ความคิดเห็นที่ 2 จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา ไม่ท้อถอยคอยสร้างสิ่งที่ควร ไม่เรรวนพะว้าพะวังคิดกังขา ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป"
เพลงพระราชนิพนธ์ ความฝันอันสูงสุด | โดย: joojoob15-๑๑๑๔๐ [8 พ.ย. 51 18:13] |  |
ความคิดเห็นที่ 3 เฮ้ย..ษี เอ๊ย..ท่านรอง รักชาติขนาดนะเนี่ย เออแต่นายยอด(ชาติชาย) นายระวังตัวนิดก็ดีนะ เพราะเห็นท่านษี บอกว่า จะรัก(นาย)ชาติจนชีวิตเป็นผุยผง เลยเชียว 555! | โดย: หื่น 13710 [8 พ.ย. 51 22:26] |  |
ความคิดเห็นที่ 4 แม่ง.. ทำเป็นเข็มฉิบหาย...อยู่บ้านแมวหมียวดีดีนี้เอง..5555 สันต์ 13714 | โดย: joojoob 15 /13714 [11 พ.ย. 51 10:51] |  |
ความคิดเห็นที่ 5 โห....รูปชั๊ด ชัด...(ประชดนะ) จะรู้มั้ยเนี่ย ภาพเก่า ก้อไกล้ ไกล ภาพปัจจุบัน ก้มหน้า ซะง้าน...น...โธ่ ..เพื่อน | โดย: มุ่ย [10 ม.ค. 52 15:51] |  |
ความคิดเห็นที่ 6 ใจเย็นๆ พี่น้อง กำลังหาภาพที่คิดสุดๆๆ มาให้ชมกัน | โดย: ๑๑๑๔๐ [14 ม.ค. 52 22:49] |  |
ความคิดเห็นที่ 7 ระเบียงดาว
เรื่อง รดน้ำให้หัวใจ
วันที่ผู้คนรอบข้างต่างวุ่นวาย โลกร้อนราวกับว่ามีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายแห้งแล้ง และพาใจให้เราพลอยร้อนตามไปด้วย ในวันที่ร้อนกายร้อนใจ วิธีแรกที่จะแก้ไขทำได้ง่ายดายและเป็นส่วนตัวอย่างที่สุด สามารถเลือกทำได้ตามลำดับ ตามเวลา และสถานที่ เริ่มด้วยการรินน้ำเย็นๆ ให้ตัวเองดื่มสักแก้ว เข้าห้องน้ำล้างมือ ล้างหน้าล้างตา หรือล้างเท้า และถ้าหากสามารถทำได้ กลับบ้านไปอาบน้ำ สระผม บางคนอาจมองว่าง่ายเกินไปกระมัง บางครั้งเรื่องราวที่ร้อนใจนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าจะผ่อนคลายได้ง่ายๆ เพียงแค่สัมผัสกับน้ำ ในความจริงแล้วเป็นความคิดที่สลับกัน ฉันไม่ได้มองว่าน้ำเป็นเพียงของเหลวใสๆ ที่แปรเปลี่ยนไปตามตามภาชนะที่บรรจุอยู่ หรือเปลี่ยนสถานะได้ตามอุณหภูมิที่แตกต่าง...อย่างที่เห็น ฉันมองในสิ่งที่น้ำ เป็น..นั่นคือรินไหล ฉ่ำเย็นและเป็นส่วนประกอบที่กว้างใหญ่ให้โลก กับปัญหาวุ่นวายของคนตัวกระจ้อยร่อยแค่นี้...ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก หรือหากอาบน้ำ สระผม รดน้ำให้กับตัวเองแล้วยังไม่หายวุ่นวายใจ ลองเดินออกไปหาต้นไม้ใบหญ้า หยิบสายยางหรือบัวรดน้ำออกมารดน้ำต้นไม้ และรดหัวใจตัวเองไปพร้อมๆ กัน บางทีเราค้นพบว่า การให้สิ่งดีๆ และทำสิ่งดีๆ กับผู้อื่นนั้น สร้างความสุขความสบายใจได้มากกว่าการหวงเอาไว้หรือการให้แต่กับตัวเอง...เป็นร้อยเท่า และการแบ่งปันให้กับผู้กระหายนั้น..เคยปฏิบัติกันมาช้านาน ยังจำได้ว่า แต่ก่อนนี้ที่หน้าบ้านส่วนใหญ่จะมีโอ่งดินเล็กๆ พร้อมกระบวยตักน้ำ วางไว้สำหรับผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาได้แวะตักน้ำเย็นๆ ดื่มแก้กระหาย เป็นน้ำดื่ม...เป็นน้ำใจที่ผู้คนเคยมีให้แก่กัน นอกจากทำให้ข้างในใจเย็นลงแล้ว น้ำยังช่วยชำระล้างร่างกายให้สดชื่นแจ่มใส พร้อมที่จะรับ และพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง สมัยเรียนฉันเคยรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ชวนเด็กมอมแมมที่เร่ร่อนอยู่ตามท้องสนามหลวง ริมถนนหนทางมาทำกิจกรรมวาดรูป เล่นกีฬา เล่านิทาน ฯลฯ แต่สิ่งแรกที่ให้ทำคือ อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ตัดเล็บ ทีแรกเด็กๆ ทำท่าจะไม่ยอมบอกว่าอาบทำไม อาบไปก็เลอะใหม่อยู่ดี ต้องเอาขนมกับของเล่นมาล่อ จนในที่สุดก็ยอมอาบ เด็กโตให้รวมกลุ่มอาบกันเอง เด็กเล็กๆ พี่ช่วยอาบให้ ว่นวายคล้ายจับปูให้กระด้ง แต่พออาบน้ำสระผม ทาแป้งแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ (ที่ขอบริจาคมา) เด็กข้างถนนเหล่านี้ก็น่ารักน่ากอดพอๆ กับเด็กอื่นๆ เลยทีเดียว ที่สำคัญ ฉันรู้สึกว่าโดยแท้จริงแล้วพวกเขาเองก็อยากเนื้อตัวสอาดสะอ้าน ใส่เสื้อผ้าสวยๆ และต้องการความรัก ความใส่ใจไยดีเช่นเดียวกับเด็กๆ ทั้งโลก แต่ถึงแม้จะเชื่อในความใสเย็นฉ่ำชื่นใจของน้ำฉันยังหวั่นใจ ว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หากปล่อยให้อยู่ท่ามกลางความมืดมิดหม่นมัวนานเกินไป... ในวันข้างหน้า จะต้องใช้น้ำมากมายเพียงใด จึงจะพอสำหรับชำระล้างหัวใจให้หมดจดงดงามดังเดิม
เป็นบทความที่พิมพ์ใน หนังสือสุดสัปดาห์เมื่อปี ๒๕๔๔ | โดย: รังษี 11140 [8 ก.พ. 53 13:05] |  |
|