Reign of Fishes
ก่อนจะเข้ามา หน้านี้ ทุกคนคงจะเจอคำว่าสวัสดีหลายครั้งแล้วนะครับ แต่ ก็สวัสดีอีกครั้งแล้วกัน สำหรับคนที่ไม่ได้โดนสวัสดีมาก่อน อันตัวผมนั้น นาย RoF เป็นผู้ชายครับ กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ก็ผ่านอะไรๆมาเยอะเหมือนกัน โอ
ไม่น้อยเลยทีเดียว ผมจะพยายามเล่าแล้วกันครับ อ่านกันเล่นๆครับ ถึงแดดจะร้อนแค่ไหนก็ขอให้ประเทศไทยจงเจริญละกัน
ยุคแรก อันตัวผม ความสนใจในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำมาตั้งแต่เยาว์วัย ตั้งแต่เมื่อจำความได้ ผมก็เริ่มเลี้ยงปลาแล้ว เวลานั้นผมอายุประมาณ 5 ขวบเท่านั้น ซึ่งผมเรียนอยู่ที่จังหวัด ตรัง ปลาที่ผมเลี้ยงเป็นชนิดเเรกคือ ปลากัดจีน ซึ่งคุณป้าเป็นผู้ซื้อมาให้จำนวนหลายตัว ผมจึงได้เรียนรู้ว่าการเลี้ยงปลาเป็นอย่างไร ต้องให้อะไรมันกินเป็นอาหาร ควรมีการเปลี่ยนน้ำ ดูแลรักษา ฯลฯ อย่างไร ตามประสา เด็กน้อย ทำให้ผมเริ่มมีใจรัก และมีความรู้ในการเลี้ยงปลาฝังอยู่ในจิตใจตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เมื่อเวลาผ่านไป คิดๆแล้วมันก็แปลกนะ ผมก็เริ่มเลี้ยงปลามากขึ้น และหลายชนิดขึ้น แทบจะพูดได้ว่าทุกชนิดที่มีขายในจังหวัดตรังเวลานั้นก็ว่าได้ เมื่อผมมีความชำนาญในการเลี้ยงปลาหลายชนิดดีแล้วดีแล้ว ผมจึงเริ่มสนใจการเพาะขยายพันธุ์ปลา เวลานั้นผมเรียนรู้ด้วยตนเอง ไม่มีใครสอน ไม่มีตัวอย่างให้ดู อาศัยความสังเกต การสอบถามร้านขายปลา และหาหนังสืออ่าน โดนหลอกบ้าง ในที่สุดผมก็เพาะและอนุบาลลูกปลากัด ได้สำเร็จเป็นชนิดแรก ตอนนั้นผมเรียนอยู่ประมาณชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และหลังจากนั้นผมก็ทำการเพาะขยายพันธุ์ปลาสวยงามชนิดอื่นๆได้อีกหลายชนิดตามมา จากที่ต้องเลี้ยงปลาในขวด ในโหล ในถัง ในอ่าง ทีนี้ล่ะคุณป้าจึงเริ่มเห็นใจรักในการเลี้ยงปลาของผม จึงได้ซื้อตู้ปลาตู้แรกในชีวิตให้ เป็นตู้ขอบสเตนเลส ขนาดยี่สิบสี่นิ้วโดยประมาณ ซึ่งตู้ใบนี้ ในปัจจุบัน ก็ยังตั้งอยู่ที่บ้านที่จังหวัดตรัง และยังมีปลาว่ายอยู่ในตู้ใบนั้นเป็นปกติวิสัย ในยุคนั้นเงินทองก็ไม่มี จึงได้แต่ช้อนปลาจับปลาจากธรรมชาติ ซื้อเอาจากตลาดสด จีบลูกสาวร้านขายปลาบ้าง ซึ่งสวนใหญ่จะได้แต่ปลาขนาดเล็กๆมาเลี้ยงเนื่องจากสถานที่ไม่อำนวยนัก วันนึง ผมได้ปลาหมอ(ไทย)มาหนึ่งตัว เลี้ยงๆดูจึงรู้ว่านิสัยของมันค่อนข้างดุ และกินสิ่งมีชีวิตเป็นอาหาร ตั้งแต่นั้นมา ผมจึงต้องแสวงหาสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆให้มันรับประทานอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น ปลาหางนกยูง ลูกปลากัด แมลงต่างๆ โดยเฉพาะแมลงปอ ซึ่งผมจะใช้หนังยางในการล่ามันตามสนามหญ้าของโรงเรียน ตอนแรกๆก็ไม่มีใครสนใจ หนักๆเข้าก็โดนครูตี หาว่าทำบาป ง้า บาปตรงไหนครับครู ผมให้อาหารสัตว์นะครับ แถมยังฝึกฝีมือยิงหนังยางจนแม่นเข้าขั้นโอลิมปิกอีกด้วย เหอๆๆๆ จากวันนั้น พฤติกรรมของคุณปลาหมอได้ปลุกสัญชาติญาณโหดในใจผมมาตั้งแต่บัดนั้น ขอบอกว่าผมชอบเลี้ยงปลากินเนื้อขนาดใหญ่ๆครับ ชอบมากเล้ย
ในยุคที่สอง เมื่อผมได้เข้ามาศึกษาชั้นมัธยมศึกษาที่กรุงเทพฯ เวลานั้นมาตัวเปล่าไม่ได้เอาตู้ปลาจากตรังขึ้นมาด้วย ด้วยใจรักในการเลี้ยงปลาสวยงาม ผมจึงเริ่มชื้อหาปลามาเลี้ยงอีกตามกำลังทรัพย์ที่มีในตอนนั้น ก็หนีไม่พ้นปลากัดอีกเช่นเคย เนื่องจากผมยังไม่มีตู้ปลานั่นเองมีแต่อ่างบัว โอ่งน้ำ ถังส้วม เท่านั้นเอง ในกรุงเทพฯนั้น โลกแห่งการเลี้ยงปลาของผมกว้างขวางขึ้นมากนักในเมืองใหญ่ ปลากัดที่ผมหามาเลี้ยงจึงมีความสวยงาม แปลกตา กว่าที่เคยรู้จักในต่างจังหวัด ผมจึงเริ่มมีความคิดในการเพาะปลากัดที่มีลักษณะและสีสันที่สวยงามขึ้นมาเองบ้างแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ในเวลาต่อมาผมมีโอกาสดีได้ยักยอกตู้ปลามาจากโรงเรียนได้ 1 ตู้ขนาด 24 x 18 x 18 นิ้ว ประกอบกับเงินค่าข้าวที่ได้มากขึ้น จึงทำให้ผมเริ่มมีโอกาสที่จะซื้อหาปลาราคาสูงและปลาแปลกๆอีกหลายชนิดที่ต้องเลี้ยงในตู้ปลา นอกจากปลาตลาดราคาถูกทั่วไปที่นำมาเพาะเลี้ยงแล้ว ปลาที่ผมสนใจเป็นพิเศษในเวลานั้นคือปลาอะโรวาน่า จึงได้พยายามเก็บเงินซื้อและในระหว่างนั้นก็หาปลาราคาไม่แพงนักมาเลี้ยงไปเรื่อยๆ ตู้ปลาที่ยักยอกมาได้นั้น มีรอยแตกร้าวมากมาย ทำให้ผมรู้จักการซ่อมแซมตู้ปลาตั้งแต่บัดนั้น ยิ่งเวลามันรั่วตอนที่มีปลาอาโรวาน่าแพงๆอยู่ข้างในก็ยิ่งสนุก อุดกัน ทั้งคืนเลย ได้เทคนิคมากมายในการต่อสู้กับรูรั่วแบบมั่วๆ เมื่อเก็บเงิน จึงได้ไปซื้อ ปลาอะโรวาน่าตัวแรกในชีวิต เป็นสายพันธุ์ทองอ่อนอินโดนีเซีย เลี้ยงได้ไม่นานก็ตาย อย่าลึกลับ แต่ผมยังไม่ละความพยายามในการเลี้ยงปลาชนิดนี้จึงได้ซึ้อมาเลี้ยงอีก แล้วแต่โอกาสและเงินในกระเป๋าจะอำนวย สีเงินบ้าง สีดำ ออสเตรเลีย ทองอ่อน เขียว(ในยุคนั้นยังพอมีเยอะนะ) แต่ก็ตายเรื่อยๆ ตายซ้ำตายซาก อะไรของมัน ซื้อทุกเดือนตายทุกเดือนหาสาเหตุไม่ได้ แม้แต่กระทั่งคนขายปลาเองก็ตามที ก็มิสามารถให้คำตอบหรือช่วยเราได้เลย มีแต่ขายๆลูกเดียว ถ้าเป็นคนอื่นคงเลิกเลี้ยงไปนานแล้ว แต่ผมไม่เป็นเช่นนั้น แม้จะเจ็บปวดอย่างไร ผมก็ยังตั้งปณิธานว่า ถ้าเลี้ยงปลาชนิดนี้ไม่ได้จะไม่ขออยู่เป็นคน อาจเป็นเวรเป็นกรรมที่ผูกพันกันมาแต่ชาติก่อน ทำให้ช่วงนั้นผมขัดสนเรื่องเงินทองมาก จนในที่สุดเมื่อมาถึง ปลาอะโรวาน่าทองอ่อนตัวที่ 30 กว่าๆของผม(คิดดูแล้วหมดเงินไปหลายหมื่นบาท) ไม่ใช่ว่ารวย หรือว่าดื้อต้องการเอาชนะ แต่ว่าอยากเลี้ยงจริงๆ(สาบานได้) หลายคนสงสัยว่า แล้วเอาเงินที่ไหนกินข้าว คือตอนนั้นผมมีเพื่อนรักอยู่คนนึง ซึ่งให้การอุปการะอาหารกลางวันและค่ารถอยู่เสมอมาไม่เคยขาด เพียงแค่ผมต้องคอยช่วยเหลืออะไรเขาเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเช่น ส่งจดหมายรักให้กระเทยที่มันจีบ หรือไม่ก็เอาชอล์กปา กะบาลคนที่มันไม่ชอบขี้หน้า เป็นต้น ต่อมา ผมก็สามารถเลี้ยงมันได้อยู่รอดสำเร็จ และสรุปหาสาเหตุการตายของปลาตัวก่อนๆ โดยหลักๆได้ว่า ปลาอะโรวาน่านั้นเป็นปลาที่แพ้ยา มาลาไคท์กรีน และดิพเทอเรกซ์ ใส่เมื่อไรตายเมื่อนั้น ปลาเสือตอก็เช่นกัน ไม่เชื่อก็ลองดูได้ มันเป็นนิสัยเสียมากๆของผมเองที่ชอบใส่ยาต่างๆที่ซื้อมาตามท้องตลาดทั่วไป ลงในน้ำ หวังว่าใส่เพื่อกันเชื้อโรคเพื่อให้ปลาแข็งแรง แม้ว่าปลาจะเป็นปรกติก็ตาม เนื่องจากผมรักมันมากนั่นเองจึงทำอะไรที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์เช่นนั้น ในยุคนั้นข้อมูลต่างๆ ก็ไม่มีมากมายเช่นตอนนี้ อินเตอร์เนตเป็นยังไง ก็ไม่รู้ แต่ผมก็ได้รับความรู้มากมายจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นเกี่ยวกับปลาอะโรวาน่า เช่น การจับเคลื่อนย้ายปลา การดูลักษณะของปลาที่แข็งแรงสวยงาม ปลาเริ่มมีปัญหาผิดปกติ ปลาป่วย ลักษณะของปลาที่ยังสามารถรักษาได้ และอาการที่หมดทางเยียวยา ฯลฯ และที่สำคัญคือ จิตวิทยาและลักษณะนิสัยของปลาชนิดนี้ การแสดงออกของปลาอะโรวาน่าทุกๆอิริยาบถอยู่ในความทรงจำของผมจนหมดสิ้น เชื่อหรือไม่ว่าปลา 100 ตัว ก็มี 100 นิสัย ซึ่งผมพอจะเข้าใจจิตใจมันได้บ้าง เพียงมองตามันก็ทราบว่ามันคิดอะไรอยู่(โม้ว่ะ -_-) ในเวลานั้นใช่ว่าผมเลี้ยงปลาอะโรวาน่าเพียงชนิดเดียวไม่ ผมยังเลี้ยงปลาอีกมากมายหลายชนิดซึ่งกล่าวถึงไม่หมด ล้วนแต่เพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์แก่ผมทั้งสิ้น สรุปว่าบทเรียนสำคัญในยุคนี้คือ เลี้ยงปลาดีเกิน สะอาดเกิน ใส่ใจ วิตกจริตเกิน ปลาตาย ถ้าปลาไม่ตาย คนก็ตาย
มาถึงยุคที่สาม ผมได้เลือกเรียนตามที่ผมชอบและสนใจโดยตรง แม้ว่าจะมองดูเสี่ยงมากก็ตาม เพราะครอบครัวผมไม่มีใครทำงานทางด้านนี้ ไม่ค่อยมีใครสนับสนุนนัก ผมสอบเข้าคณะประมงได้ตอนม.5 จึงได้ลาออกจากโรงเรียน เมื่อเข้ามาเรียนได้ไม่นานนัก ผมก็ได้ทราบว่า ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ หรือเพื่อนรุ่นเดียวกัน ไม่มีใครที่จะสนใจหรือมีใจรักในการเลี้ยงปลาอย่างแท้จริง จะมีก็ส่วนน้อยมากซึ่งค่อนข้างผิดหวัง มีเพื่อนเพียงคนเดียวที่มีความรู้ทัดเทียมพอจะคุยกันได้ หรือน่าจะเหนือกว่าด้วยซ้ำไป ผมจึงได้เป็นเพื่อนสนิทกับเขานับแต่นั้นมา และได้ร่วมกันทำงานที่โครงการปลาสวยงามคณะประมงด้วยกัน ตอนนี้โลกแห่งการเลี้ยงปลาของผมได้เป็นกว้างอย่างเต็มที่และสมบูรณ์แบบ ผมได้เข้าวงการโดยการแนะนำของเพื่อนคนนั้น ร้านพรหมประทาน ซันเดย์ เป็นร้านที่เพื่อนผมสนิทสนมมาช้านาน และได้แนะนำให้ผมรู้จักกับเจ้าของร้านซึ่งมีอัธยาศัยดี ทำให้ผมเริ่มตีสนิทด้วย และหาความรู้เรื่องการซื้อขายปลาที่ร้านนั้น โดยทำหน้าที่ทุกอย่างในร้านโดยไม่มีเงินเดือนตอบแทน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความรู้มากมายในเรื่องการซื้อขาย ความเป็นไปของตลาด ราคาปลาร้านไหนอะไรถูกอะไรแพง ช่วงไหนควรซื้อและไม่ควรซื้อ และอุปกรณ์การเลี้ยงปลา ได้รู้จักลูกค้า และคนในวงการมากขึ้น และผมยังสามารถนำปลาที่ผมเลี้ยงไว้มาวางขายที่ร้านได้อีกด้วย ตลอดจนสามารถซื้อปลา และอาหารปลาต่างๆได้ในราคาถูกมากอีกด้วย เวลาว่างตอนเย็น หรือ เสาร์อาทิตย์ แทนที่ผมจะเอาไปเที่ยวเตร่เหมือนเด็กวัยรุ่นคนอื่นๆ ผมจะมาช่วยงานที่ร้านนี้เสมอๆ การเลี้ยงปลาเป็นเรื่องใหญ่ของผม เมื่อเรียนจบปีหนึ่ง เพื่อนสนิทของผมคนนั้นก็ได้ลาออกจากคณะประมง ไปเรียนต่อคณะวิศวกรรมศาสตร์ ลาดกระบัง โดยให้เหตุผลว่า คณะประมงไม่สามารถให้ความรู้อะไรแก่เขาได้มากไปกว่าที่เขามีอยู่ สังเกตจากรุ่นพี่ปี 3 ปี 4 ที่ยังเลี้ยงปลาไม่เป็น และยังต้องคอยซักถามเขาอยู่เสมอ ซึ่งผมก็ได้ทัดทานเขาแล้วแต่ไม่เป็นผล เป็นอันว่าเหลือเพียงผมเพียงคนเดียวในรุ่น ที่มีความรักในด้านปลาสวยงามอย่างแท้จริง นอกนั้นมีแต่พวกมือใหม่อวดเก่ง ซึ่งตอนนี้ก็ดับไปเรียบร้อยแล้ว เวลาผ่านไปเรื่อยๆผม ก็เลี้ยงปลามากขึ้น มีตู้ปลามากขึ้นแม้ว่าจะทะเลาะกับแม่บ้างก็ตาม และยังไปขายปลาที่ซันเดย์อยู่เสมอๆ จนมาถึงปัจจุบัน ช่วงนั้นผมผ่านเหตุการณ์มามากมายนัก เคยไฟดับปลาตายหมดบ้านก็หลายครั้ง แต่ละครั้งสูญเสียนับหลายหมื่นบาท เคยแม้กระทั่งฝังศพปลาเสือตอลายใหญ่ ที่กองอยู่เต็มกาละมังซักผ้า เคยกินปลาอะโรวาน่าและเสือตอทอดกระเทียม ที่เลี้ยงมากับมือและความสูญเสียอีกมากมายนักที่เป็นประสบการณ์ของผม คนที่ไม่เคยผิดพลาดคือคนที่ไม่เคยลงมือทำ บทเรียนล้วนมีค่าเสมอ แต่ผมก็ยังคงเลี้ยงปลาเรื่อยมาด้วยความรู้และประสบการณ์ที่กล้าแกร่งขึ้น และด้วยใจรักอย่างแท้จริง
ยุคที่สี่ ยุค ดิจตอล เมื่อผมได้เรียนจบปริญญาตรีจากภาควิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ ก็ได้เข้าศึกษาต่อ ณ ภาควิชาเดิม ในสาขาพันธุ์ศาตร์สัตว์น้ำ ปลาที่เลี้ยงไว้มีจำนวนมากชนิดมากตัวขึ้น พร้อมทั้งประสบการณ์ความรู้ที่แน่นหนาขึ้นกว่าเดิม หรือพูดง่ายๆว่า ไม่เคยเลย ที่จะหยุดเลี้ยง(น้อง)ปลา ชีวิตในมหาวิทยาลัยยังคงเหมือนเดิม คือเรียน แต่เรียนหนักกว่าตอนปริญญาตรีพอสมควร ปัญหาใหญ่ในตอนนั้นคือ หัวข้อวิทยานิพนธ์ซึ่งยังไม่ลงตัวในหลายๆกรณี แต่สุดท้ายด้วยใจรักในปลาสวยงาม จึงไม่พยายามจะหนีไปจากมัน เลยได้คิดหัวข้อขึ้นมาเอง และนำไปเสนออาจารย์ที่ปรึกษาจนท่านเห็นชอบด้วย และให้ลงมือทำ ในตอนนั้น ผมเล็งเห็นว่า ปลากัด ยังเป็นปลาที่อยู่ในความนิยมของนักเลี้ยงปลาเสมอมา ยุคนั้น ยังไม่มีฮาล์ฟมูน หรือคราวเทลในประเทศไทย แต่กระแสเรื่องปลากัดกำลังมาแรงมากๆ อาจเนื่องมาจากการโปรโมตของกรมประมง ปลากัดเหรอ ใช่เลย ปลาที่เราเลี้ยงเป็นชนิดแรกในชีวิต ชนิดแรกที่เราเพาะพันธุ์และอนุบาลได้สำเร็จตั้งแต่เยาว์วัย ความทรงจำดี ความผูกพันยังคงเหมือนเดิม ตกลง ปลากัด ละกัน แต่เราจะทำเรื่องอะไรดีล่ะ ลองมองปัญหาดู ตอนนี้ ในตลาดก็มีเพียงแต่ ปลากัดจีน ปลากัดหม้อ ในยุคนั้น เป็นยุคคลั่งฮาล์ฟมูน ของคนไทย ปลาฮาล์ฟมูนปลอมๆ ออกสู่ตลาดจำนวนมาก มีเซียนปลากัดห่วยๆ เกิดขึ้นมากมาย มากอบโกยโอกาสทองตรงนั้นไป เราลองมองแล้วคิด เอ ห้องปฏิบัติการพันธุศาตร์ของคณะเรา มีเครื่องมือที่เกียวกับการศึกษาด้านความหลากหลายทางพันธุกรรมอยู่อย่างครบถ้วนนี้นา งานแบบนี้ มันอยู่ในเชิงอนุรักษ์ด้วย ชอบๆ เอ แล้วถ้าเราจะลองทำเรื่องปรับปรุงพันธุ์ปลากัดล่ะ สร้างฮาล์ฟมูนของจริงขี้นมาจากปลากัดที่เรามีอยู่เราจะทำได้ไหมน้อ โอ อาจทำได้แต่คงหลายปี สู้ซื้อจากต่างประเทศมาเพาะไม่ได้ เร็วกว่า เห็นผลกว่า งั้น ไม่ทำเรื่องปรับปรุงพันธุ์แล้วล่ะ เอาด้านความหลากหลายทางชีวภาพละกัน อนุรักษ์หรอ? อืม มันก็ต้องเป็นปลาของไทยสิ และควรเป็นปลาที่มีอยู่ในธรรมชาติด้วย นึกถึงครั้งเยาว์วัย จังหวัดตรัง ปลากัดตัวเขียว แก้มเขียว ขอบหางแดงสด ตัวเล็กเพรียว ว่องไว กระโดดเก่ง ใช่เลย!! ปลากัดลูกทุ่ง Betta imbellis งั้นเราทำเรื่องปลากัดทุกชนิดที่พบในประเทศไทยเลยดีกว่า มันคงเป็นสิ่งที่คนมองข้ามถึงความสำคัญอย่างยิ่งยวดของมันไป จึงได้ข้อสรุปแปลเป็นคำว่า การศึกษาความแตกต่างทางพันธุกรรมของปลากัด (Betta spp.) ในประเทศไทยด้วยเทคนิคRAPD-PCR (Study on Genetic Variation of Betta spp. in Thailand by Random Amplified Polymorphic DNA (RAPD) Method) เอาล่ะลุย
. โอ ไม่ง่ายอย่างที่คิดแฮะ ผมสามารถจบคอร์สเวริกได้ภายในหนึ่งปีแต่ว่า งานวิจัยนี่อะสิ ในชีวิตคนเราอุปสรรคแปลกๆรอเราให้ฝ่าฟันเสมอเลย งานของผมมีอันต้องสะดุดและช้าลง จนต้องหยุดในบางครั้ง ด้วยอุปสรรคหลายๆประการ ศึกนอก ศึกใน(อก) แหะๆ ตอนนั้นยังเลี้ยงปลาขายปลาเหมือนเดิมนะ ไม่เคยทิ้ง แต่ มันมีอะไรที่ต้องทำให้เราต้องออกมาทำงาน หาประสบการณ์หลายๆอย่างมากมาย เรื่องงานวิจัยยังคงดำเนินไปอย่างช้าๆ การใช้ชีวิตแบบนี้มันทำให้ผมได้เข้าใกล้สิ่งๆนึงซึ่งแต่ก่อน ไม่ค่อยมีเวลาได้เข้าใกล้มันเท่าไรเลย สิ่งนั้นคือ คอมพิวเตอร์ ในโลกแห่งไซเบอร์ ไม่มีขีดจำกัด มันเป็นโลกซึ่งกว้างใหญ่จังเลยซึ่งผมไม่เคยให้ความสำคัญกับมันมาก่อน ณ ที่นี้ ผมได้รู้จักกับเวปเปิดใหม่ สดๆร้อนๆในเวลานั้น https://www.siamensis.org เวลาที่เหมาะสม ย่อมนำสิ่งที่ดีที่สุดมาสู่เรา ผมเชื่ออย่างนั้น ในที่นี้ ผมใช้นามแฝงว่า Reign of Fishes ซึ่งแปลแบบมั่วๆว่า เทพแห่งปลา ว่ะ555 นานๆเข้าคนในเวปเขาคงขี้เกียจพิมพ์ยาวๆเลยเรียกผมสั้นๆว่า RoF ^^~
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ Reign of Fishes
E-mail Address: reign_of_fishes@hotmail.com
งานอดิเรก เลี้ยงปลาสวยงาม กระต่าย สะสมแสตมป์ บัตรโทรศัพท์
ความสามารถพิเศษ ยังหาไม่เจอ
ปี วุฒิการศึกษา สถาบันการศึกษา
2527-2532 ประถมศึกษา โรงเรียนบูรณะรำลึก จังหวัด ตรัง
2533-2535 มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กทม
2536-2537 มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กทม.
(สอบเทียบได้ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนธนบุรีวรเทพีพลารักษ์ กทม.)
2538-2541 วท.บ.(ประมง) เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กทม.
จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ(พันธุศาสตร์สัตว์น้ำ) ภาควิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ คณะบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ประวัติการทำงาน และผลงาน ด้านปลาสวยงาม
มีประสบการณ์การเพาะเลี้ยงปลาสวยงาม ทั้งน้ำจืด และน้ำเค็ม มามากกว่า 20 ปี
ประวัติการทำงาน
-เริ่มจากเพาะเลี้ยงปลาส่งขาย และรับจัดตู้ปลานอกสถานที่
-ฝึกงานร้านพรหมประทาน จตุจักร กทม
-ทำงานวิจัยเล็กๆที่ฟาร์ม แฟนซีฟิชเซนเตอร์ ปราจีนบุรี
-นักวิชาการ สถาบันวิจัยสัตว์น้ำสวยงามและพันธุ์ไม้น้ำ กรมประมง
-นักวิจัย คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
-หัวหน้านักวิชาการ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ อุทยานบ้านปลามนชิดา บ้านโป่ง จ. ราชบุรี
- ผู้จัดการฟาร์ม บริษัทธนาบุญออร์นาเมนทอลฟิชจำกัด และ บริษัทฟิชอินสไปเรชั่นจำกัด
-ปัจจุบัน ตกงานครับ ขายปลาขายเต่าเลี้ยงชีพ >< ท่านใดอยากได้ไปร่วมงานด้วยติดต่อได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ
ผลงานเท่าที่นึกได้
-หนังสือ ปลาออกลูกเป็นตัว (Live Beareres) กรมประมง
-วิทยากร อบรมเกษตรกรเรื่อง การปรับปรุงพันธ์ปลากัด
-เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรายการ แฟนพันธุ์แท้ ตอน ปลาตู้
-ตู้ปลาทะเล หน้าห้อง อธิบดีกรมประมง ธรรมรง ประกอบบุญ
-บูทสถาบันปลาสวยงามฯ งานประมงน้อมเกล้า ปี พ.ศ. 2545
-รางวัลชนะเลิศ และรองชนะเลิศประเภทปลาแม่น้ำ งานประกวดสัตว์เลี้ยง เซนทรัลซิตี้ บางนา
-ออกแบบใบรับรองมาตราฐานฟาร์มปลาสวยงามเพื่อการส่งออก กรมประมง(ปัจจุบันคงเปลี่ยนไปแล้ว)
-หมอปลาอาสาประจำเวปไซด์https://www.ninekaow.com/hospital
-ออกรายการ Q-20 ตอน กุ้ง
-ออกรายการ THE PET ช่องเคเบิลอะไรจำไม่ได้แล้ว
-นักเขียนรับเชิญ นิตยสาร Aqua
-วิทยากรรับเชิญ งานประมงน้อมเกล้า ปี 2550
-นักเขียนรับเชิญ นิยสาร Th@i Crossbreed
-นักเขียน นิตยสาร Fish Guideline
-นักเขียนและที่ปรึกษานิตยสาร Aquabitz
-ออกรายการโลกมหัศจรรย์ทางโมเดิร์นนายทีวี
https://www.kkmall.net/rof/bbs/viewthread.php?tid=11
-วิทยากรบรรยายเรื่องภัยของปลาต่างถิ่น ศาลาว่าการเมืองพัทยา(25-26มิย52๗
-จัดแสดงเอ็กโซติกเพทโซน งานมหิดลคนรักสัตว์
-นักเขียนและที่ปรึกษานิตยสาร The Fish MAX
-มีบทความลงหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และไทยโพสต์
-บรรณาธิการบทความนิตยสาร Aquarium Biz
ฯลฯ