รูปที่ 1 |
|
ชื่อรูป : |
พระพุทธชินราช เมืองสองแคว พิษณุโลก |
คำอธิบายรูป : | พระคู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลก และมีประวัติที่ยาวนาน เป็นที่เคารพบูชาของชาวจังหวัดพิษณุโลก และประชาชนทั่วไปที่เลื่อมใส พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูป ปางมารวิชัย ที่มีลักษณะงดงาม ที่สุดในโลก มีขนาดหน้าตักกว้าง ห้าศอก 1 คืบ ห้านิ้ว (2.875 เมตร) สูงเจ็ดศอก (3.5 เมตร) หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ขัดเงาเกลี้ยง สมเด็จพระเอกาทศรถได้ทรงปิดทองเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2146 และเมื่อ 2478 ได้มีการลงรักปิดทองเต็มองค์อีกครั้งหนึ่ง และเป็นการถาวรอยู่จนทุกวันนี้ พระพุทธชินราชประดิษฐานอยู่ ณ พระวิหารทางทิศตะวันตกของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร องค์พระนั่งขัดสมาธิอยู่บนฐานชุกชีบัวคว่ำบัวหงายพระพักตร์หันไปทางทิศตะวันตก (ด้านริมแม่น้ำน่าน) มีซุ้มเรือนแก้วและสลักด้วยไม้สักลงรักปิดทอง ประดับเนี้องพระปฤษฎางค์ ปราณีตอ่อนช้อยงดงามช่วยเน้นให้พระวรกายของพระพุทธชินราชงามเด่น ชัดเจนยิ่งขึ้น พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปศิลปสุโขทัย แต่มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างไปจากสุโขทัยคลาสสิก เพราะเกศมีรัศมียาวเป็นเปลวเพลง วงพระพักตร์ ค่อนข้างกลมไม่ยาวรีเหมือนมะตูม เช่นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย มีพระอุณาโลมผลิก อยู่ระหว่างพระโขนง พระวรกายอวบอ้วนมีสังฆายาวปลายหยักเป็นเขี้ยวตะขาบ ฝังด้วยแก้วนิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่ยาวเสมอกัน ฝ่าพระบาท แบนราบ ค่อนข้างแคบ เมื่อเทียบกับยุคสุโขทัย ส้นพระบาทยาว มีรูปอาฬวกยักษ์และรูปท้าวเวสสุวัณ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์เฝ้าอยู่ ที่พระเพลาเบื้องขวาและซ้ายขององค์ตามลำดับ พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปศิลปสุโขทัย ที่มีลักษณะเด่นเป็นพิเศษ ต่างไปจากพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย แบบอื่น ๆ อย่างชัดเจนป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยสุโขทัยหมวดพิเศษ คือ พระพุทธชินราช ตามตำนาน การสร้างพระพุทธชินราช พระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไทย) รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์ ได้โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1900 พระพุทธรูป ที่สร้างขึ้นในคราวเดียวกันนั้น มี 3 องค์ คือ
1. พระพุทธชินราช หน้าตักกว้าง ห้าศอกคืบห้านิ้ว ณ วิหารใหญ่ทิศตะวันตก 2. พระพุทธชินสีห์ หน้าตักกว้าง ห้าศอกคืบสี่นิ้ว ณ วิหารทิศเหนือ 3. พระศรี ศาสดา หน้าตักกว้าง สี่ศอกคืบหกนิ้ว ณ วิหารด้านทิศใต้
ในการหล่อพระพุทธรูป เมื่อหล่อเสร็จ แล้วยังมีทองเหลืออยู่ จึงเอามารวมกันหล่อเป็นพระพุทธรูป นั่งขัดสมาธิปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง หนึ่งศอกเศษ เรียกพระนามว่า พระเหลือกับพระสาวกเป็นพระยืนอีก 2 องค์และอิษฐที่ก่อเตาหลอมทองและสุ่มหุ่น ในการหล่อพระได้เอามารวมกันก่อเป็นชุกชี สูงสามศอก ตรงตำแหน่งที่หล่อพระพุทธชินราชและปลูกต้นมหาโพธิ์บนชุกชี 3 ต้น แสดงว่าเป็นมหาโพธิ์สถานของพระพุทธชินราช พระพุทธชินศรี และพระศรีศาสดา ทั้งสามองค์จึงเรียกว่า \"โพธิ์สามเส้าสืบมา\" พร้อมกัน นั้นได้สร้างวิหารน้อยขึ้นระหว่างต้นโพธิ์หลักหนึ่ง และได้อัญเชิญพระเหลือพร้อมพระสาวกเข้าประดิษฐาน ณ ในวิหารนั้น วิหารน้อย หลังนี้นิยมเรียกกันต่อมาว่า \" วิหารพระเหลือ\" หรือ \"วิหารหลวงพ่อเหลือ\" ตั้งอยู่ด้านหน้าพระวิหารพระพุทธชินราชเยื้องไปทางใต้เล็กน้อย พระพุทธชินราชในประเทศไทย มีพระนามว่า \"พระพุทธชินราช\" อยู่ 2 องค์ คือ 1. พระพุทธชินราชที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรหาวิหาร 2. พระพุทธชินราชวโรภาสธรรมจักรอรรคปฐมเทศนา นราสบพิตร ประดิษฐานอยู่ณ พระวิหารวัดพระเชตุพน เป็นพระพุทธรูปนั่ง ปางปฐมเทศนา หน้าตักกว้าง สี่ศอกห้านี้วเมื่อการสร้างพระพุทธรูปเสร็จสมบูรณ์แล้ว พระมหาธรรมราชชาที่ 1 โปรดให้อัญเชิญ พระพุทธชินราช ประดิษฐาน ณ พระวิหารใหญ่ด้านทิศตะวันตก พระพุทธชินศรี ประดิษฐาน ณ พระวิหารด้านทิศเหนือ พระศรี ศาสดา ประดิษฐาน ณ พระวิหารด้านทิศใต้ เนื่องจากพระพุทธชินราช มีลักษณะงดงามที่สุดในบรรดาพระพุทธรูปในประเทศไทย และเป็นที่เคารพสักการบูชาของประชาชนทุกชั้น พระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้โปรดให้หล่อพระพุทธชินราชจำลองขึ้นใหม่เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ร.ศ.120 (พ.ศ.2444) แล้วอัญเชิญไปประดิษฐาน เป็นพระประธาน ณ พระอุโบสถ วัดเบญจมบพิตร จังหวัดพระนคร (กรุงเทพฯปัจจุบัน) พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา ที่ประดิษฐานในวัดพระศรี รัตนมหาธาตุปัจจุบันนี้ เป็นพระพุทธรูปปั้นก่ออิฐถือปูน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดให้สร้างขึ้นใหม่แทน พระพุทธชินสีห์ และพระ ศรีศาสดาองค์เดิม และอัญเชิญองค์เดิมไปประดิษฐาน ณ วัดบวรนิเวศวิหาร สร้างเมื่อง พ.ศ.1900 ในรัชกาลพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท) เป็นวัดหลวงตั้งแต่รัชกาลที่ 6 เมื่อปี พ.ศ.2458 มีพื้นที่วัด 36 ไร่ 2 งาน 54 ตารางวาในปัจจุบันป็นวัดชั้นเอกวรมหาวิหารตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่านทางฝั่งตะวันออก สำคัญเพราะเป็นที่ประดิษฐานพุทธชินราช พระพุทธชินศรี และพระศรีศาสดา โดยเฉพาะพระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะที่งดงามที่สุดในโลก
|
| Comment (0) |
|
รูปที่ 2 |
|
ชื่อรูป : |
พระพุทธไพรีพินาศ |
คำอธิบายรูป : | ...พระไพรีพินาศองค์เดิมเป็นพระพุทธรูปศิลาขนาดย่อม หน้าพระเพลา ๑ คืบ ๔ นิ้ว สูงตลอดพระรัศมี ๑ ศอก มีเศษไม่ถึงนิ้ว เป็นพระพุทธรูปแบบพระธยานิพุทธเจ้า ปางประทานพร สมัยศรีวิชัย เล่ากันว่าพระพุทธรูปนี้ มีผู้นำมาถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ เมื่อยังทรงผนวชอยู่ในราว พ.ศ.๒๓๙๑ ได้ถวายพระนามว่า พระไพรีพินาศ
...พระไพรีพินาศใคร่ครวญตามพระนามน่าจะได้เชิญประดิษฐานไว้ในเก๋งน้อยที่สร้างใหม่ ณ ทักษิณชั้นบนแห่งพระเจดีย์ในครั้งนั้น เว้นไว้แต่ได้ประดิษฐานในครั้งยังทรงผนวชเมื่อปี พ.ศ.๒๓๙๑ ที่เป็นคราวสิ้นเสี้ยนศัตรูครั้งแรก
ปัจจุบัน พระไพรีพินาศประดิษฐานอยู่ที่ซุ้มเก๋งด้านทิศเหนือของพระเจดีย์ประธานของวัด ในหนังสือ ศิลปกรรมวัดบวรนิเวศวิหาร ได้กล่าวถึงเจดีย์ที่สร้างเก๋งประดิษฐานพระไพรีพินาศไว้ตอนหนึ่งว่า
...พระเจดีย์ไพรีพินาศเป็นพระเจดีย์ศิลา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างขึ้นบรรจุพระพุทธวจนะ ประดิษฐานอยู่ในคูหาภายในเจดีย์ใหญ่วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๗ ระหว่างการซ่อมแซมพระเจดีย์ได้พบกระดาษขาว มีตราแดง ๒ ดวง มีอักษรเขียนว่า พระสถูปเจดีย์ศิลาบัลลังก์องค์นี้จงมีนามพระไพรีพินาศเจดีย์เทอญ อีกหน้าหนึ่งเขียนไว้ว่า เพราะตั้งแต่ได้ทำมาคนไพรีก็วุ่นวายยับเยินไปโดยลำดับ
พุทธลักษณะของพระไพรีพินาศเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งแบบวัชราสน์ (ขัดสมาธิเพชร) บนปัทมาสน์อันประกอบด้วยกลีบบัวคว่ำและกลีบบัวหงายมีเกสรบัวประดับ ทรงแสดงวรมุทรา (ปางประทานพร) โดยหงายพระหัตถ์ซ้ายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางหงายเหนือพระชานุด้านขวา
องค์พระพุทธรูปมีพระอังสากว้าง บั้นพระองค์เรียวเล็ก ครองอุตราสงค์เรียบไม่มีริ้ว ห่มเฉียงเปิดพระอังสาขวาโดยมีสังฆาฏิสั้นพาดบนพระอังสาซ้าย และมีขอบพระอุตราสงค์พาดผ่านพระกรซ้าย พระพักตร์ค่อนข้างกลม พระนลาฏค่อนข้างกว้าง พระขนงโก่ง พระเนตรเหลือบต่ำ พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์อมยิ้ม พระกรรณยาวจรดพระอังสา ขมวดพระเกศาเป็นก้นหอย มีเกตุมาลาขนาดใหญ่ประดับด้วยเส้นพระเกศา มีรูปเปลวไฟอยู่เบื้องบน กับทั้งมีประภามณฑลอยู่เบื้องหลัง
อาจกล่าวได้ว่าพระไพรีพินาศมีรูปแบบทางศิลปกรรมคล้ายกับพระพุทธรูปในศิลปะชวา ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะอินเดียแบบปาละอีกต่อหนึ่ง ลักษณะทางประติมานวิทยาคือการแสดงวรมุทราหรือประทานพรนั้น คงมีความหมายถึงพระธยานิพุทธเจ้าประจำทิศใต้ ตามคติความเชื่อในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ที่มีชื่อว่ารัตนสัมภวะ
สำหรับมูลเหตุแห่งการถวายพระนามพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวนี้ว่า \"พระไพรีพินาศ ก็เนื่องมาจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่า ทรงได้พระพุทธรูปองค์นี้มาในระยะเวลาติดต่อกับที่ผู้ที่จ้องทำลายพระองค์ คือกรมหลวงรักษ์รณเรศ หรือหม่อมไกรสร มีเหตุอันที่ทำให้ต้องแพ้ภัยตัวเอง
กล่าวคือ เมื่อครั้งที่เจ้าฟ้ามงกุฎฯ เสด็จมาประทับจำพรรษาที่วัดบวรนิเวศวิหาร ได้มีกลุ่มผู้ที่มุ่งจะทำลายพระองค์ นำโดยกรมหลวงรักษ์รณเรศ (หม่อมไกรสร) ผู้ซึ่งหมายมั่นจะขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สืบต่อจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเหตุนี้ จึงมีความคิดกำจัดผู้ที่จะเป็นคู่แข่งสำคัญด้วยวิธีการกลั่นแกล้งต่างๆ นานา เป็นต้นว่า เอาข้าวต้มร้อนๆ ใส่บาตรที่พระองค์ทรงถืออยู่ในระหว่างทรงบิณฑบาต เพื่อให้ทรงเกิดทุกขเวทนา ซึ่งการกระทำของหม่อมไกรสรที่มีต่อพระภิกษุเจ้าฟ้ามงกุฎฯ นั้น มีอยู่อย่างต่อเนื่องเป็นระยะๆ แต่พระองค์ก็หาได้ตอบโต้ไม่ กลับทรงวางพระองค์อยู่ในอุเบกขาธรรมเสมอมา
จนกระทั่งวันหนึ่ง มีผู้นำพระพุทธรูปมาถวาย พระองค์ได้นำพระพุทธรูปองค์นี้ประดิษฐานไว้ในที่อันควร และทรงกระทำการสักการบูชาอยู่เสมอ ภายหลังจากนั้นไม่นาน หม่อมไกรสรก็มีอันต้องประสบเหตุเภทภัย เนื่องจากกระทำผิดกฎมณเฑียรบาลอย่างร้ายแรง จนถูกสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์
พระภิกษุเจ้าฟ้ามงกุฎฯ ทรงเห็นว่าเป็นนิมิตหมายอันดี ที่ตั้งแต่พระองค์ทรงได้พระพุทธรูปองค์นี้มา ไพรีหรือศัตรูก็พินาศย่อยยับลงไปตามลำดับ จึงทรงถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระพุทธไพรีพินาศ
ภายหลังเมื่อพระองค์ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบต่อจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ก็ได้ทรงประกอบพระราชพิธี ผ่องพ้นไพรี อันเป็นพระราชพิธีที่แสดงถึงพระบารมีและบุญญาธิการของพระองค์ที่สามารถผ่านพ้นการจ้องทำลายของเหล่าศัตรูมาด้วยดี โดยมิได้ทรงตอบโต้แต่ประการใด แต่เหล่าศัตรูกลับต้องพ่ายแพ้ภัยของตนเองไปในที่สุด
|
| Comment (0) |
|
รูปที่ 3 |
|
ชื่อรูป : |
เหรียญรุ่นแรก |
คำอธิบายรูป : | เหรียญรุ่นแรก สร้างในงานฉลองสมณศักดิ์เป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดชายนา สร้างปี 2518 มีสร้างเนื้อทองแดงอย่างเดียว มีจารที่ด้านหน้าเดิมๆ 2ตำแหน่ง และด้านหลังผมให้หลวงพ่อจารเพิ่มให้อีก 2ตำแหน่ง
|
| Comment (0) |
|
รูปที่ 4 |
|
ชื่อรูป : |
หนุมานกัลปังหาสอดตะกรุดเงิน |
คำอธิบายรูป : | สร้างน้อย
|
| Comment (0) |
|
รูปที่ 5 |
|
ชื่อรูป : |
ใต้ฐานหนุมานสอดตะกรุดจารไว้ด้วย |
คำอธิบายรูป : | ใต้ฐานหนุมานสอดตะกรุดจารไว้ด้วย
|
| Comment (0) |
|
รูปที่ 6 |
|
ชื่อรูป : |
พระนางพญารุ่น ๑ หลวงพ่อตัด วัดชายนา |
คำอธิบายรูป : | พระนางพญา รุ่น ๑ วัดชายนา สร้าง พ.ศ. ๒๕๔๓ จำนวน ๓๐,๐๐๐ องค์ ผู้จัดสร้าง วัดชายนา มวลสาร มีเกศาหลวงพ่อเป็นมวลสาร พุทธคุณ เมตตา-มหาินิยม แคล้วคลาด ประสบการณ์ ดีทางการงานราชการและติดต่องาน
|
| Comment (0) |
|
รูปที่ 7 |
|
ชื่อรูป : |
พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อนั่งโต๊ะ |
คำอธิบายรูป : | สร้าง พ.ศ.๒๕๒๕ จำนวนสร้าง ประมาณ ๘๔,๐๐๐ องค์ มวลสาร ว่าน ผู้จัดสร้าง วัดชายนา พุทธคุณ เมตตา-แคล้วคลาด
|
| Comment (3) |
|
|