(19) สูตร sacher torte  |
เคยทาน sacher torte แล้วติดใจ แต่อยากลองทำเองบ้าง รบกวนท่านทีมีสูตรบอกสูตรด้วยคะ โดย: น้องคริสต์ [29 ก.ย. 48 18:55] ( IP A:80.108.212.92 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 1 ว่าแต่มันเป็นยังไงละครับ แต่ชื่อไม่คุ้นเลยงั้นขอต้อนรับเข้าบ้านแม่เจเจครับ เดี๋ยวรอผู้รู้หลายๆๆท่านมาช่วยกันตอบครับ ว่างๆก็เดินชมรอบๆก่อนครับ โดย: ชายน้อย [29 ก.ย. 48 19:00] ( IP A:81.62.101.81 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 2 คุณชายน้อยคะ ขอเป็นสมาชิกใหม่ด้วยคนคะ sacher torte มันคล้าย ๆ กับเค้กชอคโกแลตนะคะ แต่หน้าเค้กเป็นชอคโกแลตแข็ง ๆ แต่ไม่แข็งมาก แต่ไม่เหมือนชอคหน้านิ่มนะคะ รูปตาม link เลยคะ http://www.cafemozart.com/viewproduct.aspx?pid=58 โดย: น้องคริสต์ [29 ก.ย. 48 19:25] ( IP A:80.108.212.92 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/jatujak/?url=%2Fcgi-bin%2Fcafe%2Flistfeature.cgi%3FJ
Here I found the recipe ka... The cake is originated in Austria. I have tasted it only once and like it also ka. Anyway, I have never tried this recipe yet ^____^" So.... hehehe... wish u a success and enjoy baking ka. ^^ โดย: Tooh [29 ก.ย. 48 19:48] ( IP A:134.28.254.10 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 4 คุณ Tooh มันอยู่กระทู้ไหนคะ หาไม่เจอคะ โดย: น้องคริสต์ [29 ก.ย. 48 20:25] ( IP A:80.108.212.92 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 5 หวัดดีค่ะ น้องคริสต์ ยินดีต้อนรับและยินดีที่รู้จักนะคะ ตอนแรกว่าจะไปทำงานบ้านงานสวนแล้วค่ะ เพราะเจ็บใจแค้นใจ ที่เจ้าบ้านทำ "หลนเต้าเจี้ยว" มายั่วแต่เช้า แต่พอมาเห็นคำถามเกี่ยวกับเค้กนี้ พอดีป้าโพมีสูตรอยู่ค่ะ แต่ไม่ทราบว่าเป็นอย่างที่คุณต้องการป่าว? งั้นเดี๋ยวป้าโพปลีกเวลาแปลให้เดี๋ยวนี้เลยนะคะ (สงสัยป้าโพต้องทำบ้างซะแย้วววววละค่ะ)
"แอปปริคอท ซาแชร์ เค้ก"
ส่วน แป้งสาลีเอนกประสงค์ ๑ ถ้วย ผงโก้โก้ ๑/๒ ถ้วย แยมแอปปริคอท ๑/๔ ถ้วย น้ำตาลทรายแบบเม็ดละเอียด ๑ ถ้วย เนย ๑๒๕ กรัม ไข่ (แยกไข่แดง-ไข่ขาว) ๔ ฟอง แยมแอปปริคอทอุ่น ๆ (เพิ่ม) ๑/๒ ถ้วย
กานาจ สำหรับแต่งหน้า ช็อคโกแล็ต (dark)สำหรับทำเค้ก หั่นเป้นชิ้นเล็ก ๆ ๑๒๕ กรัม ครีมข้น (thick cream) ๑/๒ ถ้วย
วิธีทำ วอร์มเตาอบ ๑๘๐ องศสซี (๓๕๐ องศาเอฟ) เตรียมพิมพ์กลม ขนาด เส้นผ่าศุนย์กลาง ๒๐ ซม. (หรือ ๘ นิ้ว) ทาด้วยเนยละลายหรือน้ำมันให้ทั่ว แล้วปูด้วยกระดาษทั้งที่ฐานและขอบของพิมพ
๑. ร่อนแป้งและผงโกโกเข้าด้วยกันลงในชามอ่าง ทำบ่อตรงกลาง แล้วผสมแยม น้ำตาลและเนยลงในหม้อ แล้วนำไปตั้งไฟอ่อน คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายและส่วนผสมเนียนเข้ากัน ยกออกจากเตา แล้วพักไว้ให้ค่อนข้างเย็น แล้วเทส่วนผสมนี้ลงในแป้งที่ร่อนไว้ ใส่ไข่แดง แล้วคนผสมให้เข้ากัน
๒. ตีไข่ขาวด้วยเครื่องตีไข่ให้ตั้งยอดอ่อน แล้วเทลงไปผสมส่วนผสมใน ข้อ ๑. ใช้พายยาง ตะล่อมเบามือให้ส่วนผสมพอเข้ากัน แล้วเทใส่พิมพ์เข้าอบประมาณ ๕๐ นาที หรือจนสุก (ทดสอบโดยเอาไม้จิ้มลงไปตรงกลางถาด ไม้จิ้มไม่ติดเนื้อเค้กขึ้นมา) ปล่อยเค้กให้อยู่ในพิมพ์ประมาณ ๑๕ นาที แล้วจึงเอาออกจากพิมพ์ พักไว้บนตะแกรงให้เย็น
๓. นำเค้กมาวางคว่ำหน้าลง ตัดแบ่งตามแนวนอนเป็นสามส่วนเท่า ๆ กัน แล้วทาด้วยแยมที่อุ่นไว้ (ใช้แค่ ๑ ใน ๕ ส่วน ของแยมที่อุ่นไว้) แล้วจึงนำเค้กทั้งสามส่วนนี้ประกบเข้าด้วยกันประกอบเป็นรูปดังเดิม แล้วนำมาพักไว้บนตะแกรง เสร็จแล้วทาหน้าเค้กด้วยแยมอุ่นที่เหลือ
๔. การทำกาจนาจแต่งหน้า...ผสมช็อคโกแล็ตและครีมข้นเข้าด้วยกันลงในหม้อ แล้วนำไปตั้งไฟอ่อน คนให้ละลายเข้ากันและเนื้อเนียน พักให้เย็นจนกระทั่งกานาจค่อนข้างข้น เทกานาจลงบนหน้าเค้กและตัวเค้กจนทั่วทั้งก้อน ปาดหน้าและด้านข้างให้เรียบ ปล่อยให้เค้กอยู่ตัวแล้วจึงจัดใส่จาน แต่งหน้าด้วยช็อคโกแล็ต ขูดและไอซิ่งและผงโกโก้
เค้กนี้เก็บได้นาน เกิน ๒-๓ วัน ในกล่องสูญญากาศ โดย: โพระดก [29 ก.ย. 48 20:27] ( IP A:69.70.232.70 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 6 โอว...หวัดดีค่ะ คุณTooh คะ ยินดีต้อนรับและยินดีที่รู้จักค่ะ อ๋อ...เค้กนี้ออริจินัลมาจากออสเตรเลียเหรอคะ? โดยบังเอิญที่ป้าโพแปลสูตรนี้ข้างต้นนั้น แปลมาจากตำราของออสเตรเลียค่ะ ชื่อหนังสือคือ The Family Circle Step-by-Step ค่ะ
ที่พันทิพนั่น เข้าไปหาแล้วค่ะ แต่ไม่เจอค่ะ แล้วไม่ทราบว่าจะค้นหาในหัวข้ออะไรน่ะค่ะ ถ้าคุณTooh ผ่านมาอีก ช่วยกรุณาชี้แนะการค้นด้วยนะคะ จักเป็นพระคุณยิ่งค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ โดย: โพระดก [29 ก.ย. 48 20:34] ( IP A:69.70.232.70 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 7 ป้าโพ ขอบคุณคับและยินดีที่รู้จักเหมือนกันคะ เค้กนี้ออริจินัลมาจาก ออสเตรีย ใช่หรือเปล่าเอ่ย เค้าเรียก ซาคาร์ เค้ก เคยอ่านในกระทู้พันทิพย์ เค้าบอกว่าต้นตำรับมาจาก มร. ซาคาร์ นานโข พอควรคะ ผิดถูกอย่างไร น้อมรับครับผม ต้องออกไปซื้อส่วนผสมก่อน ต้องลองทำให้ได้ เพราะแค้นใจทำคัสตาสชิฟฟอนเค้กของคุณจอย เละไม่เป็นท่าเลยเพราะเอาถาดใส่น้ำรองก้อนแต่พิมพ์เป็นพิมม์ที่เปิดออกได้น้ำมันเลยซึมเค้าก้นเค้ก เห็นน้ำใส ๆ นึกว่าสุก พอแกะออกมาทะลักคะ ไม่เป็นท่า แค้นใจมาก ไว้วันหลังต้องทำใหม่ให้หายแค้น แต่ต้องไปซื้อพิมพ์แบบคุณจอยก่อน อ้อ สูตรตามลิงค์นี้คะ http://www.pantip.com/cafe/jatujak/?url=%2Fcgi-bin%2Fcafe%2Flistfeature.cgi%3FJ โดย: น้องคริสต์ [29 ก.ย. 48 20:54] ( IP A:80.108.212.92 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 8 Pa~ Po ka, Please go to http://www.pantip.com/cafe/jatujak ... Then select บทความ ... and scroll down to ตู้กับข้าว โดย GUZZIE ... You will find it there ka ... ^____^
K. น้องคริสต์ ... I have read that the cake is first time baked by the hotel named Sacher in Austria... I am going to bake คัสตาสชิฟฟอนเค้กของคุณจอย this weekend also ka... I have only a sprinform that can เปิดออกได้... So it can't be used right? O_o" โดย: Tooh [29 ก.ย. 48 21:29] ( IP A:134.28.254.10 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 9 คุณ Tooh ของดิฉันก็เป็น สปริงฟอร์มเปิดออกได้ แล้วทีนี้ไม่แน่ใจว่าน้ำมันเข้าไปหรือว่าน้ำจากคัสตาร์ด ในกระทู้คุณจอยบอกว่าให้ดูข้าง ๆ ถ้ามันเป็นน้ำใส ๆ ก็แสดงว่ามันสุกแล้ว ดิฉันก็ดูแล้วมันเป็นน้ำใส ๆ เต็มไปหมดเลยคิดว่าสุก แต่พอคว่ำเปิดสปริงฟอร์มเท่านั้นคะ คัสตาร์ดมันทะลักเละเทะไปหมด แต่คุณ Tooh ลองทำดูก่อนอาจไม่เป็นแบบดิฉันก็ได้นะคะ อาจเป็นเพราะดิฉันมือใหม่ก็ได้คะ โดย: น้องคริสต์ [29 ก.ย. 48 21:40] ( IP A:80.108.212.92 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 10 เราเคยกินไอ้เจ้าเค็กนี่ ก็กินที่กรุงเทพก่อน เเล้วไปกินที่เวียนนานี่เเหละ เเต่เราว่ามันหวานไปหน่อยสำหรับเรา เห็นคนกินที่เวียนนามีเเต่ตาตี่ๆทั้งนั้น ก็พี่ยุ่นต่อเเถวซื้อกันซะ เขาว่าของเเท้ต้องไปที่โรงเเรมนี่เท่านั้น ที่นี่มีมิกซ์สำเร็จรูปด้วยเเต่ยังไม่เคยซื้อมาลอง สูตรเดี๋ยวก็ต้องมีคนมาให้อีก เชื่อเหอะ โดย: pastasiam [29 ก.ย. 48 22:10] ( IP A:84.81.89.154 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 11 คุณTooh คะ ไปดูมาแล้วค่ะ ขอขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ รู้สึกว่าจะคล้าย ๆ กับสูตรที่ป้าโพมีอยู่ที่แปลไว้น่ะค่ะ แต่ก้ดีมาก ๆ ค่ะ ได้รู้ที่มาและรู้เคล็ดลับอย่างอื่นอีกค่ะ ป้าโพคงจะต้องหาดอกาสทำซักวันนึงค่ะ โดย: โพระดก [29 ก.ย. 48 22:27] ( IP A:69.70.232.70 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 12 ป้าโพใจดีจังบอกเทีบบเตาอบแบบเซลเซียส กะฟาเรนไอ ให้ด้วย โดย: นกเอี้ยง [29 ก.ย. 48 23:28] ( IP A:152.163.100.137 X: )
-------------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาเสนอหน้าอีกทีเพิ่งเห็นว่าเรามีสูตรทำเค้กนี้อยู่เหมือนกัน แต่ก็คล้ายๆๆกับที่ป้าโพเอามาลงแหละครับ แต่ทีนี้อยากรู้ว่าไอ้ต้นตำหรับหนะมันหน้าตาเป็นไงเพราะที่มีอยู่เห็นเค้าทำเหมือนเป็นครีมช็อคปาดหน้า โดย: ชายน้อย [30 ก.ย. 48 2:07] ( IP A:81.62.101.81 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 14 ชายน้อยเจ้าเค้กนี้เดินไปดูที่ร้านโคโอ๊ป มีขายคะ คุณน้องคริสต์ พอดีมีสูตรอยู่ คะ เค้กนี้ ได้สูตรมาจาก หญิงชาวเวียนนาคนหนึ่ง เขาบอกว่าได้สูตร มาจาก กุ๊กใหญ่ คนหนึ่ง ซึ่งได้รับ สูตรจริงมาจากเจ้าของโรงแรม ซาคเคอร์ คือ คุณ แอนนา ซาคเดอร์ ชื่อนี้ มาจากชื่อเจ้าของ และ โรงแรม คะ สูตรมีดังนี้ คะ เนย 140 g น้ำตาล 160 g ดาร์คช้อกโกแลต 180 g นำไปตุ๋นให้ละลาย ทิ้งไว้ให้เย็น ไข่แดง 8 ฟอง ไข่ขาว 10 ฟอง ตีให้ขี้น ใส่เกลือหนึ่งหยิบมือคะ แป้งสาลีร่อนแล้ว 120 แยมอัพพริคอท 50g ตีเนยให้ขึ้นฟู ค่อยๆเติมน้ำตาล สลับกับไข่แดง ตีให้เข้ากัน จากนั้นค่อยๆตักช้อกโกแลตใส่ ผสมให้เข้ากัน จากนั้น ผสมแป้ง สลับกับไข่ขาว ให้เข้ากัน นำไปอบไฟ 175 ถึง 180 ประมาณ 45-50 นาที พอขนมสุก ยกออกมาวางทิ้งไว้ ประมาณ สิบห้านาที ก่อนที่ขนมจะเย็นตัว ให้คว่ำพิมพ์ แล้วทาด้วย แยม ให้ทั่ว ทั้ง ด้านบน และด้านข้าง ถ้ามีเศษผลไม้จากแยมติดให้ เอาออก เพราะมันจะไม่เรียบเวลาราด ช้อกโกแลต พอทาแยมเสร็จทิ้งไว้สักพัก ให้แห้งนิดหน่อย จากนั้น ราดด้วยช้อกโกแลต ดาร์คช้อกโกแลต 200 g น้ำตาลก้อน 200 g น้ำ 6-8 ช้อนโต๊ะ เนย เพื่อความมันแวววาว ไม่อยากอ้วน ละไว้ได้ เอาช้อกโกแลตไปตุ๋น อีกหม้อหนึ่ง น้ำกับน้ำตาลผสมกัน นำไปเคี่ยวเป็นน้ำเชื่อมจากนั้นนำมาผสมกับช้อคโกแลต แล้ว เติมเนย วิธีราด เทช้อกโกแลตร้อนๆ ลงตรงกลาง ให้ ทั่ว แล้ว เอียงให้ไหลลงไปรอบๆด้านข้าง อาจจะใช้ที่ปาด ที่จุ่มน้ำอุ่นช่วยจะทำให้ เรียบ แล้วยกขนมไปวางบนกระดาษ หรือจานที่ใส่ ทิ้งไว้ให้เย็น คะ อาจจะลองทำครึ่งหนึ่งดูก่อนได้คะ
โดย: แม่บ้านสวิส [30 ก.ย. 48 4:11] ( IP A:82.192.227.225 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 15 เข้ามาบอกอีกรอบว่า สมัยใหม่นี้ เขาผ่าครึ่งเค้ก แล้วทาแยม หรือ ว่า พอช้อกโกแลตเย็นตัว ตกแต่งด้วย ครีม อีกครั้ง แต่ดั้งเดิมจะเป็นตามที่บอกคะ สำหรับ ช้อกโกแลตสำหรับราด อาจใช้สูตรนี้ ก็ได้เช่นกันคะ ช้อกโกแลต กับน้ำ ไม่ต้องใส่น้ำตาล ใส่เนย ยี่สิบกรัม ให้มันแวววาวคะ ไปแล้ว คอมกำลังจะพังคะ โดย: แม่บ้านสวิส [30 ก.ย. 48 4:17] ( IP A:82.192.227.225 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณคะ คุณแม่บ้านสวิส ได้สูตรต้นตำรับ ยังไงต้องลองทำสูตรต้นตำรับของคุณแม่บ้านสวิส โดย: น้องคริสต์ [30 ก.ย. 48 14:45] ( IP A:80.108.212.92 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 18 อ่าฮ่าขอบคุณครับพี่ ว่าแล้วว่าเห็นที่ไหนบ่อยๆๆ เพราะต้องมีการเขียนชื่อกำกับเค้กอยู่แบบเดียว ยังคุยกับแฟนเค้กนี้ทำไม่มีชื่ออยู่แบบเดียว เอ้าน้องคริสต์ไปทำซะพี่ใหญ่เราเค้าเอาสูตรมาให้แล้ว แล้วอย่าลืมเอามาให้พวกพี่พี่ดูด้วยละ โดย: ชายน้อย [30 ก.ย. 48 15:20] ( IP A:62.203.99.84 X: )
ความคิดเห็นที่ 20 คุณคริสต์คะ ปรกติถ้าใช้พิมพ์แบบถอดก้นได้ แล้วต้องอบในถาดที่หล่อน้ำ จะต้องห่อพิมพ์ด้วยกระดาษฟอยล์ก่อนอบค่ะ ถ้าจะให้แน่ใจก็ซัก2ชั้นค่ะ กันเหนียวค่ะ โดย: ยัยแก่ [30 ก.ย. 48 16:57] ( IP A:61.121.116.237 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 21 โพสต์แล้วหายเช่นกันค่ะคุณเจ้าของบ้านขา เพิ่งรู้ชื่อจริงๆเหมือนกันค่ะ อ่านแบบไม่กล้าออกเสียงมานานเลย ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ สูตรมีหลายสูตร ยังไม่เคยลองเช่นกัน คงต้องไปค้นดูบ้างละ โดย: แม่น้องฝ้าย [1 ต.ค. 48 8:21] ( IP A:61.91.241.185 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 22 อบอุ่นคะ มีคนมาต้อนรับเต็มเลย แต่คุณชายน้อย ดิฉันมีแต่กล้องที่ติดกับโทรศัพท์ กลัวถ่ายแล้วไม่ชัดนะคะ แล้ววันนี้จะเริ่มทำ โดนคุณพ่อบ้านดุแกมขอร้องว่าอย่าเพิ่งทำได้ไหม ขอให้หยุดทำขนมหวาน เค้ก ช่วง 3 เดือน เพราะคุณเธอจะลดความอ้วน เนื่องจากตอนนี้เธออ้วนมาก ๆ คะ ตอนนี้เลยต้องซื้อชิ้นเล็ก ๆ มากินกันความอยากไปก่อนคะ ฮือ ฮือ เป็นแม่บ้านนี่คะ จะให้อยู่เฉย ๆ น่าเบื่อมากเลยคะ โดย: น้องคริสต์ [1 ต.ค. 48 23:53] ( IP A:80.108.212.92 X: )
-----------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 23 น้อคริสต์ ขา งั้นก็หันไปทำกับข้าวกะพวกเราไปพลางๆก่อนแล้วกันค่ะ ...ให้รู้ไปว่าคุณพ่อบ้านจะไม่กินข้าว ฮ่าๆๆๆๆ....ว่าแต่ว่าคุณน้องคริสต์ อยู่ประเทศอะไรค่ะ ....พี่ๆแถวนี้ เค้าเด็กนอก(เมือง)กันหมดเลยจ้ะ....
โดย: แม่ JJ (เจ้าบ้าน ) [2 ต.ค. 48 14:25] ( IP A:202.156.6.61 X: )
----------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 24 แม่ jj ดิฉันอยู่เวียนนาคะ พ่อบ้านชอบทานอาหารไทยและขนมหวานมากคะ ตอนแต่งงาน 60 กก. หลังจากนั้น 2 ปี เธอเปลี่ยนไป ตอนนี้ 85 กก. แล้วคะ เธออึดอัดมาก เพื่อนร่วมงานก็แซว ไม่รู้จะทำยังไงเลยออกคำสั่งดิฉันให้ทำแต่สลัด งดขนมหวาน เพราะถ้าดิฉันทำ เธอก็อดไม่ได้ที่จะกินคะ โดย: น้องคริสต์ [2 ต.ค. 48 14:59] ( IP A:80.108.212.92 X: )
----------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 25 โอ้โห้...2 ปี ขึ้นมามากขนาดนั้นเหรอค่ะ ...แสดงว่า คุณน้องคริสต์ทำอาหาร หรือขนม อร่อย เพราะคุณสามีถึงได้ทานได้มากขนาดนั้น อิๆๆๆ...งั้นก็ต้องทำอาหารสุขภาพไว้ก่อนซีค่ะ ...
สามีของมลก็คนหนึ่ง ที่สั่งให้ทำอาหารสุขภาพ เน้นมากเรื่องนี้ ..ขนมปังก้ต้องโฮลมีล...ขนมเค้กนานทำครั้งได้ ...ขนาดวันนี้ ทำเค้ก ยังถามอีกว่า ไม่มีเค้กโฮลวีท บ้างเหรอ ...เฮ้อออออ....
โดย: แม่ JJ (เจ้าบ้าน ) [2 ต.ค. 48 19:34] ( IP A:202.156.6.61 X: )
----------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ใช่คะ คุณแม่ jj ดิฉันอยู่เมืองไทยไม่เคยทำอาหารเลยคะ เคยมีเพื่อนแม่มาเยี่ยม เค้าบอกกับแฟนว่าเธอโชคดีนะที่ได้กินอาหารฝีมือหลานฉัน ตั้งแต่เด็กจนโตแต่งงานไม่เคยทำอาหารเลยคะ หลังแต่งงานก็เลยต้องทำไม่ทำอดกินคะ แต่คุณแฟนเป็นคนชอบทานของหวาน ช๊อคโกแลต ขนมกรบกรอบ เธอเป็นโรคต่อมอาหารทำงานตลอดนะคะ(อันนี้ยังไม่เคยเช็คเดาเอาคะ) ทานอาหารคาวเสร็จจะต้องถามถึงของหวานทันที ไอติมนี่ต้องติดบ้านตลอด ผลไม้ทานบ้างแต่ไม่บ่อย ดิฉันทำอาหารเป็นก็หาสูตรวิธีทำตามเวปไซต์เนียละคะ โดย: น้องคริสต์ [3 ต.ค. 48 19:03] ( IP A:80.108.212.92 X: )
----------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 27 น้องคริสต์คะ ไอติมนี่ป้าโพเลิกซื้อแล้วค่ะ เพราะซื้อก็ต้องกินให้มันหมด พ่อบ้านอ้วนพุงโย้เลยค่ะ เขาเลยบอกว่าอย่าซื้อมาเด็ดขาด ถ้าไม่เห็นก็ไม่กิน ถ้าเห็นแล้วต้องกินรวดเดียวให้หมดไปเลยค่ะ
ตอนนี้ ป้าโพเสิร์ฟผลไม้เป็นของหวานหลังอาหารค่ะ นอกจากวันไหนที่ป้าโพทำขนมก็เสิร์ฟขนมไป แต่ก็ยังดีกว่าซื้อไอติมเข้าบ้านค่ะ โดย: โพระดก [3 ต.ค. 48 21:12] ( IP A:69.70.232.70 X: )
----------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 28 จริงอย่างป้าโพพูดค่ะ ...ไม่มีให้เห็นเลยจะได้ไม่กิน อิๆๆๆ....หากจะลด ต้องลดตรงนี้ให้ได้ค่ะ ...สามีมลก็ชอบเหมือนกันทั้งไอติมและชอคโกแลต พอตรวจเจอโน่นเจอนี่ ..ควบคุมกันยกใหญ่ แต่ก็ยังมีทานบ้างนิดๆหน่อยๆ ..เป็นกระษัย...อิๆๆๆ .ผลไม้เนี้ย ดีที่สุดค่ะ คุณน้องคริสต์ขา...
โดย: แม่ JJ (เจ้าบ้าน ) [3 ต.ค. 48 21:19] ( IP A:202.156.6.61 X: )
-----------------------------------------------------------------------
|
เจ้าบ้าน [ 3 ธ.ค. 48 11:51 ]
|
 |
|
|