อยากให้แพทย์รพ.รัฐ ปรับตัวดังต่อไปนี้
   ตรวจรักษาให้ละเอียดที่สุด ใช้ความรู้ความสามารถให้เต็มที่ กรณีใดที่ไม่มั่นใจต้องส่งปรึกษาแพทย์เฉพาะทางทุกเคส ถ้าแพทย์เฉพาะทางไม่มั่นใจต้องส่งปรึกษาอาจารย์แพทย์ในโรงเรียนแพทย์
ขอให้สละเวลาเอาใจใส่ความรู้ความเข้าใจกับผู้ป่วยและญาติอย่างเต็มที่ ส่งตรวจเพิ่มเติม และ จ่ายยาที่ดีที่สุด เหมาะที่สุดกับคนไข้
ทั้งนี้อย่าลืมพักผ่อนให้เต็มที่จะได้มีแรง มีสมองที่แจ่มใจไปทำงานในช่วงเช้านะครับ
ทั้งหมดนี้เพื่อป้องกันความผิดพลาด โดยเน้นบริการที่ดีขึ้น
การจัดลำดับให้แบ่งตามความหนักเบา ดูเคสหนักเป็นอันดับแรก

ซึ่งถ้าทำตามที่ผมเล่ามานี้ ท่านจะเสี่ยงกับความผิดพลาดน้อยลง การฟ้องร้องต่อตัวท่านเองก็น่าจะน้อยลง

ส่วนเรื่องของระบบจะเป็นอย่างไรนั้น ค่อยๆดูกันต่อไป แล้วก็ค่อยๆปรับแก้กันอีกที
โดย: หมอคนหนึ่ง [16 ก.ย. 53 15:19] ( IP A:118.173.104.13 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   คงต้องตั้งระบบคิว คนไข้ต้องรอ
สละเวลาซักนิดตรวจอุปกรณ์ทุกอย่างก่อนผ่าตัด
ก่อนส่งต่อก็ต้องตรวจอุปกรณ์บนรถพยาบาลด้วยตัวเอง
โดย: ตั้งระบบคิว [16 ก.ย. 53 17:42] ( IP A:202.149.119.215 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ต้องบอกรายละเอียดแบบชัดเจน เช่น
ทำป้ายบิลบอร์ดหน้ารพ.ว่่า ขณะนี้มีคนรอตรวจอีกกี่คน มีแพทย์อยู่กี่คน มีแพทย์เฉพาะทางหรือไม่
เตียงที่รับได้อีกกี่เตียง หรือขณะนี้เตียงที่รพ.เต็มแล้ว หากต้องการนอนรพ. กรุณานำเสื่อ หมอน และมุ้งมาจากบ้าน
คุยรายละเอียดกับคนไข้และญาติีดีๆ หากยังไม่เข้าใจ อธิบายจนกว่าจะเข้าใจถ่องแท้
โดย: ทำได้นะ [16 ก.ย. 53 20:21] ( IP A:61.7.174.178 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ถ้าหมอท่านไหนทำได้ ผมขออนุญาติแนะนำให้ทำเลยครับ เพราะดีต่อตัวท่านเอง และ คนไข้(ที่ได้รับการรักษา) คนที่รอนานหน่อยต้องทำใจ เพื่อการพัฒนาและแก้ไขระบบให้รองรับการทำงานเน้นคุณภาพมากขึ้น
โดย: หมอคนหนึ่ง [16 ก.ย. 53 20:53] ( IP A:110.164.168.235 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   เอาจิตสำนึกความเป็นหมอ
ที่มีเต็มร้อยมาตรวจ
นอกนั้นถ้าเรื่องมันเกิดผิดพลาดขึ้น
หมอไม่โดนฟ้องหรอก เชื่อดิ
โดย: จีเอ็น [17 ก.ย. 53 7:44] ( IP A:111.84.12.206 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   เห็นข่าวทุกวันนี้แล้วทำใจเชื่อยากแฮะ
แต่วิธีข้างบนก็จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจกันมากขึ้นนะ
ยืนยันว่า คุยกันเยอะๆ ดีกว่า
โดย: คุยเยอะๆ [17 ก.ย. 53 8:11] ( IP A:119.42.123.205 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ขอรวบยอดตอนท้ายนี้ ซึ่งไม่ใช่ท้ายที่สุดว่า

ความผิดพลาดเป็นเรื่องปรกติของมนุษย์ (หมอ) แต่การปิดบังความผิดพลาดเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ ( สภาแพทย์โจร เป็นแกนนำและผู้ปฏิบัติด้วยพร้อมกันไปในการปิดบัง) การล้มเหลวที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดก็เป็นเรื่องที่ยกโทษให่ไม่ได้ (ก็อีก สภาแพทย์โจร ไม่รับรู้และไม่ยอมเรียนรู้ แต่มุ่งโกหก บิดเบือน เรื่อยไปถึงทุจริตต่อหน้าที่และ รวมทั้งยุยงปลุกปั่นให้เกิดการขัดแย้งระหว่างหมอกับคนไข้จนถึงฆ่ากันตาย )

พวกเราหมอทุกคนต่างล้วนทำเรื่องผิดพลาดได้ทั้งสิ้น แต่มันเป็นหน้าที่ (ทั้งโดยสามัญสำนึก และโดยสำนึกที่ถูกต้องแห่งจรรยาบรรณในวิชาชีพ) ของเราที่จะทำให้มั่นใจได้ว่า มันจะไม่ไปทำอันตรายกับใครได้อีก

วาทะอมตะอันเป็นที่สุดของท่าน Sir Liam Donaldson, ex. Chief Medical Officer/England

คห ที่ ๑ - ๔ นั้น เที่ยงตรง+ถูกต้องแล้ว ขอเน้นที่ คห ที่ ๔

ส่วน คห ที่ ๕ นั้น ที่ท่านเชื่อยากก็เพราะท่านรับรู้ข่าวสารเอียงข้างใดข้างหนึ่งมากไป หรือไม่ก็ ได้รับข้อมูลข่าวสารไม่ครบถ้วน ไม่เที่ยงตรงในทั้งสองฟากของหมอและคนไข้

ซึ่งขอเดาว่า มาจากข้อจำกัดของสังคมแวดล้อมของท่านในวิชาชีพ ที่ไว้ใจและเชื่อใจคนในอาชีพเดียวกัน มากกว่าคนไข้ที่ต่างอาชีพและดูเหมือนอยู่ฝั่งตรงข้าม

ขอเตือนมายังหมอวัยละอ่อนทุกๆท่านว่า ขอให้ท่านมองภาพใหญ่สุดของสังคมทั้งประเทศนี้ ซึ่งผมจะชี้ว่า ประชากรหมอของทั้งประเทศนี้ ณ. วันนี้ ก็ไม่เกิน 50,000 คน ให้รวมทุกๆคนที่อยู่ในวงวิชาชีพหมอด้วยก็ไม่เกิน 270,000 คน ที่เหลือ 63 เกือบ 64 ล้านคน หากท่านมีจิตเมตตาตามสำนึกแห่งวิชาชีพที่ถูกต้อง ท่านจะเข้าใจว่า คนจำนวนสุดท้ายที่ผมว่าที่ตกทุกข์ได้ยากจากอาการเจ็บป่วยนี้ จำเป็นที่ต้องได้ความช่วยเหลือเฉพาะจากคนในอาชีพท่านเท่านั้น ไม่มีวิชาชีพอื่น ฉะนั้น หากท่านมีสำนึกถูกต้อง จะเห็นว่าท่านมีโอกาสทำบุญ "ใหญ่" กับคนได้ทุกๆวัน

แต่ถ้าท่านคิดแบบหมออีกหลายคนในแพทยสภา ในแพทยสมาคม ว่า คนไข้เป็นงูเห่า และ ท่านก็เป็นถึงชาวนา ผู้มีบุณคุณ ที่ทำอะไรผิดพลาดแล้วก็ไม่ยอมรับ ไม่รับผิดชอบ ไม่ช่วยแก้ไข

เป็นผู้ที่ต้องอยู่เหนือการแตะต้อง/การสอบสวนกล่าวหาทั้งหลายทั้งปวงล่ะก็ ท่านก็จะไม่มีวันทำงานได้อย่างมีความสุขตลอดไป

ลองคิดดูว่า ในบ้านที่ท่านเป็นหมออยู่เพียงคนเดียว พ่อแม่ พี่น้อง เรื่อยลงไปถึงคู่ครองและลูกหลาน ต่างมีสถานะเทียบเท่ากับเป็นงูเห่าอย่างที่ท่านคิดได้ทั้งนั้น

แล้วมองย้อนไปอีกภาพ พระบรมราชชนกที่ทรงสิ้นไปทั้งๆที่พระชนม์เพียงต้น ๔๐ พร้อมกับโรคประจำพระองค์ แทนที่จะเสวยสุขตามฐานันดรแห่งราชสกุลถนอมรักษาพระองค์เอง สมเด็จย่าฯ ที่พระชนม์กว่า ๗-๘ สิบพระชันษาแล้ว แทนที่จะเสวยสุขอยู่กับพระตำหนักท่ามกลางข้าราชบริพาร แต่กลับทรงตระเวณพาคณะแพทย์อาสาเสี่ยงฝ่าดงกระสุน/กับระเบิด/พาหนะเก่าๆที่ไม่แน่ว่าจะร่วงหล่นลงเมื่อไร ตระเวณเร่ร่อนไปเที่ยวรักษาคนยากตามที่ห่างไกลและแม้กระทั่งสมรภูมิรบ

สองพระองค์นี้เป็น "ตัวอย่างอมตะ" ที่แสดงการมีสำนึกที่ถูกต้องของการเป็นแพทย์และพยาบาลวิชาชีพ

ทั้งหมดนี้ เป็นข้อมูลเรื่องจริงที่รับรู้ได้ และพวกท่านในวิชาชีพนี้เลือกที่จะคิด เลือกที่จะทำเลียนแบบได้

ทั้งนี้และทั้งนั้น ท่านเองเท่านั้นที่เป็น "คนเลือก" ใครก็บังคับท่านไม่ได้!!
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [17 ก.ย. 53 10:21] ( IP A:58.8.106.149 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   ...สำนึกที่"ถูกต้อง"ของการเป็นแพทย์และพยาบาลวิชาชีพ...แน่ใจแล้วหรือ???...แต่ละคนแต่ละท่านต่างก็"ต้องการให้คนอื่นผู้อื่นเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้"...แต่จะมีซักกี่คนที่บอกและหรือพูดว่า...ฉันจะเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้???...มีแต่จะบอกให้คนอื่นผู้อื่น"คิด" ให้คนอื่นผู้อื่น"พูด" ให้คนอื่นผู้อื่น"ทำ"...

...เอาแค่ว่า...ขอให้แต่ละคนแต่ละท่าน คิด พูด ทำ ในสิ่งที่ไม่ละเมิด และหรือ ไม่ผิดต่อกฎหมาย...การฟ้องร้องก็น่าจะน้อยลง...
โดย: pimsen/policemajor@hotmail.com [17 ก.ย. 53 11:09] ( IP A:124.122.68.27 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   สิ่งที่ผมเสนอแนวทางไปนั้น ถ้าบังเอิญแพทย์รพ.รัฐทำพร้อมกันหมด
จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบแน่นอน ซึ่งผลส่วนใหญ่น่าจะเป็นแนวทางที่แย่ลง
ซึ่งจะแย่ลงหรือดีขึ้นก็ไม่รู้ แต่แน่ๆคือการก่อนการเปลี่ยนแปลงระบบนั้น จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า ฆาตกรรมหมู่ ซึ่งผมหวังว่าประเทศไทยจะไม่ต้องเป็นอย่างนั้น
โดย: หมอคนหนึ่ง [17 ก.ย. 53 13:38] ( IP A:110.164.168.235 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   ถ้าลำดับคิวการตรวจ ผู้ป่วยฉุกเฉิน ให้ญาติตกลงกันเอง แล้วได้ข้อสรุปให้มาบอกแพทย์อีกที ถามความเห็นแพทย์ได้ แต่แพทย์จะไม่สามารถสรุปได้ว่าชีวิตใครสำคัญกว่า เพราะไม่ไ้ด้เป็นเทวดา และมักไม่รู้จักคนไข้มาก่อน
ระหว่างรอการตัดสินใจ จะไม่ลำเอียงรักษาใครก่อน
เพราะอาจโดนฟ้องร้องจากญาติอีกฝ่ายได้
ต้องให้ความเป็นธรรมกับหมอด้วย

ส่วนลำดับคิวผู้ป่วยที่ไม่ฉุกเฉิน ไม่ต้องใส่ใจมากนักก็ได้เพราะยังไงก็ไม่มีเวลาตรวจอยู่แล้ว

อย่าลืม ทุกท่านควรนอนวันละ 8 ชม. รวมเวลากับครอบครัว เวลาส่วนตัวแล้ว ไม่ควรทำงานเกินวันละ 10 ชม. ทั้งนี้วันเสาร์อาทิตย์ไม่ใช่วันราชการ ให้ผลัดกันหยุด
โดยไม่จำเป็นตัองทำการรักษา้ถ้าเกินกว่าเวลาทำงานดังกล่าว
ถ้าสาธารณสุขไม่สามารถหาแพทย์มาทำงานให้รพ.เปิดได้ครบ 24 ชม.
ให้งดการให้บริการไปช่วงเวลานั้นก่อน แล้วส่งคนไข้ทั้งหมดทั้นคนไข้ในและนอกไปยังรพ.ที่เปิดให้บริการอยู่ในช่วงเวลานั้น

การเดินทางตามแต่สมัครใจ จะไปยังไงก็แล้วแต่เลือก แพทย์จะทำการส่งใบส่งตัวให้ (ถ้าเวลาในการทำใบส่งตัว นั้นอยู่ในเวลางาน)
ส่วนรถรพ. ให้ใช้เฉพาะผู้ป่วยหนัก (ก็ไม่พอแล้ว)

เมื่อรพ.สะดวกให้บริการ ก็จะมีโทรแจ้งให้กลับมารักษาต่อได้ (เวลาโทรนั้นเริ่มจากเวลาที่เริ่มทำงานนับไป)

รวมๆแล้วก็ไม่ได้รักษาใครเลย

ดีไหมครับ รักษามาตรฐานอเมริกาเลยนะเนี่ย

รับรองรพ. เอกชน รวย
การชดเชยค่าเสียหายทางการแพทย์ -- ไม่มี เพราะแค่รับเรื่องก็ไม่มีเวลาแล้ว ใครจะมีเวลามาพิจารณา ถ้าเรียกแพทย์มาสอบถาม ก็ต้องตามในเวลางานเท่านั้น นอกเวลางานเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลห้ามตาม

ยิ่งเรียกมาสอบถาม คนยิ่งไม่ได้รับการรักษา

ผมว่าวิธีนี้จะทำให้คนตายมากมาย เหมือนกลับไปยุคหินนั่นแหละ
ยกเว้นคนไปรักษารพ.เอกชน นี่เรียกว่า ฆาตรกรรมหมู่

ถามว่าแล้วเครือข่ายจะฟ้องร้องใคร
มีงานเพียบเลย ยิ่งฟ้องยิ่งไม่มีเวลาออกตรวจ คนยิ่งตาย ยิ่งมีงานเยอะ
แต่ฟ้องไปก็ไม่ชนะหรอก เพราะมันไม่ได้ผิดที่คน มันผิดที่ระบบ

ถ้ายอมให้มีมาตรฐานการรักษาที่ดีมีคุณภาพ และ แพทย์มีคุณภาพชีวิต ในการทำงาน ก็ผ่านพรบ.หรือกม.อะไรออกมาก็ได้ครับ

ขอแค่ได้ทำงานเต็มความสามารถ ขอแค่คุณภาพชีวิตก็พอครับ
โดย: หมอคนหนึ่ง [18 ก.ย. 53 13:58] ( IP A:58.9.38.139 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   ข้างบนนี้ สำนวนการเขียนและวิธีคิดที่แสดงออกมา

ผมว่าคุ้นๆนะ

คล้ายๆกับหมอใหญ่ที่เลิก practice แล้วอยู่แถวๆใน กระทรวง สธ. นั่นแหละ แล้วก็ละม้ายกับหมอใหญ่อีกคนที่อยู่กับโรงพยาบาลย่านใกล้ๆกับอาบอบนวดเจ้าพระยานั่นแหละ

ข้างบนนั้ เค้าเรียกกันว่า ขู่แบบนิ่มๆอย่างผู้มีภูมิความรู้ว่าเป็นหมอ

ผมก็อยากติงท่านผู้อ่านไว้ว่า

คนมีภูมิความรู้โดยเฉพาะในวงวิชาชีพหมอเนี่ย เวลาร้ายขึ้นมา เราก็จะเห็นความแตกต่างว่า ภูมิความรู้ กับ ความเป็นมนุษย์ว่า มันไม่ได้อยู่ด้วยกัน

ไม่งั้นเราจะมีคำเปรียบเทียบว่า ปีศาจในเสื้อกาวน์ หรือ?? จริงไหมท่านจ้าวบ้าน
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [20 ก.ย. 53 8:01] ( IP A:58.8.87.46 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   ต้องยอมรับว่าประเทศ เราขาดแคลนทรัพยากร และ การกระจายและการจัดสรร ไม่ดีย่อมมีความแตกต่างในด้านคุณภาพและความพึงพอใจ ผมคิดเล่นๆๆนะครับ เวลาชาวนาจะปลูกข้าวคงไม่มีใครปลูกหน้าแล้ง หรือ เวลาที่ลูกเกิดตอนตี 2 คงไม่มีใครไปทำใบเกิดตอนตี2 แต่ในระบบสุขภาพนั้นไม่ได้ แต่ ทรัพยากรไม่พอ ผมว่านะหมอกับเขื่อขายหรือประชาชนจะทะเลาะหรือไล่บี้กับหมอก็ไม่ถูกซะทั้งหมด เกิดหมอที่น้อยยิ่งลาออกแล้วน้อยลง ตัวผมเวลาเจ็บป่วย หรือ ญาติพวกเราต่อไปเจ็บป่วยไม่มีหมอรักษาหรือไม่กล้ารักษาเพราะกลัวการฟ้องร้องแล้วต้องตายไปต่อหน้าแบบที่อเมริกาแล้วทำไงครับ
โดย: กลางนะครับ [20 ก.ย. 53 20:12] ( IP A:180.180.30.35 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   คืออย่างนี้ครับ ที่ผมจะเรียนให้ทราบก็คือว่า การเน้นคุณภาพอย่างเดียว โดยระบบที่ไม่สมบูรณ์ เหมือนการเฆี่ยนม้าแก่ คิดว่าจะเดินทางเร็วขึ้น อาจจริงในระยะสั้นมากๆแต่สุดท้ายม้าจะตายและการเดินทางนั้นก็จะล้มเหลว

ถ้าถามว่าพรบ.ซึ่งหลักการดี แต่มีผลทางอ้อมที่น่ากลัว (ต่อผู้รับบริการ) ควรได้รับการพิจารณาให้ถี่ถ้วน ถามว่าเอาเข้าจริงแล้วหมอปรับตัวได้ไหม มันได้อยู่แล้วครับ ระบบราชการก็ไม่ได้น่าสนใจอะไรมากมายหรอกครับ

ผู้รับบริการนั้นน่าเห็นใจ แต่การแก้ปลายเหตุนั้น (ชดเชย) ต้องคู่ไปกับการเสริมสร้างระบบ แต่เรามันจนเงินไม่พอ?? ก็ต้องเลือกเสริมสร้างระบบก่อน ไม่ใช่ชดเชย

----ตอบคุณคห.11
ก็ถ้าเป็นแบบอเมริกาจริง หมอกลัวการฟ้องร้องจนปล่อยให้คนไข้ตายไปต่อหน้อต่อตา ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำอย่างไร ตอนนั้นมองย้อนกลับ คงแก้ไขอะไรได้ยาก พรบ.ออกไปแล้วแก้ยากครับ แต่ยากกว่าคือความกลัว
คือถ้าเหมือนอเมริกา แล้วเหมือนทุกอย่างก็คงต้องบอกว่าเราจะได้ทั้งข้อดีและข้อเสีย (ต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่ก็ดีกว่าบ้านเราแหละ) แต่ในเมื่อเราไม่มีทางที่จะได้ข้อดีของเค้ามา (ก็ไม่มีเงิน ไม่มีวิทยาการที่ดี ไม่มีทีมวิจัยดี) คงได้มาแต่ข้อเสีย (ค่ารักษาสูง ค่าประกันวิชาชีพสูง การฟ้องร้องสูงขึ้นไปเรื่อยๆ การหลีกเลี่ยงกรณีที่ทำให้เสี่ยงต่อการฟ้องร้องโดยไม่ต้องไปรักษา ซึ่งมันก็มีวิธีเลี่ยงได้มากมาย รพ.รัฐขาดแคลนบุคคลากรอย่างรุนแรง)

-----ตอบคุณคห.10
คือผมไม่ทราบว่าคุณคิดว่าผมอาวุโสระดับนั้นเพราะไปคล้ายยังไง
แต่ผมไม่ใช่หรอกครับ
คำว่าปีศาจในเสื้อกาวน์ ผมว่ามันก็คงมีจริง แต่นั่นคุณกำลังหมายถึง เฉพาะบุคคล แต่ผมพูดเรื่องระบบครับ เครือข่ายก็ต่อสู้เรื่องของระบบเป็นหลักไม่ใช่เหรอครับ
ระบบที่ไม่บีบให้คนชนกัน นั่นจะยั่งยืนกว่าไหม
กระทู้นี้ผมบอกประเด็นของแนวโน้มที่อาจเป็นไปได้ ว่ากำลังจะเกิดขึ้นในสังคมของเรา อาจไม่เกิด แต่ถ้าเกิดปัญหานี้เรียกว่าแก้ไม่ได้เลยล่ะครับ ผลิตแพทย์เพิ่ม? อัดฉีดเงินเข้ารพ.รัฐ? แก้พรบ.? มันยากมากครับ ทำได้ก็หลายปีกว่าจะสำเร็จ20 ปีจะได้รึเปล่า
โดย: หมอคนหนึ่ง [20 ก.ย. 53 22:24] ( IP A:124.157.231.244 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   คืออย่างนี้ครับ ที่ผมจะเรียนให้ทราบก็คือว่า การเน้นคุณภาพอย่างเดียว โดยระบบที่ไม่สมบูรณ์ เหมือนการเฆี่ยนม้าแก่ คิดว่าจะเดินทางเร็วขึ้น อาจจริงในระยะสั้นมากๆแต่สุดท้ายม้าจะตายและการเดินทางนั้นก็จะล้มเหลว

ถ้าถามว่าพรบ.ซึ่งหลักการดี แต่มีผลทางอ้อมที่น่ากลัว (ต่อผู้รับบริการ) ควรได้รับการพิจารณาให้ถี่ถ้วน ถามว่าเอาเข้าจริงแล้วหมอปรับตัวได้ไหม มันได้อยู่แล้วครับ ระบบราชการก็ไม่ได้น่าสนใจอะไรมากมายหรอกครับ

ผู้รับบริการนั้นน่าเห็นใจ แต่การแก้ปลายเหตุนั้น (ชดเชย) ต้องคู่ไปกับการเสริมสร้างระบบ แต่เรามันจนเงินไม่พอ?? ก็ต้องเลือกเสริมสร้างระบบก่อน ไม่ใช่ชดเชย

----ตอบคุณคห.11
ก็ถ้าเป็นแบบอเมริกาจริง หมอกลัวการฟ้องร้องจนปล่อยให้คนไข้ตายไปต่อหน้อต่อตา ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำอย่างไร ตอนนั้นมองย้อนกลับ คงแก้ไขอะไรได้ยาก พรบ.ออกไปแล้วแก้ยากครับ แต่ยากกว่าคือความกลัว
คือถ้าเหมือนอเมริกา แล้วเหมือนทุกอย่างก็คงต้องบอกว่าเราจะได้ทั้งข้อดีและข้อเสีย (ต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่ก็ดีกว่าบ้านเราแหละ) แต่ในเมื่อเราไม่มีทางที่จะได้ข้อดีของเค้ามา (ก็ไม่มีเงิน ไม่มีวิทยาการที่ดี ไม่มีทีมวิจัยดี) คงได้มาแต่ข้อเสีย (ค่ารักษาสูง ค่าประกันวิชาชีพสูง การฟ้องร้องสูงขึ้นไปเรื่อยๆ การหลีกเลี่ยงกรณีที่ทำให้เสี่ยงต่อการฟ้องร้องโดยไม่ต้องไปรักษา ซึ่งมันก็มีวิธีเลี่ยงได้มากมาย รพ.รัฐขาดแคลนบุคคลากรอย่างรุนแรง)

-----ตอบคุณคห.10
คือผมไม่ทราบว่าคุณคิดว่าผมอาวุโสระดับนั้นเพราะไปคล้ายยังไง
แต่ผมไม่ใช่หรอกครับ
คำว่าปีศาจในเสื้อกาวน์ ผมว่ามันก็คงมีจริง แต่นั่นคุณกำลังหมายถึง เฉพาะบุคคล แต่ผมพูดเรื่องระบบครับ เครือข่ายก็ต่อสู้เรื่องของระบบเป็นหลักไม่ใช่เหรอครับ
ระบบที่ไม่บีบให้คนชนกัน นั่นจะยั่งยืนกว่าไหม
กระทู้นี้ผมบอกประเด็นของแนวโน้มที่อาจเป็นไปได้ ว่ากำลังจะเกิดขึ้นในสังคมของเรา อาจไม่เกิด แต่ถ้าเกิดปัญหานี้เรียกว่าแก้ไม่ได้เลยล่ะครับ ผลิตแพทย์เพิ่ม? อัดฉีดเงินเข้ารพ.รัฐ? แก้พรบ.? มันยากมากครับ ทำได้ก็หลายปีกว่าจะสำเร็จ20 ปีจะได้รึเปล่า
โดย: หมอคนหนึ่ง [20 ก.ย. 53 22:25] ( IP A:124.157.231.244 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
   คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) ==> ต่อให้กระทู้คุยเรื่องอะไร มันก้อโยงเข้าด่าแพทย์สภาได้
โดย: ไปตั้งสภาเองเลยไป [23 ก.ย. 53 15:04] ( IP A:58.64.31.242 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
   ท่านทั้งหลายที่แสดงตัวเป็นหมอที่ต่อต้านผมหรือเครือข่ายฯอยู่แถวนี้

ท่านกล่าวหาว่า ผม "โมเม/เหมารวม" ให้ทุกๆเรื่อง ทุกๆขัอโต้แย้ง ที่มีการพาดพิง โต้แย้ง ------ > ไปจนกระทั่งถึงด่าทอกัน --------> หาเรื่องโยงเข้าเป็นหรือเกี่ยวข้องกับแพทยสภา ไปซะหมดทุกเรื่อง

พวกท่าน "ที่แสดงตัวเป็นหมอ" น่ะ แกล้งโง่ หรือ ไร้เดียงสาแบบบกพร่องโดยสุดจริตกันแน่

การรักษาทางการแพทย์ที่ไหนในโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศชั้นนำอย่างอังกฤษ/อเมริกา หรือประเทศล้าหลังบางประเทศในเอเชีย/แอฟริกาก็ตาม มันมีความผิดพลาดทางการแพทย์ที่ป้องกันได้ "เกิดขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเป็นปรกติของมันอยู่แล้ว" และพวกเราเหล่าคนไข้และหมอในเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ต่างยอมรับว่า "มันมีอยู่ และ ไม่มีวันแก้ไขได้หมด" แล้วก็มันมีทั้งความผิดพลาดจากระบบการทำงานเอง และความผิดพลาดจากตัวคน (หมอเป็นหลัก) ที่มีทั้งที่ไม่เจตนาและที่โดยประมาทเลินเล่อ (อย่างที่ให้อภัยได้และ/หรือแก้ไขได้ ----> ไปจนถึงที่ให้อภัยไม่ได้เพราะเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง) ที่ต้องได้รับการตรวจสอบ

แต่พวกท่านโดยแพทยสภาเป็นหัวหอก (หัวขบวนแพทย์โจร) มาช้านาน ได้แสดงพฤติกรรมที่จะไม่ยอมรับและเจตนาที่จะฉ้อฉลต่อเรื่องเหล่านี้อย่างเปิดเผย ทั้งโดยละเมิดกฎหมายมาช้านานนับปีๆ และขอโทษ โดยการรวมหมู่รวมกลุ่มเป็นขบวนการ "อคติทางวิชาชีพพ่วงกับทุนนิยมสามานทางการแพทย์" อย่างชัดเจนและท้าทายต่อสำนึกที่ถูกต้องของสังคมโดยรวม

แล้วความเป็นมาโดยตลอดจนกระทั่งที่เป็นไปอยู่ตอนนี้ทั้งหมด

มันเป็นเรื่องที่บรรดาคนไข้เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์เรานี้ (ซึ่งไม่ใช่หมอและเป็นผู้ที่ได้รับผลของความผิดพลาดที่เกิดขึ้น) เป็นผู้ก่อขึ้นทั้งสิ้นหรือ?????

ปริญญาแพทยศาสตร์บัณฑิตแต่ก่อนมาจนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีให้กันเฉพาะจากมหาวิทยาลัยของรัฐ และโดยได้รับพระราชทานจากองค์พ่อหลวง และโดยถือกันว่า เป็นเกียรติอย่างสูงแก่คนที่ถือกันว่า "เป็นชนชั้นมันสมองของประเทศนี้" เท่านั้น

ท่านที่เป็นหมอจริงที่แสดงความเห็นต่อต้านหรือโต้แย้งกับผมมาตลอดในบอร์ดนี้ ท่านไม่ได้มีความรู้สึกอดสู/ละอายแก่ใจกับประโยคในใบปริญญาบัตรทุกๆใบที่ว่า "มีศักดิ์และสิทธิแห่งปริญญานี้ทุกประการ"

ซึ่งขัดกันอย่างโจ่งแจ้งกับบรรดาข้อโต้แย้งแบบคนคิดไม่เป็น มองความถูกต้องชอบธรรมและความทุกข์ยากของเพื่อนมนุษย์ไม่ออก ยึดตัวเอง/ผลประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ต้องก่อความอยู่รอดของเพื่อนมนุษย์

ไม่รู้ว่า พ่อแม่ครูบาอาจารย์ของท่าน เคยสอนให้รู้จัก "ความเป็นคนกันบ้างหรือเปล่า?????"

เฮ้อ เหนื่อยจริงๆ ชาตินี้จะได้เลิกเครือข่ายฯนี้ไหมน๊อ????
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [27 ก.ย. 53 14:45] ( IP A:58.8.220.158 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
   การรักษาทางการแพทย์ที่ไหนในโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศชั้นนำอย่างอังกฤษ/อเมริกา หรือประเทศล้าหลังบางประเทศในเอเชีย/แอฟริกาก็ตาม มันมีความผิดพลาดทางการแพทย์ที่ป้องกันได้ "เกิดขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเป็นปรกติของมันอยู่แล้ว" และพวกเราเหล่าคนไข้และหมอในเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ต่างยอมรับว่า "มันมีอยู่ และ ไม่มีวันแก้ไขได้หมด" แล้วก็มันมีทั้งความผิดพลาดจากระบบการทำงานเอง และความผิดพลาดจากตัวคน (หมอเป็นหลัก) ที่มีทั้งที่ไม่เจตนาและที่โดยประมาทเลินเล่อ (อย่างที่ให้อภัยได้และ/หรือแก้ไขได้ ----> ไปจนถึงที่ให้อภัยไม่ได้เพราะเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง) ที่ต้องได้รับการตรวจสอบ

มันเป็นเรื่องที่บรรดาคนไข้เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์เรานี้ (ซึ่งไม่ใช่หมอและเป็นผู้ที่ได้รับผลของความผิดพลาดที่เกิดขึ้น) เป็นผู้ก่อขึ้นทั้งสิ้นหรือ?????

อืม งั้นก็ไม่น่าให้หมอรักษานะ ถ้าคิดว่าความผิดพลาดที่เกิดขี้นเป็นปกติ มาจากตัวหมอเป็นหลักน่ะ
โดย: เห็นงี้แล้วเซ็ง [27 ก.ย. 53 16:48] ( IP A:61.7.140.185 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน