maejj.pantown.com
เรือนความรู้ทั่วไป <<
กลับไปหน้าแรก
(29)
ทาสีบ้านโดยคุณชเอม
รายละเอียด :
ความคิดเห็นที่ 1
1. เริ่มจากการย้ายของออกจากผนังทั้งหมด ของใหญ่ๆพวกโต๊ะ ตู้ ย้ายมาตรงกลางแล้วหาผ้า หรือพลาสติกคลุมไว้ค่ะ หรือถ้าห้องที่จะทา ของเยอะมาก ก็ทำทีละ สองผนังค่ะ ย้ายของไปไว้มุมนึงก่อน แล้วพอผนังที่ทาสีแล้วแห้งสนิท ก็ย้ายของจากผนังด้านที่ยังไม่ได้ทาสีไปตรงที่ทาแล้ว
2. ต้องตรวจดูให้ละเอียดว่างัดตะปูเก่าๆ และน๊อตทั้งหลายออกให้หมด ถึงแม้ว่าตะปูนั้นจะยังอยากเก็บไว้แขวนอะไรเหมือนเดิมเวลาย้ายของกลับก็ตาม ไม่งั้นเวลาทาสีแล้วมันไปติดตะปูทำให้สีไปกองรวมกัน หรือไม่ก็ไหลเยิ้มเป็นทาง ไม่สวยค่ะ หลังทาแล้วเราค่อยตอกกลับไปเหมือนเดิมดีกว่า
3 สวิทต์ต่างๆ แกะฝาออก ตอนนี้ระวังเรื่องไฟหน่อยนะคะ เพื่อความปลอดภัย
4. เอาเทปสำหรับทาสี ที่เอมใช้ยี่ห้อ 3 M เป็นสีฟ้าๆแบบนี้แหละค่ะ มีขายทั่วไป แปะป้องกันเลอะระหว่างทา และป้องกันเปียก ไม่งั้นบางทีเราเผลอได้ ไฟอาจช๊อต ได้ดัดผมฟรีอีกค่ะ
*** ทำมัยต้องเป็นเทปสำหรับทาสี ??? เพราะว่าเทปนี้มีคุณสมบัติเรื่องความเหนียวน้อยกว่าเทปแปะกล่องที่เราใช้ทั่วไป ป้องกันการลอกของสีชั้นแรกที่ทาไว้ ถ้าเราใช้เทปธรรมดาอาจจะไปดึงเอาสีที่ทาไว้ก่อนหลุดออกมาตามเทปได้ค่ะ แปะแล้วลอกง่าย ไม่ทิ้งคราบเหนียวๆ
ความคิดเห็นที่ 3
5. อันนี้เป็นรายการช้อปปิ้งที่ (1) น้ำยาทำควมสะอาดผนัง TSP และ (2) คอมพาวด์สำหรับซ่อมผนัง ส่วนใหญ่เรียก drywall compound หรับซ่อมแซมผนังที่เป็น dry wall // ผนังมีหลายแบบ ตามบ้านส่วนใหญ่เป็น ดรายวอลล์ สำหรับห้องทั่วไป บางทีโรงรถ หรือห้องใต้ดิน อาจจะยังเป็นปูนฉาบ หรือเป็นไม้ //
กรณีห้องเอมเป็นดรายวอลล์ ใช้ครีมนี่สำหรับอุดรูต่างๆ หรือรอยร้าว รอยขรุขระให้เรียบ โดยการใช้กระดาษทราย เบอร์ประมาณ 80 - 100 ถูให้พอเรียบ แล้วใช้ บัตรแข็งๆ เช่นบัตรเครดิต หรือจะใช้เครื่องมือที่ช่างฉาบปูนเค้าใช้ก็ได้ค่ะ ปาดครีมนี้อุดรูที่ต้องการ ทิ้งไว้ให้แห้ง มันจะแข็งตัว แล้วสามารถใช้ กระดาษทรายถูอีกทีให้เรียบสนิท ทีนี้พอทาสีทับก็เหมือนผนังใหม่ เวอร์จิ้น นิ้งๆเลยค่ะ ข้อสำคัญตอนที่เลือกซื้อ อ่านให้แน่ใจว่าเป็นแบบที่ทาสีทับได้นะคะ
กรณีผนังไม้ ก็คล้ายๆกันค่ะ มีผลิตภัณฑ์แบบนี้ขายสำหรับไม้ ใช้เหมือนกันเลยค่ะ ให้แน่ใจว่า สำหรับทาสีทับได้ก็ใช้ได้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 5
ข้อนี้ สืบเนื่องมาจากข้างบนค่ะ คือเมื่อเราทำการซ่อมและอุดรูต่างๆเรียบร้อยแล้ว จะเป็นขั้นตอนการทำความสะอาดผนัง ก่อนเริ่ม จะหาผ้าผืนใหญ่ๆ หรือพลาสติก (เค้ามีทั้งผ้า และ พลาสติกแผ่นใหญ่ ขายสำหรับปูพื้นในงานทาสีโดยเฉพาะ ขายเป็นม้วนๆ มีหลายขนาดให้เลือก) ปูพื้นให้ทั่วก่อนก็ดีค่ะ เวลาเราทำเลอะเทอะ จะได้ไม่เปื้อนพื้น ยิ่งถ้าเป็นพื้นพรม ยิ่งกลัวเลอะ ขี้เกียจมานั่งทำความสะอาดพรมอีกรอบ แล้วถ้าโดนสีเลอะ บอกลาพรมที่รักได้เลยค่ะ ล้างไม่ออกแน่ๆ รายละเอียดเดี๋ยวมีเพิ่มเติมอีกข้างล่างค่ะ
ปล. ผ้าที่ใช้เช็ด ถ้ามันเริ่มเปียกๆแล้วควรเปลี่ยนผืนใหม่ค่ะ
กลับมาขั้นตอนการทำความสะอาดผนัง เริ่มจาก ปูพื้นให้ทั่ว แล้วใช้ไม้ปัดผุ่น หรือผ้า เช็ดๆ ปัดๆให้ทั่ว แค่พอกำจัดหยากไย่ หรือฝุ่นสกปรกออกไปบ้าง เสร็จแล้ว ผสมน้ำยา TSP กับน้ำอุ่นใส่ในขวดสเปรย์เก่าๆ (สัดส่วนเค้าบอกไว้ที่ขวดค่ะ) เริ่มฉีดผนัง 1 ด้าน จากล่างขึ้นบน ทิ้งไว้สัก 5- 10 นาที แล้วเอาผ้าสะอาดๆเช็ดออกให้หมด เช็ดแบบถูเลยค่ะ เพราะน้ำยาตัวนี้ ทำหน้าที่กำจัดคราบสกปรก โดยเฉพาะคราบมันที่สะสมที่เรามองไม่เห็น เพื่อเตรียมพื้นผิวผนังให้สะอาดช่วยให้สีที่จะทาใหม่เกาะติดทนนาน ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญ ถ้าข้ามไปสีที่ทาใหม่อาจจะอยู่ให้เชยชมสัก 2-3 ปี แล้วก็จะร้องเพลงแฟนจ๋าฉันลาก่อน อิอิ เป็นไง เริ่มสนุกหรือยังคะ ฉีดๆ ถูๆ ให้ครบทุกผนัง เสร็จแล้ว รอให้แห้งสนิทสัก2-3 ชั่วโมง ระหว่างคอย จะมีขั้นตอนต่อไปค่ะ
ความคิดเห็นที่ 7
รายการช้อปปิ้งถัดมา คือแถบกาวสำหรับติดโมลดิ้ง คือว่า บ้านส่วนใหญ่ที่ปูพรม เค้าจะติดโมลดิ้งรอบห้องเพื่อเก็บรอยขอบพรม และเพื่อความสวยงาม ทีนี้ ตอนเราจะทาสี เราไม่อยากให้สีไปเลอะขอบไม้ที่ว่า จึงต้องทำการป้องกันด้วย แถบกระดาษกาวที่มาพร้อมกับแถบกระดาษสีน้ำตาลอย่างในรูปนี่ค่ะ ติดที่ขอบบนของ ขอบไม้ แถบกระดาษจะคลุมขอบไม้มิดชิดพอดี แต่ว่าถ้าเราจะไม่ซื้อเจ้าตัวนี้ก็ได้ค่ะ จะทำเองก็ได้ โดยใช้กระดาษกาว กับกระดาษหนังสือพิมพ์เลียนแบบ ใช้ได้เหมือนกันค่ะ หรือว่า ถ้าเรามือแม่น กะว่า ทายังไงก็ไม่เลอะหรอก ก็เล่นกระดาษกาวอย่างเดียวเลยก็ได้ค่ะ แต่นี่ไม่ใช่บ้านเอม เลยต้องพิถีพิถัน เป็นพิเศษหน่อย
ถ้าสังเกตที่รูปที่ 10 ใต้แถบกระดาษนั่นเป็นพลาสติกสำหรับคลุมพื้น เอมจะใช้คลุมให้แน่ใจว่าปิดมิดชิด โดยเฉพาะตามขอบผนังค่ะ เวลาเราทาสี บางทีมันกระเด็นเป็นหยดนิดๆหน่อยๆ จะได้ไม่เปื้อนพรมค่ะ
ความคิดเห็นที่ 11
ข้อ 11 นี่จะพูดถึง ขอบหน้าต่าง ค่ะ ใช้เทปปิดขอบให้ทั่ว ป้องกันสีเลอะเวลาทาเช่นกัน อีกอย่างช่วยให้งานทาสีออกมาเป็นเส้นตรงสวย เหมือนมืออาชีพเลยค่ะ
ความคิดเห็นที่ 13
และแล้ว ความฝันก็ใกล้เข้ามาเต็มที อุปกรณ์ต่อไปคือพวกแปรงทาสี
ไล่ตามเบอร์นะคะ (1) โรลขนาดเล็กใช้สำหรับพื้นที่แคบๆ และเก็บรายละเอียดต่างเช่นตามขอบผนัง ,รอบๆปลั๊กไฟ
(2) แปรงหัวตัด เค้ามีให้เลือกหลายขนาดและ วัสดุ เลือกให้แน่ใจว่าใช้ได้กับชนิดสีที่เราเลือกค่ะ เช่นสี อะคลิลิค สีน้ำมัน เป็นต้น ใช้สำหรับงานทาตามขอบเช่นกันค่ะ ก็แล้วแต่ว่าถนัดอันไหน
(3) แปรงแบบโฟม ก็เช่นเดียวกับ เบอร์ 1 และ 2 แต่ราคาถูกกว่ามาก ใช้สำหรับงานทดสอบสี เวลาเราจะลองสีที่ผนังว่าถูกใจไหม ใช้แล้วทิ้งได้เลย
(4) โรลใหญ่ เวลาเลือก เค้ามีหลายแบบ ตามความเรียบ-ขรุขระของผนัง ถ้าผนังเรียบมากๆ โรลจะบาง ใช้สีน้อย ถ้าผนังมีพื้นผิวบ้าง โรลจะหนาขึ้นมาหน่อย ซึมสีเยอะกว่า เวลาทาให้สีหนากว่าโรลแบบแรก เพื่อให้สีปกปิด พื้นผิวผนังทั่วถึงกัน และแบบสุดท้ายคือโรลหนา สำหรับผนังขรุขระ หรือมีพื้นผิวเด่นชัดเจน ก็ทำนองเดียวกันค่ะ ซับสีมากที่สุด เค้ามีชื่อเรียกตามนี้ค่ะ smooth / semi-smooth-/rough ของเอมใช้แบบ กึ่งเรียบค่ะ เพราะผนังดรายวอลล์ส่วนใหญ่เป็นแบบกึ่งเรียบ
ถาดรองสี เป็นโครงอลูมิเนียม แล้วมีถาดพลาสติกอีกชั้นนึง ใช้แล้วทิ้งได้เลย เพื่อความสะดวก
การเลือกสี
สีมีหลายแบบทั้งแบบ water base และ oil base แบบน้ำมันจะทนทานกว่า แต่ไม่นิยมใช้เพราะกลิ่นฉุน และทำความสะอาดเครื่องมือยาก เดี๋ยวนี้เค้าพัฒนาแบบน้ำให้มีคุณภาพดีมากแล้วค่ะ
สี อคลิลิกแบบน้ำเป็นที่นิยมมาก มี 3 ชนิดคือ
สีด้าน - สำหรับทาห้องทั่วไปที่นิยมให้รู้สึกผ่อนคลาย และแสดงความคลาสสิค เช่นห้องนอน ห้องรับแขก ทนต่อการขัดถู ได้น้อยที่สุด (แต่เดี๋ยวนี้มีวิวัฒนาการ สีด้านที่ทนต่องการ เช็ด ล้าง และ ถูแล้ว อันนี้ต้องดูตามที่เค้าโฆษณา สียี่ห้อต่างๆค่ะ)
สีกึ่งด้าน เป็นชนิดที่มีความมันเงาเล็กน้อย สำหรับผนังที่ง่ายต่อการสกปรก เช่น ผนังห้องน้ำ และ ห้องครัว โรงรถ ห้องเก็บของ สีชนิดนี้สามารถทนต่อสบู่ และการขัดถูได้ดี
สีมัน โดยทั่วไปไม่นิยมเอามาทาสีห้องมากนัก เพราะความมันวาวทำให้รู้สึกไม่ผ่อนคลาย บางคนใช้ทาสีห้องเพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ หรือสำหรับห้องที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ
ความคิดเห็นที่ 15
รูปนี้ให้ดู เตรียมพร้อมก่อนเริ่มทาจริง สีที่เราเลือกที่ร้าน ควรเอามาลองทาที่ผนัง ส่วนนึงก่อน รอให้แห้ง แล้วรอดูสีที่เปลี่ยนไปตามช่วงเวลาของวัน เริ่มจากช่วงเช้า ไป จนเย็น ว่าถูกใจเราไหม สีส่วนใหญ่ พอแห้งแล้วสีจะเข้มขึ้น และบางที ช่วงของวันต่างๆทำให้สีดูเข้มอ่อนต่างกันไปอีก ในรูป เอมทาทั้งหมด 4 เฉด ๖ดสินใจแล้ว ค่อยทาจริง ไม่งั้นลงแปรงไปแล้ว เกิดไม่ชอบใจ ต้องเริ่มใหม่ เหนื่อยอีกเท่านึงค่ะ
ความคิดเห็นที่ 17
ทาเสร็จแล้วค่ะ รอให้แห้ง ดูในรูปดูเหลืองมากเลย จริงๆแล้วออกครีมกว่านี้อีก
ลืมบอกไปค่ะ แปรงทาสี ถ้าทาไม่เสร็จ อยากไปพัก ให้เอาถุงพลาสติกห่อให้มิดชิด สีจะได้ไม่แห้งติดแปรง หรือถ้าอยากทิ้งไว้ข้มคืน ห่อแล้วเอาใส่ตู้เย็นไว้ค่ะ วันรุ่งขึ้นแกะออกมาใช้ได้เหมือนเดิม
ส่วนเรื่องสี ถ้ากลัวมันฉุน ก่อนทา ผสมวนิลาลงไปในสีซัก 1-2 ช้อนโต๊ะ ช่วยได้มาก ทาไป นึกถึงไอศกรีมวนิลาไป เพลินดีค่ะ
สีที่ทาเสร็จ ควรรอให้แห้งสนิท อย่างน้อย 24 ชั่วโมง หรือตามคำแนะนำข้างกระป๋องค่ะ
โดย: ชเอม [11 ม.ค. 49 8:20] ( IP A:24.6.249.64 X: )
ขอบคุณคุณจิงโจ้ ที่เชพไฟร์ส่งมาให้ค่ะ
ติดต่อ :
[ 20 ม.ค. 49 19:41 ]
คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน