![]() |
| ![]() ![]() ![]() |
tidn1amulet-uthaithanee.pantown.com : ทิดหนึ่งพระเครื่อง,คนดนตรี | [ลูกบ้านSignIn][เจ้าบ้านSignIn] |
   พระราชอุทัยกวี(พุฒ สุทตฺโต) อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี
ชาติภูมิ ท่านมีชื่อเมว่า พุฒ แจ้งอิ่ม เกิดเมื่อ 9 ธันวาคม 2439 ตรงกับวันพุธ ขึ้น 5 ค่ำเดือน 1 ปีวอก ณ. บ้านหนองเต่า ต.ทุ่งใหญ่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี ในวัยเยาว์ท่านต้องช่วยบิดามารดาทำนาและเลี้ยงน้อง แต่ท่านมีความสนใจในการปฏิบัติธรรม คือชอบสวดมนต์ก่อนนอนตามบิดาของท่านทุก ๆ คืน ทำให้สวดมนต์ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย พ.ศ.2453 ดาจึงนำท่านมาฝากพระสุนทรมุนี (ใจ) เจ้าอาวาสวัดมณีธุดงค์สงฆ์มูลิกาวาส ( .ศ.2456 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สกลมหาสังฆปรินายก ได้ประทานนามใหม่ว่า วัดทุ่งแก้ว ) และเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนวัดมณีธุดงค์เชลยศักดิ์ ได้เรียนวิชา ภาษาไทย ภาษาขอม เลขะ วิชาลงรักปิดทอง บรรพชา อุปสมบท พ.ศ.2454 ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดทุ่งแก้ว 6 มีนาคม พ.ศ.2458 ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดทุ่งแก้ว โดยมีพระสุนทรมุนี(ใจ คงฺคสโร) เป็นพระอุปัชฌาจารย์ พระมหายอด อกฺกวํโส เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และได้รับฉายาว่า สุทตฺโต การศึกษา เมื่อได้บรรพชาเป็นสามเณรแล้ว ได้ศึกษาธรรมบทและมูลกัจจายน์ตลอดจนธรรมพื้นฐานต่าง ๆ และเมื่อได้อุปสมบทแล้ว ในปี พ.ศ.2459 สอบได้นักธรรมดตรี จากสำนักเรียนวัดทุ่งแก้ว พ.ศ.2460 พะสุนทรมุนี(ใจ) เจ้าสำนักเรียนวัดทุ่งแล้วและพระอุปัชฌาย์ ได้ส่งท่านไปศึกษาต่อในสำนักเรียนวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ คณะ 18 จังหวัดพระนคร พ.ศ.2462 สอบได้นักธรรมโท พ.ศ.2463 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค พ.ศ.2464 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค พ.ศ.2465 สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค ในระหว่างศึกษาอยู่ที่สำนักเรียนวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์นี้ ท่านได้รับความเมตตาจาก สมเด็จพระวันรัต(เฮง เขมจารี) อบรมสั่งสอนธรรม จนมีความรู้ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง แตกฉาน และมีโอกาสปรนนิบัติรับใช้ สมเด็จพระวันรัต(เฮง) อย่างใกล้ชิด เนื่องจากความที่เป็นคนอุทัยธานีเหมือนกัน ประกอบกับท่านเป็นผู้มีความวิริยะอุตสาหะและปฏิบัติกิจทางศาสนาได้อย่างเข้ม แข็ง มีศีลาจารวัตรงดงาม จึงเป็นที่ชื่นชอบของสมเด็จพระวันรัต(เฮง)เป็นอย่างยิ่ง นับว่าท่านเป็นศิษย์ที่สมเด็จพระวันรัต(เอง) ให้ความเมตตาและไว้ว่างใจมากที่สุด นอกจากการศึกษาด้านปริยัติธรรมแล้ว พระราชอุทัยกวี(พุฒ) ยังมีความสนใจด้านวิปัสสนากรรมฐาน เป็นอย่างมาก ดังนั้น ในปี พ.ศ.2496 จึงได้ไปศึกษาวิปัสสนากรรมฐานกับ พระภัททันตะ อาสภเถระ ธัมมาจริยะ ชาวพม่าที่เดินทางมาเผยแผ่ธรรมะด้านวิปัสสนากรรมฐานในประเทศไทย และได้นำความรู้มาอบรมสั่งสอนให้แก่ลูกศิษญ์ชาวอุทัยธานีและจังหวัดใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก โดยเริ่มทำการสอนตั้งแต่ พ.ศ.2497 เป็นต้นมา และได้จัดตั้งวิปัสสนามูลนิธิวัดมณีสถิตกปิฏฐารามขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบำเพ็ญทานและการกุศลในพุทธศาสนา ได้แก่การบำรุงสำนักวิปัสสนา และสำนักเรียนปริยัติธรรมวัดมณีสถิตกปิฏฐาราม และส่งเสริมกิจการการกุศลสาธารณประโยชน์ทั่วไป ด้านการปกครอง พ.ศ.2469 เป็นผู้รักาการแทนเจ้าอาวาสวัดทหุ่งแก้ว พ.ศ.2471 (19 กันยายน) เป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งแก้ว พ.ศ.2476 (6 พฤศจิกายน) เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี พ.ศ.2476 (26 กุมภาพันธ์) เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2477 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี พ.ศ.2478 เป็นเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี สมณศักดิ์ 6 พฤศจิกายน 2476 เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูศรีรัตนาภิรม 19 กันยายน 2478 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสุนทรมุนี อุทัยธานี วรนายก สังฆปาโมกข์ 5 ธันวาคม 2500 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้น ราชที่ พระราชอุทัยกวี สมาธินทรียสุนทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
พระราชอุทัยกวี (พุฒ สุทตฺโต) สภาพสังขารโดยทั่วไปมีสุขภาพอนามัยดี ปราศจากโรคภัยไขเจ็บประจำตัว โดยปรกติท่านจะใช้เวลาปฏิบ้ติวิปัสสนากรรมฐานในกุฏิเสมอ บางครั้งจะปฏิบัติติดต่อกันเป็นเวลานาน 1-2 วัน โดยไม่ออกมาฉันภัตตาหารเลย ท่านเป็นแม่แบบและเป็นที่เคารพ เป็นความภาคภูมิใจของชาวอุทัยธานีมาโดยตลอดทั้งทางด้านปกครองและทางด้านเป็นพระวิปัสสนา ผิวกายของท่านมีราศียิ่งนักมีผิวกายสีชมพู ดูแล้วงามตาและประทับใจเป็นอย่างยิ่ง และในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2533 เมื่อฉันภัตตาหารเช้าแล้ว ท่านก็ได้เข้ากุฏิปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเหมือนเช่นเคย จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น.เศษ มีผู้เข้าไปพบท่านได้มรณภาพอย่างสงบภายในกุฏิสนทรประมุข สังขารของท่านได้พระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุลอย บริเวณหน้าโรงเรียนพระปริยัติธรรม อุทัยธรรมสภา เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2534 ยังความเศร้าโศกเสียใจ อาลัยยิ่งแก่เหล่าศิษยานุศิษย์และชาวอุทัยธานีทั้งปวง
ความรู้ด้านพุทธาคม |