให้ความรู้อย่างล้นหลามจนกระทู้นั้นชักจะโหลดหนักขึ้นช้า แต่เรื่องราวของเจ้าปิงปองที่ไม่เคยสนใจในเรื่องยศฐาบรรดาศักดิ์ชักจะมีปัญหา เมื่อถึงคราที่จะต้องหาคู่และสืบทอดตระกูล จึงขอมาต่อภาค 2 ที่นี่ ตอนแรกคิดว่าจะไปจดทะเบียนขอบัตรประชาชนสุนัขกับเขา ซอกแซกไปถึงเว็บ https://www.kcthailand.com/today/rec-norec.asp ก็ต้องตกใจเมื่อเขาบอกว่า
สุนัข NO RECORD หมายถึง สุนัขที่มาขึ้นทะเบียนตัวกับทางสมาคมฯ โดยไม่มีข้อมูล พ่อแม่ หรือปู่ ย่า ตา ยาย (ส่วนสาเหตุที่ไม่มีข้อมูล มีหลายประการ จะไม่ขอกล่าวในที่นี้) ซึ่งสมาคมฯ ได้รับขึ้นทะเบียนมาเป็นเวลาประมาณ 4 ปีมาแล้ว และปิดรับการขึ้นทะเบียนไปเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2545 โดยทางสมาคมฯ ได้ทำตามมติของสมาชิกส่วนใหญ่ที่เข้าประชุมสามัญประจำปี เมื่อเดือนเมษายน 2545
สุนัขที่มี PEDIGREE หมายถึง สุนัขที่มีข้อมูล พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย จะให้ดีควรต้องมี Pedigree เต็มใบ (3 Generation) คือมีข้อมูลไปถึงรุ่น ปู่ทวด ย่าทวด ตาทวด ยายทวด ฯลฯ
หรือนี่ เจ้าปิงปองจะต้องเป็นสุนัขเถื่อน ไม่มีเร็คคอร์ดตลอดไป
Name vichien Date วันอังคารที่ 8 เมษายน 2546, 17:50:14 น. IP 203.154.102.2






Comment 4


แม่โบเป็นโดเบอร์แมนหูตั้งโดยธรรมชาติ หางดาบก็สวย
แต่ไม่ยักมีใครสนใจ กลับไปนิยมหมาเทศ จับมาขลิบหูตัดหางเป็นการทรมานสัตว์ไปทำไม
แม่โบน้อยใจ กลัวลูกหาแฟนไม่ได้ เลยไปทำหมัน เสียอ้วนพี
หนูไม่อยากเป็นแบบแม่โบ ใครก็ได้ ช่วยหากรีนการ์ดให้หนูที
หนูไม่อยากเรียกว่าใบเพ็ดดิกรี เพราะหนูไม่ชอบ..(เซนเซอร์).....นี้
ทำไมปล่อยให้พ่อค้าฉวยโอกาสลอกเลียนชื่อได้ ทำให้คนเข้าใจผิดเปล่าๆ แม้แต่หมายังรู้เลย
Name vichien Date วันอังคารที่ 8 เมษายน 2546, 20:33:41 น. IP 203.153.135.173






Comment 5


ไปเที่ยวเว็บต่างประเทศมา ทราบว่าเขามีการตรวจสอบดีเอ็นเอจริงๆด้วย ดีใจจัง ที่ https://www.ckcusa.com/dnacert.htm
ไม่ทราบว่าในเมืองไทย คุณหมอพรทิพย์จะช่วยได้ไหม จะได้ช่วยพัฒนาและอนุรักษ์พันธ์บางแก้วไปได้อีกขั้นหนึ่ง ถ้าจะให้ดี ควรมีดีเอ็นเอมาตรฐานไว้สำหรับเปรียบเทียบ สุนัข no-record จะได้มีโอกาสแจ้งเกิดบ้าง และสุนัขใบเพ็ดอาจสอบตกได้ ถ้ามัวแต่ผสมกันเอง หรือย้อมแมวขาย
Name vichien Date วันอังคารที่ 8 เมษายน 2546, 21:33:39 น. IP 203.153.134.209






Comment 6
อย่าน้อยใจเลยครับ มันคือบทเรียนบทที่ 1 เลี้ยงไปเถอะหมาจะดีหรือไม่ดี ก็ไม่ได้อยู่ที่ใบพันธุ์ประวัติ คราวหน้าถ้าจะซื้อบางแก้วสักตัวก็ให้ศึกษาให้ดีก่อนนะครับ คิดว่าครั้งนี้คือบทเรียน จะได้สบายใจ
Name ตี๋ Date วันอังคารที่ 8 เมษายน 2546, 21:46:19 น. IP 203.107.202.120






ใบรับรองสายพันธ์(ภาค 3) การประกวดสุนัขบางแก้ว

ได้เข้าไปดูที่เว็บของ ชมรมผู้เพาะพันธุ์สุนัขบางแก้วประเทศไทย ที่ https://www.thaibangkaewbreederclub.org/ มีข้อมูลและรูปภาพเยอะดี เสียอย่างเดียว ตั้งกระทู้ไปแล้ว แนบรูปก็ไม่ได้ และยังต้องรอเว็บมาสเตอร์อนุมัติอีก ป่านนี้เว็บมาสเตอร์คงไปเที่ยวสงกรานต์อยู่
ที่นั้น เขามีรูปสุนัขสวยๆที่เข้าประกวด แต่ละตัวมีพ่อพันธ์แม่พันธ์ดังๆทั้งนั้น เลยสงสัยว่า แล้วสุนัขหน้าใหม่ no-name, no-record จะมีสนามให้เข้าประกวดที่ไหนได้บ้างหรือเปล่าเนี่ย
Name vichien Date วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2546, 09:04:47 น. IP 203.153.134.133






Comment 1
ได้อ่านคู่มือการเลี้ยงหมาบางแก้ว ของ คุณบัณฑิตย์ สุริยพันธ์ แล้ว มีเรื่อง หลักเกณฑ์การให้คะแนนในการประกวดหมาบางแก้ว สรุปคล้ายๆกับบทความของ ร.ท.นิพนธ์ คงเมืองว่า จะพิจารณาในหัวข้อใหญ่ๆลำดับก่อนหลังจาก 100 คะแนนดังนี้ (1) ลักษณะประจำพันธุ์ 25 คะแนน (2) โครงสร้าง 25 คะแนน (3) การเคลื่อนไหว 20 คะแนน (4) สุขภาพอนามัย 15 คะแนน (5) บุคลิกภาะและอารมณ์ 15 คะแนน
ไม่รู้ว่าจะต้องมีใบเพ็ดดิกรีหรือไม่ ถึงจะเข้าประกวดได้
Name vichien Date วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2546, 09:14:19 น. IP 203.153.134.133






Comment 18
ไม่หรอกคับ ทั้งตัวผู้ตัวเมียก็ประกวดได้ทั้งนั้นแหละครับ สำคัญที่ต้องมีใบเพ็ดฯแท้จึงจะสามารถประกวดได้ ส่วนเรื่องที่ตัวผู้ประกวดมากกว่านั้น อาจจะเป็นเพราะ รูปร่างดูสวยและสง่างามกว่า แต่ตัวเมียที่ได้แชมป์ก็มีนะคับ
Name หมอก Date วันอังคารที่ 15 เมษายน 2546, 18:41:21 น. IP 202.183.176.191






Comment 21
น่าน้อยใจแทนเจ้าปิงปองจัง ทีประกวดนางสาวไทยไม่เห็นต้องมีใบรับรองสายพันธุ์ แล้วเศรษฐีที่เอานางงามไปทำพันธุ์ จะรู้ได้อย่างไรว่าพันธุ์ดี
แล้วสุนัขที่มีใบรับรองสายพันธุ์ก็ใช่ว่าจะรับรองได้ว่าพันธุ์ดี อย่างมากก็รับรองได้แค่ว่าไม่มีการผสมใกล้ชิดเกินไปใน ๓ รุ่นแค่นั้นเอง บรรพบุรุษอาจเป็นสุนัขพันธ์ทางก็ได้ ใครจะรู้
ที่บอกว่าเหมือนมาตรฐานรับรองคุณภาพ ISO-9000 ก็เพราะว่าเน้นที่ระบบเอกสารมากเกินไป รับรองว่าได้ทำตามเอกสารที่กำหนด แต่หารู้ไม่ว่าอาจจะมีการสืบทอดข้อไม่ดีอยู่ภายในระบบได้ อย่างสุนัขที่คุยว่ามีใบเพดดิกรี หน้าตาดูไม่ได้ก็มาก ไม่มีการปรับปรุง(Corrective Action) บ้างหรือครับ
Name vichien Date วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน 2546, 18:54:56 น. IP 203.154.102.2






Comment 24
การประกวดสุนัขบางแก้ว นี่มีไว้เพื่อให้ผู้เลี้ยงได้พัฒนาสายพันธุ์บางแก้วให้มีความมั่นคง และสวยงาม แน่นอนมากขึ้น ถ้าถามว่าจะประกวดสุนัขทำไมต้องมีใบรับรอง ถ้าสุนัขไม่มีใบฯสามรถลงประกวดได้ อย่างนั้นใครเลี้ยงบางแก้ว ไม่ว่าจะแท้หรือเทียม็สามารถลงวประกวดได้หมดสิคับ อย่างเรื่องที่มีคนนำไซบีเรียนมาผสมกับบางแก้วออกลูกมา7ตัว ปรากฏว่ามีตัวหนึ่งที่ออกมาสวยงามมาก คือแสดงลักษณะบางแก้วออกมา และได้ความสวยงามของไซบีเรียนมาช่วยเสริม ถึงเวลาเค้านำสุนัขตัวนี้มาประกวดได้รางวัลไป อย่างนี้เป็นการอนุรักษ์พันธุ์อย่างที่คุณๆพูดกันหรือปล่าว ถ้าคุณถามผมว่า
**การอนุรักษ์หรือการพัฒนากับการประกวดอย่างไหนสำคัญกว่ากัน และ ประกวดไปทำไมเพื่ออะไรและอนาคตมีผลอย่างไรเมื่อประกวดเสร็จ
** สามารถพัฒนาสายพันธุ์ได้มั่นคงสมบูรณ์ ได้เทียบเท่าระดับสากล อย่างที่ผมยกตัวอย่างเรื่อง ไซบีเรียนแท้ผสมกับบางแก้วแท้ ออกลูกมา7ตัว ก็อาจจะมีแค่1ตัวที่ออกมาเป็นลักษณะบางแก้วแต่ก็เป็นบางแก้วตาสีฟ้าหรือมีมาร์คกิ้งที่เป็นลักษณะไซบีเรียน ซึ่งสิ่งที่เกิดมานั้นเป็นเพราะ การที่ต่างประเทศได้พัฒนาสายพันธุ์มาเป็นเวลานานหลายร้อยปีมาแล้ว คุณต้องคิดถึงเรื่องพวกนี้ด้วย การที่มีแต่สุนัขใบเพ็ดสามารถประกวดได้อาจจะทำให้เจ้าของบางคนที่ต้องการนำสุนัขของตัวเองมาประกวดแต่ไม่มีใบเพ็ดรู้สึกน้อยใจ แต่ในทางกลับกันการที่สามารถนำสุนันไม่มีใบเพ็ดมาลงประกวดได้ ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้เกิดความความวุ่นวายในการพัฒนาสายพันธุ์ต่อไปได้
Name ตอบด้วยนับถือนะคับ Date วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน 2546, 18:34:05 น. IP 202.183.176.171






Comment 25
ขอบคุณครับ ที่กรุณาให้ความกระจ่าง
เห็นด้วยในหลักการที่ว่าไว้ครับ
เพียงแต่ในแง่วิธีการไม่แน่ใจว่าจะสามารถควบคุมการปลอมใบเพ็ดได้หรือไม่
น่าจะมีวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่นำมายืนยันความเป็นบางแก้วได้บ้างไหมครับ
Name vichien Date วันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2546, 05:02:50 น. IP 203.153.135.153






Comment 26


สำหรับในเรื่องการตลาด การสวมใบเพ็ดให้สุนัขเพื่อขายนั้นไม่สามารถควบคุมได้ ผมต้องยอมรับในเรื่องนี้ แต่สำหรับการประกวดนั้นทางทีมงานจะมีการเช็คใบเพ็ดฯดูก่อนว่าเป็นของจริงหรือไม่ ถ้าเป็นของปลอมก็ไม่สามารถลงประกวดได้ และคนที่นำสุนัขใบเพ็ดปลอมไปประกวดก็ต้องผิดหวังไปตามๆกัน(คนที่ไม่รู้นะคับ) ถ้าถามสาเหตุที่คนสวมใบเพ็ดฯกันมาก อาจมีสาเหตุมาจากที่สุนัขมีใบเพ็ดฯไม่ว่าลูกสุนัขหรือลูกที่เกิดจากแม่พันธุ์ที่มีใบเพ็ดฯ สามารถขายได้ราคาสูงกว่าปกติ และเนื่อจากใบเพ็ดแท้ต้องใช้หลายขั้นตอนทั้งแจ้งผสมแจ้งเกิดและเสียเงินค่าใบเพ็ดฯ บุคคลที่เห็นแก่ตัวจึงได้ใช้วิธีสวมกัน(ซึ่งตอนนี้ระบาดหนักและเร็วกว่าโรคหวัดมรณะซะอีก) แต่พวกคุณก็สามารถตรวจสอบได้โดยติดต่อไปทางสมาคมพัฒนาฯ และสอบถามเกี่ยวกับชื่อสมาคมที่ออกใบเพ็ด หรือถามเรื่องการจดทะเบียนของสุนัขตัวนั้นจากสมาคมว่ามีหรือไม่
Name นับถือนะคับ Date วันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2546, 15:28:21 น. IP 203.113.57.38






Comment 36
สวัสดีครับ ผู้รักบางแก้วทั้งหลาย ผมขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมเป็นนายทะเบียนของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย)
จึงอยากจะให้ความรู้แก่ผู้รักบางแก้วเพื่อพัฒนาสุนัขพันธุ์ไทยบางแก้วให้เข้าสู่สากล
คำว่า PEDIGREE แปลว่าใบแสดงการสืบทอดสายพันธุ์ มีประโยชน์สำหรับการวางแผนการผสมพันธุ์สุนัขให้มีมาตรฐานดีขี้น ไม่ใช่ว่าสุนัขที่มี PEDIGREE แล้วจะเป็นสุนัขที่ดีทุกตัวนะครับ
สำหรับสุนัขพันธุ์ไทยบางแก้ว สมาคมฯยังเปิดรับจดทะเบียนอยู่ครับ โดยจดทะเบียนแบบ No Record คือ สุนัขที่ไม่มีพันธุ์ประวัติพ่อ-แม่ แต่ต้องมีรูปถ่ายเต็มตัว 1 รูป(ด้านข้าง) และใบหน้าสุนัข 1 รูป เพื่อให้ผมพิจารณาว่าเป็นสุนัขพันธุ์แท้หรือไม่ ค่าจดทะเบียน 100 บาท ต่อตัว
สุนัขพันธุ์ไทยบางแก้ว No Record ยังสามารถประกวดในงานของสมาคมฯได้ครับ แต่ต้องไปจดทะเบียนตัวก่อน
การประกวดสุนัขก็เป็นการพัฒนาสุนัขให้ดีขึ้นอย่างหนึ่งครับ เพราะสุนัขที่ไม่ได้มาตรฐานตามสายพันธุ์จะถูกคัดออกทันทีโดยไม่มีการตัดสิน
สมาคมฯปิดรับสุนัข No Record เฉพาะสุนัขสายพันธุ์ต่างประเทศ ครับ เหตุที่เปิดรับสุนัขพันธุ์ไทยบางแก้ว No record ก็เพื่อต้องการให้สุนัขพันธุ์ไทยบางแก้วได้มีโอกาสพัฒนาสายพันธุ์ เพราะทางสมาคมฯมีแนวทางว่าในปี พ.ศ. 2547 จะยื่นจดทะเบียนสุนัขพันธุ์ไทยบางแก้ว ต่อสมาพันธุ์สุนัขอาเชี่ยน [ AKU ] ใน ปี พ.ศ. 2548 จะขอยื่นต่อ สมาพันธุ์สุนัขโลก [ FCI ]
ผมจะมาเยี่ยมเยือน WEB นี้ บ่อย ๆ ครับ หรือ หากมีข้อสงสัยประการใด E-MAIL ไปถามผมได้ที่ registrar@kcthailand.com ครับ
Name ธนกฤต ปฏิญญาวัฒน์ Date วันอังคารที่ 29 เมษายน 2546, 22:45:33 น. IP 210.86.201.249






Comment 37
ต้องขอขอบคุณคุณธนกฤต มากเลยครับ ที่กรุณามาช่วยให้ความรู้
เห็นคุณธนกฤต แนะนำในกระทู้ 95
ดูโหงวเฮ้งบางแก้ว บทที่ 4 มาร์กิ้งแบบนี้ดีไหมอะ ว่า
"สำหรับสีขาวล้วนทั้งตัวไม่มีมาร์กกิ้ง ถือป็นข้อบกพร่องครับ ไม่ควรใช้ทำสายพันธุ์ต่อ เพราะสุนัขพันธุ์ไทยบางแก้วสีขาวล้วนจะมีข้อบกพร่อง หลายอย่าง เท่าที่พบเห็นจะมี อาการหูหนวก หรือ มีความพิการทางกระดูก หรือมีความพิการทางสายตา"
ขอเรียนถามในฐานะผู้เลี้ยงที่อยากรู้นะครับว่า ทั้งตัวขาวล้วน แต่น้ำตาลเฉพาะที่หัวและคอ จะถือเป็นข้อบกพล่องไหมครับ
Name vichien Date วันพุธที่ 30 เมษายน 2546, 08:13:49 น. IP 203.154.102.2






Comment 38
สวัสดีครับ คุณวิเชียร
ไม่ทราบว่าเขียนชื่อคุณถูกหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องขอโทษอย่างมากนะครับ
ก็ได้ติดตามการตั้งกระทู้รวมทั้งการเสนอความคิดเห็นของคุณมาระยะหนึ่ง ได้เห็นความตั้งใจของคุณในการเลี้ยง การคิดที่จะพัฒนา ซึ่งผมรู้สึกดีใจมากครับที่มีคนสนใจในสุนัขบางแก้วขนาดนี้
ก็ขออนุญาตนำเสนอความคิดเห็นบ้างนะครับ
กรณีที่สุนัขของคุณไม่มีใบพันธุ์ประวัติ รวมทั้งไม่มีการหนีบหู สมาคมส่งเสริม อนุรักษ์และพัฒนาสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว ในประเทศไทย(ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของ 4 ชมรมฯหลักในจังหวัดพิษณุโลกเมื่อปี 2545) ไม่รับจดทะเบียนตัว เนื่องจากว่าได้ยอมรับจดทะเบียนให้กับสุนัขที่มีปัญหาเช่นนี้เป็นระยะเวลามานานมากกว่า 10 ปี(ชมรมฯหลัก 4 ชมรมฯ) ซึ่งมติที่ประชุมของสมาคมฯมีความเห็นสรุปว่าไม่รับจดทะเบียนในสุนัขที่มีปัญหาดังกล่าว แต่ว่าเท่าที่ผมมีข้อมูลชมรมฯต่างๆที่นอกจากสมาคมฯ ยังรับจดทะเบียนอยู่ บ้างก็รับจดให้เฉพาะตัวสุนัขตัวนั้น บ้างก็ยอมให้มีถึงรายละเอียดของบรรพบุรุษ
คราวนี้ในเรื่องการจัดทำใบพันธุ์ประวัติของสมาคมฯ(ชมรมฯหลัก 4 ชมรมรฯ) เค้ามีการจัดทำมามากกว่า 10 ปี โดยเริ่มต้นจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก(เมื่อปี 2533), ท่านปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก(2533) และชมรมผู้อนุรักษ์และพัฒนาสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วพิษณุโลกแห่งประเทศไทย ได้เริ่มจัดทำใบพันธุ์ประวัติตามกฏระเบียบที่จัดทำขึ้นมา โดยช่วงแรกๆนั้นสุนัขที่ขึ้นทะเบียนกับชมรมผู้อนุรักษ์ฯยังมีไม่มากนักอีกทั้งส่วนใหญ่ยังอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก ดังนั้นการติดตามตรวจสอบควบคุมจึงทำได้อย่างทั่วถึง เมื่อจำนวนผู้เลี้ยงจำนวนสุนัขมีมากขึ้นการติดตามตรวจสอบย่อมไม่เข้มข้นเท่ากับเมื่อก่อน(เพราะว่าเมื่อก่อนผู้ที่เลี้ยงสุนัขบางแก้วจะเวียนเยี่ยมเยียนกันเพื่อหาสุนัขที่ชอบ) แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมามากกว่า10ปี ทำให้สมาคมฯก็ดี นายทะเบียนก็ดี สมาชิกรุ่นเก่าๆก็ดี ต่างทราบกันดีว่าสุนัขตัวนั้นกับใบพันธุ์ประวัติสอดคล้องกันหรือไม่ เพราะเรามีสุนัขบางแก้วต้นแบบอยู่เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น (ซึ่งเราต้องยอมรับว่าเรายังอยู่ในห้วงเวลาของการพัฒนาอยู่ เรายังไม่พร้อมเหมือนกับสุนัขสายพันธุ์อื่น) การถ่ายทอดของแต่ละตัวเป้นอย่างไร การถ่ายทอดของรุ่นถัดๆมาเป็นอย่างไร ผมเชื่อว่าโกหกกันไม่ได้หรอกครับ แต่ว่าที่คุณวิเชียรตั้งเป็นประเด็นขึ้นมาว่าจะไปเหมือนกับ ISO 9000 หรือไม่คือแค่มีแต่เอกสารแล้วทำตามเอกสารเท่านั้น ผมว่าอย่าเพิ่งไปลากระบบของเค้ามาให้เสียหายเลยครับ Version 2000 เค้าพัฒนาปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องไปมากแล้ว อีกทั้งเค้ายังปรับปรุงกันทุกๆ 5 ปี แหม...ได้เขียนถึง ISO 9000 ก็เลยไปซะไกล แต่ว่าก็ยังเห็นด้วยนะครับว่าใบพันธุ์ประวัติควรจะใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่านี้ ผมขอยกประเด็นตัวอย่างของใบพันธุ์ประวัติสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ด(ไม่แน่ใจว่าเขียนเป็นภาษาไทยถูกหรือเปล่า) ที่มีการระบุเรื่องการถ่ายทอด, ผลการตรวจสอบข้อสะโพกวิการ ฯลฯ กันในใบพันธุ์ประวัติเลย ตรงนี้หากว่าใบพันธุ์ประวัติของบางแก้วทำไ ผมว่าสุดยอดครับผม
อีกเรื่องที่คุณตั้งประเด็นว่าไม่มี Marking ตามลำตัว ทางสมาคมฯยอมรับว่าได้ขอเพียงแต่ว่าให้มี Markingบ้าง ซึ่งโดยปกติหากไม่มีที่ลำตัวก็จะยังปรากฎที่หน้าโดยเราเรียกกันว่ายังเหลือหน้ากากอยู่ ผมเองเคยสงสัยประเด็นนี้เหมือนกันค้นไปค้นมาก็เลยทราบว่าเป็นลักษณะของ White Pattern คือจะเป็นสีล้วนแล้วค่อยๆมีสีขาวลามขึ้นมาจากเท้าปลายหางไปเรื่อยๆจนกระทั่งสีตามลำตัวหายไปเหลือแต่ที่หัวแล้วสุดท้านก็หายไปจนหมดกลายเป็นสีขาว กรณีของคุณไม่เสียหายครับ
Name พสุธา พันธุ์สาย Date วันพุธที่ 30 เมษายน 2546, 15:27:30 น. IP 203.155.36.133






Comment 40
ขออนุญาตแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมก็เป็นอีกคนที่หลงเสน่ห์ของเจ้าสุนัขปากคาบแก้วพันธุ์นี้มากอีกคนหนึ่ง จนทุกวันนี้ก็พยายามจะแอบทำตัวเป็น breeder ถ้าว่างจากงานประจำที่ทำอยู่

.......ยินดีมากครับที่มีที่สำหรับพูดคุยเรื่องบางแก้ว และมีคนที่สนใจกันมากขนาดนี้ (ภูมิใจแทน breeder รุ่นเก่าๆหลายๆท่าน) ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นของคุณวิเชียร ว่าลักษณะดังกล่าวที่ว่า บริเวณลตัวของสุนัขไม่ปรากฏ marking เลยแต่จะมีเฉพาะบริเวณส่วนหัวของสุนัขแทน ถือเป็นที่พบเห็นได้โดยทั่วไปครับใน line breeding ของสุนัขบางแก้ว..............ข้อสันนิฐานเบื้องต้นนะครับ(ไม่เกี่ยวข้องกับการผิดปกติทางยีนสีของร่างกายสุนัข)อาจจะเกิดจากการที่ตัวพ่อ-แม่พันธุ์ของเขามี marking ที่น้อยอยู่เป็นบรรทัดฐานครับเมื่อนำมาจับคู่ breed ต่อจึงทำให้ลูกสุนัขในครอกเกิดปัญหาเช่นที่กล่าวได้ครับ ตามที่ศึกษา+จดจำตามที่ได้พบเห็น และไปเยี่ยมคอกต่างๆพบว่า 3 ใน 5 ตัวของลูกสุนัขในครอกจะเกิดปัญหานี้ครับ..............แต่ที่ถามว่าเป็นขอบกพร่องไหม ขอเรียนว่า ไม่บกพร่องตามมาตรฐานสายพันธุ์ครับ แต่สุนัขจะขาดสมดุลย์เรื่องความสง่างามในตัวสายพันธุ์สุนัขนั้นไปเท่านั้นเอง ซึ่งสุนัขบางแก้วในสายการประกวดนั้นมักจะไม่นิยมกันมากนัก แต่ก็ไม่นิยมนำมาเป็นพ่อพันธุ์ต่อไปครับ
Name piya Date วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2546, 22:21:30 น. IP 203.148.252.248






ท่านที่สนใจเรื่องราวของชุมชนคนรักสุนัขบางแก้วและต้องการอ่านกระทู้ต่างๆ เกี่ยวกับสุนัขบางแก้วในรายละเอียด สามารถที่จะเข้าไปดูได้ที่ https://www.hightidediving.com/bangkaew/





อ่านต่อ บทที่ ๖






๖. สุนัขเพ็ดดิกรีกับสุนัขโนเร็คคอร์ดต่างกันที่ตรงไหน

หลังจากที่ผมได้เข้าไปร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนสมาชิก และท่านผู้รู้ในชุมชนคนรักสุนัขบางแก้วแล้ว ทำให้เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่า การเลี้ยงสุนัขบางแก้วสักตัว มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลย จำเป็นจะต้องมีการศึกษากันอย่างจริงจัง จึงจะเลี้ยงได้อย่างถูกต้อง และถ้าจะให้ดี ควรต้องมีใบรับรองพันธุ์ประวัติ ซึ่งมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่าใบเพ็ดดิกรี เพื่อให้รู้เทือกเถาเหล่ากอของสุนัขอันจะมีประโยชน์ในการใช้วางแผนพัฒนาพันธุ์สุนัข นอกจากนี้ในการประกวดสุนัขนั้น สุนัขที่จะเข้าร่วมประกวด จะต้องมีใบรับรองด้วย จึงจะสามารถเข้าร่วมประกวดได้

ตรงจุดนี้ เจ้าปิงปองของผมเป็นเหมือนกับสุนัขเถื่อน เพราะไม่มีประวัติพ่อแม่ปู่ย่าตาทวด ไม่รู้ว่าเป็นบางแก้วแท้หรือกลายพันธุ์ ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมประกวด และที่แย่กว่านั้นคือ ไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดผสมพันธุ์ เพราะไม่รู้ว่าลูกที่ออกมาจะเป็นอย่างไร

ผมพยายามสืบค้นจากอินเทอร์เน็ตดูว่า มีที่ไหนบ้างที่ยอมให้เจ้าปิงปองขึ้นทะเบียนเป็นสุนัขบางแก้ว ก็ไปพบบทความของคุณณัติวัฒน์ บนเว็บไซต์ของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข(ประเทศไทย) ซึ่งได้อธิบายถืงสุนัขเพ็ดดิกรี และสุนัขโนเร็คคอร์ดไว้ดังนี้

สุนัข NO RECORD หมายถึง สุนัขที่มาขึ้นทะเบียนตัวกับทางสมาคมฯ โดยไม่มีข้อมูล พ่อแม่ หรือปู่ ย่า ตา ยาย (ส่วนสาเหตุที่ไม่มีข้อมูล มีหลายประการ จะไม่ขอกล่าวในที่นี้) ซึ่งสมาคมฯ ได้รับขึ้นทะเบียนมาเป็นเวลาประมาณ 4 ปีมาแล้ว และปิดรับการขึ้นทะเบียนไปเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2545 โดยทางสมาคมฯ ได้ทำตามมติของสมาชิกส่วนใหญ่ที่เข้าประชุมสามัญประจำปี เมื่อเดือนเมษายน 2545

สุนัขที่มี PEDIGREE หมายถึง สุนัขที่มีข้อมูล พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย จะให้ดีควรต้องมี Pedigree เต็มใบ (3 Generation) คือมีข้อมูลไปถึงรุ่น ปู่ทวด ย่าทวด ตาทวด ยายทวด

สำหรับท่านที่สนใจในรายละเอียดของใบเพ็ดดิกรีว่ามีกี่ประเภทและจะขอได้อย่างไรนั้น สามารถหาอ่านได้ในกระทู้ของชุมชนคนรักสุนัขบางแก้วเรื่องใบรับรองสายพันธ์(ภาค 2) ใครว่าไม่สำคัญ https://www.hightidediving.com/cgi-bin/webboard/generate.cgi?content=0084&board=bangkaew

แต่สำหรับผมแล้ว ใบเพ็ดดิกรีสำหรับเจ้าปิงปองเป็นสิ่งที่อยู่ไกลเกินฝันเสียแล้ว ที่พอจะฝันได้บ้างนั้นเป็นแค่ใบรับรองการขึ้นทะเบียนสุนัขแบบโนเร็คคอร์ด แต่ฝันนั้นกลับสลายลงไปอีก เมื่ออ่านพบข้อความที่ระบุไว้ว่าปิดรับการจดทะเบียนสุนัขแบบโนเร็คคอร์ดไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

ในขณะที่ผมและเจ้าปิงปองนอนฝันสลายอยู่นั้น มีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น ซึ่งทำให้ผมคิดถึงสุภาษิตของฝรั่งที่กล่าวไว้ว่า "Behind dark cloud, the sun is still shining" ผมแปลเอาเองว่า "หลังเมฆดำทะมึน แสงอาทิตย์ยังสาดส่อง"

เจ้าปิงปองมีความหวังขึ้นอีกครั้ง เมื่อได้รับการติดต่อจากสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) ว่ายังเปิดโอกาสให้สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วได้รับการขึ้นทะเบียนแบบโนเร็คคอร์ด นัยว่าเพื่อต้องการให้สุนัขพันธุ์ไทยบางแก้วได้มีโอกาสพัฒนาสายพันธุ์ เพราะทางสมาคมฯมีแนวทางว่าในปี พ.ศ. 2547 จะยื่นจดทะเบียนสุนัขพันธุ์ไทยบางแก้วต่อสมาพันธุ์สุนัขอาเชี่ยน [ AKU ] และใน ปี พ.ศ. 2548 จะขอยื่นต่อสมาพันธุ์สุนัขโลก [ FCI ] แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องผ่านการตรวจสอบว่าเป็นพันธุ์บางแก้วแท้ โดยจะต้องแนบรูป ๒ ใบ (ด้านข้างกับใบหน้า) พร้อมใบขอขึ้นทะเบียนส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญของสมาคมฯพิจารณา

ข่าวนี้สร้างความปิติยินดีให้กับผมและเจ้าปิงปอง (ถ้ามันจะรับรู้ได้)เป็นอย่างยิ่ง ผมรีบจับมันอาบน้ำผัดหน้าทาแป้ง ชำระล้างความมอมแมมออกไป แล้วพามันไปถ่ายรูป แต่ก็ไม่ง่ายเลย เพราะมันไม่ยอมอยู่นิ่ง โชคดีที่ผมได้เรียนรู้เทคนิคการถ่ายรูปสัตว์จากเว็บไซต์ของคุณโป๋อยู่บ้าง จึงถ่ายได้รูปออกมาดีพอสมควร แต่ก็เสียฟิล์มไปเกือบหมดม้วน ผมเลือกรูปที่สวยที่สุด ๓ รูป ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปให้สมาคมฯ พร้อมกับใบสมัครเป็นสมาชิกของผม และใบขอจดทะเบียนสุนัขของเจ้าปิงปอง ค่าใช้จ่ายไม่แพงอย่างที่คิด เสียค่าสมาชิกปีละ ๒๐๐ บาท และค่าจดทะเบียนสุนัขตัวละ ๑๐๐ บาทเท่านั้นเอง

ผมได้โพสต์เทคนิคการถ่ายรูปสุนัขที่ผมใช้เอาไว้ที่เว็บชุมชนคนรักสุนัขบางแก้ว ซึ่งขอถือโอกาสนี้ นำมาแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้ทราบไว้เผื่อว่าบางท่านอาจมีโอกาสได้นำเทคนิคนี้ไปใช้บ้าง





เทคนิคการถ่ายภาพสุนัขบางแก้วให้สวย


ก็ต้องขอออกตัวอีกตามเคยว่า ผมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านถ่ายภาพ แต่มีความจำเป็นต้องส่งรูปสุนัขที่เลี้ยงอยู่ไปให้สมาคมพัฒนาพันธ์สุนัข(ประเทศไทย)พิจารณาขึ้นทะเบียนสุนัข ตอนแรกก็ไม่รู้จะทำอย่างไรให้สุนัขมันอยู่นิ่งๆ บังเอิญเห็นเว็บมาสเตอร์ทดสอบกระทู้ วิธีถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

https://www.hightidediving.com/nuke/modules.php?name=TWebboard&op=viewtopic&tid=29



ก็เลยได้ไอเดียไปลองใช้กับเจ้าปิงปองบ้าง
https://www.hightidediving.com/cgi-bin/webboard/generate.cgi?content=0087&board=bangkaew



vichien (203.153.134.*) [ วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม 2546 เวลา 16:24 น. ]













เท่าที่สังเกตุจากรูปสุนัขบางแก้วที่ชนะการประกวด
เขามักจะให้มันยืนหลังตรง ขาเหยียด หางชู หูตั้ง ขนพอง ตาลุก (ไม่รู้ใช่หรือเปล่า ผู้รู้ช่วยแก้ด้วย)
ก็นึกขี้นได้ว่า เจ้าปิงปองจะมีลักษณะอาการเช่นนี้ ตอนมันเจอสุนัขจรจัด หรือ คนเดินอยู่นอกบ้าน ก็เลยจับไปล่ามไว้ที่หน้าบ้าน
ปรากฏว่าได้ผล แต่ต้องถ่ายไปหลายเฟรมกว่าจะได้รูปดีๆ




โดยคุณ ช (203.153.134.*) [ วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม 2546 เวลา 16:44 น. ] ผู้ตอบคนที่ 2










รูปนี้ถ่ายไม่เห็นแข้งสิงห์
มีสิทธิ์สอบตกไหมเนียะ..





โดยคุณ ช (203.153.134.*) [ วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม 2546 เวลา 16:49 น. ] ผู้ตอบคนที่ 3










รูปที่ยากที่สุดคือรูปนั่ง
ต้องใช้วิธีแย่งกระดูกหมู ของโปรดของมัน ผูกเชือกไปแขวนไว้กับกิ่งไผ่
แล้วปล่อยให้มันนั่งคิดว่า มันจะขึ้นไปเอาอย่างไรดี
แต่มีปัญหาว่า มันไม่ยอมมองมาตรงๆ
ใครคิดวิธีออกช่วยบอกด้วย
เพราะพอมันแหงนคอจนเมื่อย มันจะแกล้งหลับตาแบบนี้ทุกที
คล้ายกับกำลังต่อว่าอะไรอยู่ในใจ






โดยคุณ v (203.153.134.*) [ วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม 2546 เวลา 17:01 น. ] ผู้ตอบคนที่ 4










รูปที่ถ่ายง่ายที่สุด คือ รูปนอนราบ
โดยให้มันไปวิ่งเล่นจนเหนื่อย
กลับมามันก็จะหมอบราบคาบแก้วให้เราถ่ายแต่โดยดี
เห็นรูปนี้แล้ว ทำให้เข้าใจความหมายของคำว่าสุนัขใส่หน้ากากที่คุณพสุธาได้พูดไว้

แต่ไม่ทราบว่าเจ้าปิงปองนี่ใช่หน้าเสือหรือไม่
ถ้าใช่ จะตั้งสมญานามให้มันใหม่ ว่าหน้ากากเสือ
ไม่ทราบว่ามีใครเคยดูการ์ตูนชุดหน้ากากเสือบ้างไหมครับ
ผมว่า สมัยนั้น มันให้ Inspiration ดีนะครับ
สมัยนี้ไม่ทราบว่า เป็นเช่นไร



https://www4.airnet.ne.jp/pancra/tigre/index.html





โดยคุณ วิเชียร (203.153.137.*) [ วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม 2546 เวลา 17:48 น. ] ผู้ตอบคนที่ 5








หลังจากรอฟังผลการพิจารณาจากสมาคมฯเป็นเวลาเกือบเดือน ก็ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของสมาคมฯว่า เจ้าปิงปองสามารถสอบผ่านได้รับการขึ้นทะเบียนกับสมาคมฯเป็นที่เรียบร้อย สร้างควาามลิงโลดใจให้ผมเป็นอย่างยิ่ง

ผมอยากจะแนะนำท่านผู้อ่านที่เลี้ยงสุนัขบางแก้วอยู่ขณะนี้ว่า ถ้าไม่แน่ใจว่าสุนัขของตนเองจะกลายพันธุ์หรือไม่ ให้ลองสมัครเป็นสมาชิกและขอขึ้นทะเบียนสุนัขบางแก้วของตนกับสมาคมฯดูซิครับ ถ้าใช่สุนัขบางแก้วแท้ สมาคมฯจะขึ้นทะเบียนให้ ท่านจะสามารถนำสุนัขของท่านไปร่วมประกวดในงานประกวดสุนัขสำคัญๆได้ และยังสามารถหาคู่ผสมพันธุ์ให้กับสุนัขของตนเองได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

สำหรับเจ้าปิงปองนั้น แม้ว่าจะได้การรับรองว่าเป็นสุนัขบางแก้วพันธุ์แท้ และได้ขึ้นทะเบียนสุนัขกับสมาคมฯแล้วก็ตาม แต่เนื่องจากมันมีนิสัยค่อนข้างดุ ก้าวร้าว ไปคำรามข่มขู่เจ้าโบอยู่บ่อยๆ จนเจ้าโบกลัวฤทธิ์เดชของบางแก้ว ต้องคอยหลบทางให้มันตลอดเวลาดังที่ผมจะเล่าต่อไป ผมคิดว่าคงเอาเจ้าปิงปองไปทำหมันจะดีกว่า แม้ว่าอยากจะได้ลูกมันก็ตาม

ท่านผู้อ่านที่สนใจจะขอขึ้นทะเบียนสุนัขบางแก้วสามารถติดต่อสมาคมฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-9903428-9 หรือดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ https://www.kcthailand.com

แต่ขอแนะนำว่า ท่านควรทำใจไว้ก่อนว่า ถ้าท่านส่งสุนัขบางแก้วแสนรักไปขอขึ้นทะเบียนแล้ว เกิดสุนัขท่านสอบไม่ผ่าน ไม่ได้รับการรับรองจากสมาคมฯ ว่าเป็นสุนัขบางแก้วพันธุ์แท้แล้วละก็ อย่าได้ทอดทิ้งมันนะครับ ถือว่าเป็นคู่บุญคู่กรรมแต่ปางก่อนก็แล้วกัน



อ่านต่อ บทที่ ๗

๗. จะดูโหงวเฮ้งบางแก้วอย่างไรดี

เจ้าปิงปองอายุได้ ๗ เดือนแล้ว โตขึ้นมาหน้าตาของมันคมคายหล่อเหลาเอาการ ถ้าไม่บอกคงนึกว่าเป็นตัวผู้ หูทั้งสองเล็กตั้งบ้องไปข้างหน้า ตาเล็กแต่แหลมคม ขนรอบคอแผ่เป็นวงคล้ายดั่งราชสีห์ ขนหลังแผ่กระจายคลุมไปถึงหางคล้ายดั่งอานม้า ขนตามตัวนุ่มน่ากอด(ถ้ามันจะมอมแมมน้อยกว่านี้ซักหน่อย) ผมคิดว่าโหวงเฮ้งมันดีเอาการ แต่ไม่ทราบว่าเขาดูโหงวเฮ้งบางแก้วกันอย่างไร

หลังจากที่ผมได้มาร่วมวงอยู่ในชุมชนคนรักสุนัขบางแก้วได้ระยะหนึ่ง มีความรู้สึกว่าคำถามที่โพสต์เข้ามามักจะคล้ายๆกัน และมีหลายคำถามที่ไม่ได้คำตอบ จึงได้หารือกับเว็บมาสเตอร์ว่า น่าจะมีการรวบรวมคำถามที่คล้ายๆกันมาจัดให้เป็นหมวดหมู่ แล้วหาผู้รู้มาช่วยกันตอบ หรือไปหาข้อมูลมาใส่เพื่อเป็นการจุดชนวนให้เกิดการแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งหัวข้อกระทู้ให้น่าสนใจและไปในแนวทางเดียว ผมจึงอาสาตั้งกระทู้นำสัก ๒ - ๓ กระทู้ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้อื่นได้ตั้งกระทู้ตามมาอย่างต่อเนื่อง โดยผมได้เลือกเอาเรื่องการดูโหวงเฮ้งสุนัขบางแก้วเป็นประเด็นหลักในการแตกหัวข้อเป็นกระทู้ย่อย ซึ่งก็ประสบความสำเร็จด้วยดีมีผู้รู้มาร่วมพอสมควร จึงใคร่ขอนำเนื้อหาสาระบางส่วนของกระทู้การดูโหวงเฮ้งสุนัขบางแก้วมาแนะนำต่อผู้อ่านดังนี้



ดูโหงวเฮ้งบางแก้ว บทที่ 1 โหงวเฮ้งดีนั้นเป็นเช่นไร

ได้สนทนากับคุณชาญ เว็บมาสเตอร์
รู้สึกชื่นชมในความรักสุนัขของแก
ประกอบกับความอยากรู้ของตนเองในฐานะผู้เลี้ยงสุนัขบางแก้ว
จึงได้เสนอคุณชาญไปว่าถ้าตั้งกระทู้เป็นซีรี่สเกี่ยวกับการดูโหงวเฮ้งสุนัข แล้วพยายามหาผู้รู้มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และทำให้เว็บนี้น่าสนใจมากขึ้น ผมจึงขอขันอาสาตั้งกระทู้นำสัก 2-3 กระทู้ และหวังว่าเพื่อนๆผู้รักสุนัขบางแก้วคงจะช่วยกันตอบ หรือตั้งกระทู้ต่อเป็นบทๆต่อไปอย่างต่อเนื่อง เผื่อคุณชาญจะได้รวบรวมไปพิมพ์หนังสีอขายเพื่อนำเงินมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมต่อไป
Name vichien Date วันพุธที่ 23 เมษายน 2546, 19:39:56 น. IP 203.153.136.102






Comment 1


ข้อมูลจาก : https://www.thaianimal.com/dog/dog.html
Name vichien Date วันพุธที่ 23 เมษายน 2546, 19:45:41 น. IP 203.153.135.137






Comment 2
มาตรฐานพันธุ์สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว
(ฉบับปรับปรุง 14 ต.ค. 44)
ลักษณะประจำพันธุ์
1. ลักษณะทั่วไป - เป็นสุนัขขนาดกลาง โครงสร้างรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีสัดส่วนที่กลมกลืน ประกอบด้วยกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์ แข็งแรง มีการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่ว
พฤติกรรมทางอารมณ์ - ตื่นตัว ร่าเริง รักเจ้าของ เชื่อมั่นในตนเอง จิตประสาทมั่นคงไม่ขลาดกลัว ซื่อสัตย์ หวงแหนทรัพย์สิน ฉลาดปราดเปรียว กล้าหาญ สามารถฝึกใช้งานได้
ถิ่นกำเนิด - มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่หมู่บ้านบางแก้ว ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย
2. กรุ๊ป - ( Group) (Spitz and Primitive Types)
3. รูปร่าง - หนา ล่ำสัน เมื่อยืนหยัด ขาเหยียดตรงตั้งฉากกับพื้น คอยกหน้าตั้ง
4. หัว - ค่อนข้างใหญ่ ได้สัดส่วนกับลำตัว ดั้งจมูกมีมุมเล็กน้อย
5. จมูก - มีสีดำ ได้สัดส่วนกับปาก
6. ปาก - ยาวปานกลาง โคนปากใหญ่เรียวจรดปลายจมูก
7. ฟัน - เล็กและแหลมคม ขบกันได้สนิทแบบกรรไกร ฟันบนเกยอยู่ด้านนอกอนุโลมให้ฟันขบเสมอกันพอดี สุนัขโต( 6 เดือนขึ้นไป ) มีฟัน 42 ซี่
8. ตา - เล็กคล้ายเมล็ดอัลมอนด์สีน้ำตาล
9. หู - รูปสามเหลี่ยมได้สัดส่วนกับหัว ตั้งป้องไปข้างหน้า มีขนอ่อนที่กกหูและหลังใบหู
10. คอ - ใหญ่ล่ำสันรับกับหัว ช่วงใหญ่มีขนแผลงรอบคอ
11. หลัง - เส้นหลังตรง
12. อก - กว้างและลึกได้ระดับกับศอก
13. สะโพก - ใหญ่และแข็งแรง ส่วนหลังมีขนยาวลามมาจนถึงข้อขาหลังท่อนบน
14. หาง - โคนหางใหญ่ ขนหางเป็นพวง ปลายโค้งเข้าหาเส้นหลัง
15. ขาหน้า - ใหญ่กว่าขาหลัง เวลายืนเหยียดตรงและขนานกัน ข้อเท้าสั้น ทำมุมเฉียงเล็กน้อย หลังขามีขนยาวลักษณะคล้ายแข้งสิงห์
16. ขาหลัง - เล็กกว่าขาหน้า เวลายืนทำมุมพอเหมาะ มองจากด้านหลังข้อเท้าหลังตั้งได้ฉากและขนานกัน
17. เท้า - อุ้งเท้ากลมคล้ายอุ้งเท้าแมว มีขนยาวคลุมนิ้วเท้า
18. ความสูง
- เพศผู้ สูง 18 - 22 นิ้ว (46 - 56 ซม.)
- เพศเมีย สูง 16 - 20 นิ้ว ( 41 - 51 ซม.)
19. น้ำหนัก
- เพศผู้ หนัก 19 - 21 กิโลกรัม
- เพศเมีย หนัก 16 - 18 กิโลกรัม
20. ขน - ยาวปานกลางมี 2 ชั้น ชั้นในอ่อนนุ่ม ชั้นนอกเส้นใหญ่เหยียดตรง ยาวคลุมบริเวณแผ่นหลัง
21. สี - ขาว-น้ำตาล , ขาว-ดำ , ขาว-เทา
22. - ข้อบกพร่อง มี 3 ระดับ
22.1 ข้อบกพร่องเล็กน้อย ได้แก่ฟันเหลือง
22.2 ข้อบกพร่องปานกลาง ได้แก่ หางไพล่ ไม่มีแผงขนรอบคอ ไม่มีแข้งสิงห์ หู้ใหญ่ ปากใหญ่ ตาใหญ่ ตามกลม หลังแอ่น หลักโก่ง
22.3 ข้อบกพร่องร้ายแรง ได้แก่ ขนสั้นเกรียน จมูกสีอื่น ตาสีอื่น หูพริ้ว หูไม่ตั้ง ฟันบนยื่นล้ำฟันล่าง (Over Shot) ฟันล่างยื่นล้ำฟันบน (Under Shot) ฟันขาดเกินกว่า 3 ซี่ขึ้นไป ข้อสะโพกห่าง หางขอด หางม้วน หางไม่เป็นพวง หางขาด อัณฑะไม่ครบ ความผิดพลาดทางจิตประสาท

ที่มาของข้อมูล ชมรมผู้พัฒนาสุนัขไทยบางแก้ว พิษณุโลก โทร 055-217068
ข้อมูลจาก : https://www.geocities.com/kpbangkaew
Name vichien Date วันพุธที่ 23 เมษายน 2546, 19:51:20 น. IP 203.153.135.137










ดูโหงวเฮ้งบางแก้ว บทที่ 2 หน้าแบบนี้เขาเรียกว่าหน้าอะไร

ดูยังไงครับว่าจะเป็นพันธ์แท้จิงอะเปล่าครับ..พอดีคนรู้จักเค้าให้มาเค้าบอกว่า แท้อะเค้าบอกว่าให้ไปขอใบขึ้นทะเบียน อะไรสักอย่างเนี้ยได้เลย...


จากกระทู้ ขอคำแนะนำ...เพิ่งได้หมาพันธุ์บางแก้วมาเลี้ยงครับ
Name bally Date วันพุธที่ 23 เมษายน 2546, 20:06:31 น. IP 203.153.135.137






Comment 2
น่ารักดีครับ
โดยเฉพาะขอบตาในรูป มองดูคล้าย ซึงหงอคง หรือ เห้งเจีย ถ้าบอกว่ามีเชื้อลิงผสมก็คงเว้อร์ไป ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยดูด้วยครับ
ที่ผมสนใจคือ พอดีคนรู้จักเค้าให้มาเค้าบอกว่า แท้อะเค้าบอกว่าให้ไปขอใบขึ้นทะเบียน อะไรสักอย่างเนี้ยได้เลย...
ช่วยถามเขาหน่อยครับว่าไปขอใบขึ้นทะเบียน อย่างไร เผื่อจะไปขอให้เจ้าปิงปองในกระทู้ 82 บ้าง
Name vichien Date วันพุธที่ 23 เมษายน 2546, 20:17:57 น. IP 203.153.135.137






Comment 3
แบบหน้า 3 ลักษณะของหมาบางแก้ว
ลักษณะหน้าเสือ
ลักษณะใบหน้าดูคล้ายเสือ มีกะโหลกศีรษะใหญ่ หน้าผากกว้างหูเล็กแบะออกเล็กน้อย แววตาเซื่องซึม และดูดุร้าย เป็นลักษณะของหมาพันธุ์บางแก้วที่ใหญ่ที่สุด บางตัวที่เคยเห็นมาแล้วมีขนาดเท่ากับสุนัขพันธุ์อัลเชเชี่ยนของต่างประเทศ มีขนที่คอเป็นแผง แต่ไม่รอบคอ ไม่มีเคราใต้คาง รูปร่างอาจใหญ่ หรือขนาดกลางก็ได้ มีหางเป็นพวงและไม่เป็นพวง ทั้งหางงอนและหางม้วน ขนมีทั้งฟูและไม่ฟู มีแผงคอแต่ไม่รอบคอ
ลักษณะหน้าเสือถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของหมาบางแก้วอย่างแท้จริง
ลักษณะหน้าสิงโต
ถ้าหากได้เลือดสุนัขจิ้งจอกมากจะมีลักษณะหน้าแหลม ขนบริเวณแก้มจะพองออกมาเป็นแผงหรือกระบังหน้าคล้ายคลึงกับหน้าสิงห์โต ลักษณะจะมีแผงใหญ่รอบคอ และมีเคราใต้คางยาวลามไปจรดแผงคอตอนล่าง กะโหลกจะมัลักษณะคล้ายสิงห์โต ปากไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป ช่วงตัวตอนหน้าใหญ่ ช่วงท้ายเล็ก ยามปกติแววตาและท่าทางจะเซื่องซึม แต่เมื่อเห็นศักรูหรือคนแปลกหน้า แววตาและท่าทางจะเปลี่ยนเป็นดุร้ายและคล่องแคล่วว่องไวทันที
ลักษณะเท้ายาวอูม ขนยาวหุ้มปลายเท้านิดหน่อย มองดูคล้ายเท้าหมี ขนมีทั้งยาวฟู สั้นฟู หางยาวเป็นพวงและไม่เป็นพวง มีทั้งหางม้วนสูงและม้วนต่ำ ลักษณะนี้นับว่าเป็ฯพันธุ์ดีเหมือนสายพันธุ์ดั้งเดิม ถ้ามีแผงคอใหญ่ หูสั้นและหางถวง และมีสีที่ประน้อยมากแล้ว ก็นับว่ามีสายเลือดที่ยังเข้มข้น น่าเก็บเอาไวทำพันธุ์ แต่ก็หายากมาก หลายปีจึงจะมีออกมาสักครั้ง มีการซื้อขายกันในราคาที่แพงพอดู
ลักษณะหน้าจิ้งจอก
มีใบหน้าแหลม หูใหญ่กว่าทั้งสองชนิดแรก ใบหูไม่ตรงโย้ออกด้านข้าง มองดูเป็ฯรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า ขนอ่อนยาวเรียบ ขนหางเป็นพวง รูปร่างมีทั้งใหญ่ กลาง และ เล็ก นิสัยไม่ค่อยดุร้ายเหมือนสองพวกแรก ซึ่งถือว่าหน้าจิ้งจอกเป็นข้อด้วยกว่า 2 พวกแรก
อย่างไรก็ตาม ลักษณะเด่นของหน้าหมาบางแก้วคือที่ปลายปากจะมีสีขาวรอบปาก และสีขาวจากปลายปากมากลางแสกหน้าถึงกะโหลกศีรษะที่เรียกกันว่า "หน้าแบ่ง" หรือ "หน้าแด่น" "ปากคาบแก้ว"
Name vichien Date วันพุธที่ 23 เมษายน 2546, 20:19:12 น. IP 203.153.135.137










ดูโหงวเฮ้งบางแก้ว บทที่ 3 หูดีดูอย่างไร



คุณ vichien เราตามเข้ามาดูในweb นี้ เพราะเราเป็นคนหนึ่งที่รัก และเลี้ยงบางแก้ว แต่เราเพิ่งเลี้ยงได้ไม่นานนะ เราเจอ web นี้เพราะคุณนะ คุณอยู่ใน pantip ด้วยใช่มั๊ยละ ของเรามีบางแก้วอยู่ 2 ตัว เป็นตัวผู้ 1 และเมียอีก 1 ตอนนี้เค้ามีทายาทด้วยกันแล้วนะ เราขอโชว์ทายาทของเค้าแล้วกัน ส่วนพ่อกับแม่ของเค้า โอกาสหน้าเราจะถ่ายรูปมาให้ดูนะ
Name ที Date วันพุธที่ 23 เมษายน 2546, 20:47:13 น. IP 203.153.135.137








Comment 6
หัว กะโหลกใหญ่ ปากยาวแหลม คอยาวกว่าหมาไทยทั่วไป กะโหลกศีรษะและปากรับกันเป็นรูปสามเหลี่ยม หูเล็กสั้น ตั้งป้องไปข้างหน้า ปลายหูเบนไปข้างๆ เล็กน้อย โคนหูทั้งสองอยู่ห่างกันมากกว่าหมาพันธุ์อื่น ๆ จึงใช้เป็นจุดเด่นในการสังเกตว่าเป็นหมาบางแก้ว ภายในหูมีขนปรายปิดรูหูอย่างสีดำมีแววของความไม่เชื่อใจใครง่ายๆ ขณะโกรธหรือขู่จะขึ้นแววฟ้า ใสแววที่เรียกกันว่า ตาเขียว จมูกสีดำ ฟันซี่เล็กข่าวคม มีเขี้ยวข้างบน 2 ล่าง 2 ลิ้นเป็นสีชมพู ส่วนมากไม่มีปานดำเหมือนหมาไทยทั่วไป
จาก https://www.geocities.com/dogthai2000/dog2.htm
Name vichien Date วันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2546, 15:37:04 น. IP 203.154.102.2








ดูโหงวเฮ้งบางแก้ว บทที่ 4 มาร์กิ้งแบบนี้ดีไหม

ถามผุ้รู้หน่อยครับ เมื่อคืนไปเจอลูกสุนัขบางแก้วลักษณะสีขาวล้วน
ลักษณะตัวเป็นสีขาวทั้งตัว ยกเว้นขอบตาดำ และหูน้ำตาลขอบดำ อยากถามว่าเขาจะสีนี้ตลอดไปไหมครับ
Name พี Date วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน 2546, 06:00:43 น. IP 203.153.134.179






Comment 1
ถ้ามีรูปแนบมาด้วย ก็จะดี
คนจะเห็นภาพและช่วยให้คำแนะนำได้
ขนบริเวณสีขาว มีโอกาสที่จะมีแต้มสีกระแทรกขึ้นมา
ลองดูรูปในกระทู้ ใบรับรองสายพันธ์นั้นสำคัญไฉน ดูซิครับ
Name vichien Date วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน 2546, 06:03:15 น. IP 203.153.134.179








Comment 4



สวัสดีครับ คุณ วิเชียร
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณมากครับที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บสุนัขของผม จริงแล้วมาตราฐานของสุนัขบางแก้วเขาจะมีตายตัวอยู่แล้วตามมาตราฐานที่สมาคมได้กำหนดไว้ ส่วนสุนัขจะมีคุณสมบัติถูกต้องหรือเปล่าอันนี้ต้องดูจากลักษณะพ่อ-แม่ของเขาแล้วครับ เพราะฉนั้นเขาถึงเน้นใบประวัติพันธุ์มากเลยครับ เวลาจะซื้อควรจะสืบจากพ่อแม่ปู่ยายตายายเขาด้วยครับต้องดูจากคอกที่ไว้ใจได้ด้วยครับ แต่สุนัขของคุณผมก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นสายไหนของประเทศไทย อันนี้ก็ไม่ทราบว่าแท้มากน้อยเพียงใดนะครับ ช่วงอายุน้อยๆเราจะดูสุนัขลำบากมากครับ ก็อาศัยหลักมาตราฐานหลักคือ จมูกดำ ฟันขาว หัวใหญ่ แข็งใหญ่ ขนนุ่ม มาร์คสวย ตาสดใส หูตั้ง ฯลฯ แล้วพอโตขึ้นมาเขาจะการเปลื่อนแปลงหลายๆอย่าง เช่นสีขน มาร์ค เป็นต้น แต่อย่าไปคิดว่าสุนัขพอโตขึ้นมาแล้วจะสวยทุกตัวนะครับ ขนาดคนยังมีสวยมีขี้เหล่เลยไช่เปล่าครับ ส่วนที่คุณถามว่าขนอานม้าเป็นอย่างไรนั้น ผมขอบอกนะครับ ว่าขนอานม้าไม่มีหรอกครับ ขนสุนัขบางแก้วจะมีแค่ขนฟูยาวมีสองชั้นชั้นในอ่อนนุ่มชั้นนอกฟูยาว ส่วนคำว่าอานม้าเขาเรียกกันว่า มาร์คอานม้าครับ ก็คือมาร์คที่เป็รสีเดียวกันทั้งหลังตั้งแต่ท้ายทอยไปจนถึงโค่นหางโดยไม่มีสีขาวงั้นเลย นั้นแหละเขาเรียกมาร์คอ้านม้ากันครับ ส่วนเจ้าปิงปองนั้นที่เข้ามีแต้มสีน้ำตาลเพิ่มขึ้นมา คุณไม่ต้องตกใจครับ เพราะนั้นเขาได้พันธุกรรมจากหมาไนมาครับ ส่วนขนที่ขึ้นมาใหม่นั้นเดียวพอขนยาวขึ้นเต็มที่แล้วแต้มสีน้ำตาลที่เกิดขึ้นมาก็จะถูกขนสีขาวทับหมด แล้วถ้าได้อาหารดีๆถึงๆนะครับ ขนจะคล้ายสิงห์โตเลยละครับ คงเข้าใจแล้วนะครับ มีอะไรก้อถามมานะครับ ผมส่งสุนัขของผมมาให้ดูด้วยนะครับ ชื่อข้าวตัง ตอนนี้7 เดือนแล้วครับ
สายเลืออดแชมป์ครับ


Name Chaynath Date วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน 2546, 06:12:01 น. IP 203.153.134.179






Comment 9
ผมเป็นนายทะเบียนของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) บังเอิญผ่านมาที่นี่ เห็นมีผู้นิยมสุนัขพันธุ์ไทยบางแก้วมากอย่างนี้ก็ชื่นใจครับ และขณะนี้ทางสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข(ประเทศไทย) กำลังผลักดันสุนัขพันธุ์ไทยบางแก้วให้สู่สากล โดยคาดว่าในปี พ.ศ 2547 จะยื่นจดทะเบียนมาตรฐานสายพันธุ์สุนัขพันธุ์ไทยบางแก้ว ต่อ สมาพันธุ์สุนัขเอเชื่ยน [AKU] และในปี พ.ศ. 2548 จะยื่นต่อสมาพันธุ์สุนัขโลก [FCI]
อยากจะแจ้งเรื่องสีของสุนัขพันธุ์ไทยบางแก้วให้ท่านที่สนใจทราบ เพื่อจะไม่หลงทาง หรือเข้าใจผิด ๆ สุนัขพันธุ์ไทยบางแก้วจะมีสีพื้นเป็นสีขาว และมีมาร์กกิ้งเป็นสี ดำ หรือ น้ำตาล หรือ เทา ครับ ตามมาตรฐานสายพันธุ์กำหนดสีของสุนัขพันธุ์ไทยบางแก้ว มีสามแบบครับ คือ ขาว-ดำ , ขาว-น้ำตาล และ ขาว-เทา
สำหรับสีขาวล้วนทั้งตัวไม่มีมาร์กกิ้ง ถือป็นข้อบกพร่องครับ ไม่ควรใช้ทำสายพันธุ์ต่อ เพราะสุนัขพันธุ์ไทยบางแก้วสีขาวล้วนจะมีข้อบกพร่อง หลายอย่าง เท่าที่พบเห็นจะมี อาการหูหนวก หรือ มีความพิการทางกระดูก หรือมีความพิการทางสายตา
Name ธนกฤต ปฏิญญาวัฒน์ Date วันอังคารที่ 29 เมษายน 2546, 21:53:57 น. IP 210.86.201.249






Comment 10
ขอแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ
เนื่องจากผมไปอ่านตำราเกี่ยวกับสุนัขของประเทศอื่น เค้ามีการกล่าวถึงสีของสุนัขด้วย ซึ่งสีของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วก็สอดคล้องด้วยคือ เป็นสีแบบ White Pattern คือจะมีสีล้วน แล้วจากนั้นก็จะเริ่มมีสีขาวโดยเริ่มจากด้านนอกเข้าสู่ด้านในคือจากปลายขาปลายหาง กลายเป็นสีขาวเป็นสีพื้นแล้วมีแต้มสีอื่น(น้ำตาล,ดำ,เทา ฯลฯ) จากนั้นก็จะกลายเป็นสีขาวล้วนทั้งตัว
คราวนี้ในคำถามเรื่องมีสีเฉพาะที่หน้า(กะโหลก) เท่าที่ผมได้พูดคุยกับบุคคลหลายๆท่านในชมรมผู้อนุรักษ์ฯ ชมรมผู้พัฒนาฯ ชมรมบางระกำฯ สมาคมส่งเสริมฯ (ทั้งหมดที่กล่าวถึงอยู่ในจ.พิษณุโลก) ก็บอกว่าถ้าสีที่ตัวเป็นสีขาวล้วนแต่ว่ามีสีที่หน้า(พูดกันง่ายๆว่า มีหน้ากาก) ยังไม่เป็นข้อบกพร่องครับ แต่ถ้าไม่มีสีอื่นๆเลยนอกจากสีขาวก็จะไม่รับขึ้นทะเบียน (รวมทั้งกรณีจมูกแดงด้วยครับผม)
ทีนี้ผมจะเล่านิทานให้ฟัง เดิมเคยมีคนเล่ากันว่าเค้าเคยเห็นเคยเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทยพื้นบ้านซึ่งมีทั้งสีล้วน สีขาวแต้มน้ำตาล สีขาวแต้มดำ สีขาวแต้มเทา สีเขียว สีลายเสือ มากมายสารพัดสี ต่อมามีคณะบุคคลได้จัดตั้งเป็นชมรมฯแล้วประกาศมาตรฐานพันธุ์โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกในขณะนั้น(พ.ศ.2533)ลงนาม ซึ่งเขียนเกี่ยวกับเรื่องสีไว้ว่ามีหลายสี .... ต่อมาได้มีการแก้มาตรฐานพันธุ์ แล้วเรื่องสีเขียนกันว่า มีสีขาวน้ำตาล สีขาวดำ สีขาวเทา ก็เลยตีความกันว่าสุนัขบางแก้วมี 3 สี (ไม่ใช่ในตัวเดียวกันมี 3 สีนะครับ .. (อ้อ เดี๋ยวจะหลง ถ้าตัวเป็นสีขาวแล้วมีแต้มที่ลำตัวเป็นสีอื่น จากนั้นยังมีสีอื่นอีกที่ต่างจากสีที่ลำตัวปะปนที่กะโหลกก็ยังไม่นับว่าเป็น 3 สีครับผม)) ฉะนั้นผมว่าเรื่องสี แล้วแต่ความชอบครับ ส่วนตัวผมชอบสีที่ชัดเจน ขาวเป็นขาว น้ำตาลเป็นน้ำตาล (สีน้ำตาลในโลกของสุนัขก็มีมากเหลือเกิน ...ถ้ามีคนสนใจจะเล่าให้ฟังอีกครั้ง)
ในแง่การตัดสินการประกวด พี่ๆที่เป็นกรรมการ (ชมรมฯต่างๆที่กล่าวถึงข้างต้น) ไม่ได้สนใจว่า
1. สีอะไร
2. มีกระหรือไม่
3. อานม้าหรือไม่
เค้าสนใจประเด็นอื่นครับ ซึ่งมี 5 หัวข้อใหญ่ๆ
1. เอกลักษณ์
2. โครงสร้าง
3. การเคลื่อนไหว
4. ความสมบูรณ์ สุขภาพ
5. สภาพอารมณ์ จิตประสาท
พสุธา
Name พสุธา พันธุ์สาย Date วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2546, 15:21:55 น. IP 203.155.36.133








ดูโหงวเฮ้งบางแก้ว บทที่ 5 แข้งดีต้องมีขน ?




รูปขาสิงห์ คือ จะมีขนยาวออกมาตาม ที่ลูกศรชี้บอก แต่ภาพนี้ไม่ค่อยชัด ขาสิงห์นี้หมาไทยจะไม่มี
Name โป๋ Date วันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2546, 21:49:15 น. IP 203.153.137.24






Comment 2
เรื่องขาสิงห์ก็จะเกิดบริเวณหลังขาหน้าครับคือบริเวณข้อศอกลงมา บางตัวยาวมากบางตัวยาวน้อย แล้วแต่พันธุ์และวิธีการเลี้ยง เคยเห็นตามคอกบางคอกบอกว่า ต้องเลี้ยงไว้ในห้องแอร์หรือที่ที่อากาศเย็นเย็นขนจึงจะสวยครับ
Name ตี๋ Date วันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2546, 21:53:57 น. IP 203.153.137.24






Comment 4



ขาสิงห์เฉพาะขาหลังได้ไหมครับ

Name vichien Date วันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2546, 22:00:15 น. IP 203.153.137.24






Comment 6
ขอแสดงความคิดเห็นด้วยครับ
แข้งสิงห์ที่ว่า ก็คือ แนวของทิวขนด้านหลังขาหน้า(เมื่อเรามองสุนัขด้านข้าง) โดยจะเป็นทิวขนยาวบริเวณข้อศอกแล้วลามลงมา ความยาวของขนจะค่อยๆสั้นลง มองดูแล้วจะเหมือนกับขาสิงห์ในตำนาน (ดูได้ตามรูปปั้นสิงห์ตามวัดต่างๆครับ) เวลาเคลื่อนไหวพริ้วสวยงามมาก
ทีนี้ก็แล้วแต่ว่าใครต้องการให้มีทิวขนแข้งสิงห์ยาวมากน้อยแค่ไหนอย่างไร แต่พี่ๆที่เป็นกรรมการตัดสินที่พิษณุโลกนั้น ฝากติงว่าอย่าให้ยาวจนดูรุ่มร่ามนะครับ
สำหรับฝ่าเท้า พี่ๆเค้าบอกว่าอยากให้เป็นอุ้งเท้าสิงห์ คือกลมมนไม่แตกแสก (ลองสังเกตุได้จากอุ้งเท้าแมว หรือขาโต๊ะขาสิงห์ครับผม)
ส่วนขนที่บริเวณสะโพก จะเป็นขนสองชั้นยาวพอสมควร ทิ้งตัวลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก ถ้าดูแลดีๆ เวลาเค้าเคลื่อนไหวจะพริ้วสวยงามมาก
ที่เท้า เมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์จะมีขนจากปลายนิ้วเท้ายาวเลยเล็บออกมา บางตัวก็ยาวมาก บางตัวก็ค่อนข้างสั้น
พสุธา

Name พสุธา พันธุ์สาย Date วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2546, 15:32:03 น. IP 203.155.36.133








ดูโหงวเฮ้งบางแก้ว บทที่ 6 ดูหมาให้ดูที่หาง ดูนางให้ดูที่.....

หางไพล่ หางเพล่ หางขอด หางม้วน หางไม่เป็นพวง หางขาด ฯลฯ
เป็นเช่นไร ใครทราบช่วยเอารูปมาให้ดูหน่อยครับ โดยเฉพาะ ๓ ตัวแรก
Name หางด้วน Date วันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2546, 22:18:20 น. IP 203.153.137.24






Comment 1


ขอนำรูปเจ้าตัวพ่อมาให้ดูตามสัญญานะคะ
รบกวนผู้มีความรู้ช่วยกันดู และวิจารณ์ ลักษณะ มาร์คกิ้ง และอื่นๆ
หน้าแบบนี้เค้าเรียกว่าหน้าอะไรค่ะ
ขอขอบุคณล่วงหน้าคะ
จากกระทู้ เอารูปมาให้ดูตามสัญญา
Name ที Date วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2546, 06:48:58 น. IP 203.153.134.134






Comment 2


เอาแม่มาให้ดูบ้างคะ ตัวแม่จะขนหนา แต่จะมีกระเยอะกว่าคะ
Name ที Date วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2546, 06:50:57 น. IP 203.153.134.134








Comment 14
ขอแสดงความคิดเห็นด้วยครับ
เรื่องหางนั้น ถือว่าเป็นเอกลักษณ์เลยนะครับ
สิ่งที่พี่ๆ(สมาชิก,กรรมการบริหาร,กรรมการตัดสิน ของชมรมฯที่จ.พิษณุโลก) เค้าบอกว่าเป็นสิ่งซึ่งได้พูดคุยกันตั้งแต่ก่อนออกเป็นมาตรฐานพันธุ์ ก็คือ
หางเป็นพวง ปลายหางโน้มโค้งเข้าหาเส้นหลัง(ไม่เอนไปข้างใดข้างหนึ่ง) ถ้าปลายหาง(ไม่ใช่ขนนะครับ)แตะที่เส้นหลังใด ถือว่าดีที่สุด
แต่ว่าเท่าที่เห็น
1. ปลายหางโน้มโค้งเข้าหาเส้นหลังเหมือนกัน แต่ว่าหางเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ลองนึกตามเป้นสามมิตินะครับ คือหางไม่ได้พุ่งโค้งไปที่เส้นกึ่งกลางหลัง แต่ว่าเอนออกข้างครับ
2. ปลายหางโค้งเลยเส้นหลัง กลายเป็นหางเพล่ไป บางครั้งก็เลยไปมาก หรือเอียงออกมากลายเป็นไพล่ไป
3. ปลายหางม้วนเข้า คล้ายขนมกง (คือหางม้วนเป็นวงกลมนะครับ)
4. ถ้าตำแหน่งโคนหางอยู่ต่ำไป เวลาที่เค้าตื่นตัวหางก็จะแนบติดเส้นหลัง มองดูไม่สวยงาม หรืออาจกลายเป็นเพล่เป้นไพล่ไปเลย
5. ถ้าตำแหน่งโคนหางอยู่สูงไป ก็มักจะเพล่ หรือไพล่
ฯลฯ
ทีนี้ที่ว่าพิจารณาในสนามประกวด เค้าพิจารณากันตอนไหน ก็เป็นตอนที่สุนัขเคลื่อนไหว ซึ่งถือว่าเป็นสภาวะปกติของสุนัขเค้า ผู้จูงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย (แต่เวลา Post ผู้จูงสามารถช่วยเหลือสุนัขได้)
พสุธา

Name พสุธา พันธุ์สาย Date วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2546, 15:48:00 น. IP 203.155.36.133






ท่านที่สนใจในกระทู้ดูโหงวเฮ้งบางแก้ว สามารถดูรายละเอียดได้ที่กระดานข่าวเดิมที่

https://www.hightidediving.com/cgi-bin/webboard/view.cgi?board=bangkaew



อ่านต่อ บทที่ ๘


โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตำนานปิงปอง(ภาคอวสาน)